ตอนที่ 24 เจียงเหนียนที่กระตือรือร้น

“พลังหมัดของเขาตอนทดสอบเตรียมนักสู้อยู่ที่ราวๆ 1,100 กิโลกรัม ในเวลาแค่เพียงไม่กี่วันเขาเติบโตถึงจุดที่สามารถกวัด แกว่งดาบปีศาจนํ้าหนัก 101 กิโลกรัมอย่างง่ายดายได้ยังไงกัน? นั่นคงไม่ได้หมายถึงความแข็งแกร่งของเขาโดดเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าหรอกใช่ไหม?” อาจารย์เจียงเหนียนสูดหายใจเข้าลึก

ตั้งแต่ที่เขากลายมาเป็นอาจารย์ประจำสำนัก ‘เงินสนับสนุนสำนัก’ ของอาจารย์เจียงเหนียนก็ลดต่ำลง

นักสู้ทั้งหมดในสำนักขีดสุดให้ความสำคัญกับเงินสนับสนุนสำนักมาก

วิธีที่เร็วที่สุดที่จะเพิ่มเงินสนับนนุนสำนักก็คือการฆ่าสัตว์ประหลาด แต่ทว่าเจียงเหนียนเองก็ไม่ได้ฆ่าสัตว์ประหลาดมานานแล้ว

“หากเราคิดถูกล่ะก็ หลัวเฟิงจะต้องเข้าถึงเทคนิคการฝึกพลัง พันธุกรรมรวดเร็วกว่านักสู้ส่วนใหญ่แน่” เจียงเหนียนคิดในใจ “บางทีเราอาจจะต้องหาโอกาสไปที่สำนักงานใหญ่เพื่อให้ส่งคนมา ที่นี่ซักสองสามคนหน่อยแล้ว ถ้าเราสามารถฝากฝังหลัวเฟิงได้ล่ะก็ไม่ใช่แค่เราจะสามารถขอเงินสนับสนุนเพิ่มเติมได้ แต่เรายังจะ ได้ การนับหน้าถือตาจากอาจารย์ท่านอื่นๆ อีกด้วย!”

เจียงเหนียนอดตื่นเต้นไม่ได้

“หลัวเฟิง โชว์พลังหมัดให้ดูหน่อยซิ!” เจียงหนานออกคำสั่ง

“ครับ อาจารย์”

หลัวเฟิงยืนอยู่ตรงหน้าเครื่องทดสอบพลังหมัดแล้วสูดหายใจ เข้าลึกขณะที่คิดว่า “พลังทางร่างกายของเราไม่มีอะไรเทียบเท่ากับ พลังทางจิตของเราได้เลย” หลัวเฟิงไม่ได้มีแผนที่จะปิดบังเรื่องพลัง แต่อย่างใด ดังนั้นเขาจึงควบคุมลมหายใจแล้วก็ซัดหมัดไปข้างหน้าราวกับมังกร

“วูบ…”

หมัดพุ่งเข้ากระทบกับเครื่องทดสอบราวกับขีปนาวุธ ส่งผลให้ เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

“ตึง!”

เท่าไหร่?” เจียงเหนียนรีบวิ่งเข้าไปดูที่หน้าจอแสดงผล หลัวเฟิงก็เข้าไปดูเช่นกัน เพราะเขาเองก็ไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไร

เครื่องทดสอบแสดงผลอย่างชัดเจน…. ‘3,109 กิโลกรัม’

“3,109 กิโลกรัม?” เจียงเหนียนสูดหายใจลึกและหันมาหาหลัวเฟิงราวกับว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาด

หลัวเฟิงก็ประหลาดใจกับตัวเลขนี้เหมือนกัน ความแข็งแกร่ง เพิ่มขึ้นมาก “เราทำได้ราวๆ 1,100 กิโลกรัม ตอนเข้าทดสอบเตรียมนักสู้ ความแข็งแกร่งของเราเพิ่มขึ้นเร็วมากเมื่อเราฝึกพลังพันธุกรรมไปแล้ว ดังนั้นบางทีมันน่าจะเพิ่มขึ้นราวๆ 1,500 ถึง 1,800 กิโลกรัม แต่หลังจากที่ถูกกระตุ้นขึ้น ร่างกายของเราก็กลับ แข็งแกร่งขึ้นและกระโดดขึ้นเป็น 3,109 กิโลกรัมได้เลยเหรอเนี่ย?”

ตั้งแต่ที่เขาถูกกระตุ้น หลัวเฟิงก็รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของ ร่างกายเขา แต่เขาไม่เคยรู้แน่ชัดว่าตัวเลขจริงๆ คือเท่าใด

“หลัวเฟิง เธอ…เธอสำเร็จการฝึกฝนพลังพันธุกรรมแล้วเหรอ?” เจียงเหนียนถาม

“ครับ หลังจากที่ผ่านการทดสอบเตรียมนักสู้ ความพยายามครั้งแรกในการฝึกพลังพันธุกรรมของผมก็สำเร็จ” หลัวเฟิงพยักหน้า

เจียงเหนียนปรบมือแล้วก็ตะโกน “ฮ่าๆๆ ในที่สุดฉันก็มี อัจฉริยะตัวจริงที่ได้จากสำนักขีดสุดแห่งเขตอี๋อันของฉันเสียที แค่เพียงการฝึกพลังพันธุกรรมครั้งแรกของเขา ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มจาก 1100 กิโลกรัมเป็น 3100 กิโลกรัมทีเดียว สำหรับความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นมากแบบนี้ ก็คงจะมีอัจฉริยะแบบนี้ได้แค่ คนสองคนเท่านั้นแหละทั่วทั้งนครเจียงหนาน!”

เมื่อเริ่มฝึกพลังพันธุกรรมเป็นครั้งแรก จะเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับร่างกาย

เพราะร่างกายที่ไม่เคยดูดซับอะไรอย่างนี้มาก่อน จะมี ‘ความหิวโหย’ มาหลายสิบปี ดังนั้นครั้งแรกที่ได้ทำสิ่งนี้ ผลของมันจึง ปรากฏออกมาอย่างน่าตกใจ!

เริ่มจากครั้งที่ 2 และต่อๆ ไป การเปลี่ยนก็จะเล็กลง ต้องใช้ เวลาฝึกฝนอีกหลายปีเพื่อปรับพัฒนาขึ้นอีก ครั้งแรกของการฝึกนี้ …จะแสดงให้เห็นระดับของสมรรถภาพร่างกายด้วย บางคนอาจ แข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 300 กิโลกรัม ซึ่งเป็นเกณฑ์ธรรมดา หากเหนือ ค่าเฉลี่ยก็จะอยู่ราวๆ 600 กิโลกรัม

บางคนอาจจะเพิ่มขึ้นได้กึง 1,000 กิโลกรัม…ซึ่งจะถูก พิจารณาว่าเป็นพวกหัวกะทิ

และหลัวเฟิงพุ่งขึ้นถึง 2,000 กิโลกรัม!!! นี่มันอัจฉริยะชัดๆ!

“หลัวเฟิง มาลองทดสอบความเร็วดูซิ หลังจากนั้นก็ทดสอบ ปฏิกิริยาโต้ตอบด้วย” เจียงเหนียนราวกับค้นพบอัญมณีลํ้าค่า… เขาแหบจะอดใจรอดูผลการทดสอบไม่ไหว

“ครับ อาจารย์” หลัวเฟิงเองก็ตื่นเต้นเหมือนกัน

ซักครู่หลังจากนั้น ผลการทดสอบก็ออกมา…………

พลังหมัด….3109 กิโลกรัม

ความเร็ว….. 58 เมตรต่อวินาที

ปฏิกิริยาโต้ตอบ….เต็มขั้นนักรบเบื้องต้น! นักรบระดับกลาง ยอดเยี่ยม!

“ฮ่าๆๆ…สัตว์ร้ายเกิดขึ้นที่เขตอี๋อันแล้ว” เจียงเหนียนมองดูผล คะแนนสุดท้าย

หลัวเฟิงอดหัวเราะอยู่ลึกๆ ไม่ได้…

ระดับสัตว์ร้าย?

มีแต่หลัวเฟิงที่รู้ว่าพลังหมัดของเขาเพิ่มขึ้นราวๆ 600 กิโลกรัมหลังจากที่เขาฝึกพสังพันธุกรรม แต่หลังจากที่เขาฟื้นขึ้น พลังหมัดของเขาก็พุ่งทะยานจนน่าตกใจ

แต่อย่างไรก็ตาม….

เจียงเหนียนอาจลืมคิดไปว่า การฝึกพลังพันธุกรรมเป็นสาเหตุ ให้นักสู้ธรรมดาๆ เพิ่มความแข็งแกร่งจนสูงสุดได้!

“อัจฉริยะแบบเธอโดยปกติจะถูกจับตาจากสำนักสายฟ้า พวก กลุ่มใต้ดิน และกลุ่มอื่นๆ หลังจากที่เธอเสร็จสิ้นการทดสอบการ ต่อสู้จริงไปแล้ว” เจียงเหนียนหัวเราะ “ในตอนนั้น เธออาจจะมี ข้อเสนอที่น่าสนใจเข้ามามากมายเลย”

หลัวเฟิงรู้ตัวดี ใช่…ถ้าสัตว์ร้ายแบบนี้มีเพียงคนหรือสองคน ปรากฏขึ้นในประชากร 200 ล้านทั่วทั้งเจียงหนาน แล้วอย่างนี้ใครบ้างล่ะจะไม่ต่อสู้เพื่อแย่งชิงพวกเขา?

“งั้นถ้าอาจารย์ชวนให้เธออยู่ร่วมกับเรา มันจะไม่ดีกว่าหรือ?” อาจารย์เจียงเหนียนหัวเราะ “แน่นอน ไม่ต้องกังวลไปหรอก ข้อเสนอของทางเราก็ไม่เลวเลยทีเดียว! นักสู้ขั้นธรรมดาจะได้รับ คฤหาสน์เดี่ยวพร้อมกับเงิน 1 ล้านหยวน หลัวเฟิงเธอจะต้องสนใจ เงินนะ.. ทั้งชุดเกราะ อาวุธ หนังสือแนะนำ แล้วก็อาวุธพิเศษๆ พร้อมทั้งคำสอนจากนักสู้ผู้ทรงพลัง ทั้งหมดนี้ต้องใช้เงิน”

หลัวเฟิงพยักหน้า

“สำหรับอัจฉริยะแบบเธอ เราจะมอบคฤหาสน์เดี่ยวให้พร้อมทั้งเงินอีก 20 ล้านหยวน! เพื่อให้เธอซื้อชุดเกราะ อาวุธและทุกๆ สิ่งที่เธอต้องการ ในขณะเดียวกัน พวกเราสำนักขีดสุดยังจะสอน เทคนิคเต๋าอินให้เธอฟรีอีกด้วย วิถีดาบลับ และวิชาหลบหลีกลับ ทั้ง 3 อย่างนี้ มีมูลค่าอย่างต่ำถึง 50 ล้านหยวน แต่เราจะสอนให้เธอฟรีๆ ถ้ามันเกิน 50 ล้านหยวน ต้องให้เธอจ่ายเพิ่มสักหน่อยแค่นั้น”

หลัวเฟิงสูดหายใจลึก..

ยอดเยี่ยม!

นักสู้ขั้นธรรมดาได้รับเพียง 1 ล้าน ในขณะที่เขาอาจได้รับถึงเกือบ 70 ล้านทีเดียว! เพราะเทคนิคเต๋าอิน วิชาดาบและวิชาหลบ หลีกนั้นเป็นสิ่งสำคัญกับนักสู้นั่นเอง

“หลัวเฟิง 3 อย่างนั้นก็ไม่น่าจะเกิน 50 ล้านหรอก แต่ทว่า ถ้าเธอซื้อจากที่อื่น เธออาจจะต้องจ่ายเพิ่มเป็น 2 เท่าเลยทีเดียว” เจียงเหนียนยิ้ม “นักสู้ของสำนักขีดสุดจะได้รับส่วนลดเมื่อซื้อวิชาเหล่านั้น แน่นอน เพื่อที่จะซื้อวิชาแต่ละระดับ ก็ต้องขึ้นอยู่กับระดับเงินที่บริจาคให้ทางสำนักด้วย! ถ้าเธอไม่ค่อยบริจาค เธอก็ไม่สามารถซื้อวิชาได้แม้เธอจะมีเงินก็ตาม แน่นอน ของขวัญสำหรับเธอชิ้นนี้จะไม่ถามถึงเรื่องเงินบริจาคสำนักเลย”

หลัวเฟิงตระหนักดีว่าข้อเสนอที่เขาได้รับเป็นอะไรที่จ่ายแพง มากจริงๆ

“ข้อเสนอของสำนักขีดสุดของเราที่มีให้เหล่าอัจฉริยะเป็นแบบ นี้ทุกคน” เจียงเหนียนยิ้ม “ในสำนักขีดสุด เธอจะได้รับความ ช่วยเหลือจากเพื่อนๆ ทุกคน และผู้นำของพวกเรา นักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดอาจารย์หงก็จะช่วยสอนวิชาชั้นสูงให้ด้วย

หลัวเฟิงใช้ชีวิตอยู่จนถึงทุกวันนี้ เขารู้ดีเกี่ยวกับเรื่องอิทธิพลชองสำนักขีดสุด!

การเข้าร่วมงานกับทางสำนักเป็นตัวเลือกที่ดีอย่างแน่นอน

“โอเคครับ..อาจารย์ ผมเอาด้วย” หลัวเฟิงพยักหน้า

“ฮ่าๆๆ” เจียงเหนียนหัวเราะชอบใจ “แน่นอน อาจารย์ไม่มีสิทธิ์ จะให้เธอเข้าร่วมกับทางสำนักของเราในทันที…จะให้เหล่านักสู้ ยอมรับในพรสวรรค์ของเธอจำเป็นจะต้องไปทดสอบที่สำนักงานใหญ่” ขณะที่พูด เจียงเหนียนก็หยิบมือถือออกมาจากกระเป๋าและคุยอยู่เงียบๆ ‘สำนักงานใหญ่’ เป็นที่ที่เขาโทรไปนั่นเอง

หลังจากนั้นซักครู่….

มีบุคคลปรากฎขึ้นที่หน้าจอของมือถือ

“เจียงเหนียน ว่าไง?” ชายชราหัวเราะขึ้น

“ลุงไป๋” เจียงเหนียนกล่าวอย่างตื่นเต้น “ผมค้นพบนักสู้ อัจฉริยะในเขตอี๋อัน พลังหมัดของเขาเพิ่มขึ้น 2000 กิโลกรัม หลังจากการฝึกพลังพันธุกรรมครั้งแรก ความเร็วของเขาคือ 58 เมตรต่อวินาที และผลการทดสอบปฏิกิริยาโต้ตอบอยู่ในนักรบระดับกลางขั้นยอดเยี่ยม! เขาเป็นระดับอัจฉริยะ ระดับสัตว์ร้ายอย่างแน่นอนครับ”

“โอ้?” ชายชราผมขาวรู้สึกประหลาดใจและถามขึ้น “ฝึกครั้ง แรกก็พุ่งขึ้นกึง 2000 กิโลกรัมเลยหรือ? เขาอายุเท่าไหร่?”

ยิ่งอายุมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีค่าน้อยลงที่จะให้การเลี้ยงดู

“18 ปี” เจียงเหนียนตอบ

“อะไรนะ แค่ 18 ปีเองเหรอ?” ชายชราผมขาวยืนขึ้นพรวดพราด แล้วตะโกนลั่น “เร็วเข้า..พาเขามาที่สำนักงานใหญ่เดี๋ยวนี้! ฉันจะจัดการทดสอบเจ้าหนูนั่นทันที”

“โอเค ผมจะไปสำนักงานใหญ่เดี๋ยวนี้ครับ”

เจียงเหนียนวางสายและหันมาหาหลัวเฟิงพร้อมกับยิ้มให้ “หลัวเฟิง มากับอาจารย์ เราจะไปสำนักงานใหญ่เดี๋ยวนี้”

“ครับอาจารย์…อาจารย์ครับ ผมขอเอาดาบปีศาจกับโล่หก เหลี่ยมนี้ไปเก็บในห้องเก็บอาวุธก่อนนะครับ” ทันทีที่หลัวเฟิงพูดจบ เจียงเหนียนก็ดึงแขนหลัวเฟิงไป “ใครจะไปสนใจห้องนี้กันเล่า วาง มันไว้ที่นี่แหละ เร็วเข้า อย่าเสียเวลาดีกว่า”

ขณะที่เขาพูด เจียงเหนียนก็ดึงแขนหลัวเฟิงตรงดิ่งไปที่บันได และขณะเดียวกันเจียงเหนียนก็ออกคำสั่งว่า “สหายหลี่ ฉันอาจจะ ไม่ว่างนะวันนี้ ยังไงก็ยกเลิกคาบสอนด้วยละกัน”

“ครับท่านอาจารย์” ลุงหลี่พยักหน้า และหลังจากที่เขาตอบ…

เจียงเหนียนและหลัวเฟิงก็หายลับไปกับตาอย่างรวดเร็ว