ตอนที่ 202 เกาะหมอก

หลัวเฟิงเดินตามประธาน หง และเทพสายฟ้า

“ทั้งสองคนนี้เป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก” หลัวเฟิงมองหลังของพวกเขาและตั้งพวกเขาเป็นเป้าหมายในการฝึกฝน! หนึ่งในนั้น อยู่ในระดับนักสู้แห่งดวงดาวขั้น 7 ในขณะที่อีกคนอยู่ในระดับนักสู้แห่งดวงดาวขั้น 6 รวมถึงมีพื้นที่มิติส่วนตัว พวกเขาสามารถพัฒนาได้เร็วกว่าทุกคนในโลก

ติ๊ง!

ภายในทางเดิน ประตูโลหะเปิดออก ทั้งสามคนเดินเข้าไปและประตู

โลหะก็ปิดลง

พวกเขาเดินไปข้างหน้าและขึ้นไปถึงชั้นดาดฟ้าที่เปิดโล่ง

อาจารย์หง และเทพสายฟ้า ทั้งสองนั่งลง หงมองไปที่หลัวเฟิง “นั่งสิ”

“ครับ ประธาน” หลัวเฟิงนั่งลงที่ด้านข้าง หลังของเขาตั้งตรง

“หลัวน้อย คุณใช้กระสวยทะยานฟ้าฆ่าหลีเย่าได้อย่างไร ช่วยอธิบาย

หน่อย” ใบหน้าของเทพสายฟ้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และดูเหมือนเขา

กำลังอารมณ์ดี “ตอนนั้นผมค้นพบ กระสวยทะยานฟ้านี้ พร้อมกับ

อาจารย์หงของคุณ พวกเราใช้เวลาในการศึกษามันมานาน แม้ว่าเราจะรู้ว่า ‘อาวุธจิตวิญญาณ’ นี้ทรงพลังมาก แต่เราไม่รู้วิธีใช้มัน”

หัวใจของหลัวเฟิงเต้นรัว

มนุษย์ผลึกคริสตัลกล่าวว่าอาจารย์หง และ เทพสายฟ้า ได้รับ

มรดกจากซากโบราณสถานอื่นๆ ดังนั้นพวกเขารู้อย่างชัดเจนถึงพลัง

ของ ‘อาวุธจิตวิญญาณ’ ! แต่ ‘กระสวยทะยานฟ้า’ เป็นอาวุธจิตวิญญาณของดาวเคราะห์ ยุนโม วิธีการใช้งานเป็นความลับ แม้ว่าจะมีใครที่อยู่ในดาวเคราะห์ ยุนโม พวกเขาก็ไม่สามารถใช้งานมันได้

“ฉันควรทำอย่างไร?”

“ความลับของคู่มือการใช้กระสวยทะยานฟ้า ไม่สามารถบอกคนอื่นๆ

ได้ ถ้าฉันบอกกับสมาชิกคนอื่นๆ ของดาวเคราะห์ ยุนโม จะต้องถูก

ส่งไปใช้แรงงานอย่างหนักเป็นเวลา 60 ปี ถ้าฉันบอกให้กับคนที่อยู่นอกดาวเคราะห์ ยุนโม ฉันจะต้องตายโดยไม่มีข้อยกเว้น! มนุษย์ผลึกคริสตัลกำลังเฝ้าดูฉันอยู่ ถ้าฉันเปิดเผยความลับ เขาก็จะรู้ทันที

เขาอาจยิงลำแสงเลเซอร์เพื่อฆ่าฉันในทันที” หลัวเฟิงไม่กล้าเสี่ยง

ประธาน หง และ เทพสายฟ้า หันมามองหน้ากัน

“มีอะไรผิดพลาด งั้นเหรอ? ” หงมองหลัวเฟิงอย่างสงสัย

“ฉันคิดว่า ฉันจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไร” หลัวเฟิงหายใจเข้าลึกๆ “ผมเชื่อว่าอาจารย์หง คาดเดาได้ว่ามีระบบ AI ควบคุมซากโบราณสถานที่ 9 อยู่เบื้องหลัง!”

อาจารย์หง และเทพสายฟ้าพยักหน้า

เป็นเพราะเทพสงครามจำนวนมากบนโลกเข้าไปสำรวจซาก

โบราณสถานตลอดเวลา และซากโบราณสถานมีการทำงานซ้ำๆ เป็น

กระบวนการ มันซ้ำแล้วซ้ำอีก นั่นจึงเป็นเรื่องง่ายมากที่จะคาดเดาได้เองว่ามีระบบ AI ควบคุมซากโบราณสถาน

“ผมเคยบอกก่อนหน้านี้ไปแล้วว่า เป็นเพราะพลังสมองของผม นั่นทำให้ผมได้รับภารกิจพิเศษ ภารกิจแห่งความตาย ในระหว่างการปฏิบัติ

ภารกิจ ผมได้รับคำแนะนำเล็กน้อยสำหรับการฝึกฝนพลังจิตวิญญาณ! จากที่นั่นผมได้เรียนรู้วิธีใช้กระสวยทะยานฟ้าใน 2 รูปแบบ คือ รูปแบบโจมตี และรูปแบบป้องกัน”

“ในที่สุดผมก็ประสบความสำเร็จในการปฏิบัติภารกิจ ผมใช้เวลาไป

หนึ่งปี และสามเดือน! ผมถึงสามารถฝึกการควบคุมพลังของผู้อ่านจิต

วิญญาณเบื้องต้นได้”

“อย่างไรก็ตาม ผมรู้สึกว่า ซากโบราณสถานหมายเลข 9 นี้ เหมือนกับครูที่เลือกนักเรียนเข้ามาฝึกฝน อาจมีบางสิ่งที่กำลังปิดบังเราอยู่” หลัวเฟิงส่ายหน้าและถอนหายใจ

ประธาน หง และเทพสายฟ้า พยักหน้าเล็กน้อย

“นั่นเป็นเรื่องปกติ” หงยิ้มเล็กน้อย “ซากโบราณสถานที่ 9 แห่งนี้เป็นหนึ่งในซากโบราณสถานเพียงไม่กี่แห่งบนโลกที่ยังทำงานได้อย่างดี พวกเราล้วนรู้ว่าสถานที่แห่งนี้จะเลือกผู้เข้าไปเรียน! ซึ่งส่วนใหญ่จะคัดเลือกผู้อ่านจิตวิญญาณมากกว่านักสู้ทั่วไป ซึ่งสามารถรู้ได้จาก

การเปรียบเทียบอัตราการตายของผู้อ่านจิตวิญญาณและนักสู้ทั่วไป”

หลัวเฟิงตกใจ

ก่อนที่เขาจะเข้าไป หงบอกว่า แม้ผู้อ่านจิตวิญญาณระดับสูงจะล้มเหลวหลังจากเข้าไปในซากโบราณสถาน แต่พวกเขาไม่มีใครตาย! อัตราการตายของนักสู้ระดับสูงนั้นค่อนข้างสูง

เห็นได้ชัดว่าซากโบราณสถานที่ 9 ‘ชอบ’ ผู้อ่านจิตวิญญาณและไม่

ค่อยยุติธรรมในการคัดเลือกนักเรียน

“ดังนั้นผมเดาได้ว่า องค์กรที่อยู่เบื้องหลังซากโบราณสถานที่ 9 มีความสนใจในผู้อ่านวิญญาณ” หงกล่าว

หลัวเฟิงปรบมือให้ในใจ

ตามที่เขารู้ว่า เจ้านายของดาวเคราะห์ ยุนโม ได้สร้างอาวุธจิตวิญญาณขึ้นมากมาย คนที่สามารถสร้างอาวุธจิตวิญญาณที่ทรงพลังเช่นนี้ได้ เขาต้องมีพลังจิตวิญญาณอยู่อย่างมหาศาล! โปรดทราบว่าการใช้รูปแบบหลักที่สามของ ‘กระสวยทะยานฟ้า’ คุณต้องมีพลังอยู่ในระดับผู้อ่านจิตวิญญาณระดับจักรวาล!

เพื่อให้สามารถสร้างอาวุธที่แม้แต่นักสู้แห่งจักรวาลที่มีพลังใช้ต่อสู้ได้

ความแข็งแกร่งของเจ้านายของดาวเคราะห์ ยุนโม ต้องมีพลังสูงกว่านักสู้แห่งจักรวาลมาก!

เนื่องจากเจ้านายของดาวเคราะห์ดวงนี้เป็นผู้อ่านจิตวิญญาณที่ประสบความสำเร็จ จึงไม่แปลกที่เขาจะจัดลำดับความสำคัญให้กับนักเรียนที่เป็นผู้อ่านจิตวิญญาณ

“องค์กรนี้มีค่านิยมให้กับผู้อ่านจิตวิญญาณมาก และซากบราณสถานที่ 9 เป็นเพียงการทดสอบขั้นต้นเท่านั้น ยังมีวิธีการเรียนรู้ได้อีกมาก” หงส่ายหัว และมองไปที่หลัวเฟิง “หลัวเฟิง มีผู้อ่านจิตวิญญาณบนโลกที่ได้มาถึง ‘ระดับตัวแทน’ เพียงคนเดียวเท่านั้น นั้นคือประธานคนที่สี่ อีสต์บอร์น

อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้มีพรสวรรค์เท่าคุณ นอกจากนี้เขายังมีความ

ทะเยอทะยานเกินไป ซึ่งผมไม่ชอบ”

“คุณสามารถควบคุมอาวุธขนาดเล็กได้ 16 ชิ้นในตอนนี้ ดังนั้นคุณ

อาจจะประสบความสำเร็จมากกว่าเขาได้” หงมองไปที่หลัวเฟิง “นั่นเพราะอีสต์บอร์นสามารถควบคุมอาวุธได้แค่ 14 ชิ้นเท่านั้น”

“ผมจะตั้งใจฝึกให้หนัก ผมจะพยายามพัฒนาให้เร็วที่สุด” หลัวเฟิงกล่าว

“ดีมาก”

ประธาน หง และ เทพสายฟ้า ทั้งสองคนต่างพยักหน้าเล็กน้อย

ประธาน หง และ เทพสายฟ้า เป็นสองคนบนแผ่นดินโลก ที่รู้เรื่อง

ในจักรวาลมากที่สุด! ซึ่งซากโบราณสถานต่างๆ ในโลก ส่วนมากถูก

พวกเขาค้นพบ! ความรู้ของ หลัวเฟิงเกี่ยวกับจักรวาลไม่สามารถเทียบกับพวกเขาได้ และเป็นเพราะพวกเขารู้เรื่องในจักรวาลมาก พวกเขาจึงตั้งใจฝึกฝนอย่างหนักตลอดเวลา

“ให้ตั้งใจฝึกฝนอย่างหนัก” หงพูดสนับสนุน

“ประธาน ตอนที่คุณกล่าวถึง สัตว์ประหลาดระดับราชา?” หลัวเฟิงถาม “สัตว์ประหลาดระดับราชาที่ยิ่งใหญ่นี้คืออะไร?”

ประธาน หง และเทพสายฟ้า หันไปมองหน้ากัน

หงกล่าวอย่างจริงจังว่า “คุณไม่ได้อยู่ในแวดวงของตัวแทนมาเป็น

เวลานาน นี่ไม่ได้เป็นความลับยิ่งใหญ่อะไร! ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือ

สัตว์ประหลาด หลังจากผ่านระดับ ‘เทพสงคราม’ แล้วมันไม่เหมือนกับมีพลังเพิ่มอีกต่อไป! นักสู้ที่เป็นตัวแทนของเรามีพลังพิเศษที่แตกต่างกัน ผมและเทพสายฟ้า มีพลังพิเศษ ที่เหนือกว่าคนอื่นๆ มาก”

“สัตว์ประหลาดก็เช่นกัน”

“มีสัตว์ประหลาดระดับจักรพรรดิที่แข็งแกร่ง และมีสัตว์ประหลาดระดับจักรพรรดิที่อ่อนแอ อย่างไรก็ตามโดยทั่วไป สัตว์ประหลาดระดับจักรพรรดิที่แข็งแกร่งมากที่สุดจะมีเพียงแค่ 2-3 ตัว”

“อย่างไรก็ตาม ทะเลที่มีพื้นที่กว้างมากกว่าแผ่นดินหลายเท่า นั้นทำให้มีสัตว์ประหลาด จำนวนนับไม่ถ้วน นอกจากนี้ยังมีสัตว์ประหลาดระดับจักรพรรดิมากมาย! โดยธรรมชาติแล้วในทะเลจึงมีสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งเกินกว่าระดับจักรพรรดิเกิดขึ้น! เราเรียกสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งเกินกว่าระดับจักรพรรดิว่า สัตว์ประหลาดระดับราชา! แต่ละตัวมีความแข็งแกร่งสูงอย่างน่าอัศจรรย์ นอกจากผมและ เทพสายฟ้า ทุกคนบนแผ่นดินโลกที่พบพวกมัน จะตายอย่างแน่นอน” หงกล่าวโดยไม่ลังเล

หลัวเฟิงตกใจมาก

สัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งจนน่าสะพรึงกลัวดังกล่าว มีอยู่จริงหรือไม่?

แต่หลังจากคิดเล็กน้อย แล้วใครก็สามารถเข้าใจได้ว่า ยิ่งมีพลังยิ่งใหญ่เท่าใด คุณก็ยิ่งรู้จักผู้ที่แข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น ตัวอย่างเช่น นักสู้ปกติไม่ได้รู้เรื่องต่างๆ เช่น ‘จิตวิญญาณของธรรมชาติ’ หากข่าวเรื่องสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งระดับราชากระจายออกไป สังคมมนุษย์ก็จะตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายมากขึ้น ตราบเท่าที่ผู้แทนทราบว่ายังคงมีสัตว์ประหลาดที่สามารถฆ่าพวกเขาได้ภายในสองวินาที พวกเขาจะฝึกฝนอย่างหนักต่อไปได้โดยไม่ประมาท

“จงระลึกเสมอว่า ระดับตัวแทนเป็นเพียงจุดเริ่มต้นไม่ใช่จุดจบ” หง

กล่าวอย่างจริงจังว่า “อย่าให้ความพยายามของคุณตกต่ำลง”

“ผมเข้าใจ” หลัวเฟิงพยักหน้า

แน่นอนว่าเขาเข้าใจ…ที่เรียกว่าระดับตัวแทนแท้จริงแล้ว คือนักสู้แห่งดวงดาว และเขาก็รู้ว่านักสู้แห่งดวงดาวถูกแบ่งออกเป็น 9 ขั้น และผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกทั้ง 2 คน อยู่ในขั้น 6 และขั้น 7

“เอาล่ะ” หงหยุดสักพัก ก่อนที่จะพูดว่า “การแต่งตั้งผู้ตรวจการณ์คนที่6 ของสำนักขีดสุด จะได้รับการเผยแพร่ไปทั่วโลก ดังนั้นเราจึงต้องเลือกวันสำคัญ ผมคิดว่า… วันที่ 1, 5, และ 18 มกราคมเป็นวันที่ดี คุณสามารถเลือกวันที่ต้องการได้”

“การแต่งตั้งผู้ตรวจการณ์?”

หลัวเฟิง คิด แล้วยิ้ม “วันที่ 1 มกราคมเป็นปีใหม่ ซึ่งอาจจะไม่ใช่วันที่ดี เราสามารถทำในวันที่ 5 มกราคม”

“ตกลง” หงพยักหน้า “เอาล่ะไปร่วมงานเลี้ยงได้”

“ครับ”

หลัวเฟิงปฏิบัติตามและเดินออกไปทันที

คงเหลือเพียง หง และ เทพสายฟ้าอยู่บนชั้นดาดฟ้า

“พี่หง ผมคิดว่าเด็กน้อยคนนี้ปิดบังอะไรบางอย่างไว้” เทพสายฟ้า

ยิ้มขณะมองไปที่หง

“ทุกคนย่อมมีความลับของตัวเอง ขนาดความลับบางอย่างยังไม่

สามารถบอกเล่าต่อครอบครัวของตัวเองได้ ดังนั้นเราจึงไม่จำเป็นที่

จะต้องบังคับเขา” หงกล่าวอย่างจริงจังว่า “สิ่งที่ผมกังวลมาที่สุดคือ

โลกจะถูกค้นพบโดยดาวดวงอื่น หรือองค์กรอื่นในจักรวาล! ในเวลานั้นมันจะเป็นเรื่องยากที่จะพูดว่า…มนุษย์จะถูกกำจัด หรือขายไปเป็น

ทาส พวกเราจะมีโชคเพียงใด”

“ดังนั้นเราต้องเพิ่ม ‘ขั้นระดับดาว’ ให้เร็วที่สุด ด้วยวิธีนี้ เราจะมี

ความสามารถในการปกป้องโลกของเรา”

“ใช่” เทพสายฟ้า พยักหน้าเล็กน้อย

ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกทั้งสองคน ต่างกังวลเกี่ยวกับชะตากรรมของ

มนุษยชาติ

พวกเขารู้อย่างชัดเจนว่าโลกไม่ได้มีสิ่งมีชีวิตเดียวในจักรวาล! มีมนุษย์และสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งอีกมากมายในจักรวาล…

ก็อก! ก็อก! ก็อก! เสียงเคาะดังขึ้น

“เข้ามา” หง พูดและประตูเปิดโดยอัตโนมัติ

ผู้นำกองกำลัง อัลรูส เดินเข้ามา และกล่าวด้วยความเคารพว่า “ประธาน เราเพิ่งได้รับข่าวว่ามีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่พิเศษเกิดขึ้นบนเกาะหมอก ประธานจะเห็นรายละเอียดอย่างชัดเจนหลังจากได้ดูวิดีโอ”

“เกาะหมอก?” เทพสายฟ้า ถามด้วยความตกใจ “พี่หง นั่นเป็นที่ที่

คุณพบกับเถาวัลย์เทียมฟ้า?”

“เล่นภาพ” หงสั่ง

…..

เขตหมิงเย่า

คืนนี้ หลัวเฟิงและครอบครัวกำลังรับประทานอาหารเย็น

“พ่อ แม่ ผมต้องออกไปจัดการกับงานบางอย่างในคืนนี้ ผมอาจต้องใช้เวลาประมาณ 5-6 วัน ” หลัวเฟิง กล่าวขณะถือจานข้าว

“5-6 วัน?”

ข้างโต๊ะอาหารพ่อ ที่นั่งบนเก้าอี้รถเข็น แม่และน้องชาย ต่างตกใจมาก

“ลูกเพิ่งกลับมาแค่ 2 วัน แล้วจะรีบออกไปอีกแล้วหรือ?” พ่อถามด้วย

ความเป็นห่วงต่อ “มันไม่มีอันตรายอะไรใช่ไหม?”

“ลูกของเรากำลังจะออกไปทำสิ่งที่สำคัญ อย่าขัดขวางลูก” แม่บ่น

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า พ่อแค่เป็นห่วงนิดๆ แล้วเธอจะตะโกนทำไมนี่” พ่อตะโกน

ตอบแม่

“เอาล่ะ พ่อ แม่” หลัวเฟิงรีบพูด “ตอนนี้จะไม่มีอันตรายใดๆ เกิดขึ้นอีก ผมจะต้องไปจัดการกับบางสิ่งที่สำคัญ ผมจะรีบกลับมา ในอีก 5-6 วันหลังจากนี้ ”

หลังจากนั้น ครอบครัวคุยกันอย่างสบายใจ

ตั้งแต่หลัวเฟิงหายไปถึงหนึ่งปี และสามเดือน พวกเขาเพิ่งจะมีเวลาด้วยกันเช่นนี้

ในช่วงดึก

หลัวเฟิงก้าวขึ้นไปบนกระสวยทะยานฟ้า และออกจากบ้านไปอย่างเงียบๆ

เขาเข้าไปในเครื่องบินเจ็ทอัตโนมัติของเขา

ภายในเครื่องบินเจ็ทอัตโนมัติ

ที่นั่งถูกจัดวางไว้ในแนวนอนและเป็นราบกับพื้น หลัวเฟิงนั่งกางแขน

“อย่ากังวลไปเลย ผมจะโทรหาคุณในภายหลัง” หลัวเฟิงจบการติดต่อกับสวีซิน

“ที่ 1 ไม่อนุญาตให้ใครรบกวนฉัน จนกว่าฉันจะออกมา” หลัวเฟิงสั่ง

เตรียมการทั้งหมด!

เขาบอกครอบครัวและสวีซิน เรื่องการแต่งตั้งผู้ตรวจการณ์ของเขาที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 มกราคม ดังนั้นเขาจึงมีเวลาแปดหรือเก้าวัน ซึ่งเพียงพอสำหรับเขาที่จะเลื่อนระดับไปถึงนักสู้แห่งดวงดาว

“การจำลองจิตวิญญาณ 81 ดวง”

หลัวเฟิงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หลับตาและนึกถึงขั้นตอนทั้ง 81 ขั้นตอน

“ไม่มีปัญหา”

“แล้ว…”

“เริ่ม!”

การหายใจของหลัวเฟิงเริ่มมั่นคงและหัวใจเต้นช้าลง ในอาณาจักรแห่งสติความรู้สึกอันไร้ขอบเขต ความสงบที่เกิดขึ้นในตอนแรก ทำให้พลังจิตวิญญาณเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

“ฟูมมม~~” พลังจิตวิญญาณเริ่มหมุนและเร่งพลังขึ้นเรื่อยๆ เร่ง…