Skip to content

Tales of Herding Gods 102

102. ผู้ฝึกวิชาเทวะ

เจ้านั่นเป็นบุตรของจ้าวลัทธิผีดิบเซียนจริงๆ ด้วย…

สีหน้าฉินมู่แปรเปลี่ยนเป็นมืดคล้ำ นี่มันจะไม่บังเอิญไปหน่อยหรือ ที่บังเอิญเขาถูกบุตรของจ้าวลัทธิผีดิบเซียนโจมตี แถมหมอนั่นก็ยังบังเอิญอ่อนแอขนาดว่าไม่อาจรับมือได้แม้แต่กระบี่เดียวจากเขา

อีแบบนี้ ลัทธิผีดิบเซียนต้องไม่ปล่อยเขาไปอย่างแน่นอน!

ไม่ทันที่ผีดิบบินบนฟ้าจะเข้ามาใกล้เขา เขาก็ได้กลิ่นคาวฉุนเฉียว เมื่อมองที่เล็บแหลมคมสีเขียวคล้ำของพวกมันแล้วก็เห็นได้ว่าผีดิบบินพวกนี้ต้องมีพิษร้ายแรง!

“นี่คือพิษซากศพ!”

เมื่อฉินมู่ได้กลิ่น เขาก็ระบุชนิดของพิษได้ทันที ความรู้วิชาแพทย์ที่นักปรุงยาถ่ายทอดให้นั้นรวมไปถึงการแยกแยะชนิดของพิษและยาด้วยการพิสูจน์กลิ่น ฉินมู่ถูกป้อนยาแปลกประหลาดต่าง ๆ นานาด้วยมือของนักปรุงยามาตั้งแต่เล็กๆ ดังนั้นเขาจึงมีทักษะสูงส่งในการแยกแยะพิษและยาต่าง ๆ

เล็บนิ้วมือของผีดิบทุกเล็บมีพิษซากศพอยู่ และหากว่าถูกเล็บเหล่านั้นแทงเข้าไปในหนัง เลือดของเขาก็จะเริ่มจับตัวเป็นก้อน หลังจากนั้นกล้ามเนื้อก็จะแข็งทื่อ แข็งราวกับหินผาซึ่งทนทานการทิ่มแทงของอาวุธ และท้ายที่สุด จิตสำนึกของคนผู้นั้นก็จะจางหายไป พร้อมกับการสูญสลายของวิญญาณ!

ฉินมู่วิ่งสุดกำลัง แต่ความเร็วของผีดิบบินข้างหลังเขานั้นยังเร็วกว่า ระยะห่างของผู้ล่าและผู้ถูกไล่ล่านั้นกระชั้นชิดเข้าไปทุกที

กระดาษยันต์เหลืองยังคงสร้างทางไปข้างหน้าไม่หยุด ให้ผีดิบบินที่โลดแล่นบนท้องฟ้า กระโดดจากยันต์แผ่นหนึ่งไปยังอีกแผ่น และประชิดเข้าใกล้ฉินมู่!

ข้างหลังเขา เหออิ๋นตวัดมือ เรียกนกไฟอีกตัวทะยานข้ามฟ้า แม้ว่านกไฟจะยังมาไม่ถึงตัว ฉินมู่ก็สัมผัสได้ถึงความร้อนแผดเผามาก่อนล่วงหน้า ความร้อนนั้นสร้างลมระอุอันกวาดเอาความชื้นจากพืชพันธุ์โดยรอบให้เหี่ยวเฉาแห้งกรอบในพริบตา!

คนผู้นี้น่าจะเน้นฝึกสองศาสตร์ควบคู่กัน ทั้งกระบี่และเวทมนตร์ ผู้ฝึกวิชาเทวะเช่นนี้นับว่าหาได้ยากในอดีต แต่ด้วยความกล้าคิดกล้าลองและเด็ดเดี่ยวของราชครูสันตินิรันดร์ที่จะปฏิรูปแนวคิดเก่า เขาได้รวบรวมสำนักต่างๆ จากทั่วโลกมายังราชสำนักเพื่อทำลายกำแพงขวางกั้นระหว่างขนบสำนัก ลดความกีดกันเดียดฉันท์ระหว่างศาสตร์สาขาต่างๆ ดังนั้นจึงมีสถานการณ์ที่ผู้ฝึกยุทธและวิชาเทวะที่ฝึกศาสตร์หลายสาขาพร้อมๆ กันขึ้น

แม้แต่ลัทธิมารอย่างลัทธิผีดิบเซียนก็ยังฉวยโอกาสของการปฏิรูปครั้งยิ่งใหญ่นี้เพื่อพัฒนาวิชาฝึกปรือและทักษะเทวะของลัทธิตน คิดค้นเวทมนตร์และทักษะเทวะใหม่ๆ จำนวนมาก

ไม่ใช่สิ ไม่ใช่แค่สองศาสตร์วิชา แต่เป็นสาม! กระบวนท่าที่ผีดิบพวกนี้ใช้จู่โจมมาจากสำนักวิชาบู๊!

ฉินมู่ขมวดคิ้วและรีดเร้นกำลังลงไปในสองขาของตนเข้าไปอีก ร่างของเขาลดเลี้ยวไปเบื้องหน้าราวกับมังกรตัวหนึ่ง หลบหลีกนกไฟนั้นไปได้หวุดหวิด

ทว่านกไฟนั้นกลับระเบิดออกดังตู้ม เปลงเพลิงปะทุกระจายไปทั่วทิศ และสร้างลูกไฟใหญ่มหึมาที่พองตัวขึ้นกินรัศมีกว่าสิบวา แรงกระหึ่มของคลื่นความร้อนและเปลวเพลิงซัดกระแทกฉินมู่กระเด็นไป!

ไม่ทันที่ฉินมู่จะร่วงลงพื้น เขาก็เห็นยันต์กระดาษเหลืองจำนวนมากพรั่งพรูมา ตามด้วยผีดิบบินแปดเก้าตัวตะลุยผ่านเปลวเพลิงอันระเบิดปะทุ แล้วพุ่งเข้ามาโจมตีใส่เขา!

ผีดิบบินเหล่านี้ล้วนแต่เป็นผู้ฝึกยุทธที่แข็งแกร่งในขั้นห้าธาตุ ร่างของพวกเขาถูกปลุกเสกให้แข็งแกร่งราวอาวุธวิญญาณ ท่วงท่าของพวกเขาเรียบง่าย มีแค่ควัก เฉือน ฟัน และแทง แต่หากเขาปล่อยให้พวกมันล้อมไว้ได้ล่ะก็ คงไม่มีทางหลบหนีไปได้

มีผีดิบบินที่ไล่ล่าเขามาทางพื้นดิน และมีที่ไล่ล่ามาทางอากาศ ซ้ำร้ายเหออิ๋นยังคอยโจมตีเขาด้วยทักษะเทวะ ดังนั้นสถานการณ์ของเขาจึงคับขันเป็นอย่างยิ่ง

ยันต์กระดาษเหลืองสะบัดปลิวมาและพรั่งพรูทะลวงอากาศมาด้วยเสียงหวีดหวือ ดูเหมือนว่าเหออิ๋นจะบังคับยันต์เหล่านี้ด้วยวิชาคุมกระบี่บิน วิชาคุมกระบี่บินนี้ลึกล้ำร้ายกาจไม่แพ้วิชากระบี่ของสำนักกระบี่แม่น้ำหลี่

ที่น่าขนลุกไปกว่านั้น เขายังมีสังหรณ์ร้ายต่อคาถาเต๋าที่ขีดเขียนไว้บนยันต์ด้วยผงชาดและโลหิต

หากว่ามันเป็นกระดาษธรรมดามันย่อมไม่มีพลังและความคมกล้าของกระบี่ แต่ด้วยอักขระคาถาเต๋าที่ขีดเขียนไว้บนนั้นได้มอบพลังลับอันซุ่มซ่อนอยู่ในยันต์!

ขณะที่ฉินมู่กระเด็นกระดอนอยู่กลางอากาศ เขาก็ไม่พูดพล่ามทำเพลงและรีบใช้วิชามารฟ้าเสกสรรตรึงวิญญาณและจิตของตน จากนั้นเขาเขย่าจิ้งจอกน้อยออกมาจากกระเป๋าหลังด้วยปราณชีวิต แล้วใช้สิบนิ้วของเขาจี้ไปตามจุดต่างๆ ของนางอย่างรวดเร็ว เพื่อตรึงสามวิญญาณและเจ็ดจิตในร่างของนาง

ฮู่หลิงเอ๋อทั้งอายทั้งโกรธหลังจากที่ถูกจิ้มไปทั่วตัว นางมุดหายกลับเข้าไปในกระเป๋าสัมภาระ แล้วไม่โผล่หน้าออกมาอีกต่อไป

ตรึงสามวิญญาณและเจ็ดจิตนั้นต้องจี้สกัดไปตามจุดซ่อนเร้นต่างๆ ตามร่างกาย ถึงอย่างไรนางก็เป็นจิ้งจอกเพศเมีย ดังนั้นนางจึงเขินอาย

ฉินมู่ไม่มีเวลาใส่ใจกับเรื่องนี้ ยันต์กระดาษเหลืองเหล่านี้คือเงินกระดาษที่ใช้เผาอุทิศให้กับคนตาย และอักขระที่ขีดเขียนไว้บนยันต์ย่อมมุ่งให้พลังของยันต์โจมตีวิญญาณและจิต หากว่าพลังของยันต์แผ่พุ่งมาและเขาสัมผัสกับยันต์กระดาษเหล่านี้โดยตรง วิญญาณและจิตของเขาก็อาจจะบาดเจ็บ ดังนั้นเขาจึงต้องตรึงวิญญาณและจิตของเขาเอาไว้ล่วงหน้า เพื่อป้องกันมิให้เสียท่าจากการโจมตีอันชั่วร้ายนี้

ฟิ้ว

กระดาษยันต์เหลืองพุ่งวาบลงมาจากท้องฟ้า บนกระดาษยันต์เหล่านั้นมีผีดิบบินแปดตัว ยันต์กระดาษพุ่งผ่านสองข้างฉินมู่ ทำให้ผีดิบบินทั้งแปดเข้าห้อมล้อมกีดขวางเขาไว้จากทุกทิศทาง

ร่างของฉินมู่ยังไม่ตกถึงพื้น ผีดิบห้าตนที่อยู่บนพื้นก็กระโดดขึ้นมา โจมตีใส่เขาจากเบื้องล่าง!

ในเวลาเดียวกัน ก็มีกระแสสายยันต์เหลืองที่พุ่งลอดมาระหว่างฝูงผีดิบ

“พันธนาการ!” เหออิ๋นกู่ตะโกน

ยันต์กระดาษเหลืองพลังระเบิดปะทุเป็นเปลวไฟ แต่อักขระคาถาเต๋าที่ขีดเขียนด้วยชาดและโลหิตกลับไม่เผาไหม้ไปด้วย มันขยายใหญ่ขึ้นทุกทีท่ามกลางเปลวเพลิงว่อนฟ้า และฉายแสงลงใส่ฉินมู่

ราวกับว่าเขาไร้ความรู้สึก ปลามังกรพลันกระโดดขึ้นมาข้างหลังฉินมู่และพ่นกระบี่ออกมา ปราณชีวิตหนาเท่าท่อนแขนของเด็กหนุ่มจากหมู่บ้านพิการชราพลันแผ่พุ่งและม้วนกระบี่ผู้พิทักษ์ และผ่าแล่งขนานพื้น

ท่วงท่ากระบี่ผ่า!

พลังกระบี่พุ่งวาบผ่านอากาศ ตัดศีรษะของผีดิบตนหนึ่งร่วงลงสู่พื้น

เหออิ๋นที่กำลังรีบรุดตามมาเห็นแล้วแตกตื่น ขับเคลื่อนพลังของยันต์กระดาษเหลืองที่เหลือ หมายจะพันธนาการฉินมู่

ฤทธิเดชของยันต์พันธนาการของเขานั้นใช้เพื่อผูกมัดสามวิญญาณและเจ็ดจิตของมนุษย์ หากว่าวิญญาณและจิตถูกพันธนาการ ร่างกายย่อมไม่สามารถขยับเขยื้อนได้เช่นกัน แต่ว่าสิ่งที่เห็นทำให้เขางงงันเป็นอย่างยิ่งในเมื่อยันต์พันธนาการที่เขาใช้ไปก่อนหน้าดูเหมือนจะไม่เกิดผล

พลังคาถาเต๋าในยันต์อื่นปะทุออกมาและเงารูปคาถาเต๋านั้นล้อมหน้าล้อมหลังฉินมู่เอาไว้ แต่ฉินมู่กลับไม่ถูกมัดตรึงไว้เลยแม้แต่น้อย และยังคงดีดนิ้วของตนไปมา กระบี่ผู้พิทักษ์เยาว์เปลี่ยนจากท่วงท่าผ่าเป็นท่วงท่ากระบี่พลิก พลิกเฉือนผีดิบบินตนหนึ่งเป็นสองเสี่ยง จากนั้นเขาก็ใช้ท่วงท่ากระบี่เฉียด เพื่อเฉือนคอผีดิบบินตัวที่สามที่กลุ้มรุมอยู่

ปลายกระบี่ผู้พิทักษ์เยาวพุ่งไปข้างหน้าแล้วสะบัดแกว่งเป็นวงกลม ทำให้ศีรษะของผีดิบรอบๆ ร่วงลงกับพื้น!

ในพริบตาเดียว ผีดิบบินแปดตัวก็สูญเสียศีรษะและร่วงลงไปกองกับพื้น

ท่วงท่ากระบี่สะบัด

เพลงกระบี่ของฉินมู่เร็วอัศจรรย์ ยิ่งท่วงท่าเขาเรียบง่ายเท่าไร ความเร็วในการช่วงใช้ก็สูงมากขึ้นเท่านั้น และด้วยความคมกล้าของกระบี่ผู้พิทักษ์เยาว์ ผีดิบทั้งแปดตัวก็ถูกบั่นคอไปก่อนที่พวกมันจะทันได้โจมตีเขา!

เหออิ๋นมีสีหน้ารวดร้าว ใช้ผีดิบแปดตัวกลุ้มรุมผู้ฝึกยุทธฝีมือดีผู้ฝึกวิชาบู๊ หรือผู้ฝึกเวทมนตร์นั้นเป็นเรื่องง่าย แต่การใช้พวกมันต่อกรกับผู้ฝึกกระบี่อย่างฉินมู่นั้นค่อนข้างยาก

โดยเฉพาะเมื่อต้องเผชิญกับผู้ฝึกกระบี่ที่ครอบครองกระบี่คมกล้าไร้ทัดเทียม ด้วยคอมโบนี้นับว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมาต้านผีดิบบินโดยเฉพาะ

เขาใช้สนามเลี้ยงศพในการสร้างฝูงผีดิบบินของตน ความแข็งแกร่งของร่างกายผีดิบบินนั้นทนทานอย่างยิ่งยวด และไม่อาจถูกทำร้ายได้ด้วยอาวุธวิญญาณธรรมดา ยิ่งไปกว่านั้น ผีดิบบินยังไม่มีจิตและวิญญาณ เวทมนตร์ที่มุ่งโจมตีจิตและวิญญาณจึงไม่มีผลกับพวกมัน

ท่าผ่าขนานพื้นของฉินมู่นั้นดูเรียบง่ายสามัญ แต่การที่ศีรษะศัตรูร่วงเกรียวกราวเพียงแค่เขายกมือหนึ่งครานั้นแสดงว่ากระบี่นี้เป็นสุดยอดสมบัติวิเศษระดับหัวกะทิในบรรดาอาวุธวิญญาณ!

เหออิ๋นรีบยั้งเท้าและเรียกผีดิบบินอีกห้าตัวข้างล่างฉินมู่ถอยกลับมา ขณะเดียวกันก็ซัดยันต์กระดาษเหลืองของจากกล่องกระบี่พุ่งโจมตีใส่ฉินมู่!

ฉินมู่ฉวยจังหวะนี้พลิกตัวยืนหยัดกับพื้น หันหน้าหาเหออิ๋นพลางสะกิดเท้าถอยปราดๆ เขาใช้วิชาขาขโมยสวรรค์ที่เฒ่าเป๋สอน ทำให้แม้ว่าเขาจะวิ่งถอยหลังความเร็วของเขาก็ไม่ช้าลงเลยแม้แต่นิด

ชี่

แสงกระบี่พุ่งวาบเมื่อฉินมู่ใช้ปราณคุมกระบี่แทงไปยังยันต์กระดาษเหลืองที่ซัดเข้ามา

ตูม

เสียงระเบิดรุนแรงดังกึกก้องเมื่อกระบี่ผู้พิทักษ์เยาว์แตะเข้ากับยันต์กระดาษเหลือง คาถาเต๋าบนกระบี่พลันระเบิดปะทุออกและคลื่นพลังในนั้นพลันจุดปฏิกิริยาลูกโซ่ให้คาถาเต๋าบนยันต์อื่นระเบิดตามไปด้วยในพริบตา ยันต์ระเบิดซัดตูมตามอย่างถี่ยิบคลื่นอากาศจากแรงระเบิดซัดกระแทกฉินมู่ ทำให้หน้าอกของเขาสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงบีบอากาศออกไปแทบหมดปอด ทั้งยังกระเด็นถอยหลังไปอย่างไม่อาจบังคับร่างกายได้!

ปลิวไปห้าหกวา ฮู่หลิงเอ๋อในกระเป๋าหลังรีบร่ายเวทมนตร์ของนางสร้างลมแรงต้านกระแสคลื่นระเบิด ฉินมู่จึงยั้งเท้าได้สำเร็จ

แต่ทว่าปราณชีวิตที่เชื่อมต่อกับกระบี่ผู้พิทักษ์เยาว์ของเขาแหลกทำลายจากแรงระเบิดนั้น ทำให้กระบี่ผู้พิทักษ์เยาว์กระเด็นเสียศูนย์หายวับไปในความมืด

ฉินมู่ร่วงลงมากับพื้น สูดลมหายใจลึกก่อนจะไออย่างรุนแรงสองครา แม้ว่าจะเตรียมตัวรับมือแล้ว แต่ปอดของเขาก็ยังเสียหายจากแรงระเบิด แต่ถ้าไม่เพราะว่าเขาสวมใส่เสื้อผ้าจากไหมทองร้อยพิษแล้วล่ะก็ ฉินมู่อาจจะต้องตายไปด้วยแรงกระแทกนั้นเลยด้วยซ้ำ

“มันยังรอดอีกเรอะ”

เหออิ๋นนำไหที่มีขี้ผึ้งกลิ่นฉุนเฉียวออกมา แล้วโยนใส่ผีดิบบินตนหนึ่ง ก่อนที่จะทะยานเหินหาวใส่ฉินมู่โดยพลัน ในยันต์กระดาษเหลืองที่เขาซัดไปเมื่อครู่ซุ่มซ่อนทักษะเทวะธาตุไฟอันสามารถใช้เฉือนปาดศัตรูหรือใช้แทนระเบิดก็ได้ นอกจากความเสียหายจากแรงระเบิดที่ก่อแก่ร่างกาย ที่ร้ายกว่านั้นคือเสียงสายฟ้าฟาดอันสร้างขึ้นมาจากแรงระเบิด!

หากว่าผู้ใดปะทะกับคลื่นเสียงสายฟ้าฟาดนั้นซึ่งๆ หน้า วิญญาณทั้งสามและจิตทั้งเจ็ดของเขาก็จะถูกเขย่ากระเด็นออกจากร่างกาย และถูกทำลายแหลกเป็นชิ้นๆ ท่ามกลางแรงระเบิด!

มันจึงเหนือความคาดหมายของเหออิ๋นเมื่อฉินมู่สามารถป้องกันตนเองจากแรงระเบิด ทั้งรอดมาได้จากเสียงสายฟ้าฟาดอันสามารถทำลายสามวิญญาณและเจ็ดจิต

แต่ถึงกระนั้น การป้องกันการโจมตีนี้ได้ก็เปล่าประโยชน์ ในเมื่อตอนนี้กระบี่วิเศษคมกล้าได้หลุดมือหายไปเสียแล้วหลังจากที่ถูกซัดให้กระเด็นกระดอน ผนวกกับอาการบาดเจ็บจากแรงระเบิด ฉินมู่ก็มีแต่ตายกับตายเท่านั้น!

แทนที่จะล่าถอย ฉินมู่สืบเท้าเข้าใกล้ และปลดฝักกระบี่ออกมา เขาใช้ปราณชีวิตคุมฝักกระบี่ เหมือนกับที่คุมกระบี่บิน แล้วแทงฝักกระบี่นั้นเข้าใส่เหออิ๋น ในขณะเดียวกันท่าเท้าเข้าก็สลับวูบวาบเหมือนเงาปีศาจ เข้าประชิดใกล้เหออิ๋นในพริบตา!

เหออิ๋นยิ้มหยัน ปราณชีวิตของเขาพวยพุ่งออกมาเป็นนกเพลิงที่พุ่งวาบเข้าใส่ฉินมู่ ในเวลาเดียวกัน ยันต์กระดาษเหลืองก็ถูกซัดออกมาจากกล่องกระบี่ฟาดฟันใส่ฉินมู่!

ฝีเท้าของฉินมู่เร่งเร้าขึ้นอย่างรวดเร็ว เขากู่ร้องโดยพลัน และทิ่มนิ้วเข้าใส่ศัตรู

ท่วงท่ากระบี่แทง!

ฝักกระบี่พุ่งแทงใส่เหออิ๋น เหออิ๋นแค่นเสียงหยันปล่อยให้ยันต์กระดาษเหลืองพุ่งเข้าไปปะทะกับฝักกระบี่ซึ่งๆ หน้า

แม้ว่าพลังการแทงของฉินมู่จะไม่ใช่เบาๆ แต่ด้านที่หันใส่เหออิ๋นเป็นปากฝักกระบี่อันไร้คม แม้ว่าจะถูกฝักกระบี่ด้านนี้แทงก็คงไม่เจ็บปวดอะไรมากมาย

เขาเพียงแต่ต้องระเบิดคาถาเต๋าบนยันต์หนึ่งแผ่นก็จะสามารถป้องกันการโจมตีนี้ของฉินมู่ได้ และซัดฝักกระบี่ให้ปลิวกระเด็น!

ในวินาทีนั้นเอง ปากฝักกระบี่พลันแปรเปลี่ยนเป็นปลามังกรอันอ้าปากกว้างและกระโจนฮุบเข้าใส่

เหออิ๋นแตกตื่นใจ และพลันได้ยินเสียงบางสิ่งแหวกอากาศมาจากข้างหลัง กระบี่ผู้พิทักษ์เยาว์ที่ปลิวหายไปตอนแรก พุ่งหวีดหวือมาแล้วแทงเข้าใส่ตำแหน่งหัวใจจากด้านหลังเขา

เหออิ๋นรีบขยับร่างกายหมายจะหลบหลีกกระบี่ผู้พิทักษ์เยาว์และปลามังกรอันแปลงร่างมาจากฝักกระบี่ แต่หัวขนปุยโผล่ขึ้นมาจากกระเป๋าหลังของฉินมู่และพ่นลมปีศาจออกมามัดตรึงร่างของเขาไว้ในตอนนั้น

เมื่อเหออิ๋นดิ้นรนหลุดจากลมปีศาจที่รัดรึงได้สำเร็จ เขาก็รู้สึกถึงสัมผัสอันเย็นเยียบจากหลังสะบักไหล่ กระบี่ผู้พิทักษ์เยาว์เสียบเข้าไปในสะบักไหล่ของเขาและแทงทะลุออกมาพลางกระชากเอาเลือดกระเซ็นเป็นสายเข้าไปในปากปลามังกร!

ฉินมู่ที่จู่โจมประสบผลกำลังจะตามไปซ้ำอีกที เปลวเพลิงก็ปะทุออกมาจากนกเพลิงโหมซัดใส่เขา ตามมาด้วยยันต์กระดาษเหลืองที่ลุกไหม้

ตูม

แรงระเบิดเกรี้ยวกราดแล่นพล่าน ฉินมู่กระเด็นออกจากใจกลางจุดระเบิดด้วยร่างโซมเลือด ปราณชีวิตของเขาตวัดเกี่ยวกระบี่ผู้พิทักษ์เยาว์ไปด้วยพร้อมกับร่างของเขากระเด็นเข้าไปในป่า เขารีบพลิกตัวกระโดดแล้วกระโจนหายไปในความมืด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version