Skip to content

Swallowed Star 185

ตอนที่ 185 : การเปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณ

“หยดน้ำในทะเล” หลัวเฟิงพยักหน้าเล็กน้อย ขณะที่เขาถอนหายใจ

“ไม่ คุณยังไม่เข้าใจหรอก” หลี่ดาเว่ยส่ายหัว “หากไม่ต้องเผชิญหน้า

กับการต่อสู้โดยมีชีวิตเป็นเดิมพันทุกๆ วันแล้วล่ะก็ ไม่มีทางที่คุณจะ

เข้าใจได้…ว่าคนรุ่นผมรู้สึกอย่างไร!”

หลัวเฟิงตกตะลึง

หลีดาเว่ยถอนหายใจ “ผมเกิดในช่วงเวลาที่สวยงาม ปีที่ผมเกิดมามีการโอนอำนาจอธิปไตยเหนือฮ่องกง 1997! ครอบครัวของผมไม่อาจถือว่าเป็นคนร่ำรวย แต่เราก็สุขสบาย ผมเติบโตขึ้นมาโดยไม่ต้องกังวลอะไร ผมเล่นเกมออนไลน์และอ่านนวนิยายบนเว็บ พ่อแม่ของผมมักจะดุผมนิดหน่อยทุกวัน ซึ่งทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิด”

หลัวเฟิงมองไปที่หลีดาเว่ยด้วยความตกใจ…

เกมส์ออนไลน์? นวนิยายบนเว็บ? ในยุคนี้ นักเรียนทุกคนใช้เวลาว่าง

จากชั้นเรียนใน ‘สำนัก’ การเป็นนักสู้คือความฝันของเยาวชนทุกคน

“อย่ามองผมแบบนี้ เนื่องจากคุณไม่เคยอยู่ในช่วงเวลาที่เงียบสงบ คุณจึงไม่เข้าใจ” หลี่ดาเว่ยยิ้มให้ ดวงตาของเขามองย้อนกลับไปในความทรงจำของเขา “ในช่วงเวลานั้น เราจะแชทบนกระดานสนทนา

ออนไลน์ และเราสามารถรวมตัวกันเพื่อรับประทานอาหารเย็นและไป

เที่ยวที่ต่างๆ มันไม่มีความวิตกังวลใดๆ เลย!”

“จนกระทั่ง…”

“ปี 2015 ทุกอย่างเริ่มต้น เมื่อเดือนมกราคมปี 2015!”

“เราตกลงมาจากสวรรค์ลงสู่นรก! ปีนั้นเป็นปีที่ผมกำลังเตรียมตัวสอบ

มัธยมปลาย… แต่มันก็ไม่มีการสอบ!”

“ฝันร้ายกำลังจะเกิดขึ้น!”

“ไวรัสแพร่กระจายไปทั่วโลกผ่านทางอากาศ สิ่งที่ต้องหายใจล้วนได้รับเชื้อ เพื่อนของผมเสียชีวิตทีละคน เด็กสาวผมหลงรัก เด็กชายที่เล่นบาสเกตบอลกับผม เพื่อนบ้านของผม พวกเขาทั้งหมด เกือบจะตายทั้งหมด! ครอบครัวของเรายากจนลง ผมคิดว่าผมกำลังตกอยู่ในฝันร้าย…”

“แต่มันน่าเศร้า เพราะนั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของฝันร้าย!”

“ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2015 สัตว์ประหลาดที่กลายพันธุ์จำนวนนับไม่ถ้วน เริ่มโจมตีเมืองที่มนุษย์อยู่อาศัย! เกิดการต่อสู้กระจัดกระจายไปจนถึงสงครามที่เต็มไปด้วยระเบิด! เราไม่ได้ใส่ใจเรื่องเหล่านี้ เพราะเราคิดว่าพวกเขาคงไม่มีโอกาสได้ใช้มันต่อสู้กับมนุษย์ แต่เราคิดผิด!”

“ภัยพิบัติที่แท้จริงเพิ่งจะเริ่มขึ้น!”

“เมืองถูกรุกรานตลอดเวลา และมนุษย์เริ่มตายลงเป็นจำนวนมาก! เกือบหกปีเต็มของการทำงาน ผมได้ผ่านประตูแห่งความตายมานับครั้งไม่ถ้วน ผมพยายามดิ้นรนเพื่อชีวิตของผมทุกๆ ครั้ง เพราะความล้มเหลวนั้นหมายถึงความตาย ด้วยเหตุนี้ผมจึงต้องเปลี่ยนจากเด็กหนุ่มที่ใช้ชีวิตเรียบง่าย ไม่เคยประสบกับความเจ็บปวด จนมาเป็นนักสู้ที่โหดร้ายและมากประสบการณ์!”

เสียงของหลีดาเว่ยเริ่มต่ำลง “ในช่วงหกปี ที่ผ่านมา ผมจ้องมองดูพ่อของผมตายเพื่อผม!”

“ผมมองดูหญิงสาวที่ผมรัก เสียชีวิตในปากของสัตว์ประหลาด ขณะที่พวกเรากำลังหลบหนี ผมสามารถกัดฟันและวิ่งหนีขณะที่เช็ดน้ำตา!”

“ผมฝึกฝนอย่างหนัก และเค้นศักยภาพของร่างกายของผมออกมาให้

ได้มากที่สุด!”

“ในที่สุดมนุษย์อาศัยปืนเลเซอร์และเครื่องบินรบที่ทรงพลังจนสามารถเอาชนะสัตว์ประหลาดที่อยู่บนบก ดังนั้นระยะเวลาของยุคมหานิพพานสิ้นสุดลง มนุษย์กลับเข้าสู่เมือง และผม…ผมเข้าร่วมกับกองทัพ!”

“พริบตาเดียว ผ่านมาเกือบ 30 ปี”

หลีดาเว่ยดูเหมือนจะยิ้มอย่างไม่วิตกกังวล แต่หลัวเฟิงรู้สึกเหมือนรอยยิ้มนี้ เต็มไปด้วยความขมขื่นมากเกินกว่าที่จะแสดงออกมา

“30 ปีที่มนุษย์และสัตว์ประหลาดต่อสู้กันมาตลอด ถึงแม้จะมีขนาดไม่

ใหญ่เท่าการต่อสู้ในช่วงยุคมหานิพพาน แต่ก็ไม่เคยหยุดยั้ง” หลีดาเว่ยส่ายหัวของเขา ขณะที่เขากล่าวว่า “เมื่อนับเวลาที่กองทัพมาอยู่ภายใต้การควบคุมของผม คุณรู้หรือไม่ว่า มีคนเสียชีวิตในช่วงเวลา 30 ปีที่ผ่านมามากเพียงใด?”

หลัวเฟิงตัวแข็งค้าง

“มือใหม่แทนที่ทหารผ่านศึก…ผมไม่สามารถจะบอกได้ว่า มัน

เกิดขึ้นกี่ครั้ง”

“ข่าวการเสียชีวิตถูกส่งไปยังครอบครัวของพวกเขาทีละคน พวกเขา

สละชีวิตเพื่อให้มนุษย์สามารถอยู่ได้”

ความเศร้าสามารถมองเห็นได้ในดวงตาของหลีดาเว่ย “อย่างไรก็ตาม ผมไม่รู้ว่าจะมีสัตว์ประหลาดชนิดใหม่ที่แข็งแกร่งกว่าเดิมปรากฏตัวเมื่อใด”

“นั่นมีความหมายอะไร?” หลี่ดาเว่ยจ้องไปที่หลัวเฟิง “นั่นหมายความว่าสัตว์ประหลาดในทะเลกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง!”

“ผมกลัว!”

“ผมกลัวมาก” แทบจะสามารถมองเห็นน้ำตาได้ในตาของหลีดาเว่ย “มนุษย์ไม่สามารถบุกโจมตีมันได้ แต่สัตว์ประหลาดในทะเลสามารถพัฒนาและมีพลังมากขึ้นเรื่อยๆ ผมกลัวว่าจะมีสักวัน…ที่มนุษย์จะสูญ

พันธุ์!”

หัวใจของหลัวเฟิงสับสน

“อย่างไรก็ตาม สำหรับสัตว์ประหลาดในทะเลที่จะโจมตีมนุษย์ พวกมันต้องผ่านแม่น้ำสายนี้เพื่อโจมตีพื้นที่ในประเทศ”

“ดังนั้น…”

“ผมจะอุทิศชีวิตของผมเพื่อสกัดกั้นพวกมัน แน่นอนว่าผมจะไม่

อนุญาตให้พวกมันล่วงล้ำเข้ามาได้แม้เพียงนิดเดียว! นับตั้งแต่ที่ผม

กลายเป็นผู้บัญชาการภาคตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเวลา 11 ปี 6 เดือนและ3 วันแล้ว ที่สัตว์ประหลาดในทะเลเหล่านี้ไม่สามารถ บุกไปตามแม่น้ำเหอปิงได้อีก!”

เมื่อหลัวเฟิงได้ยินเรื่องนี้ การเต้นของหัวใจของเขาก็ถี่ขึ้น ในหัวใจของเขา เขาเริ่มที่จะเคารพผู้อาวุโสที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานี้!

ด้วยความเสียสละของพวกเขา เด็กทั้งหลายจึงสามารถเติบโตขึ้นใน

เมืองใหญ่ๆ ได้อย่างสงบ

“ผมจะทำทุกอย่างที่ผมทำได้ เพื่อต่อสู้กับสัตว์ประหลาดในทะเลเหล่านี้ตลอดชีวิต!”

“ทั้งหมดที่ผมต้องการ…นั่นเพื่อหลานชายในอนาคตของผม เขา

จะต้องมีอนาคตที่มีความหวัง!” หลีดาเว่ยกล่าวเบาๆ

อนาคตและความหวัง?

ใช่ หากเมืองใหญ่ๆ ถูกบุกโจมตีอีกครั้ง คนรุ่นใหม่จะมีความหวังถึง

อนาคตหรือไม่?

“หลัวเฟิง” หลี่ดาเว่ยเรียก เขาตบบ่าหลัวเฟิงเบาๆ “ในยุคนี้มนุษย์สามารถพึ่งพากำลังที่แข็งแกร่งสองอย่างเพื่อความอยู่รอด หนึ่งคือ ‘ปืนใหญ่เลเซอร์’ ไฮเทคและอีกหนึ่งคือพลังของนักสู้ที่แข็งแกร่ง อย่าง ‘หง’ เพื่อให้มนุษย์สามารถอยู่รอดได้ พวกเขาสามารถคิดค้นอาวุธที่มีพลังมากขึ้นกว่าปืนเลเซอร์ได้ในขณะนี้!”

“หรือนักสู้คนอื่น ๆ เช่น ‘หง’ และ ‘เทพสายฟ้า’ ที่จะปรากฏขึ้น หรือ

แม้กระทั่งนักสู้ที่เกินกว่า ‘หง’ และ ‘เทพสายฟ้า’!”

หลีดาเว่ยมองไปที่หลัวเฟิง “หลัวเฟิง เมื่อผมยังเด็ก ไม่มีใครสอนอะไรผม ด้วยเหตุนี้ผมจึงเดินไปในเส้นทางที่ผิด ผมเป็นเทพสงครามระดับกลางและมีข้อจำกัด ผมจึงไม่มีความหวังในการพัฒนาความแข็งแกร่งขึ้น”

“แต่คุณแตกต่าง!”

“คุณยังอายุไม่ถึง 20 ปี และยัง…หลัวเฟิง คุณอยู่ในระดับเทพสงครามที่แข็งแกร่ง นั่นสามารถเทียบได้กับกองกำลังนับล้านคน! และ ‘หง’ กับ ‘เทพสายฟ้า’ มีพลังมากยิ่งกว่า”

“มนุษย์สามารถที่จะอาศัยอยู่อย่างสงบสุขในเมืองใหญ่ๆ ได้ เพราะหงไปเจรจากับสัตว์ประหลาดระดับจักรพรรดิจำนวนนับไม่ถ้วนที่อาศัยอยู่บนพื้นดิน ดังนั้นหนึ่ง ‘หง’ มีคุณค่ามากกว่ากองทัพทั้งประเทศ ผมหวังว่า…คุณสามารถเข้าถึงระดับนั้นหรือสามารถก้าวไปได้ไกลกว่านั้น”

…..

ขณะที่เขาเฝ้าดูเครื่องบินเจ็ทอัตโนมัติของหลัวเฟิงบินจากไป หลีดาเว่ยมีท่าทางที่ซับซ้อน ในขณะที่เขาเงียบลง “ผมอายุมากแล้ว และคุณหลัวเฟิง…อนาคตของคุณจะไม่มีที่สิ้นสุด คุณคือความหวัง”

…..

ความคิดของหลัวเฟิงตกอยู่ในความสับสน เนื่องจากคำพูดที่หลีดาเว่ยพูดกับหลัวเฟิงที่ฐานป้องกันบริเวณแม่น้ำ เหอปิง

เขาฝึกฝนอย่างบ้าคลั่งในอดีต ส่วนใหญ่เพื่อประโยชน์ของพ่อแม่และ

น้องชายของเขา! นับตั้งแต่ที่เขาก้าวมาถึงระดับอยู่ยงคงกระพัน แม้ว่าเขาจะยังคงฝึกฝนอย่างหนักอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่มีแรงกดดันมากนัก

ศัตรู ‘หลีเย่า’? ไม่ได้เข้ามาวุ่นวายกับเขาสักพักหนึ่งแล้ว

ครอบครัว? พวกเขามีความสุขมาก

เงิน? ตอนนี้เงินไม่ได้มีความหมายอะไรมากนัก

ผู้มีอำนาจ? แม้แต่ผู้นำและประธานองค์กรต่างๆ รวมถึงผู้บัญชาการ

กองทัพทุกคนชื่นชมและเคารพเมื่อเผชิญหน้ากับเขา

“พ่อ แม่”

เขตหมิงเย่า หลัวเฟิงเดินเข้าไปในบ้านของเขา

“เฟิง ลูกกลับมาแล้ว อาหารเช้าพร้อมแล้ว สำหรับลูก แม่บ้าน” พ่อของเขาส่งเสียงเรียก ขณะที่เขากำลังอ่านหนังสืออยู่

“ฮว๋าออกไปเดินเล่น นับตั้งแต่ที่เขาได้ขากลับมา เขาชอบที่จะกระโดดเบาๆ ” รอยยิ้มของพ่อสดใสขึ้นมาก “โอ้ หลัวเฟิง ลูกอยากให้พ่อกับแม่ช่วยวางแผนเรื่องการแต่งงานไหม สิ่งเดียวที่แม่และพ่อต้องการ ก็คืออุ้มหลาน”

หลัวเฟิงนั่งอยู่หน้าโต๊ะอาหาร

เขาทานโจ๊กร้อนๆ และฟังพ่อของเขา ทันใดนั้นเขารู้สึกเหมือน…เขามีความสุขมาก นักสู้ในฐานทัพทหารยอมเสียสละชีวิตของพวกเขาใน

สนามรบ เพื่อให้พลเรือนในเมืองใหญ่ๆ สามารถอยู่ได้อย่างสงบสุข …

นี่อาจเป็นเหตุให้ผู้บัญชาการหลีและทหารอีกนับไม่ถ้วนพยายามอย่างมาก

“เฮ่ เว่ย”

เขานั่งอยู่บนพื้น ห้องฝึกซ้อมขณะที่เขายิ้ม เขาคุยโทรศัพท์มือถือ “นายกำลังจะเดินทางไปเที่ยวกับแฟนในฤดูร้อนนี้? โอ้ว มันโรแมนติกมาก ใช่ ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้ผมไม่ค่อยมีเวลา เพราะยังต้องออกสำรวจช่วงสิ้นเดือน! ไว้เราค่อยพบกัน!”

ใบหน้าของหลัวเฟิงเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เว่ยมีชีวิตที่ดีเช่นกัน

พ่อแม่ของเขาก็มีความสุข และความสัมพันธ์ของน้องชายของเขากำลังดีขึ้น…

หลัวเฟิงนึกถึงคำพูดที่ผู้บัญชาการหลีกล่าวไว้

“ทั้งหมดที่ผมต้องการ…นั่นเพื่อหลานชายในอนาคตของผม เขา

จะต้องมีอนาคตที่มีความหวัง!”

“ยังคงมีอนาคต ยังคงมีความหวัง!” หลัวเฟิงบอกกับตัวเอง “ฉันยัง

ต้องการให้พ่อแม่ของฉันสนุกกับชีวิตที่เหลืออยู่ ฉันยังต้องการให้

น้องชายแต่งงาน มีลูกและมีครอบครัว! ฉันไม่ต้องการให้ทุกอย่างถูกทำลายโดยฝูงสัตว์ประหลาด ฉันต้องการให้คนทุกคนมีอนาคต มี

ความหวัง!”

ในช่วงเวลานี้…หลัวเฟิงกำหนดเป้าหมายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

“ฉันยังต้องการที่จะฝึกฝน พัฒนาให้เกินขีดจำกัดของร่างกาย!

กลายเป็นผู้ตรวจการณ์ และมีพลังมากกว่าพวกเขา! ต้องแข็งแกร่ง

ยิ่งขึ้น!”

“ฉันยังต้องการที่จะกลายเป็นเหมือน ‘หง’ และใช้พลังของตัวเองเพื่อทำให้ฝูงสัตว์ประหลาดทั้งหลายต้องหวาดกลัว!”

“ฉันยังต้องการให้คนรุ่นใหม่มีอนาคตและมีความหวัง!”

ตาของหลัวเฟิงเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น!

“ต้องฝึกฝนอย่างหนัก!”

“ก้าวไปข้างหน้า!”

“แข็งแกร่งขึ้น!”

“เมื่อฉันหลับตาลงเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อฉันตายไป ฉันไม่อยากเสียใจ

เพราะฉันไม่ได้ฝึกฝนอย่างหนักพอในอดีต!”

หลังจากเปลี่ยนแปลงจิตวิญญาณครั้งนี้ ความเชื่อของหลัวเฟิงก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ตลอดเดือนกันยายน หลัวเฟิงได้อุทิศตัวให้กับการฝึกเทคนิคต่างๆ และการเพิ่ม ‘ระดับการออกกำลังกาย’ การฝึก ‘แคตตาลอกเทพสวรรค์’ และสิ่งอื่นๆ ที่เขาต้องฝึกฝน ความมุ่งมั่นและทุ่มเท

นั่นทำให้เขารู้สึกมีความสุขขึ้นมาจากภายในส่วนลึกของหัวใจ

ด้วยการฝึกฝนอย่างหนัก ทาให้ร่างกายของเขาเริ่มต้นเข้าใกล้ความ

สมบูรณ์แบบด้วยตัวเอง

ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ…

ร่างกายเปลี่ยนแปลงไปทำให้เขารู้สึกดีขึ้น

การบังคับให้ตัวเองฝึกฝนอย่างหนักอาจทำให้เกิดผลลัพธ์ที่แย่ลง แต่ถ้าเขาสนุกกับการฝึกซ้อมและความรู้สึกของคนที่แข็งแกร่งมากขึ้น อัตราการพัฒนาของเขาจะดีขึ้นอย่างน่าตกใจ

รุ่งอรุณของวันที่ 29 กันยายนเวลาที่ หลัวเฟิง ทดสอบตัวเอง!

และ…ความแรงของหมัดของเขาถึง 258,103 กิโลกรัมซึ่งมากกว่า

256,000 กิโลกรัม เขาก้าวเข้าสู่ระดับการออกกำลังกายในระดับเทพ

สงครามขั้นสูง อย่างเป็นทางการ!

…..

ช่วงบ่ายวันที่ 29 กันยายนเวลา 14.00 น.

เขาสวมชุดต่อสู้ระดับ SS สีแดงชุดใหม่ที่เขาซื้อมาในราคาที่ถูกที่สุด

จาก “พระราชวังเทพสงคราม ” และมีดระดับ SS ที่ด้านหลัง ร่างกาย

ของหลัวเฟิงดูคล้ายอัญมณีที่เปล่งประกาย ขณะที่เขายืนอยู่ที่นั่น เขาดูเหมือนใบมีดที่สามารถผ่าไปยังท้องฟ้าราวกับว่าเขามีจิตวิญญาณการต่อสู้ที่ไม่มีขีดจำกัด!

“พ่อ แม่ ผมไม่รู้ว่าจะใช้เวลาเท่าไหร่ หลัวฮว๋าดูแลพ่อและแม่ด้วยตอนที่พี่ไม่อยู่”

“พี่ไม่ต้องเป็นห่วง”

“ระวังตัวด้วยนะลูก” พ่อและแม่พูดเตือน

หลัวเฟิงยิ้มเล็กน้อยและเดินตรงไปยังเครื่องบินเจ็ทอัตโนมัติของเขา ประตูอัตโนมัติเปิดขึ้น หลัวเฟิงก้าวเข้าไปและปิดลง

หวือ!

เครื่องบินเจ็ทรูปทรงสามเหลี่ยมสีน้ำเงินเข้ม บินขึ้นและบินออกจาก

เครือข่ายการป้องกันของเมืองเจียงหนาน จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นแสงสว่างและพุ่งไปยังที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ สำนักขีดสุด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version