ตอนที่ 1425 : ศัตรูคู่แค้น
หลัวเฟิง นั้นคาดหวังอย่างมาก เขาอยู่ระหว่างทางไปที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วง ตอนที่ ดวงตาศักดิ์สิทธิ์ ได้ส่งข้อความมาหาเขา
“ทางช้างเผือก อสูรทลายมิติ นั่นกินจุดกำเนิดได้วันเดียวแล้วรีบกลับไป ในเวลาเดียวกันดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงก็ต้องการให้ข้าบอกเจ้าว่า…ไม่มีข้อตกลงแล้ว”
ใจที่เต้นรัวของ หลัวเฟิง ชะงักไปทันที สีหน้าเขาหม่นลงแล้วส่งข้อความกลับไป “เจ้าหมายความว่ายังไง…ที่ว่าไม่มีข้อตกลงแล้ว?”
“สิ่งที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงจะสื่อคือ ข้อตกลงก่อนหน้านี้ยกเลิกไป” ดวงตาศักดิ์สิทธิ์ พูดขึ้น
“งั้นเรื่องคำสัญญาก่อนหน้านี้ล่ะ?” – หลัวเฟิง ยังถามต่อด้วยน้ำเสียงที่ไม่ต่างจากเดิม
ดวงตาศักดิ์สิทธิ์ พูดขึ้น “ส่วนอื่นๆ ของข่าวนี้หมายถึง…คำสัญญาก่อนหน้านี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ว่าเจ้าจะช่วยจัดการกับ อสูรทลายมิติ แต่เมื่อ อสูรทลายมิติ กลับไปด้วยตัวเอง มันก็ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าในการจัดการกับมัน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องให้อะไรตอบแทน”
“ทางช้างเผือก…พูดตรงๆ แล้ว ตอนที่พวกเขาส่งข่าวนี้มา แม้แต่ข้าก็ยังรู้สึกโกรธเมื่อได้ยินมัน! แต่เจ้าควรรู้ไว้ อสูรทลายมิติ ไม่ใช่ศัตรูของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงแค่เพียงลำพังแต่เป็นศัตรูของทุกเผ่าในทะเลจักรวาล! ข้ารู้ว่าเจ้านั้นโกรธและเจ้าก็อยากปล่อยให้ อสูรทลายมิติ กินดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วง…ตอนที่มันกินได้ 8-10 วันนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่หากปล่อยมันกินไปมากกว่านั้น เราคงไม่อาจจะยิ่งเฉยได้”
“ข้ารู้” หลัวเฟิง ตอบกลับ “ข้าจะมองภาพรวมแต่บอกคำพูดข้าไป…จากนี้ไปดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงจะเป็นศัตรูคู่แค้นของข้า”
บางที่ไกลออกไป ดวงตาศักดิ์สิทธิ์ ถึงกับผงะ เขาเองก็รู้สึกได้ถึงความเครียดจากความโกรธที่ หลัวเฟิง มี
“ทางช้างเผือก…” ดวงตาศักดิ์สิทธิ์ ได้แต่กังวล สำหรับการจัดการกับ อสูรทลายมิติ พวกเขาต้องพึ่ง หลัวเฟิง เป็นหลัก
“ข้าจะมองภาพรวม!” หลัวเฟิง พูดขึ้น คำตอบของเขาดูมีเหตุผลแต่ ดวงตาศักดิ์สิทธิ์ กลับรู้สึกได้ถึงโทสะที่ไม่รู้จบจากตัว หลัวเฟิง
****
ในหอคอยดวงดาว สีหน้าของ หลัวเฟิง บิดเบี้ยว เขากำเหรียญสื่อสารเอาไว้ ความโกรธของเขามากจนเส้นเลือดนั้นปูดออกมา
“ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วง ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วง…” ตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา “ข้าอยากมอบโอกาสให้พวกเจ้าแต่เพราะพวกเจ้าไม่คิดจะรับมัน ปีกซื๋อหวู๋ของข้าจะทำให้พวกเจ้ารู้สึกผิดกับสิ่งที่ได้ทำลงไป!”
สำหรับดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วง หลัวเฟิง ไม่ได้รู้สึกสงสารเลยแม้แต่น้อยแต่เขาก็ยังรู้ว่าเขาไม่อาจจะปล่อยให้ อสูรทลายมิติ กินจุดกำเนิดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงได้ตามใจ ยังไงซะทุกครั้งที่มันกินจุดกำเนิด มันจะหายตัวไปครึ่งปี เผ่าต่างๆ ในทะเลจักรวาลสงสัยว่า อสูรทลายมิติ ใช้เวลาในการดูดซับพลังงานเพื่อจะเพิ่มพลังตัวเอง!
มนุษย์เติบโตขึ้นมาเมื่อกินอาหาร สัตว์อสูรเขาทองเติบโตเมื่อกินโลหะ มันใช้ทฤษฎีเดียวกัน อสูรทลายมิติ อาจจะกินจุดกำเนิดจักรวาลเพื่อเติบโต ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นไปได้อย่างมาก
ยังไงซะดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงก็เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเทพแท้จริงมิติ จุดกำเนิดนั้นเท่ากับจุดกำเนิดจักรวาลย่อยนับแสนๆ อันรวมกัน!
ถ้า หลัวเฟิง ปล่อยให้ อสูรทลายมิติ กินได้ตามใจ ใครจะไปรู้ว่าผลลัพธ์จะออกมายังไง?
ถ้า อสูรทลายมิติ แข็งแกร่งจนไม่มีใครสู้กับมันได้ งั้นดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงก็ต้องเผชิญหน้ากับภัยพิบัติแต่ถ้าเป็นแบบนั้นต่อไป ทั้งเผ่ามนุษย์รวมถึง หลัวเฟิง และครอบครัวเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับชะตาเดียวกัน…นี่คือสิ่งที่ หลัวเฟิง ยอมรับไม่ได้ เขาไม่กล้าจะใช้ชีวิตครอบครัวและเพื่อนกับคนในโลกเป็นเครื่องต่อรอง เขานั้นไม่คิดจะพนันด้วยเรื่องแบบนี้!
“บรรพบุรุษจันทราม่วง เจ้ามันโอหังจริงๆ!” หลัวเฟิง พูดขึ้น “เจ้าเดาว่าข้าไม่กล้าจะพนันกับเจ้าและข้าก็ไม่คิดจะเสี่ยงเพื่อสมบัติแท้จริงเพียงชิ้นเดียว…บางทีเจ้าคงไม่กังวลเรื่อง เจ้าแห่งจักรวาล ของเจ้าหรือบางทีดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงอยากจะเอาแต่ป้องกัน”
สายตา หลัวเฟิง เย็นชาขึ้นมา “แต่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงจะเป็นศัตรูคู่แค้นของข้าและข้าจะจำเรื่องนี้เอาไว้! ก่อนที่ข้าจะเป็นเทพแท้จริงมิติได้ ข้าจะลองทำลายดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วง”
หลัวเฟิง ตะโกนออกมาในใจ “ข้าจะคิดหาทุกทางที่ทำให้เจ้ารู้สึกผิดให้ได้”
การทำลายจักรวาลย่อยของเทพแท้จริงมิติปกติแล้วมีแค่เทพแท้จริงนิรันดร์ใช้ทักษะสูงส่งบางอย่างถึงจะทำแบบนั้นได้
นี่คือข้อมูลที่ หลัวเฟิง รู้มาในอดีตแต่จักรวาลย่อยของ บรรพบุรุษจันทราม่วง นั้นไม่ได้ถือว่าใหญ่
จักรวาลย่อยที่เล็กที่สุดระดับเทพแท้จริงมิติมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณพันล้านปีแสงและใหญ่ที่สุดคือ 10 ล้านปีแสง!
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.1 พันล้านปีแสง
ส่วนดินแดนศักดิ์สิทธิ์บูรพามีเส้นผ่านศูนย์กลาง 3.2 พันล้านปีแสง
ขนาดจักรวาลย่อยเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบต่างๆ รวมไปถึงโครงสร้างภายในตอนที่ก่อตั้งจักรวาลย่อยขึ้นมาหรือเส้นทางพลังอมตะหรือเส้นทางกฎที่เทพแท้จริงเลือก ยิ่งจักรวาลย่อยใหญ่เท่าไหร่ก็ยิ่งมีพลังมากเท่านั้นและก็ยิ่งมั่นคงเท่านั้นด้วย
ยกตัวอย่างเช่นตำนานเทพแท้จริงมิติที่เคยบอกไว้ว่าจักรวาลย่อยมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 ล้านปีแสงเทียบได้กับจักรวาลย่อยระดับต่ำสุดของเทพแท้จริงนิรันดร์!
แน่นอนว่านั่นเป็นตำนาน แม้แต่ผู้มีพรสวรรค์โดดเด่นที่มียีนส์ชีวิต 90,000 เท่า หรือแม้แต่บรรพบุรุษสามรุ่นที่ระดับเทพแท้จริงมิติก็ไม่มีสักคนที่มีจักรวาลย่อยกว้างถึง 10 ล้านปีแสง นี่คือตำนาน!
ตอนที่เป็นเทพแท้จริงมิติ ปกติแล้วมันไม่ใช่ว่าจักรวาลย่อยจะมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1 พันล้านปีแสง ขนาดปกตินั้นไม่ได้เล็กแบบนั้น
เทพแท้จริงมิติที่อ่อนแอมีเส้นผ่านศูนย์กลางจักรวาลย่อยประมาณ 2 พันล้านปีแสง
ส่วนพวกที่แข็งแกร่งก็จะมี 3 พันล้านปีแสง
พวกระดับสูงจะมี 4 พันล้านปีแสง
ส่วนพวกมีพรสวรรค์โดดเด่นก็ 5 พันล้านปีแสง
เอาสั้นๆ พวกระดับสูงเท่าไหร่ มันยิ่งยากที่จะรักษาจักรวาลย่อยเอาไว้
สำหรับผู้มีพรสวรรค์ที่มียีนส์ชีวิต 90,000 เท่าจากเส้นทางพลังอมตะน่ะรึ?
บรรพบุรุษสามรุ่น?
เทพแท้จริงมิติที่มีจักรวาลย่อยซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 พันล้านปีแสงแล้ว นั่นเป็นเพียงตำนานจากสังคมโบราณ
จักรวาลย่อยของ จันทราม่วง ไม่ได้ใหญ่นัก หลัวเฟิง คิด มันเล็กกว่าของ จักรพรรดิบูรพา ถ้าข้ากลายเป็นเทพแท้จริงมิติได้ด้วยการพึ่งสมบัติเครื่องจักรและเทคนิคต่างๆ ข้าก็ระเบิดพลังเทียบกับเทพแท้จริงนิรันดร์ได้ บางทีข้าอาจะทำลายดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงได้!
หลัวเฟิง ได้วางแผนนี้ไว้ในใจ
****
สีหน้าของ หลัวเฟิง หม่นขึ้น เขาพยายามที่จะระงับความโกรธเอาไว้
“อาจารย์…”
“หลัวเฟิง?”
โดมไฟ และ หง มองไปที่ หลัวเฟิง พวกเขากังวลนิดๆ เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ
“ข้าไม่เป็นไร” หลัวเฟิง ตอบกลับ “กลับไปคุ้มกันต่อกันเถอะ”
“เราไม่ไปดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วงแล้วรึ?” โดมไฟ ถาม
“ไม่” หลัวเฟิง ส่ายหน้า เขาเดินตรงไปที่คันบังคับและนั่งลงไม่ได้พูดอะไรต่ออีก
โดมไฟ และ หง มองหน้ากัน พวกเขาต่างก็เดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ไม่นานทั้งสองก็ได้ยินข่าวจาก ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล สิ่งที่พวกเขารู้มานั้นทำให้พวกเขาโกรธ นี่มันการรังแกกันชัดๆ คำสัญญาก่อนหน้านี้พังไปในพริบตา พวกเขาจะอับอายแค่ไหน?
ดูเหมือนว่า จันทราม่วง ไม่ได้สนใจที่จะลดความแค้นกับมนุษย์ และ หลัวเฟิง ไม่เลยแม้แต่น้อย
ถ้าเป็นแบบนั้น งั้นพวกนั้นก็จะเป็นศัตรูคู่แค้นของพวกเขา!
****
เวลาผ่านพ้นไป
ครั้งนี้ไม่ถึงเดือนหลังจากที่กินจุดกำเนิดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วง อสูรทลายมิติ ก็ปรากฏตัวในทะเลจักรวาลอีกครั้ง เวลานี้เป็นที่คาดไว้ในทุกกลุ่มอยู่แล้ว
ครั้งนี้มันได้มุ่งหน้าไปกินจักรวาลย่อยของ เทพปีศาจคลั่ง
เมื่อกินจุดกำเนิดของจักรวาลย่อยอันหนึ่ง มันจะหายตัวไปครึ่งปี
เมื่อกินจุดกำเนิดจักรวาลย่อยอีกอัน มันก็จะหายตัวไปอีกครึ่งปี
อสูรทลายมิติ ได้ทำการโจมตีจักรวาลย่อยต่อและนี่ทำให้เผ่าต่างๆ ในทะเลจักรวาล
กังวล ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไปงั้นก็ต้องมีจักรวาลย่อยมากมายต้องพินาศไป
****
มันผ่านมา 3 ปีตั้งแต่เรื่องที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วง
ภายในมิติรอบจักรวาลย่อยของ เทพที่แท้จริงทะเลคลั่ง เรือสีเงินลอยอยู่ในมิติ ร่างสัตว์อสูรเขาทองอยู่ในเรือนั้น แม้ว่ามันเป็นร่างสัตว์อสูรเขาทองแต่ หลัวเฟิง ก็ได้ปรับให้มันอยู่ในร่างมนุษย์
บางทีสำหรับ เจ้าแห่งจักรวาล ทั่วไป ขนาดและร่างนั้นส่งผลต่อพลังอย่างมาก สำหรับ หลัวเฟิง ที่มียีนส์ชีวิต 89,999 เท่าของเส้นทางพลังอมตะ เขาก็สามารถเปลี่ยนโครงสร้างชีวิตให้อยู่ในร่างที่เขาต้องการได้อย่างง่ายดายและเขาก็ยังปลดปล่อยพลังจนถึงระดับสมบูรณ์ได้
ข่าวหนึ่งได้ส่งมาถึง หลัวเฟิง “ทางช้างเผือก! อสูรทลายมิติ โผล่มาด้านนอกจักรวาลย่อยของข้าในตอนนี้!”
สัตว์อสูรเขาทองช็อกแต่ไม่นานเขาก็แสดงท่าทีดีใจออกมา “ข้อความจาก เทพที่แท้จริงทะเลคลั่ง?”
“ทางช้างเผือก…”
อยู่ๆ ดวงตาศักดิ์สิทธิ์ และเทพแท้จริงคนอื่นๆ ต่างก็ส่งข้อความเข้ามาหา
“ฮ่า ฮ่า…” สัตว์อสูรเขาทองหัวเราะ “หลังจากที่รอมานาน! เห็นรึเปล่าว่าข้าพูดอะไร? ตราบใดที่ไม่มีใครรู้ว่าข้าอยู่ที่ไหน ข้าก็จะปกปิดตัวเองได้ จากนั้นแน่นอนว่ามันต้องมีโอกาสที่จะพบกับ อสูรทลายมิติ ตอนที่มันกำลังกินจักรวาลย่อย”
หลัวเฟิง ตื่นเต้น “น่าเสียดายที่มันไม่ได้พบกับอีกทีมของข้า”
หลัวเฟิง แบ่งร่างเป็นสองทีม ทีมหนึ่งมีร่างมหาสมุทรและร่างโมชานที่เดินทางไปด้วยสมบัติแท้จริงมากมายเช่นปีกซื๋อหวู๋, เทพวูฉี, หอคอยดวงดาวและดาบเงาเลือด
อีกทีมคือสัตว์อสูรเขาทองเพียงลำพัง แม้ว่าจะใส่สมบัติเครื่องจักรหลายชิ้นแต่ในด้านความสามารถปลดปล่อยพลังแล้ว มันด้อยกว่าอีกทีม
“ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่สมบัติเครื่องจักรที่ร่างสัตว์อสูรเขาทองมีก็มากกว่า ดวงตาศักดิ์สิทธิ์ และ จือฮี” สัตว์อสูรเขาทองมั่นใจ “ร่างสัตว์อสูรเขาทองมีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่าทั้งคู่”
พูดถึงพลังแล้ว อีกทีมแน่นอนว่าแข็งแกร่งกว่ามาก…มากพอจะสยบตัวตนยิ่งใหญ่อีก 7 คนรวมกันได้
สำหรับร่างสัตว์อสูรเขาทอง เทียบกับอีก 7 คนแล้ว มันอาจจะแข็งแกร่งกว่าเล็กน้อย แต่ความได้เปรียบนั้นไม่ได้ชัดเจนนัก แน่นอนว่าดูจากความเข้าใจและการบ่มเพาะตลอดล้านล้านยุคนี้ แม้แต่สัตว์อสูรเขาทองก็พิสูจน์ได้ว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่รับมือได้ยาก
“บางทีครั้งนี้ข้าอาจจะฆ่า อสูรทลายมิติ ตัวนี้ได้”
หลัวเฟิง ยิ้ม
ซู่!
เรือสีเงินได้เทเลพอร์ทออกไปทันที ในเวลาเดียวกัน หลัวเฟิง ก็ได้ส่งข้อความหา เทพที่แท้จริงทะเลคลั่ง “ทะเลคลั่ง ข้ามาถึงแล้ว”
“ถึงแล้ว?” เทพที่แท้จริงทะเลคลั่ง ช็อก เขาเพิ่งจะส่งข้อความขอความช่วยเหลือไปเมื่อกี้ ถึงอย่างนั้นเขาก็ดีใจที่ หลัวเฟิง มาถึงเป็นคนแรก อย่างน้อยเขาก็สามารถกัน อสูรทลายมิติ จากการกินจุดกำเนิดเขามากเกินไป “นี่คือพิกัดของ อสูรทลายมิติ”
เทพที่แท้จริงทะเลคลั่ง ได้ส่งพิกัดไปให้ทันที
****
ที่เขตนอกจักรวาลย่อยของ เทพที่แท้จริงทะเลคลั่ง มีอากาศปั่นป่วนท่วมไปทั้งมิติ พื้นที่หนึ่งภายในอากาศปั่นป่วนนี้เต็มไปด้วยหมอกดำ ท่ามกลางหมอกดำนี้มีร่างหนึ่ง มันคือ โมโลซ่า ที่ยืนอยู่ใจกลางหมอกดำคอยส่ายหางไปมาอย่างดีใจและกินจุดกำเนิดจักรวาลย่อย ลำแสงบิดเบี้ยวขยายตัวเสียดแทงมิติไป
“หึหึ!” โมโลซ่า ค่อนข้างพอใจ มันรู้สึกว่าทั้งทะเลจักรวาลคือของเล่นของมัน
เพล้ง!
อยู่ๆ มิติรอบๆ ก็โดนแช่แข็ง
“ผนึกมิติ!” โมโลซ่า ช็อก “เร็วจริงๆ!”
จากประสบการณ์ของมันแล้ว ทุกครั้งที่มันกินจักรวาลย่อยอยู่ เจ้าของจักรวาลย่อยที่เป็นเทพแท้จริงจะขี่วังสมบัติแท้จริงเข้ามาหา แต่การผนึกมิตินี้ไม่ปกติเพราะเทพแท้จริงเหล่านั้นล้วนแต่ต้องการจะไล่มันไป ทำไมถึงผนึกมิติด้วย?
มีแค่ตอนเทพแท้จริงระดับสูงอย่าง เจ้าแห่งปีศาจเก้าหัว มาถึงหรือเทพแท้จริงกลุ่มใหญ่มาด้วยกันถึงจะกล้าทำการผนึกมิติ
ฮัวะ!
เรือสีเงินได้บินเข้ามา ตอนที่ประตูเปิดออก ชายคนหนึ่งสวมเกราะสีทองก็ได้ก้าวออกมา
โมโลซ่า มองไปและต้องผงะทันที “เจ้าแห่งจักรวาล รึ?”