Skip to content

Swallowed Star 69

ตอนที่ 69 เมืองหมายเลข 003

ถึงแม้จะช็อคอย่างมาก แต่สวีกังก็ดึงสติกลับมาได้เร็ว ขณะที่เขากำลังพิจารณาหลัวเฟิงจากระยะไกล นักธุรกิจหนุ่มก็ได้ข้อสรุปอย่างรวดเร็ว “เจ้าหลัวเฟิงยังเด็กอยู่เลย แต่เขาก็อยู่ในระดับแม่ทัพขั้นต้นไปแล้ว! และฐานะทางบ้านเขาเมื่อก่อนก็ไม่ดี ดังนั้นการมาอยู่ในขั้นนี้ได้เป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก! ฉันต้องมองอย่างนี้ว่า…ถ้าเขากลายเป็นเทพสงครามได้ในวันหนึ่ง เกรงว่าพ่อของฉันและคนอื่นๆ คงไม่มีทางเลือกอื่นแน่นอกจากจะอนุญาตให้เธอแต่งงานกับเขาอยู่ดี

แต่ว่า…

นักสู้ก็ยังเป็นนักสู้ แม้แต่ลิ่วกังยังตายได้ เพราะงั้น ใครจะรู้ว่าเขาจะตายเมื่อไร เอาเถอะๆ…ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว เราแค่ต้องตามดูว่าหลัวเฟิงจะเติบโตขึ้นยังไง”

สวีกังคิดกับตัวเอง อันที่จริง นักสู้ระดับแม่ทัพก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรสำหรับตระกูลเขามากนักหรอก

งานพิธียังคงดำเนินต่อไป แต่นักสู้บางส่วนก็เริ่มทยอยกันกลับออกมาแล้ว

หลังจากที่สมาชิกทั้ง 5 ของทีมค้อนอัคคีออกมาแล้ว พวกเขาก็เริ่มมองหาโรงแรมสไตล์คลาสสิคกันทันที เจ้าของร้านอาหารรู้ว่ามีผู้คนเข้ามาร่วมงานศพกันจำนวนมากในเมืองนี้ เนื่องจากงานพิธีถูกถ่ายทอดสดออกโทรทัศน์ไปทั่วประเทศ เมื่อเขาเห็นหลัวเฟิงกับคนอื่นๆ ออกมาจากรถบริการเฉพาะนักสู้ เจ้าของร้านอาหารจึงเข้าใจได้ทันทีว่าทั้ง 5 คนนี้เป็นใคร จึงนำพวกเขาไปยังห้องอาหารที่ดีที่สุดบนชั้นที่ 3

“เอาล่ะ แค่นั้นล่ะ” เฉินกู่สั่งอาหารแล้วก็โบกมือเป็นสัญญาณให้พนักงานบริการออกไป

พนักงานบริการสาวสวยของร้านเหลือบมองทุกคนแล้วก็ออกไปอย่างเชื่อฟัง

“บ้าจริง…วันนี้ฉันอุตส่าห์อารมณ์ดีแล้วเชียว ดันมาเห็นพวกทีมเขี้ยวพยัคฆ์เสียอีก แค่เห็นพวกมันก็อารมณ์ขึ้นทันทีเลย!” เกาเฟิงโพล่งออกมาด้วยความเดือดดาลพลางขบเขี้ยวเคี้ยวฟันดังกรอดๆ ก่อนที่พวกเขาจะออกมา พวกหลัวเฟิงเจอกับทีมเขี้ยวพยัคฆ์ที่มาร่วมงานเหมือนกัน

“หัวหน้า อย่าหัวร้อนมากไปกว่านี้เลยครับ ยังไงมันก็ไม่หายแค้นหรอก” เว่ยเถี่ยส่ายหัว

“ให้เข้าไปในแดนเถื่อนก่อนเถอะ พวกเราจะต้องหาโอกาสเล่นงานพวกมันแน่” เว่ยชิงหัวเราะอย่างเยือกเย็น

หลัวเฟิงเลิกคิ้วและกวาดมองไปรอบๆ ห้องด้วยพลังจิตเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีเครื่องดังฟังซ่อนอยู่

พอเห็นหลัวเฟิงทำอย่างนั้น เกาเฟิงก็หัวเราะออกมา “หลัวเฟิงไม่ต้องกังวล! ร้านนี้เป็นระดับเฟิร์สคลาส เพราะงั้นคนที่ทานในห้องแบบนี้โดยปกติจะเป็นบุคคลสำคัญ มีการตรวจสอบอยู่ตลอด ถ้าเจ้าของร้านกล้าดักฟัง ก็เท่ากับฆ่าตัวตายชัดๆ!”

เฉินกู่กล่าวสำทับเช่นกัน “จะสนไปทำไมถ้าจะมีคนดักฟัง พวกเราแค่พูดเรื่องการฆ่าคน แต่พวกเรายังไม่ได้ฆ่าใครซะหน่อย พวกเราจะพูดอะไรไม่ได้เลยเหรอ?”

หลัวเฟิงหัวเราะอย่างเห็นด้วย

“หัวหน้า มีคนพวกไหนที่อยู่เบื้องหลังทีมเขี้ยวพยัคฆ์บ้างไหมครับ?” หลัวเฟิงถาม “ถ้ามี พวกเราจะได้ระมัดระวังให้มาก”

“จะมีคนใหญ่โตที่ไหนได้ล่ะ?”

เกาเฟิงยิ้มเยาะ “หรือพวกมันมีพ่อแม่เป็นเทพสงคราม”

“เออ ใช่ ผู้อาวุโสเทพสงครามลิ่วกังมีลูก 3 คน ลูกชาย 2 คน ลูกสาว 1 คน และลูกชายคนโตกับลูกสาวเป็นแม่ทัพขั้นสูง มีเพียงลูกชายคนที่ 2 เท่านั้นที่อยู่ในระดับทั่วๆ ไป” เว่ยเถี่ยถอนหายใจ “ขั้นสูงทั้ง 2 คนนั้นคงไม่ธรรมดา ขนาดลูกสาวยังทรงพลังไม่ใช่เล่น”

“โอ้ ลูก 3 คน และ 2 คนเป็นระดับแม่ทัพ?” หลัวเฟิงตกใจ

“เป็นเรื่องธรรมดาน่า” เกาเฟิงกล่าว “หลัวเฟิง นายยังอยู่ในวงการนักสู้ได้ไม่นานนัก เพราะงั้น นายเลยอาจไม่ค่อยแน่ใจหลายๆ เรื่อง อันที่จริง ลูกๆ ของนักสู้ที่ทรงพลังก็จะยอดเยี่ยมตามไปด้วย! ยกตัวอย่างเช่น นักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก ‘อาจารย์หง’ สิ่งมีชีวิตที่อยู่เหนือกว่าเทพสงคราม ลูกสาวกับลูกชายของเขาก็เป็นเทพสงครามทั้งคู่!”

หลัวเฟิงกะพริบตาปริบๆ เขาไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ

“มันค่อนข้างจะเป็นเรื่องง่ายทีเดียว” เกาเฟงหัวเราะ “เมื่อนักสู้ฝึกฝน ทุกๆ เซลล์ในร่างกายจะดูดซับพลังพันธุกรรม เพื่อให้ยีนสมบูรณ์แบบ ยีนในร่างกายจะดีขึ้นเรื่อยๆ และในกระบวนการนั้นยิ่งนักสู้แข็งแกร่งเท่าไหร่ คุณภาพของยืนก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น และเมื่อแต่งงานมีลูก ยีนเหล่านั้นก็จะส่งต่อไปยังลูกๆ ด้วย! ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ลูกๆ ของนักสู้ผู้ทรงพลังอย่าง ‘อาจารย์หง’ อย่าง ‘เทพสายฟ้า’ และ ‘จูสี่’ จะกลายเป็นนักสู้ระดับเทพสงครามได้! เนื่องจากยีนของพวกเขาดีเยี่ยมอยู่แล้ว แต่สิ่งเหล่านี้จะไม่ได้ถ่ายทอดไปทั้งหมด และพวกเขาอาจไม่มีพลังเทียบเท่ากับพ่อแม่ของพวกเขา อาจทำให้รุ่นต่อๆ ไปอ่อนแอลงเรื่อยๆ และในที่สุดยีนในตระกูลของพวกเขาก็จะกลายเป็นยีนธรรมดาอีกครั้ง”

หลัวเฟิงพยักหน้า

ยีนเป็นสิ่งที่ถ่ายทอดได้เมื่อมีลูก ลูกๆ ของนักสู้ผู้ทรงพลังจะมีข้อได้เปรียบตั้งแต่เกิด!

ประตูเปิดออก…และพนักงานบริการก็นำอาหารเข้ามา

“อืม”

หลังจากพนักงานวางทุกอย่างลงบนโต๊ะเธอก็เดินออกไ เกาเฟิงถอนหายใจขณะที่เอ่ยขึ้น “อันที่จริง ถ้ามวลมนุษย์ยังเป็นแบบนี้ ยีนของนักสู้ที่ทรงพลังก็จะกระจายไปทั่ว และสิ่งนี้ก็จะช่วยเพิ่มคุณภาพของยีนให้กับมวลมนุษย์ได้อีก! แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อคนอ่อนแอแต่งงานกับผู้ทรงพลัง ลูกๆ ของพวกเขาส่วนมากก็จะเป็นคนธรรมดา ดังนั้น จึงยากที่จะยกระดับคุณภาพยีนของมวลมนุษย์ทั้งหมดได้ ผู้ทรงพลังยกระดับคุณภาพยีนของมนุษย์ ในขณะที่คนอ่อนแอทำให้ยืนลดระดับลง แต่อย่างไรก็ตาม มีสิ่งหนึ่งที่ชัดเจน ขณะที่เวลาผ่านไป ยีนของมนุษย์ทั้งหมดจะค่อยๆ มีคุณภาพขึ้นอย่างต่อเนื่อง! ในวันหนึ่งมนุษย์เกือบทุกคนอาจจะกลายเป็นนักสู้ก็เป็นได้!”

หลัวเฟิงพยักหน้าให้กับข้อสรุปของเกาเฟิง

“แน่นอน กว่ามนุษย์ทุกคนจะกลายเป็นนักสู้แบบนั้น…ใครจะรู้ได้ว่ามันจะนานแค่ไหน! 500 ปี? 1,000 ปี? 50,000 ปี?” เกาเฟิงหัวเราะขณะส่ายหัวไปมา

วิวัฒนาการของมนุษย์คือกระบวนการที่เป็นไปอย่างช้าๆ

พวกหลัวเฟิงทานมื้อเที่ยงเสร็จอย่างรวดเร็ว หลัวจากที่จานถูกเก็บไปแล้วน้ำชาก็ถูกสั่งเข้ามา

“สหายเฉินกับเว่ยเถี่ยเว่ยชิงมีพลังเพิ่มขึ้นมากแล้ว แสดงให้ดูหน่อยละกัน เดี๋ยวเราจะเข้าไปลุยแดนเถื่อนกัน? วันนี้นะ” เกาเฟิงกล่าวขณะที่มองมายังคนอื่นๆ “มีใครคิดเห็นอะไรไหม?”

“ถ้าไม่งั้น วันมะรืนนี้ไหม?” เฉินกู่กล่าว

หลัวเฟิงพยักหน้า “ออกเดินทางกันวันมะรืนนี้แล้วกัน ว่าแต่หัวหน้า เราจะไปที่ไหนและเวลาไหนครับ?”

“ฮ่าๆ” เฉินกู่หัวเราะ “ที่แน่ๆ ตอนนี้เราคงจะไม่ไปเมืองเล็กๆ กันแล้วล่ะ ทีมของเราแข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก”

หากจะกล่าวว่าทั้งทีมเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นแล้วอย่างน้อย 10 เท่านั้นก็ไม่ได้เกินจริงแต่อย่างใด

“ไปเมืองใหญ่ๆ กันเถอะ” เว่ยเถี่ยและเว่ยชิงตาเป็นประกาย

ในอดีตที่ผ่านมา พวกเขาได้แต่หวังว่าจะได้ไปลุยเมืองใหญ่ๆ ซักครั้ง

“หรือว่า…เราจะลองไปที่เมืองหมายเลข 003 เป็นไง?” เกาเฟิงกล่าวแผ่วเบาขณะที่สูดหายใจลึก

“เมืองหมายเลข 003?”

พวกหลัวเฟิงต่างช็อคไปตามๆ กัน

เมืองหมายเลข 003 เป็นอย่างไรงั้นเหรอ?

สามารถบอกได้เลยว่าที่นั่นเป็นหนึ่งในเขรพื้นที่ที่น่ากลัวที่สุดในแถบยูเรเซีย สถานที่นี้อยู่ใกล้กับทะเล จึงมีสัตว์ประหลาดอยู่จำนวนมหาศาล เมืองนี้ยังมีตึกสูงเสียดฟ้าตั้งอยู่อย่างหนาแน่น จึงเป็นเหตุให้มีสัตว์ประหลาดอาศัยอยู่ด้วยจำนวนที่น่าตกใจ มีสัตว์ประหลาดระดับจ่าฝูงอยู่อาศัยจำนวนมาก และมีแม้กระทั่งสัตว์ประหลาดที่อยู่เหนือระดับจ่าฝูงอาศัยอยู่ที่นี่ด้วย!

นักสู้ระดับชั้นนำมาที่นี่เป็นจำนวนมาก!

บรรดานักสู้จากหัวเมืองใหญ่ต่างๆ ในทวีปเอเชียต่างก็หลั่งไหลกันมาที่เมืองแห่งนี้!

และที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่พวกนักสู้และทหารใช้ฆ่ากันเองอีกด้วย!

ที่นี่คือเขตเศรษฐกิจของจีนสมัยก่อนยุคมหานิพพาน…เมืองเซี่ยงไฮ้!

“ไปที่นั่นเหรอ?” เว่ยเถี่ยและเว่ยชิงตะลึงงัน

“โหดไปมั้ง…ก้าวนี้มันใหญ่เกินไปนะ” เว่ยเถี่ยอดโพล่งออกมาไม่ได้ “เราไปเมืองหมายเลข 023 ซูโจว กันก่อนดีไหม?”

ไม่ว่าจะทระนงตัวขนาดไหน เมื่อได้ยินชื่อเมือง 003 แล้วเป็นใครก็ต้องสั่นสะท้านเพราะความหวาดกลัว ที่แห่งนี้มีทั้งมังกร งู และจระเข้ที่อันตรายอย่างสุดขั้วอาศัยอยู่เต็มไปหมด!

เกาเฟิงมองดูลูกทีมแล้วหัวเราะ “กลัวเหรอ?”

“ใครกลัวล่ะ…ใครก็ตามที่เคยไปเมืองหมายเลข 003 ก็มีหน้ามีตากันทั้งนั้น” เฉินกู่ตาเป็นประกาย “ไปสิ ลุยเลย! เมือง 003 มันใหญ่อยู่แล้ว อาจจะใหญ่กว่าเมืองที่เราเคยไปซัก 10 เท่าได้มั้ง เราก็แค่เลียบไปตามขอบเมือง ไม่ค่อยเท่าไหร่หรอก”

“หลัวเฟิง นายว่าไง?”

ทุกคนในกลุ่มหันมาที่หลัวเฟิง เพราะเขามีพลังสูงที่สุดในทีมตอนนี้!

หลัวเฟิงครุ่นคิด แน่นอน หลัวเฟิงรู้เกี่ยวกับตำนานเมืองหมายเลข 003

ความหมายของเมืองหมายเลข 003 สำหรับมวลมนุษย์ในวันนี้มันตรงกันข้ามกับความหมายเมื่อก่อนยุคมหานิพพาน มันพิเศษไปคนละแบบ!

“ได้สิ…เราจะไป แต่เราจะต้องค่อยๆ เลียบชานเมืองเข้าไป” หลัวเฟิงพยักหน้า

“แน่นอน เราจะค่อยๆ ไปอย่างที่ว่า ไม่งั้นไม่รอดแน่ ฉันเองก็ยังไม่อยากตายหรอกนะ” เกาเฟิงหัวเราะ “ฉันก็พอมีพรรคพวกที่กำลังเลียบๆ เคียงๆ ชานเมืองอยู่บ้างเหมือนกัน พวกเขาก็ล้วนเป็นยอดนักสู้ทั้งนั้น อืมมมม…พวกเราก็จะเริ่มต้นกันที่นั่นล่ะ”

การรอดจากเมืองหมายเลข 003 ได้เป็นเครื่องหมายแสดงถึงความแข็งแกร่งอย่างดีทีเดียว!

เนื่องจากมีจระเข้และสัตว์ประหลาดจำนวนมหาศาลอยู่ที่นั่น ดังนั้นแม้แต่ในเขตชานเมืองก็มีสัตว์ประหลาดระดับบัญชาการปรากฎตัวจำนวนมาก และตามฝั่งแม่น้ำยังมีระดับจ่าฝูงอยู่อีกไม่น้อยด้วย! ดังนั้น ผู้ที่ไม่แข็งแกร่งพอย่อมไม่กล้าเข้าไปที่เมืองหมายเลข 003 เลย

“เอาล่ะ งั้นพวกเราไปพักผ่อนกันเถอะ มะรืนนี้เราจะออกเดินทางมุ่งหน้าไปที่เมืองหมายเลข 003 กัน” เกาเฟิงเอ่ยอย่างอารมณ์ดี

“โอเค ไปเมืองหมายเลข 003!”

เลือดทุกหยดต่างก็เดือดพล่านในกายของทุกคน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version