ตอนที่ 1446 : ความบ้าคลั่งของ โมโลซ่า

“เปลี่ยน!”

เลือด, เนื้อ, ผิวและโครงสร้างร่างกายของเขาเริ่มเปลี่ยนไป ไม่นานจากนั้นผิวของเขาก็คล้ำลงและมันมีหมอกดำรอบตัวเขา ในเวลาเดียวกันก็มีอีกหัวโผล่มาบนหัวเขา และแต่ละหัวก็มีตาสีแดงข้างเดียว มันมีพลังชั่วร้ายและแน่นอนว่ามันคือ อสูรทลายมิติ!

พลังที่มาจากมันแน่นอนว่าเป็นพลังของ อสูรทลายมิติ!

หลัวเฟิง ได้มียีนระดับตำนาน 100,000 เท่าซึ่งคือขั้นสมบูรณ์!

อีกอย่างแล้วมันก็มีคุณสมบัติของ อสูรทลายมิติ และ เจ้าแห่งจักรวาล, เทพแท้จริงและเทพแท้จริงมิติ สองอย่างที่แตกต่างกันนี้รวมอยู่ในร่างเดียวกัน ด้านลบและด้านบวกปกติจะหักล้างกันแต่ หลัวเฟิง ได้เข้าถึงขึ้นสูงสุดที่สามารถรวมทั้งสองด้านเข้าสู่ขั้นสมบูรณ์ได้!

เขาสามารถใช้พลังอมตะออกมาแต่ถ้าเขาปรับพลังเขาก็สามารถเปลี่ยนพลังตัวเองเป็นขั้วตรงข้ามกันได้ แน่นอนว่านั่นเป็นแค่สิ่งเดียวที่เขาทำได้ สำหรับประตูสีและการแยกร่างรวมถึงการให้กำเนิดนักรบแล้ว หลัวเฟิงไม่ได้มีความสามารถพวกนั้น เขาแค่สามารถเปลี่ยนพลังได้แต่เขาไม่อาจจะเปลี่ยนวิญญาณได้!

****

มันมี อสูรทลายมิติ กว่าพันล้านตัวและพวกมันก็มียีนระดับสูงแต่ก็ไม่ถึง 100,000 เท่า มีแค่ราชาเท่านั้นที่สมบูรณ์แบบ แม้ว่า อสูรทลายมิติ จะเลียนแบบพลังออกมาได้แต่พวกมันก็ไม่อาจจะเปลี่ยนพลังของตัวเองเป็นพลังอมตะได้อย่างสมบูรณ์ ถ้าพวกมันสามารถเปลี่ยนพลังได้จริง งั้นมันก็ไม่จำเป็นต้องกลัว เทพที่แท้จริงเก้ากว้างไกล

แม้ว่าพวกมันจะมียีนชีวิตที่ด้อยกว่า หลัวเฟิง แต่พวกมันก็เกิดมาเพื่อการทำลายล้างจากระดับ 1, 2, 3, 4…พวกมันพัฒนาและแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ราชาตัวสุดท้ายจะอยู่ระดับเดียวกับจักรวาลดั้งเดิมซึ่งเป็นระดับที่ หลัวเฟิง ไม่อาจจะไปถึงได้

ยังไงซะ หลัวเฟิง ก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดมาในจักรวาลดั้งเดิม ไม่ว่าเขาจะยอดเยี่ยมเพียงใดแต่เขาก็ไม่อาจจะเทียบกับ อสูรทลายมิติ ได้ อสูรทลายมิติ กำเนิดขึ้นโดยทะเลจักรวาล มันอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับจักรวาลดั้งเดิม!

การเปลี่ยนพลังของเขาเป็นพลังของ อสูรทลายมิติ นั้นคือหนึ่งในทักษะ ‘มองไม่เห็นและไร้รูปร่าง’ ซึ่งหมายความว่า หลัวเฟิง สามารถซ่อนพลังชีวิตของเขาได้ทั้งหมด โครงสร้างชีวิตของเขาสมบูรณ์ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงได้ซ่อนตัวได้อย่างสมบูรณ์ไปด้วย บวกกับเขาสามารถปรับพลังของตัวเองและเลียนแบบพลังอื่นได้!

“เปลี่ยน!” หลัวเฟิง ทำการเปลี่ยนทันที เขาเปลี่ยนเป็น โมโลซ่า และแผ่พลังแบบเดียวกับ โมโลซ่า ออกมา

“เปลี่ยน!” หลัวเฟิง ได้กลายเป็น ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล โดยมีพลังชีวิตแบบเดียวกัน

“เปลี่ยน!” หลัวเฟิง ได้กลายเป็น เทพที่แท้จริงเก้ากว้างไกล

“เปลี่ยน!” หลัวเฟิง ได้กลายเป็นเรือ, เรือสุสานโดยแผ่พลังแบบเดียวกันออกมา

“เปลี่ยน!” หลัวเฟิง ได้กลายเป็นหินลอยอยู่ในมิติ

เขามีโครงสร้างชีวิตที่สมบูรณ์และสามารถเปลี่ยนเป็นร่างเลือดเนื้อ, โลหะและต้นไม้ได้โดยมีพลังชีวิตแบบเดียวกัน มันหมายความว่า หลัวเฟิง สามารถเปลี่ยนเป็นคนหรือสิ่งของก็ได้

แน่นอนว่าหากเป็นสิ่งที่พิเศษเกินไปอย่างราชาจิน พลังจิตนั้นไม่อาจจะคัดลอกได้ เขาสามารถเปลี่ยนเป็นใครก็ได้และอะไรก็ได้ที่อยู่ในขีดจำกัดของเขา

“เหลือเชื่อ เหลือเชื่อกว่าการมีร่างอมตะไร้ขีดจำกัดและปรับขนาดได้”

หลัวเฟิง ตื่นเต้น ที่ขั้นสามของเส้นทางพลังอมตะ คนเราจะมีร่างอมตะที่ไร้ขีดจำกัดและปรับขนาดได้ แต่เทียบกับ ‘มองไม่เห็นและไร้รูปร่าง’ หลังจากที่เข้าถึงขั้นสมบูรณ์แล้ว มันก็ยังด้อยกว่า แน่นอนว่าความสามารถนี้ไม่ใช่ว่าไร้เทียมทาน

ถ้าข้าอยู่กับที่ งั้นมันก็จะไร้ประโยชน์ หลัวเฟิง คิด

ถ้าเขาโดนขังไว้ในแค่คิดก็สร้างมิติ ไม่ว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงตัวเองแค่ไหนแต่ศัตรูก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นเขาก็จะไม่อาจหนีไปได้ ไม่ว่าความสามารถนี้จะดีเพียงใดแต่มันก็มีจุดอ่อน แม้แต่ อสูรทลายมิติ ก็มีจุดอ่อน นี่ไม่ต้องพูดถึง หลัวเฟิง

****

ตอนที่ หลัวเฟิง ดีใจกับการพบความสามารถนี้หลังจากที่มียีนระดับ 100,000 เท่า โมโลซ่า ก็ได้ไปพบกับ เก้าหัว อีกครั้ง

“นี่คือเรื่องที่เกิดขึ้นตอนที่ท่านหายตัวไป ราชา” เก้าหัว พูดด้วยความเคารพ

“เจ้าพลาดอะไรไปรึเปล่า?” โมโลซ่า มองไปที่ เก้าหัว ด้วยสองตาของมัน

“ไม่” เก้าหัว ส่ายหน้า

โมโลซ่า โบกกรงเล็บของมัน “ไปซะ”

เก้าหัว โค้งให้แล้วเทเลพอร์ทหายไป

โมโลซ่า ยืนอยู่ในมิติที่มีอากาศปั่นป่วนรอบตัวมัน มันยังคงยืนนิ่งแสดงท่าทีหงุดหงิด, ลนลานและคลั่ง

“ทางช้างเผือก”

ตาทั้งสองข้างของมันแสดงความคลั่งออกมา “ข้าฆ่าเจ้าไม่ได้และข้าก็ไม่มีโอกาสเป็นราชาอีกต่อไปแต่ข้าจะทำให้เจ้ารู้สึกผิดกับสิ่งที่เจ้าได้ทำลงไป”

หลัวเฟิง ที่ระดับเทพแท้จริงทำให้ โมโลซ่า สิ้นหวัง มันรู้สึกว่าเผชิญหน้ากับภูเขาใหญ่ ถ้ามันได้กลายเป็นราชาของ อสูรทลายมิติ มันสามารถฆ่า หลัวเฟิง ได้อย่างแน่นอน แต่แม้แต่ในรังของมัน มันก็ยังอ่อนแอจนอาจโดนตัวอื่นฆ่าได้ หากกลับไปที่รัง มันก็จะถูกฆ่า…มันจะดีกว่าที่มันจะทำตัวบ้าคลั่งและบางทีอาจจะแก้แค้นได้สำเร็จ

“ไม่ว่ายังไงก็ตามข้าจะให้ข้อมูลทั้งหมดของเจ้ากับ แบ๊ดดี้ และตัวอื่นๆ ฮ่า ฮ่า….”

โมโลซ่า เริ่มส่งข้อความทันที อสูรทลายมิติ ทุกตัวสามารถสื่อสารผ่านจิตได้และพวกมันก็สามารถส่งข้อความหากันได้

“แบ๊ดดี้ กับพวกโง่! ข้า โมโลซ่า ผู้ยิ่งใหญ่! พวกเจ้าไม่คิดจะฆ่าข้ารึไง? โชคร้ายที่ไม่มีสักตัวที่มีสิทธิ์ฆ่าข้าได้…ข้า โมโลซ่า จะตายในไม่ช้า คนที่จะฆ่าข้าคือตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลจักรวาล มนุษย์ ทางช้างเผือก! จำชื่อนี้ไว้ให้ดี เขาแข็งแกร่งเกินกว่าที่พวกเจ้าคิด ตอนที่เขาเป็นเพียงแค่ เจ้าแห่งจักรวาล เขาก็แข็งแกร่งเหนือกว่าเทพแท้จริงและเป็นอันดับหนึ่งในทะเลจักรวาล ตอนที่เขาสู้กับข้า เขาได้เปรียบอย่างมากจนข้าไม่อาจจะต้านทานเขาได้และข้าก็ได้แต่หนี ข้ากลับไปอยู่ระดับ 1 เพราะเขา…แบ๊ดดี้ แม้แต่เจ้าก็เทียบเขาไม่ได้ ตอนนี้เขาได้กลายเป็นเทพแท้จริงแล้ว! เขามีแต่จะแข็งแกร่งขึ้นและข้าก็ไม่รู้ว่าเขาจะแข็งแกร่งเพียงใด ถ้าเป็นการต่อสู้แบบ 1-1 แม้ว่าเจ้าจะอยู่ขั้นสูงสุดของระดับ 4 แต่เจ้าก็จะโดนเขาฆ่า แบ๊ดดี้…พวกเจ้าโง่ พวกเจ้าต้องร่วมมือกันสู้กับเขาหรือกินกันเองจนเกิด อสูรทลายมิติ ระดับ 5 หรือสูงกว่านั้น สู้และฆ่ากันเองให้ราชากำเนิดขึ้นมา! จำไว้ว่าระวัง ทางช้างเผือกเอาไว้ อย่าให้เขาทำลาย อสูรทลายมิติ! แบ๊ดดี้! ฮ่า ฮ่า! เจ้าไม่อาจจะฆ่าข้าได้!”

ข้อความนี้กระจายออกไป

ตาของ โมโลซ่า บ้าคลั่งมากกว่าเดิมราวกับว่ามันไม่ได้กลัวตายเลยแม้แต่น้อย เมื่อข้อความถูกส่งไป อสูรทลายมิติ ก็เริ่มเตรียมตัวรับมือทุกอย่าง

“ฮ่า ฮ่า…ทางช้างเผือก นี่คือของขวัญชิ้นแรกสำหรับเจ้า ข้ายังมีของขวัญชิ้นที่สอง…” โมโลซ่า เทเลพอร์ทและหายไปทันที

****

ที่เขตหลักหนึ่งในสามดินแดนอันตรายภายในยอดเขาเอียง ดินแดนแห่งความมืดมิดนั้นคือรังของ อสูรทลายมิติ

อสูรทลายมิติ ทุกตัวได้รับข้อความที่ โมโลซ่า ส่งมาและต่างก็พากันช็อก พวกมันไม่รู้เลยว่ามีคนแบบนั้นในทะเลจักรวาล พวกมันถือว่าพวกนี้เป็นอาหารแต่กลับมีคนที่น่ากลัวขึ้นมาได้

“คนที่ทำให้ โมโลซ่า กลับไปอยู่ระดับ 1 เป็นเพียงแค่ เจ้าแห่งจักรวาล”

“ทางช้างเผือก?”

“ตอนนี้เขาได้กลายเป็นเทพแท้จริงแล้ว…”

“เขาแข็งแกร่งกว่า แบ๊ดดี้ จริงๆ รึ?”

อสูรทลายมิติ ทุกที่ในรังต่างก็จดจำชื่อของ หลัวเฟิง

ชี่! ล่ะ!

อสูรทลายมิติ ที่ชื่อ แบ๊ดดี้ ที่กำลังกินอยู่ได้เงยหน้าขึ้นมา เลือดสีดำหยดลงมาจากปากของมัน อสูรทลายมิติ ที่กำลังตายตะโกนออกมา “เจ้าได้ยินรึเปล่า แบ๊ดดี้? แม้แต่เจ้าก็จะโดน ทางช้างเผือก ฆ่าหากพบกับเขา เจ้าจะตาย! เจ้าจะตายไปด้วย!”

กึก! แกร๊ก!

แบ๊ดดี้ อ้าปากและกลืนหัวครึ่งหนึ่งของ อสูรทลายมิติ ที่กำลังจะตายเข้าไป ตาของมันเย็นชาขึ้นมา

“ทางช้างเผือก หลัวเฟิง?” แบ๊ดดี้ กระซิบชื่อนี้

****

จักรวาลย่อยเรียงรายด้านนอกจักรวาลดั้งเดิมและพวกมันก็ลอยอยู่รอบจักรวาลดั้งเดิม พวกมันเป็นของเทพแท้จริงจากจักรวาลดั้งเดิม ดังนั้นพวกมันจึงอยู่ใกล้ชิดกัน จักรวาลย่อยเหล่านี้ปลอดภัยอย่างมาก พวกมันเชื่อมต่อกับจักรวาลดั้งเดิมผ่านทางประตูจักรวาล แม้ว่าจะโดน อสูรทลายมิติ กินแต่เทพแท้จริงจากจักรวาลหลักก็สามารถมาถึงได้ทันทีและสู้กับ อสูรทลายมิติ ผ่านทางประตูจักรวาล

โมโลซ่า ไม่เคยไปโจมตีจักรวาลย่อยของเทพแท้จริงจากจักรวาลหลักเลย

ฮัวะ!

อากาศสั่นไหว ร่างสีดำอันน่าเกลียดโผล่มา โมโลซ่า มองไปยังจักรวาลย่อยที่อยู่ไกลออกไป มันพึมพำ กับตัวเอง “นี่รึ? นี่คือจักรวาลย่อยของผู้นำของเผ่ามนุษย์ อาจารย์ต้นกำเนิด? ดูเหมือนว่ามันจะถูกเรียกว่าจักรวาลหลัก…อาจารย์ต้นกำเนิดนั้นโดนขังและเขาก็ไม่อาจจะควบคุมจักรวาลย่อยของตัวเองได้ เขาไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงมันต่อได้ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงยังเป็นจักรวาลหลักและเมื่อเขาควบคุมมันไม่ได้ มันก็หมายความว่าบรรพบุรุษนี้ไม่มีจิตของเขาในการคุ้มกันมัน” โมโลซ่า มองไปยังจักรวาลหลัก “ซึ่งหมายความว่ามันจะมีประสิทธิภาพในการกินจักรวาลย่อยของเขา”

การกินจุดกำเนิดของจักรวาลย่อยขึ้นอยู่กับหนึ่งอย่างคือระดับของจักรวาลย่อย ยิ่งระดับสูงเท่าไหร่ก็มีแรงต้านมากเท่านั้น

อีกอย่างคือจิตของเทพแท้จริงก็มีส่วนเกี่ยวข้อง ตอนที่ โมโลซ่า กินดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราม่วง มันสามารถกินได้อย่างรวดเร็วแต่ตอนที่ จันทราม่วง ใช้จิตปกป้องมัน ที่นั่นก็มีแรงต้านมากยิ่งขึ้น

ข้าน่าจะสามารถกินจักรวาลย่อยของ อาจารย์ต้นกำเนิด ได้เร็วกว่าของคนอื่น โมโลซ่า คิด มาเริ่มกันเลย หากข้ากินจักรวาลย่อยของผู้นำคนก่อนของเผ่ามนุษย์ได้ หลัวเฟิงและมนุษย์จะหวั่นไหวรึเปล่า?

โมโลซ่า คาดหวังกับเรื่องนี้อย่างมาก