ตอนที่ 946 : สามเส้นทาง
“งั้นแล้ววังสัตว์เทพอสูรคุ้มกันอะไร?” หลัวเฟิง อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา
“ผู้พิทักษ์สัตว์เทพอสูรคือผู้ที่ได้รับการสืบทอดเส้นทางสัตว์เทพอสูรอย่างสมบูรณ์และเป็นเจ้าแห่งจักรวาล” อัศวินอธิบาย “พวกเขายังไม่กลายเป็นสัตว์เทพอสูรเพราะไม่มีตำแหน่งรึพวกเขาไม่ต้องการที่จะสืบทอดตำแหน่งนั้นตั้งแต่แรก ยังไงซะพลังของเจ้าจะพัฒนาได้มากหลังจากที่สืบทอดตำแหน่ง แต่นั่นคือในตอนสุดท้าย”
“เจ้าแห่งจักรวาล คือสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งที่สุดในจักรวาลไม่ว่าพวกเขาจะไปอยู่ที่ไหนก็ตาม” อัศวินพูดต่อ “โรงเรียนเทพอสูรบรรพกาล เคารพความคิดพวกเขาและทำให้เขาเป็นผู้พิทักษ์สัตว์เทพอสูร แม้ว่าพวกเขาจะไม่ต้องการจะสืบทอดตำแหน่งก็ตาม”
หลัวเฟิง และ ทรูหยัน พยักหน้า มันไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ และทุกอย่างก็ต้องมีราคา โรงเรียนเทพอสูรบรรพกาลจะไม่ให้ทรัพยากร หากไม่มีการตอบแทน สำหรับคนที่มีแววการพัฒนาดีพอ โรงเรียนจะไม่สนการตอบแทน สำหรับพวกที่สามารถรับตำแหน่งการสืบทอดได้ โรงเรียนนั้นต้องการบางอย่างตอบแทนกลับมา
“วางใจได้” อัศวินยิ้ม “โรงเรียนเทพอสูรบรรพกาลนั้นค่อนข้างเสรีในจักรวาลและไม่มีความคิดที่จะต่อสู้เพื่อแย่งชิงอาณาเขตอื่น อันตราย ในเขตลับนั้นก็เพียงพอที่จะขมขู่ให้ผู้อื่นกลัวได้แล้ว แม้ว่าเจ้าจะกลายเป็นสมาชิกย่อยของโรงเรียน แต่เจ้าจะไม่รู้สึกโดนกักขังแต่อย่างใด”
อัศวินส่ายหน้า “แน่นอนมันไม่มีความหมายหากเจ้าเป็นสมาชิกย่อยไม่ได้ตั้งแต่แรกซึ่งมันเป็นเรื่องยากอยู่แล้ว ไม่ว่าเจ้าจะเลือกเส้นทางไหนก็ตาม…การสืบทอดของศาสดา, นายพลรึสัตว์เทพอสูร…ของพวกนั้นล้วนแต่มีเงื่อนไขที่สูงทั้งนั้น!”
หลัวเฟิง ฟังและพยักหน้าตอบรับ สิ่งมีชีวิตนับแสนในบันทึกปีศาจ ที่เกี่ยวข้องกับการสืบทอดนายพลนั้นไม่มีสักตัวที่ทำการสืบทอดได้สมบูรณ์ แต่ดินแดนนั้นยอมรับสิ่งมีชีวิต 32 ตัวทุกๆ 10,081 ยุคและสิ่งมีชีวิตพวกนั้นก็จะพยายามได้แค่ 50 ล้านยุคเท่านั้น ซึ่งมันเพียงแค่เสี้ยวพริบตาหากเทียบกับประวัติศาสตร์อันยาวนานของจักรวาล
“เจ้าของ เกาะบัวฮิเนียล เป็นผู้พิทักษ์สัตว์เทพอสูร” อัศวินมองไปยังวังหอคอย
“ผู้พิทักษ์สัตว์เทพอสูร?” หลัวเฟิง และ ทรูหยัน มองขึ้นไปตาม
มีรูปปั้นอยู่บนวังนั้น บางอันเป็นกิ้งก่า บางอันเป็นลิงและบางอันเหมือนกับนก แม้ว่าจะมีรูปปั้นนับหมื่นแต่พวกมันสามารถแบ่งได้เป็น 8 ชนิด หลัวเฟิง เข้าใจว่าพวกมันคือภาพของสัตว์เทพอสูร
ด้านหน้าวังของเจ้าของเกาะ มีลานขนาดใหญ่ มีส่วนหนึ่งเป็นภูเขา มีน้ำพุสามแห่งในลานซึ่งมีน้ำที่ไหลออกมาจากไหนก็ไม่ทราบได้แต่พื้นดินในลานนั้นไม่ได้เปียกเลยสักนิด
อัศวิน หลัวเฟิง และ ทรูหยัน เดินไปที่ที่น้ำพุนั้นและมองไปที่ประตูของวัง
“เข้าไปข้างใน” อัศวินพูดขึ้น “หน้าที่ของข้าสิ้นสุดตรงนี้ ข้าหวังว่าเจ้าจะใช้ชีวิตบนเกาะได้นานแทนที่จะล้มเหลว เจ้าไม่สามารถกลับมาได้อีกด้วยเหรียญอื่น ข้าพนันว่ามีไม่กี่เผ่าพันธุ์ที่จะเอาเหรียญให้กับเจ้าเป็นครั้งที่สอง”
“ขอบคุณ อัศวิน” หลัวเฟิง และ ทรูหยัน ต่างก็ขอบคุณการชี้แนะของอัศวิน
อัศวิน ยิ้มและบินออกไปราวกับลำแสงที่พุ่งออกไป
“เข้าไปข้างในกันเถอะ ศิษย์ข้า” ทรูหยัน ยิ้ม
“ได้”
ด้านในนั้นมีมนุษย์คนหนึ่งใส่ชุดคลุมสีดำ เขามีผมสีฟ้าและรอยสักสีฟ้า แรงกดดันได้แผ่ออกมาจากตัวเขาแม้เขาจะเก็บเอาไว้แต่ก็ดูน่ากลัว หลัวเฟิงรู้สึกได้ว่าเขานั้นอย่างน้อยก็อยู่ระดับ อัศวินอวกาศ
“มนุษย์?” หลัวเฟิง อึ้ง “เขาคือผู้พิทักษ์สัตว์เทพอสูรงั้นรึ?”
หลัวเฟิง และ ทรูหยัน ต่างก็มองหน้ากัน ผู้พิทักษ์สัตว์เทพอสูรเป็นมนุษย์งั้นรึ?
ชายคนนั้นลุกขึ้นยืนและมองมาที่พวกเขาก่อนจะยิ้มออกมา “ข้าไม่คิดว่าจะเห็นมนุษย์ที่นี่ วิเศษจริงๆ พวกเจ้าหยุดเดากันได้แล้ว ข้าเป็นเพียงบริวารของเจ้าของเกาะมิใช่ผู้พิทักษ์สัตว์เทพอสูร งานของข้าคือคุ้มกันวังและส่งข้อความให้กับเจ้าของเกาะ”
“ทาส?” ทั้งสองต่างก็ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ทาสจิตวิญญาณระดับ
อัศวินอวกาศ?
และเขาก็เป็นมนุษย์ด้วย?
แน่นอน หลัวเฟิง คิด หากข้าสามารถทำให้เผ่าพันธุ์คนเถื่อนเป็นทาสได้ งั้นเผ่าคนเถื่อนก็สามารถที่จะทำให้มนุษย์เป็นทาสได้ด้วย นอกจากนี้แล้วผู้พิทักษ์สัตว์เทพอสูรเองก็เป็นเจ้าแห่งจักรวาล มันไม่น่าแปลกใจสำหรับพวกเขาที่มีทาสจิตวิญญาณระดับ อัศวินอวกาศ
หลัวเฟิง ได้แต่ปลอบใจตัวเองแบบนี้
ทรูหยัน มองไปที่ชายชุดดำ และพูดขึ้น “เราเป็นผู้มาใหม่และมาที่นี่เพื่อทักทายกับผู้พิทักษ์สัตว์เทพอสูร”
ชายคนนั้นยิ้ม “เจ้ารอที่นี่แหละ ข้าได้ส่งข้อความไปยังผู้พิทักษ์สัตว์ เทพอสูรแต่เขายุ่งอยู่ในตอนนี้ เจ้ารอสักเดี๋ยว”
หลัวเฟิง และ ทรูหยัน มองหน้ากัน
งั้นก็รอ
พวกเขาทำได้แค่รอผู้พิทักษ์สัตว์เทพอสูร
******
หลังจากรอมาครึ่งวันทั้ง หลัวเฟิง และ ทรูหยัน ต่างก็เริ่มเบื่อ หลัวเฟิง ถามขึ้นมา “ตอนไหนกันที่ผู้พิทักษ์สัตว์เทพอสูรจะมาถึง?”
“อดทนไว้” ชายคนนั้นพูดพร้อมกับยิ้ม “เรื่องที่ผู้พิทักษ์สัตว์เทพอสูรจัดการอยู่นั้นสำคัญกว่ามากและพวกเจ้าไม่ได้เร่งรีบอะไร ตามกฎของโรงเรียนเทพอสูรบรรพกาลแล้ว มันจะต้องใช้เวลาสิบปีกว่าเทพอสูรบรรพกาลจะปรากฏตัว หากผู้พิทักษ์สัตว์เทพอสูรรู้ว่าพวกเขาทำมันในสิบปี ไม่ได้ งั้นผู้พิทักษ์สัตว์เทพอสูรคนอื่นก็จะรับหน้าที่แทน”
“10 ปี?”
“ระยะเวลามันก็อยู่ตั้งแต่เดี๋ยวนั้นไปจนถึงสิบปี” ชายที่นั่งอยู่พูดขึ้น “คนที่โชคร้ายที่สุดที่ข้าได้รับมา เขารออยู่อีกแค่ 3 วันก็จะครบ 10 ปีไปแล้ว ดังนั้นโปรดอดทนรอไว้ เพียงแค่รอ!”
หลัวเฟิง และ ทรูหยัน นั่งลงโดยไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่พวกเขาจะได้พบกับเจ้าของเกาะ
******
หลังจากนั้น 12 วัน
หลัวเฟิง และ ทรูหยัน นั่งอยู่ที่ลานของวังโดยหลับตาสนิท ทันใดนั้นพวกเขาก็รู้สึกถึงพลังที่แข็งแกร่งล้อมรอบวัง ทั้งสองลืมตาขึ้นมาทันที
“ผู้พิทักษ์สัตว์เทพอสูร”
ทั้งสองต่างก็พากันยืนขึ้นและอัศวินก็ได้อยู่ในห้องโถงหลักแล้ว
พวกเขาได้ยินเสียงดังขึ้นจากห้องโถงซึ่งพูดขึ้น “เข้ามา”
ทั้งสองเข้าไป หลัวเฟิง และ ทรูหยัน ก็พบร่างบนบัลลังก์ มันคือสิ่งมีชีวิตพิเศษที่มีรูปร่างเป็นมังกร มันมีปีกและเกราะแปลกๆ บนตัวและมองลงมาที่พวกเขา มีเปลวไฟที่เกราะซึ่งทำให้ หลัวเฟิง และ ทรูหยัน รู้สึกเหมือนว่าพวกเขาจะโดนกลืนกินเข้าไปในไฟ และสิ่งมีชีวิตพิเศษนั้นคือผู้ควบคุมอวกาศ มังกรสามารถฆ่าพวกเขาได้เพียงแค่ดีดนิ้ว
ผู้พิทักษ์สัตว์เทพอสูร หลัวเฟิง คิดกับตัวเอง มันน่าจะอยู่ในเส้นทางของไฟและอวกาศ
“จากนี้ เจ้าคือศิษย์ของ เกาะบัวฮิเนียล” ผู้พิทักษ์สัตว์เทพอสูรพูดขึ้น “อย่างแรกเลยข้าจะให้สิทธิการเข้าถึงโลกแห่งเกียรติกับพวกเจ้า”
คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กปรากฏขึ้นมาหลังจากที่มันพูดเสร็จและพวกมันก็ลอยเข้ามาที่ หลัวเฟิง และ ทรูหยัน
“นี่คือตัวลับของโลกเสมือน” ผู้พิทักษ์สัตว์เทพอสูรพูดขึ้น “โลกแห่งเกียรติคือจักรวาลเสมือนของโรงเรียนเทพอสูรบรรพกาลและมันเหมือนกับจักรวาลเสมือนของมนุษย์ แม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่ามากแต่พวกมันก็มีการทำงานที่คล้ายกัน เจ้าจะรู้เองในตอนที่เจ้าเข้าไป”
หลัวเฟิง และ ทรูหยัน รับคอมทั้งสองมา
“ข้ายังให้เจ้าเข้าถึงดินแดนแห่งการสืบทอด, ดินแดนแห่งสมบัติ และดินแดนของเขตลับได้ด้วย” ผู้พิทักษ์สัตว์เทพอสูรพูดขึ้น “เจ้าเห็นม่านน้ำทั้งสาม ด้านนอกหรือไม่?”
หลัวเฟิง และ ทรูหยัน พยักหน้า
ม่านน้ำ?
ไม่ใช่ว่าพวกนั้นคือน้ำพุรึไง?
“นั่นคือประตู” ผู้พิทักษ์สัตว์เทพอสูรพูดต่อ “เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะเข้าไปหากไม่ได้รับอนุญาตจากข้า อันทางซ้ายคือประตูไปยังดินแดนแห่งการสืบทอด อันกลางไปยังดินแดนแห่งสมบัติและอันทางขวาไปยังดินแดนแห่งเขตลับ ม่านน้ำทั้งสามคือประตูพาไปยังสามที่ที่แตกต่างกัน ดินแดนแห่งการสืบทอดนั้นคือที่ที่เจ้ายอมรับการสืบทอดสัตว์อสูรเทพและเจ้าจะได้รับการทดสอบว่าเจ้าเข้าใจกฎเพียงใด”
“ในดินแดนแห่งสมบัติคือที่ฝังของมีค่าที่สัตว์เทพอสูร, ผู้พิทักษ์สัตว์เทพอสูรและผู้ที่แข็งแกร่งซึ่งเลือกเส้นทางสัตว์เทพอสูรได้ทิ้งเอาไว้ มันมีของมีค่าที่นั่นและมีเงื่อนไข อีกทั้งความต้องการ หากเจ้าทำตามเงื่อนไขได้เจ้าก็เอาสมบัติที่นั่นไปได้ ไม่นานมานี้หนึ่งในมนุษย์ได้รับสมบัติไป”
“สำหรับดินแดนเขตลับ เจ้าไปที่นั่นได้เพื่อผจญภัย เขตลับของโรงเรียนเทพอสูรบรรพกาลนั้นคือเขตที่ลึกลับที่สุดในจักรวาลที่ซึ่งเป็นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตพิเศษและสิ่งที่ลึกลับที่สุด มีสมบัติที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและพวกที่สร้างขึ้นมาแต่มันก็ยังเป็นเขตที่บ้าคลั่งที่สุดด้วยและยิ่งเจ้าเข้าไปใกล้มากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งอันตรายมากเท่านั้น แม้แต่อัศวินอวกาศเองก็โดนฆ่าได้และแม้แต่ เจ้าแห่งจักรวาล ก็ยังต้องตกลงไปในกับดัก เตรียมตัวตายไว้ได้เลยหากเจ้าตัดสินใจจะไปผจญภัยที่นั่น”
“ดินแดนแห่งการสืบทอด ดินแดนแห่งสมบัติ ดินแดนเขตลับ รวมกันแล้วคือโลกแห่งเกียรติและนั่นคือสี่ที่ที่เจ้าต้องคุ้นเคยกับมัน ไปสร้างวังของเจ้าก่อนและจากนั้นก็ไปยังดินแดนแห่งการสืบทอด” ผู้พิทักษ์สัตว์เทพอสูรมองมาที่พวกเขา “ไป”
“ได้ เจ้าของปราสาท” พวกเขาตอบกลับ
หลัวเฟิง และ ทรูหยัน ได้ทำความเคารพก่อนที่จะออกไป