Skip to content

Swallowed Star 792

ตอนที่ 792 บ้าน ดวงจันทร์

“ชื่อ…” หลัวเฟิง ลังเล

คู่มือของ ฉิงหลูเต๋า ก็อยู่ในระดับสุดยอดเช่นกัน คู่มือแบบนั้นต้องมีชื่อที่ผ่านการคิดดีๆ ก่อน

“ผมควรเรียกมันว่ายังไงดี?”

“นี่มันเทคนิคที่ใช้ปีกและเกล็ด การโจมตีที่สามารถใช้ทักษะของดาบ

ได้ ปีกดาบ? เกล็ดดาบ? ปีกเกล็ด? เจ็ดขั้น? สิ่งหลักคือใช้ ปีกซืออวู๋

ในการสู้ ดังนั้น…คู่มือซืออวู๋? แต่นี่มันก็สามารถใช้ใบมีดในการต่อสู้

ได้ด้วยโดยใช้ใบมีดเงาเลือด บางทีอาจจะเป็นคู่มือเงาเลือด?” หลัวเฟิงคิดออกมาหลายชื่อ

ทั้งหมดต่างก็ค้านกัน

เขารู้สึกว่ามันยังขาดบางอย่างไปอยู่

“มันขาดอะไรไป?” หลัวเฟิง ยังคงคิดต่อ

เมื่อเห็น หลัวเฟิง กำลังขบคิด ผู้นำเมืองก็ยังคงดูอยู่เงียบๆ

คู่มือระดับสุดยอดนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ความแข็งแกร่งของนักรบ แม้ว่าเขาจะตายไปแล้วก็ตาม…คู่มือของคนๆนั้ นจะส่งต่อไป ดังนั้นแล้วนักรบทุกคนต้องคิดชื่อให้ดีๆ นี่เองก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์การคงอยู่อันยาวนานของพวกเขา

อยู่ๆ ตาของ หลัวเฟิง ก็เป็นประกายขึ้นมา

“มันขาดความแข็งแกร่งที่แน่นอน”

“ความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณ” มีความคิดนั้นในสมองของเขา

“ในตอนที่คิดถึงคู่มือขอผม ผมได้สัมผัสได้ถึงแรงที่ไม่รู้จบ และ

อารมณ์ต่างๆ ในตอนที่ผมคิดถึงมัน มันเพิ่มพลังใจให้กับหัวใจนักรบ

ของผมและผมได้เข้าใจ และแก้ปัญหาต่างๆ ของผมเอง”

“การแก้ปัญหาของผมคือ…”

มีฉากหลายอันโผล่มาในสมองของเขา

“ผมต้องการหยุดพ่อแม่ไม่ให้ต้องเจ็บปวด ให้พวกเขามีชีวิตที่ดี”

ย้อนกลับไปตอนเด็ก หลัวเฟิง ได้แบกโล่และดาบสำรวจไปทั่วทั้งป่า

และเริ่มเส้นทางนักรบของตน

“ไข่มังกร! เกราะ!”

ในเมืองที่ 003 หัวหน้าฝูงสัตว์ประหลาดกำลังสู้กับเทพสงคราม

สองคน หลัวเฟิง ได้พุ่งเข้าไปแย่งไข่ และเกราะมันมาจากรังของมัน…

“กระต่ายที่กังวลจะแว้งกัด เจ้าคิดจริงๆ รึว่าข้าจะไม่ฆ่าเจ้า!”

ดาบบินของเขาได้ตัดหัวของคนมีอำนาจลง ตาของ หลัวเฟิง เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งพร้อมกับบินออกไป ตอนนั้น หลัวเฟิง นั้นเหมือนกับปีศาจ

“หนึ่งแสนล้าน?” ในตอนที่มีค่าหัว เขามีแต่ความกลัวว่าเพื่อนของ

เขาจะขายข้อมูลของเขาไป

“2.8 หมื่นล้าน?” ครั้งแรกที่น้องชายของเขา หลัวฮว๋า ได้เห็นตัวเลข เขาก็ต้องอึ้ง

“หลัวฮว๋า พี่เคยบอกเจ้าแล้ว พี่จะปล่อยให้เจ้าอยู่อย่างมั่นใจต่อหน้าเสี่ยวหนาน และพ่อแม่ของเธอ พี่บอกเจ้าเสมอ” หลัวเฟิง ได้สัญญากับน้องชายของตน

เกียรติของการกลายเป็นผู้ตรวจการณ์ของสำนัก

การปรากฏตัวของสัตว์อสูรเขาทองและภัยพิบัติของโลก นักรบบนโลกหลายคนได้ทุ่มสุดตัวเพื่อเข้าสู้กับสัตว์อสูรเขาทอง

การออกจากโลกมายังจักรวาล เขาต้องระวังอย่างมากแต่ก็ต้องเด็ดเดี่ยว การลงไปสำรวจโลกใบอื่นๆ และการต่อสู้ที่เดิมพันด้วยชีวิต

ทุกเวลาที่ผ่านมาเขาได้ปลดปล่อยพรสวรรค์ตัวเองออกมา เขาเสี่ยง

ตัวเองทุกภารกิจจและทุกอย่างมันมาจากหัวใจ!

เพื่อปกป้องคนที่เขารัก!

เพื่อปกป้องบ้านของเขา!

“บ้าน? ครอบครัว?” หลัวเฟิง คิดชื่อขึ้นมาได้…ดวงจันทร์!

เมื่อมองไปยังดวงจันทร์แล้วเขาก็คิดถึงครอบครัวของเขา

หลัวเฟิง ได้ทำการศึกษาตำราจีนโบราณมาหลายเล่ม ดังนั้นแล้วสิ่งแรกที่เขาคิดได้คือดวงจันทร์ ตำนานมากมายได้พูดถึงดวงจันทร์พร้อมกับใฝ่ฝันถึงบ้านของพวกเขา ยืนอย่างโดดเดี่ยวภายใต้ดวงจันทร์และคิดถึงครอบครัวตนเอง

“ดวงจันทร์!”

“กฎข้อเดียวนั้นเรียบง่ายแต่ด้วยกฎมากมาย มันจึงกลายเป็นหลักการ”

ตาของ หลัวเฟิง เป็นประกายขึ้นมา “ผมเพิ่งสร้างมาได้แค่ขั้นแรก มันจะต้องมีขั้นสองและสาม….รวมกันแล้วมันจะกลายเป็นเทคนิคที่

สมบูรณ์”

“ชื่อของคู่มือนี้จะถูกเรียกว่า ‘หลักการของดวงจันทร์’!”

หลัวเฟิง ได้ทำการตัดสินใจ

หลักการของดวงจันทร์ นั้นแสดงถึงการแก้ปัญหาของเขา หลักการที่

เป็นตัวแทนของความทะเยอทะยานของเขาและพลังใจของเขาที่ไม่คิดจะยอมแพ้ มีแต่ต้องแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

*******

“เสร็จรึยัง?” ผู้นำเมืองมองไปที่สายตาที่ตื่นเต้นของ หลัวเฟิง และได้ยิ้มออกมา

“ครับ” หลัวเฟิง ตอบกลับด้วยความสุภาพ

“บอกข้าได้หรือไม่?” ผู้นำเมืองถาม

“มันจะถูกเรียกว่า หลักการของดวงจันทร์” หลัวเฟิง ตอบ

“หลักการของดวงจันทร์…” ผู้นำเมืองสงสัย มันไม่ค่อยมีคู่มือไหนๆ

ที่ใช้คำว่าหลักการ ส่วนมากแล้วจะเป็นท่าของมันมากกว่า

เขาไม่เคยได้ยินคู่มือเล่มไหนที่เรียกว่าหลักการของ…เลย

ที่มากกว่านั้นความหมายเบื้องหลังของดวงจันทร์เองนั้น ผู้นำเมืองก็เข้าใจมันได้ไม่ทั้งหมด แม้ว่าเขาจะไม่ได้ถามมันออกมาก็ตาม

“หลักการของดวงจันทร์…หลักการของดวงจันทร์…หวังว่าชื่อนั้นจะ

ทำให้เกิดความกลัวและความอิจฉาในบรรดาเผ่าพันธุ์นับล้านๆ เผ่าพันธุ์” ผู้นำเมืองยิ้มออกมา

“ผมจะพยายาม” หลัวเฟิง ตอบกลับด้วยความเคารพ

“อื้ม” ผู้นำเมืองพยักหน้า

“อาจารย์ ผมอยากจะถาม อะไรคือระดับของเทคนิค?” หลัวเฟิง อด

ไม่ได้ที่จะถาม เขารู้แค่ระดับสูงสุดสามระดับ คือสูง สุดยอดและสูงสุด

ผู้นำเมืองพูดขึ้นมา “แบ่งได้ง่ายๆ ระดับต่ำ ธรรมดา สูง สุดยอด

และสูงสุด”

“เทคนิคที่ระดับห้วงมิติ และระดับอมตะ ที่สร้างขึ้นมาปกติแล้วจะ

เป็นระดับต่ำ”

“ก็เหมือนกับสิ่งที่เจ้าได้มาจากยูฮันโบ ตราประทับจิตวิญญาณของเขานั้นมีสิ่งพิเศษ มันได้ก้าวข้ามระดับต่ำมาได้ มันน่าจะถือได้ว่าเป็นระดับธรรมดา! มันก็เหมือนกับเจ็ดใบมีดที่เจ้าได้ทำการศึกษา แม้ว่ามันจะก้าวข้ามใบมีดลวงตาทั้งเจ็ดแบบดั้งเดิมแล้วแต่มันก็ยังจัดอยู่ในระดับธรรมดา อมตะระดับผู้บัญชาการ หลายคนและระดับห้วงมิติอัจฉริยะบางส่วนเองก็มีเทคนิคระดับธรรมดาเช่นกัน”

“สูงกว่านี้!”

“มันคือระดับสูง ระดับห้วงมิติอัจฉริยะส่วนมากและอมตะระดับ

จักรพรรดิ นั้นจะสร้างเทคนิคระดับนี้ขึ้นมา!”

“เหนือว่านั้นคือระดับสุดยอด”

“ก็เหมือนกับอาจารย์เจ้าอีกคน ทรูหยัน ที่ซึ่งสามารถรอดมาได้แม้ว่าอยู่ต่อหน้าอัศวิน เขานั้นแข็งแกร่งพอๆ กับอัศวินทั่วไป การเป็นหรือแม้แต่เป็นแบบศิษย์พี่ของเจ้า เคอตี้ ที่ซึ่งแข็งแกร่งอย่างมากในระดับห้วงมิติ พวกเขาล้วนแต่สร้างเทคนิคระดับสุดยอดขึ้นมาได้”

“อัศวินส่วนมากแล้วจะสร้างเทคนิคระดับสุดยอดขึ้นมา แน่นอนว่ามัน

ก็เหมือนกับที่ข้าบอกเจ้าไป คู่ต่อสู้ที่เจ้าเผชิญหน้าจากตัวที่ 1,000-1,999 พวกเขาล้วนแต่ใช้เทคนิคระดับสุดยอด ดังนั้นแม้จะอยู่ในระดับสุดยอดเหมือนกัน แต่มันก็ยังมีความต่างอย่างมาก แม้ว่า ฉินหลูเต๋า นั้นจะแข็งแกร่งแต่เขานั้นก็มาจากเผ่าพันธุ์ธรรมดาอย่างเผ่าเขาทอง พวกนั้นไม่ได้มาจากมนุษย์ ดังนั้นแล้วเทคนิคที่เขาสร้างขึ้นมาจึงเทียบกับเราไม่ได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเทคนิคของเขาจึงเทียบเท่าได้แค่ระดับของคู่ต่อสู้ตัวที่ 1,200 ที่เจ้าเผชิญหน้ามา”

“สำหรับระดับสูงสุด!”

“ระดับสูงสุดนั้น…มันมากเกินไปสำหรับเจ้าในตอนนี้” ผู้นำเมืองยิ้ม

ออกมา “ในตอนที่เจ้าจัดการคู่ต่อสู้คนที่ 2,000 ได้ งั้นเราค่อยมาคุย

กัน”

หลัวเฟิง ช็อกในใจและรีบตอบกลับทันที “ครับ อาจารย์”

“จริงๆ แล้วเจ้าก็ถือว่าทำได้ไม่เลวในครั้งนี้” ผู้นำเมืองพูดขึ้น “ด้วย

การสนับสนุนอย่างเต็มที่ของข้าในการปรับคู่ต่อสู้ของเจ้าตามการ

พัฒนาที่เจ้ามีแล้ว ในตอนที่จัดการกับจุดอ่อนของเจ้าทุกครั้ง ด้วย

เงื่อนไขเหล่านั้น ประสิทธิภาพในการเรียนรู้จะเพิ่มขึ้นเป็นแสนเท่า ข้ายังคิดว่าด้วยความช่วยเหลือของข้าแล้ว ข้าสามารถช่วยเจ้าสร้างเทคนิคระดับสูงมาได้ใน 2,000 ปี แต่เจ้ากลับเกินกว่าที่ข้าคาดเอาไว้ การสร้างเทคนิคระดับสุดยอดขึ้นมาใน 1,200 ปี นี่ถือว่าความเข้าใจของเจ้านั้นสูงอย่างมาก อย่างน้อยในเส้นทางของสัตว์อสูรเทพ มันก็ถือว่าสูงอย่างมาก”

หลัวเฟิง รู้สึกเศร้าในใจ

การสร้างเทคนิคนี้ยากอย่างมาก การมีผู้เชี่ยวชาญจัดคู่ต่อสู้มาให้กับเขา…แม้แต่อัศวินก็ยังยากจะหาคนแบบนั้นได้ ด้วยความช่วยเหลือพวกนี้เขาจะไม่พัฒนาอย่างรวดเร็วได้อย่างไร?

1,200 ปี มันจะกลายเป็นแสนปี ถ้าทำการศึกษาด้วยตัวเอง!

“อาจารย์รู้ได้อย่างว่าความเข้าใจของเส้นทางสัตว์อสูรเทพของผมสูง

มันไม่ได้สูงแบบที่ผมคิด” เขาสงสัย “ผมมีรูปปั้นสัตว์อสูรเทพช่วย

ผมสามารถที่จะศึกษามันได้และเข้าใจมัน รับรู้ถึงออร่าของมัน”

การศึกษารูปปั้นทุกวันนั้นทำให้เขาพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็ว…

“ทำต่อไป” ผู้นำเมืองหันกลับและเดินเข้าไปยังพลังงาน “สู้กับ

นักรบในเขตแดนภายนอก การฝึกแบบเป็นตายจะช่วยให้เจ้าขัดเกลา

เทคนิคของเจ้าให้สมบูรณ์และช่วยให้เจ้าพัฒนาได้เร็วกว่าเดิม”

“ครับ” หลัวเฟิง คุกเข่าให้ก่อนจะหายตัวไป

******

ในสนามรบที่เจ็ด เกาะหมอก ได้โผล่มาในหมอกพร้อมกับยานที่แล่น

เข้าไป

“1,200 ปี 1,200 ปีนี้ สัตว์อสูรสีเงินได้หายตัวไป ไม่มีอะไรอยู่ในเกาะ

หมอกแห่งนี้ให้เห็น” เผ่าปีศาจสี่ตัวระดับอมตะ นั่งแยกจากกัน

บรรยากาศตรงนั้นดูผ่อนคลายลงอย่างมาก

“มันอาจจะไปทวีปหลักแล้ว มีนักรบที่แข็งแกร่งหลายคนอยู่ที่นั่น มีผู้

บัญชาการหลายคนและยังมีแม้แต่จักรพรรดิด้วย จักรพรรดิเหล่านั้นต่างก็มีเทคนิคทุกแบบ ใครก็ตามที่กลายเป็นจักรพรรดิได้นั้นต้องพบกับความโชคดีมหาศาลและพวกเขาก็สามารถหาซื้ออาวุธที่แข็งแกร่งหรือของที่น่ากลัวได้จำนวนมาก พวกเขาคงจัดการสัตว์อสูรสีเงินไม่ได้ง่ายๆ และบางทีอาจจะต้องมีจักรพรรดิส่วนหนึ่งที่ตายไป”

“อื้ม”

“ด้วยการหายไปของสัตว์อสูร เกาะหมอกตอนนี้ได้มีผู้บัญชาการ

มากกว่าแต่ก่อนเยอะ ตอนนี้มีผู้มีอำนาจกว่า 18 คน และพวกนั้นต่างก็หยิ่งยโสกันอย่างมาก”

“โดยเฉพาะพืชกลินดารา ระดับห้วงมิตินั้น ในตอนที่สัตว์อสูรสีเงินนั้น

เข้ามาที่เกาะหมอก เขานั้นเอาแต่ซ่อนตัว ตอนนี้เมื่อมันไปแล้ว เขา

ต้องทำตัวหยิ่งทะนงแต่ถ้าพูดจริงๆ แล้ว…เขานั้นแข็งแกร่งอย่างมาก ข้าได้ยินมาว่าเขาถึงกับรับมือกับอมตะระดับผู้บัญชาการ ได้ด้วย”

“อืม ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก”

8 ร้อยล้านกิโลเมตรห่างมาจากยานนั้น ยานสีดำ ได้วิ่งออกจากเกาะ

หมอกอย่างรวดเร็ว

ภายในยานลำนั้น

หลัวเฟิง ที่สวมเกราะดำได้ยืนอยู่และมองไปยังพวกอมตะ ที่กำลังทำการพูดคุยโดยห่างออกไปร้อยล้านกิโลเมตร เขาพูดขึ้นมาเบาๆ “สัตว์

อสูรสีเงินหายไป? มันเป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่อาจหาคู่ต่อสู้คนไหนได้

บนเกาะนี้ ทวีปหลักน่าจะมีนักรบที่แข็งแกร่งกว่านี้มาก ด้วยการที่มีผู้

บัญชาการระดับสูงมากมาย และบางทีอาจจะเจอพวกที่อยู่ในระดับ

จักรพรรดิด้วย!”

“ผมต้องระวัง”

“ผู้บัญชาการนั้นยากที่จะรับมือด้วยและจักรพรรดินั้นก็ร่ำรวยกว่าผม

และยังมีนักฆ่าเผ่าพันธุ์อื่นอีก…พวกเขาอาจจะมากันตอนไหนก็ได้”

หลัวเฟิง คิด “บนทวีปหลัก ผมไม่อาจเผยความสัมพันธ์ระหว่าง พืชกลืนดาราระดับอมตะ และสัตว์อสูรสีเงิน ถ้าเผ่าพันธ์อื่นไม่รู้ไพ่ตายของผม โอกาสที่ผมจะรอดนั้นก็จะสูงกว่าเดิม”

“ต่อสู้? อันตราย?”

“มาเลย”

หลัวเฟิง มองออกไปที่ทวีปหลักที่กว้างขวาง

นั่นคือทวีปหลัก ยาจิน ซึ่งใหญ่กว่าเกาะหมอก เป็นหมื่นเท่าและมี

นักรบที่แข็งแกร่งอยู่ที่นั่นอยู่มากมาย

ยานอวกาศสีดำ ยังคงมุ่งหน้าต่อไปยังทวีปหลัก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version