ตอนที่ 937 : แผนเดิมของหลัวเฟิง
หลัวเฟิง มองไปยัง หมาป่านภา แล้วคำรามออกมา “ใช่ ข้าเล่นตุกติกกับเจ้า! แต่เจ้าเองก็เช่นกัน!”
“ข้าตุกติกตรงไหนกัน?” หมาป่านภา คำรามออกมา “ข้าทำตามที่เราตกลงกันไว้ซึ่งบอกว่าข้าสามารถพิสูจน์ได้ว่ามันคือของจริงรึเปล่า! เจ้ากลับบอกว่าข้าเล่นตุกติกเช่นนั้นรึ?”
“เจ้าคิดจริงๆ รึว่าข้าโง่ที่จะยอมให้เจ้าเชื่อมต่อไปยังจักรวาลเสมือนโดยที่ไม่มีเหรียญ? ข้ายังมีสมอง” หลัวเฟิง แสยะยิ้ม “ข้าพนันว่าเจ้าพยายามส่งข้อความไปยังเผ่าปีศาจเพื่อทดสอบ”
หมาป่านภา เริ่มสับสน
“ภารกิจที่ส่งไปในเกมจำลองที่มีผู้เล่นนับไม่ถ้วนนี้ถือว่าเป็นแผนที่ฉลาด” หลัวเฟิง พูดขึ้น “มันอาจจะมีสายลับในหมู่ผู้เล่นและมันไม่มีทางที่ระบบของจักรวาลเสมือนนั้นจะรู้ว่าสายลับคือใคร ฮึ่ม! เจ้าสามารถส่งข้อความออกไปได้ง่ายๆ!” หลัวเฟิง มองไปยัง หมาป่านภาด้วยท่าทีเยาะเย้ย “ถ้าเจ้าทำสำเร็จ เครื่องเชื่อมต่อของข้าอาจจะไม่มีความหมายอะไรกับเจ้าและเจ้าก็จะได้ตามเป้าหมายได้อย่างง่ายดาย แต่เจ้ายังคงมีเหรียญสืบทอด เจ้าคิดว่าเจ้าจะเอามันให้ข้าจริงๆ รึในตอนนั้น?”
“ข้ารักษาคำพูดเสมอ” หมาป่านภา ตอบด้วยนน้ำเสียงแหบแห้ง
“ไร้สาระ” หลัวเฟิง หัวเราะออกมา “ข้าคงกลายเป็นตัวตลกหากข้าเชื่อคำสัญญาของเผ่าพันธุ์ศัตรู”
หมาป่านภา นิ่งและเริ่มลังเล
“บอกข้าที หมาป่านภา ข้าจะเชื่อใจเจ้าได้ยังไง?” หลัวเฟิง พูดขึ้นพร้อมกับจ้องไปที่อีกฝ่าย
หมาป่านภา ยังคงมองไปยังมนุษย์ตรงหน้า หมาป่านภา ที่เป็นสมาชิกของเผ่าพันธุ์ปีศาจชั้นสูงคือพวกที่เจ้าเล่ห์และยังเป็นผู้ที่อยู่ในนรกน้ำแข็งที่แสดงออกถึงลักษณะนิสัยได้อย่างชัดเจน ยิ่งกว่านั้นแล้วเขายังชำนาญในเรื่องการปลอมตัว แม้ว่าจะแสดงออกมว่าเป็นคนจิตใจดีในตอนที่โดนขังในนรกน้ำแข็งแต่บางครั้งเขาก็เผยตัวตนที่แท้จริงออกมา
เขาล่อมนุษย์มาด้วยเหรียญและพยายามส่งข้อความโดยบอกว่าเป็นการทดสอบ เมื่อเขาได้รับการตอบรับ มันหมายความว่าข้อความนั้นถูกรับแล้วและมันไม่มีความหมายแม้ว่ามนุษย์จะได้สิทธิ์ไป จากนั้นเขาก็จะไม่ต้องเอาเหรียญสืบทอดนี้ให้กับมนุษย์
“เจ้าคิดยังไง?” หมาป่านภา ถามออกมาเบาๆ
“เนื่องจากเราต่างเผยกลของเราออกมาแล้ว มาซื่อสัตย์ต่อกันเถอะ” หลัวเฟิง พูดขึ้นและมองไปที่อีกฝ่าย “มีกฎเพียงอย่างเดียว เจ้าเอาเหรียญให้ข้าก่อน…ที่ข้าจะมอบเครื่องเชื่อมต่อให้กับเจ้า!”
“ไม่!” หมาป่านภา คำรามออกมา “ถ้าเจ้าเอาเหรียญแล้วหนีไปเล่า?”
“ฮ่า ฮ่า! เจ้า ในฐานะเจ้าแห่งนรกน้ำแข็งทางใต้นี้กลัวว่าข้าจะหนีอย่างนั้นรึ?” หลัวเฟิง มองกลับไปยังอีกฝ่าย
“ใครในนรกน้ำแข็งที่ไม่รู้ว่าเจ้าเก่งเรื่องหนี?” หมาป่านภา มองไปยังหลัวเฟิง ด้วยตาสีฟ้าของตน
หลัวเฟิง ส่ายหน้า “ก็จริงที่ว่าข้าเก่งเรื่องหนีแต่เจ้าเองก็เป็นถึงจักรพรรดิคงกระพัน ข้าไม่คิดว่าข้าจะหนีไปได้ นอกซะจากว่าเจ้าจะปล่อยข้าไป!”
หมาป่านภา ยังคงนิ่งและคิดสักพัก เขาคิดอย่างอื่นไม่ออก เขาไม่มีอะไรที่ทำให้เชื่อใจมนุษย์เจ้าเล่ห์คนนี้ได้
“ข้าจะกลับหากเจ้ายังไม่ตัดสินใจ” หลัวเฟิง พูดขึ้นพร้อมกับส่ายหน้าและยิ้มออกมา “มันจะมีประโยชน์อะไรหากว่าเจ้ามีเหรียญแต่กลับไม่อาจจะออกจากนรกน้ำแข็งนี้ได้?”
“รอเดี๋ยว…” หมาป่านภา มองไปยัง หลัวเฟิง ด้วยท่าทีลังเล จากนั้นก็ได้ตะโกนออกมา “ได้! ข้าจะเอาเหรียญให้เจ้าก่อน! แต่เจ้าต้องมอบสิทธิ์ให้กับข้าและหากมันเป็นของปลอม ข้าสาบานว่าข้าจะให้ทุกสิ่งมีชีวิตในนรกน้ำแข็งนี้ไล่ล่าเจ้า!”
“สบายใจได้” หลัวเฟิง พูดพร้อมกับยิ้ม “เชื่อใจในตัวมนุษย์บ้าง”
“มันโง่ที่จะเชื่อในตัวศัตรู” หมาป่านภา คำรามและโยนเหรียญให้กับหลัวเฟิง
“งั้นเจ้าก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องโง่ที่ทำแบบนี้” หลัวเฟิง พูดขึ้น
หลัวเฟิง รับเหรียญไว้ แผ่นรูปหกเหลี่ยมนี้หนักและเขารู้สึกได้ถึงความเก่าแก่ที่โดดเด่นแค่เพียงการถือมันไว้ เขาตื่นเต้นและคิดกับตัวเอง ‘ข้าสามารถแลกมันกับเหรียญอื่นได้ บางทีอาจจะเป็นการสืบทอดพิเศษ เหรียญนี้นั้นเหนือกว่าการสืบทอดของนายพลศักดิ์สิทธิ์และบางทีข้าอาจจะได้รางวัลที่สุดยอดมา’
“ข้ามอบสิทธิ์การเข้าให้ไปแล้ว” หลัวเฟิง พูดกับ หมาป่านภา
“เรียบร้อย นายท่าน” สาวใช้พูดขึ้นมาและทำการเชื่อมต่อกับจักรวาลเสมือน
หลัวเฟิง มองไปยังเธอ จากนั้นเขาจึงได้ทำการเชื่อมต่อจักรวาลเสมือน
******
จักรวาลเสมือนที่บนจุดสูงสุดของเกาะสายฟ้าด้านในวังของผู้นำเมืองปฐมนคร
หลัวเฟิง ได้ไปพบกับผู้นำเมืองทันทีหลังจากที่เขาได้อ่านข้อมูลของโรงเรียนเทพอสูรบรรพกาลและเหรียญ ด้านในอากาศนั้นปั่นป่วนอย่างมาก
“อาจารย์” หลัวเฟิง พูดขึ้นด้วยท่าทีเคารพ
“มันเกี่ยวกับเหรียญเทพอสูร” หลัวเฟิง พูดขึ้น
ร่างที่ปกคลุมไปด้วยผ้าคลุมสีทองได้เดินออกมา ผู้นำเมืองปฐมนคร มีร่องรอยความแปลกใจในดวงตาของเขา เขาหงุดหงิดเล็กน้อยกับการที่หลัวเฟิง ไปสนใจอย่างอื่น แต่เขาต้องยอมรับว่า หลัวเฟิง นั้นโชคดีจริงๆ
หลัวเฟิง เคยสู้กับ จักรพรรดิเฮติ ในฐานะจักรพรรดิดาบสายน้ำ ที่สนามต่อสู้ด้านนอก ซึ่งข่าวนี้ได้แพร่ไปอย่างรวดเร็วและ ผู้นำเมืองปฐมนครก็รู้เรื่องนี้มาโดยตลอด แม้ว่า หลัวเฟิง จะปิดการเชื่อมต่อกับจักรวาลเสมือน แต่ก็ยังมีวิดีโอจำนวนมากที่พวกมนุษย์ที่แข็งแกร่งได้ทำการบันทึกการต่อสู้เอาไว้
ผู้นำเมืองปฐมนคร แปลกใจกับการที่ หลัวเฟิง สู้กับเฮติ ได้ โดยที่เขายังอยู่ในระดับห้วงมิติ และจากนั้นเขาก็เห็นลูกบอลสีดำ ที่ซึ่งเป็นสมบัติมากมาย มันก็เหมือนกับสมบัติที่แท้จริง มันมีความต่างในระดับของสมบัติ สมบัตินั้นสามารถแบ่งชั้นของมันผ่านการใช้งานที่แตกต่างกัน
สมบัติที่ใช้โจมตีนั้นไม่ได้มีค่าเท่ากับที่ใช้ป้องกันซึ่งมีความสามารถในการผนึก และสมบัติที่ต่างกันนี้ก็มีพลังที่ต่างกัน สมบัติแบบชุด แน่นอนว่าถือเป็นของระดับสูง ใบมีดทั้งเจ็ดที่เป็นของจักรพรรดิเจ็ดดาบเองนั้นก็ถือว่าเป็นสมบัติแบบชุดเช่นกัน
“ศิษย์ของข้าได้เหรียญมาหลังจากที่ได้สมบัติแบบชุดได้ยังไง?” ผู้นำเมืองปฐมนคร ถามออกมาด้วยท่าทีตะลึง เหรียญนี้แน่นอนว่ามีค่าพอๆ กับสมบัติแบบชุด เหรียญนั้นคือโอกาสที่จะได้เข้าไปในโรงเรียนเทพอสูรบรรพกาล
“ให้ข้าอธิบายให้ฟัง” หลัวเฟิง ตอบกลับ
“เอาสิ” ผู้นำเมืองปฐมนคร พูดขึ้น
“ข้าได้ไปยังดินแดนลับดอกไม้ดำ” หลัวเฟิง บอกเรื่องราวโดยไม่ได้เผยความตั้งใจที่แท้จริงซึ่งก็เพื่อไปหากระดานโลหะสีดำ “ข้าไม่ได้ตื่นกลัวในตอนที่โดนจับในนรกน้ำแข็ง เพราะแก่นชีวิตหลักของข้านั้นอยู่ด้านนอก ข้าได้ถือว่ามันเป็นสนามฝึก แม้ว่าจะมี จักรพรรดิคงกระพันทั้งห้าจะมีความแข็งแกร่งทั้งหมด แต่ข้าก็ยังมีโอกาสอยู่ จักรพรรดิคงกระพัน นั้นมีสมบัติแค่เพียงไม่กี่ชิ้นและสมบัติป้องกันนั้นถือว่าหายาก ข้าวางแผนที่จะฝึกตัวเองในนรกน้ำแข็งและเมื่อข้าทำการฝึกอาวุธนันเชียน บทที่สามเสร็จ ข้าก็สามารถใช้ปีกซือหวู่ท่าที่สองออกมาได้ ซึ่งมันสามารถที่จะทำการรบกวนอวกาศได้ จากนั้นแม้แต่อัศวิน ก็ไม่อาจที่จะผนึกข้าได้ นี่ไม่ต้องพูดถึง จักรพรรดิคงกระพัน ในนรกน้ำแข็งเลย”
“การเป็นผู้ที่เร็วที่สุดทำให้ข้านั้นไร้เทียมทาน” หลัวเฟิง พูดต่อ “ข้าเกือบที่จะแข็งแกร่งเท่ากับพวกนั้นแล้ว ในตอนที่ข้าฝึกท่าที่สามเสร็จและแข็งแกร่งขึ้นมา ข้าจะไม่มีปัญหาในการก้าวข้ามพวกนั้นและทำให้พวกนั้นบาดเจ็บ ข้าได้ซื้อสมบัติมามากมายและข้าได้มอบนาฬิกาม่วงให้กับหนึ่งใน จักรพรรดิขีดจำกัดที่ข้าอาจจะเอาชนะและควบคุมได้ ตราบใดที่ข้ามีสมบัติป้องกันและ จักรพรรดิขีดจำกัดเป็นทาส ข้ามั่นใจว่าข้าสามารถที่จะเอาชนะพวกนั้นได้ทีละคนๆ นี่คือแผนการดั้งเดิมของข้าเพื่อฝึกฝนตัวเองและเอาชนพวกนั้นทีละคนๆ”
ผู้นำเมืองปฐมนคร พยักหน้า หลัวเฟิง นั้นเต็มไปด้วยความทะเยอทะยาน เขากล้าที่จะสู้กับ จักรพรรดิคงกระพัน โดยที่ยังอยู่ใน
ระดับห้วงมิติ แต่จักรพรรดิคงกระพัน แค่จุดเริ่มต้น พวกเขามีสมบัติเพียงไม่กี่ชิ้น และยังคงค่อนข้างด้อยกว่าคนที่แข็งแกร่งอย่างจักรพรรดิทรูหยัน
“แต่ข้าพบเหรียญสัตว์เทพอสูรนี่” หลัวเฟิง พูดและสรุปเรื่องของ หมาป่านภา สั้นๆ “ถ้า หมาป่านภา ซื่อสัตย์ ข้าก็สามารถเอาเหรียญนี้มาได้โดยไม่ต้องสู้ แต่แม้ว่าเขาจะรู้จุดประสงค์ของเขาแต่ข้าก็จะเอาเหรียญนี้มาอยู่ดี ข้าทนอยู่ในนรกน้ำแข็งกว่าหมื่นปี ไม่ได้หลังจากที่เห็นเหรียญนี้เข้า ข้าต้องการไปยังดินแดนแห่งการสืบทอด ข้าต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้น!”
หลัวเฟิง พูดต่อ “ข้าออกมาไม่ได้นอกซะจากว่าข้าต้องอยู่ต่อไปอีกหมื่นปี ข้าต้องการให้ท่านช่วย อาจารย์ อาจารย์…ข้าต้องเอาเครื่องเชื่อมต่อให้กับ หมาป่านภา หากข้าเอาเหรียญนี้มา แผนแรกของข้าคือหนีมาหลังจากที่ได้เหรียญนี้มาแล้ว หมาป่านภา ไม่อาจที่จะทำอะไรได้เพราะข้านั่นเชี่ยวชาญเรื่องการป้องกันตัว แผนสองของข้าคือให้เขาเชื่อมต่อกับจักรวาลเสมือนและทำการส่งข้อความ หลังจากที่เผ่าปีศาจปรากฏตัวและอาจารย์เองก็เช่นกัน อาจารย์ช่วยให้คำแนะนำทีได้หรือไม่? ถ้าอาจารย์เลือกที่จะไม่สนตัวเลือกเหล่านี้ ข้าสามารถรออีกหมื่นปีได้”
ผู้นำเมืองปฐมนคร มองไปที่ หลัวเฟิง ด้วยตาที่เป็นประกาย “ข้าเห็นได้ว่าจิตใจของเจ้ามุ่งไปยังดินแดนแห่งการสืบทอดและมันคงทรมานอย่างมากกับการที่เจ้าต้องอยู่ที่นั้น” เขาพูดขึ้น “ให้ หมาป่านภา ส่งข้อความ แม้ว่ามันจะเป็น จักรพรรดิคงกระพันแต่มันก็อ่อนแอกว่าแต่ก่อนและเผ่าปีศาจนั้นก็ไม่เชื่อทุกอย่างที่มันพูด มันเป็นไปไม่ได้ที่เผ่าปีศาจจะส่งเจ้าแห่งจักรวาลมาช่วยมัน”
“แม้ว่าจะเป็นเจ้าแห่งจักรวาล แต่ข้าก็จะเอาชนะมัน” หลัวเฟิง พูดขึ้น
“เอาเหรียญมาก่อน หากเผ่าปีศาจนั้นส่งเจ้าแห่งจักรวลมาปกป้อง หมาป่านภา” ผู้นำเมืองปฐมนคร พูดขึ้น “เหรียญนี้มีค่าจริงๆ ร่างกายของข้ายังคงอยู่ในจักรวาล และจะต้องฆ่าเพื่อสมบัติที่แท้จริง มันคุ้มกับการได้เหรียญนี้มา”
“ครับ” หลัวเฟิง พูดขึ้น
ผู้นำเมืองปฐมนคร มองไปยัง หลัวเฟิง ด้วยสายตาคาดหวัง เขารู้สึกว่าเขานั้นโชคดีและมันคงเสียเปล่าหากต้องใช้เวลาไปหมื่นปี ในนรกน้ำแข็ง
หากเขาไปยังดินแดนแห่งการสืบทอด เขาอาจจะได้เจอกับรางวัลอื่นๆ
ยังไงซะ หลัวเฟิง ก็ยังคงทำให้เขาแปลกใจได้เสมอหลังจากที่มาเป็นศิษย์ของเขาแล้ว สิ่งเดียวที่ทำให้เขารำคาญคือตัวเลือกของ หลัวเฟิง ที่จะไปทั้งเส้นทางของนักอ่านวิญญาณและนักรบ