Skip to content

Tales of Herding Gods 135

ตอนที่ 135 ท่วงท่ากระบี่เกลียว

ราชครูสันตินิรันดร์ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าโถงบรมสิกขาแล้วเผยยิ้มกล่าว “อธิการบดี ถ้าเช่นนั้นข้าขอล่วงเกินอํานาจท่านแล้ว”

ฝูหยวนชิงตามเขามาข้างหลังและกวาดตามองไปรอบๆ พลางคิดคํานึง คนไหนนะที่เป็นศิษย์น้องของข้า

เมื่อฉินมู่ถอนพิษพันโอกาสให้แก่พระพันปีหลวง เขาเห็นรูปลักษณ์ของฉินมู่จากดวงตาของแมลงแล้ว แต่ทว่าที่นี่มีผู้คนมากมายเกินไป เขาจึงไม่สามารถหาตัวฉินมู่เจอได้ในระยะเวลาอันสั้น

ปรมาจารย์เยาว์แย้มยิ้ม “แต่เดิมนั้นเจ้าก็มาที่นี่เรื่อยๆ เพื่อเป็นครูผู้สอนแก่เหล่าบัณฑิต เพียงแต่ว่าหลายปีมานี้เจ้าไม่ค่อยได้เข้ามาเท่านั้นเอง ดังนั้นนี่จึงไม่ใช่การล่วงเกินอํานาจข้าเลยแม้แต่น้อย เชิญ”

ราชครูสันตินิรันดร์ก้าวมาที่หน้าแท่นแล้วกวาดตามองรอบๆ “ยากนักที่จะปฏิเสธการเชื้อเชิญอันโอบอ้อมของอธิการบดีได้ ดังนั้นข้าจะเปิดการบรรยายอันอธิบายเกี่ยวกับกระบี่ และข้าจะกล่าวบรรยายเพียง 2 วันเท่านั้น โดยไม่วอกแวกพูดเรื่องอื่น”

คณบดีป้าซานพึมพํา “ไม่ใช่ว่า 3 วันหรือ”

ปรมาจารย์เยาว์เหล่มองเขาแล้วกล่าว “สํานักเต๋าจะขวางประตูมหาวิทยาลัยจักรวรรดิเราเพียง 3 วันและตอนนี้ก็ผ่านมาครึ่งวันแล้ว หากว่าราชครูพูดบรรยาย 3 วัน 3 คืน มันก็คงจะล่าช้าไม่ทันการ”

คณบดีป้าซานถอนหายใจ “ยากจะตายกว่าจะได้ตัวราชครูมาเปิดบรรยาย และเขากลับบรรยายได้เพียงแค่ 2 วันเท่านั้น น่าเสียดายชะมัด…ราชครูสอนบรรยายด้วยตนเองเทียบเท่ากับยูไลแห่งวัดใหญ่ฟ้าคํารามอธิบายพระสูตร เท่ากับเจ้าสํานักเต๋าถ่ายทอดวิชา และเทียบเท่ากับจ้าวลัทธิมารฟ้าเผยแพร่คําสอนใน คัมภีร์ เป็นโอกาสที่หาได้ยากอะไรอย่างนี้?”

ราชครูสันตินิรันดร์เดินลงจากแท่นเวทีอย่างแช่มช้าแล้วกล่าว ด้วยนํ้าเสียงเรียบเรื่อย “กระบี่คืออะไร ธรรมชาติของกระบี่นั้นตายตัวด้วยรูปลักษณ์อันตายตัวหรือไม่ ข้าไม่เห็นด้วยอย่างแรง บางคนบอกว่ามีความเคลื่อนไหวมากมายในกระบี่หนึ่ง และบางคนก็กล่าวว่ามีความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปรเพียง 14 ท่วงท่า แทง พลิก สะบัด ผ่า ฟัน จิ้ม แย็บ ป้อง โค้ง เฉียด กวาด เสย ขัด และ โกน นี่ก็เป็นความเข้าใจผิดเช่นกัน!”

เขาเดินลงมาข้างล่างและบัณฑิตทั้งหลายพลันรู้สึกถึงแรงกดดันอันแผ่ออกมา ราวกับว่ามีกระบี่คมกริบแขวนอยู่เหนือหัวพวกเขาและพร้อมจะผ่าพวกเขาออกเป็นสองเสี่ยง รังสีอันรุนแรงไร้เทียมทานนี้ดูราวกับหมายจะฉีกผ่ากายเนื้อของพวกเขา ทารกวิญญาณของพวกเขา สํานึกรู้และแม้กระทั่งวิญญาณของพวกเขา!

“หากว่ากระบี่นั้นตายตัว ย่อมไม่ใช่เต๋าอีกต่อไป เต๋านั้นไร้ขอบเขต เหตุไฉนจึงมีเพียง 14 ท่วงท่า”

เขาก้าวไปทีละก้าว และแรงกดดันก็ทวีหนักหน่วงขึ้น ทว่านํ้าเสียงของเขานั้นเรียบสงบ ทันใดนั้นเสียงเขาพลันแปรเปลี่ยนเป็นคมกล้าดุจกระบี่ที่ทิ่มแทงเข้าไปในหูของทุกผู้คน “กระบี่ เหตุใดจึงไม่อาจเป็นเสียง เหตุใดกระบี่จึงไม่เป็นแสง ทําไมมันถึงไม่เป็นสี ทําไมมันไม่เป็นปราณชีวิต ทําไมมันไม่เป็นสายตา”

สายตาของเขากวาดไปท่ามกลางบัณฑิตและมีบัณฑิตหลาย คนที่ไม่อาจควบคุมตนเองได้ ชักกระบี่ออกมาจากฝักเพื่อปัดป้อง แต่มิอาจปัดป้องสิ่งใดได้ ทําให้พวกเขาหลั่งเหงื่อเย็นเยียบ

ราชครูสันตินิรันดร์แย้มยิ้ม “ดังนั้นแล้ว กระบี่มีเพียงแค่ 14 ท่วงท่าจริงๆ น่ะหรือ”

เหงื่อเย็นเยียบหลั่งออกมาจากหน้าผากฉินมู่ ตอนนี้เองที่เขาเพิ่งตระหนักว่าราชครูสันตินิรันดร์นั้นแข็งแกร่งสักเพียงไหน

ผู้ใหญ่บ้านสอนท่วงท่าพื้นฐานของกระบี่ 14 ท่าและฉินมู่ก็แปรเปลี่ยนท่วงท่าพื้นฐานเหล่านี้เป็นตัวเลข เขาสามารถเลียนแบบกระบวนท่าใดๆ ก็ตามแม้ว่าจะได้เห็นมันเพียงครั้งเดียว ในตอนนั้นฉินมู่หลงนึกว่าตนเองอยู่บนจุดสุดยอดของกระบี่แล้ว

และบัดนี้ ราชครูสันตินิรันดร์ได้บุกเบิกหนทางใหม่ของตนเอง บนพื้นฐานกระบี่เก่า และพัฒนามันไปให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น

ความคิดของเขากว้างไกลกว่า และดังนั้นเขาจึงได้สร้างท่วงท่ากระบี่พื้นฐานใหม่นอกเหนือจาก 14 ท่วงท่าเดิม!

ความสำเร็จอันเหนือธรรมดา มิน่าล่ะเขาถึงเป็นอันดับหนึ่งใต้เทวะ

ฉินมู่ชื่นชมเขาอย่างไม่สิ้นสุดในใจ วิธีคิดของราชครูสันตินิรันรด์นับว่าลํ้าหน้าเกินยุคสมัย หรืออาจจะกล่าวได้ว่าเขาเป็นผู้ผลักดันยุคสมัยใหม่ให้ขับเคลื่อนไปข้างหน้า ขับเคลื่อนเต๋า วิชาและทักษะเทวะให้ก้าวไปข้างหน้า ผลักผู้คนในยุคนี้รุ่นนี้ให้มุ่งหน้าต่อไป!

“ดังนั้นข้าจึงคิดค้นท่วงท่าพื้นฐานเพิ่มขึ้นอีกจํานวนหนึ่งจากรากฐาน 14 ท่วงท่าพื้นฐานกระบี่เดิม และใน 2 วันนี้ข้าจะสอนท่วงท่าพื้นฐานใหม่เหล่านี้แก่เจ้าและจะไม่พูดถึงสิ่งอื่น”

ราชครูสันตินิรันดร์ยั้งเท้า จากนั้นรอยยิ้มบนใบหน้าเขาก็จืดจางลงไปแทนที่ด้วยสีหน้าอันเคร่งขรึม “แต่ก่อนที่เราจะเริ่ม ข้าอยากให้พวกเจ้าลืมเลือนรูปลักษณ์กระบี่ของเจ้า กระบี่สามารถเป็นแสง สามารถเป็นเสียง สามารถเป็นสี และสามารถเป็นสายตา ดังนั้นกระบี่จึงไม่จําเป็นต้องมีรูปลักษณ์ตายตัว มันสามารถสั้นยาว แข็งอ่อนและสามารถโจมตีได้จากทุกแง่มุม หากว่าพวกเจ้าสามารถลืมเลือนรูปลักษณ์กระบี่ จึงจะสามารถเรียนวิชากระบี่ของข้า ท่วงท่าแรกของวิชากระบี่ข้า เกลียว”

ปลายนิ้วเขาขยับ และทันใดนั้นก็มีปราณชีวิตเล็กละเอียดจํานวนมากคล้ายแสงกระบี่พวยพุ่งออกมา พวกมันแปรเปลี่ยนเป็นเสากระบี่อันแทงไปเบื้องหน้า “นี่คือ เกลียว!”

นี่เป็นหนึ่งในเพลงกระบี่มหาหกทิศและดูเหมือนกับการแทง แต่เสากระบี่นี้จริงๆ แล้วก่อรูปขึ้นมาจากแสงกระบี่จํานวนนับไม่ถ้วนที่หมุนพันกันแสงกระบี่เหล่านั้นเคลื่อนไหวไปมาและแปรเปลี่ยนตําแหน่งอยู่ตลอด!

ฉินมู่ได้เห็นเพลงกระบี่คล้ายคลึงกันนี้จากฉูปิ่ง ทว่าที่ฉูปิ่งใช้นั้นเป็นท่วงท่ากระบี่ฟัน

แทงและฟันล้วนแต่ดูเหมือนท่วงท่ากระบี่พื้นฐาน แต่แสงกระบี่ละเอียดยิบที่ซ่อนอยู่ในนั้นกลับเป็นท่วงท่ากระบี่เกลียวที่ราชครูคิดค้นขึ้น

มันยังมีความแตกต่างระหว่างกระบี่เกลียวและกระบี่ควง กระบี่ควงนั้นใช้ถ่ายเทกําลังจากด้ามกระบี่เพื่อควงเข้าไปในอาวุธของฝ่ายตรงกันข้าม ในขณะที่ท่วงท่ากระบี่เกลียวรวมรวมกําลังพุ่งเข้าไปข้างหน้าสร้างการปะทะจู่โจมสะท้านโลก

ความแตกต่างระหว่างท่วงท่ากระบี่เกลียวที่ราชครูสันตินิรันดร์ร่ายรํากับที่ฉูปิ่งร่ายรํานั้นก็คือ ทุกๆ กระบี่ละเอียดในเสากระบี่นั้นมีการเปลี่ยนแปรที่แตกต่างกันไป ขณะที่ไม่มีการเปลี่ยนแปรใดเกิดขึ้นในกระบี่ละเอียดเมื่อฉูปิ่งควบคุมเสากระบี่ของเขา ดังนั้นเขาจึงแพ้พ่ายให้แก่แส้หางม้าต่างกระบี่ของเต๋าจื่อหลินเสวียน

หากว่าเป็นราชครูสันตินิรันดร์ เขาย่อมสามารถป้องกันแส้หางม้าของเต๋าจื่อหลินเสวียนได้

ไม่เพียงเท่านั้น จากที่ฉินมู่เห็น กระบี่ของราชครูสันตินิรันดร์ยังเคลื่อนตัวเป็นก้อนเดียวกัน

เสากระบี่ของเขาอันก่อจากแสงกระบี่จํานวนนับไม่ถ้วนและแต่ละแสงกระบี่ก็เป็นเอกเทศจากกันแต่ทว่าเมื่อเขาแทงไปข้างหน้า ทุกแสงกระบี่ละเอียดนั้นก็แทงเข้าไปพร้อมๆ กันหมด หากว่าผู้ใดต้องการทําลายเพลงกระบี่นี้ของราชครู พวกเขาต้องเอาชนะพละกําลังของเสากระบี่ทั้งหมดเมื่อต่อต้านมัน จากนั้นพวกเขาถึงจะสามารถทะลวงเข้าไปทําลายแสงกระบี่ละเอียดภายในได้

วิธีการที่เต๋าจื่อหลินเสวียนใช้จัดการฉูปิ่งไม่มีทางใช้ได้ผลกับราชครู!

รากฐานของราชครูสันตินิรันดร์นี้แน่นหนาแข็งแรงเท่ากันกับข้า และยิ่งแข็งแรงกว่าเต๋าจื่อหลินเสวียน!

ฉินมู่ตะลึงพรึงเพริด จะมีคนแบบนี้ในโลกได้อย่างไร แทบไม่ต่างอะไรกับเทพสวรรค์!

ราชครูสันตินิรันดร์อธิบายประเด็นสําคัญและวิธีการร่ายรํา ท่วงท่ากระบี่เกลียวอย่างถี่ถ้วนละเอียดลออ ให้ความรู้สึกแก่ฉินมู่ ราวกับว่าผู้ใหญ่บ้านกําลังอธิบายวิชากระบี่แก่เขา

ท่วงท่ากระบี่เกลียวนั้นเป็นส่วนขยายที่เพิ่มเติมออกมาจากท่วงท่ากระบี่พื้นฐานและความเชี่ยวชาญของฉินมู่ใน 14 ท่วงท่า กระบี่พื้นฐานนั้นแน่นหนาแข็งแกร่งจากการสั่งสอนของผู้ใหญ่บ้าน ดังนั้นจึงไม่ยากสําหรับเขาที่จะเรียนรู้ท่วงท่ากระบี่เกลียว การชี้หนทางเล็กๆ น้อยๆ นั้นก็เพียงพอที่จะทําให้เขาสามารถเข้าใจโดยกระจ่างได้แล้ว ทําให้เขายืนฟังบรรยายด้วยสีหน้าเมามายและนิ่งขึง

แต่ว่าเข้าใจกระจ่างแบบนี้มีแค่เขาเท่านั้น คนอื่นๆ ล้วนแต่พยายามเค้นสมองตรึกตรองอย่างหนักเมื่อพวกเขาได้ฟังคําอธิบายของราชครูสันตินิรันดร์ มีบางคนที่ไม่เสียเวลาขบคิดแต่จดจําถ้อยคําทุกถ้อยคําเอาไว้อย่างระมัดระวัง มีบางคนที่ใช้ปราณชีวิตบังคับปากกาขีดเขียนบันทึกคําบรรยายของราชครูสันตินิรันดร์ และหมายที่จะทบทวนทําความเข้าใจมันต่อไปในอนาคต

พวกที่สามารถเข้าใจได้โดยทันที และกระจ่างแจ้งนั้นนับว่าเป็นคนส่วนน้อย คนส่วนใหญ่นั้นงงเป็นไก่ตาแตก

ราชครูสันตินิรันดร์สิ้นสุดการอธิบายท่วงท่ากระบี่เกลียว จากนั้นกล่าว “บัณฑิตทั้งหลาย ทีนี้พวกเจ้าสามารถลองร่ายรําท่วงท่านี้ดู”

ครูผู้สอน บรรณารักษ์ลับ และคณบดีเกือบทั้งหมดชะแง้ชูคอทันที พวกเขาก็รับฟังคําบรรยายอยู่ด้วยเหมือนกันและลุ่มหลงเมามายกับคําบรรยายนั้น อย่างไรก็ตามพวกเขาต้องรีบปลุกสติตนเอง เพื่อจับจ้องมองดูบัณฑิตพันกว่าคนนั้น

สาเหตุที่ราชครูให้พวกเขาทดลองร่ายรําท่วงท่ากระบี่นั้นก็เพราะว่าเขาอยากเห็นว่ามีใครบ้างในนั้นที่คู่ควรแก่การจับตาดูเป็นพิเศษ ผู้ที่มีระดับความเข้าใจสูงจะถูกเลือกสรรออกมา เพื่อไปท้าประลองนักพรตหลินเสวียนในอีก 2 วันถัดไป

ข้างหน้าโถงบรมสิกขา บัณฑิตทั้งหลายเริ่มลองท่วงท่ากระบี่เกลียวอย่างงุ่มง่าม หมายจะแปรเปลี่ยนปราณชีวิตของตนเป็นปราณกระบี่เพื่อร่ายรํากระบี่เกลียว มีบางคนที่ไม่อาจควบคุมปราณกระบี่ของตนได้ และทําให้ปราณชีวิตของเขาพังทลายลง ระเบิดกระจายไปทุกทิศทางและแทบจะทําให้บัณฑิตในบริเวณได้รับบาดเจ็บ สร้างความปั่นป่วนเล็กน้อย

และมีบางคนที่สามารถรวบรวมปราณมาเป็นเสากระบี่ แต่เมื่อพวกเขาควบคุมปราณกระบี่ให้หมุนวนรอบๆ จุดศูนย์กลาง มันกลับไม่หมุนและเคลื่อนที่ไปตรงๆ อย่างเดียว

และยังมีผู้ฝึกวิชาเทวะหลายคนที่เคยเรียนเพลงกระบี่มหาหกทิศอันสอนในมหาวิทยาลัยจักรวรรดิแล้ว เพลงกระบี่มหาหกทิศนั้นถูกคิดค้นขึ้นโดยราชครูสันตินิรันดร์ และในเมื่อพวกเขาได้รํ่าเรียนมันมาก่อน การร่ายรํากระบี่เกลียวของพวกเขาจึงดูค่อนข้างคล้าย

บางผู้คนที่ได้รับการชี้แนะบรรยายจากราชครูสันตินิรันดร์นี้ก็ได้ทําให้วิชากระบี่ของพวกเขาบรรลุไปอีกขีดขั้นแม้ว่าพวกเขาจะมิได้กระจ่างแจ้งในท่วงท่ากระบี่เกลียว แต่กําลังฝีมือพวกเขาก็เพิ่มพูนอย่างมหาศาล

และมีบางคนที่ชาญฉลาดอย่างยิ่ง อันแม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยรํ่าเรียนท่วงท่ากระบี่เกลียวมาก่อน พวกเขาก็ยังสามารถบรรลุความเข้าใจได้บางส่วน พวกเขาเรียกเสากระบี่ออกมาได้ และแม้ว่าการเปลี่ยนแปลงภายในของเสาจะยังคงหยาบกร้านแต่ทุกๆ ครั้งที่เขาทดลองสร้างเสากระบี่มันก็คล่องแคล่วขึ้นทุกทีทุกที

ฉินมู่พยายามจะช่วงใช้ท่วงท่ากระบี่เกลียวเช่นกันแต่เขาก็ต้องขมวดคิ้วนิ่วหน้าเมื่อจับจ้องมอง ‘เส้นด้ายปราณชีวิต’ ของตน

ปราณชีวิตของคนอื่นละเอียดบางราวเส้นผม ทําให้เมื่อพวกเขาก่อรูปเสากระบี่ขึ้นมา มันก็ประกอบไปด้วยปราณกระบี่ละเอียดยิบเหล่านั้นแต่สําหรับเขา เส้นด้ายปราณชีวิตอันใหญ่เท่าท่อนแขน เขาจะใช้ ‘เส้นด้ายปราณชีวิต’ ที่หนาขนาดนี้ร่ายรําท่วงท่ากระบี่เกลียวได้อย่างไร

ถ้าร่ายรําออกมา เสากระบี่จะหนาใหญ่แค่ไหน

หนุ่มน้อยส่ายหน้า เสากระบี่ที่หนาใหญ่ขนาดนั้นไม่ใช่เสากระบี่อีกต่อไป แต่ควรเรียกว่าภูเขากระบี่!

ให้เอาปราณกระบี่ใหญ่เท่าภูเขาไปไล่แทงคนอย่างนั้นเรอะ

แม้ว่าปราณชีวิตข้าจะหนาแน่น แต่ก็ไม่ได้หนาแน่นขนาดนั้น ข้าไม่อาจเรียกปราณชีวิตได้มากพอสร้างขุนเขากระบี่

ข้างๆ ฉินมู่ แม้แต่จิ้งจอกน้อยก็กําลังเรียนรู้วิธีช่วงใช้ท่วงท่ากระบี่เกลียวอันดูใกล้เคียงต้นฉบับ

เว่ยหยง อวิ๋นฉื้อ และคนอื่นๆ ก็กําลังพยายามทําให้ปราณชีวิตของเขาหมุนเกลียวเรียบร้อยแล้ว ขณะที่หลิงอวี้จิวและเฉินหว่านอวิ๋นก้าวหน้ารวดเร็วที่สุด มีแต่ฉินมู่เท่านั้นที่ยืนทื่อจ้องอากาศด้วยสายตาว่างเปล่า

ผ่านไปสักพัก ฉินมู่พยายามปลดปล่อยเส้นด้ายปราณกระบี่เท่าท่อนแขนของตนออกมา และครุ่นคิดในใจ ในเมื่อวิธีนั้นไม่ได้ผล เช่นนั้นข้าลองใช้ท่วงท่ากระบี่เกลียวแยกเส้นด้ายปราณชีวิตของข้าให้กลายเป็นเส้นละเอียดได้หรือไม่นะ

เมื่อเขาคิดได้ เขาก็ลงมือทําทันที และทดลองวิธีการที่ราชครูสันตินิรันดร์สอนบรรยายมาใช้ในการแยกเส้นด้ายปราณชีวิตให้ละเอียดอย่างกระตือรือร้น

ไม่มีใครในหมู่บ้านที่สอนวิธีขัดเกลาปราณให้เป็นเส้นด้าย เพราะว่าผู้ที่มีความกระจ่างแจ้งในเต๋าแห่งกระบี่สูงสุดในหมู่บ้านคือผู้ใหญ่บ้านแต่ทว่าผู้ใหญ่บ้านสอนเพลงกระบี่เขาเพียงแค่กระบวนท่าเดียว และสอนท่วงท่ากระบี่พื้นฐาน 14 ท่วงท่าเท่านั้น โดยไม่สนใจอะไรอื่นและปล่อยให้ปราณชีวิตของฉินมู่หนาขึ้นไปทุกที

ประกายแรงบันดาลใจพลันลุกวาบขึ้นมาในจิตของฉินมู่ และเขารู้สึกว่าจะต้องสําเร็จอย่างแน่นอนในการใช้ท่วงท่ากระบี่เกลียวมาฟั่นเฟ้นปราณให้เป็นเส้นด้าย

ท่วงท่ากระบี่เกลียวที่ราชครูสันตินิรันดร์สอนนั้นละเอียดประณีตอย่างยิ่ง และเขาก็เข้าใจเคล็ดลับของมันอย่างรวดเร็ว เผยสีหน้าอันเต็มไปด้วยความปรีดา

ที่หน้าโถงบรมสิกขา สายตาของปรมาจารย์เยาว์ทอดลงไปจับจ้องที่ฉินมู่ และอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วเล็กน้อย เจ้าเด็กดื้อนั่นทำอะไรกับแท่งปราณชีวิตนะ แทนที่จะเรียนเพลงกระบี่

ไม่ไกลนักเฉินหว่านอวิ๋นมองไปยังแท่งปราณชีวิตของฉินมู่ และเผยอยิ้ม เขาอาจจะมีกำลังฝีมือแข็งแกร่ง แต่ปฏิภาณความเข้าใจของเขานั้นก็งั้นๆ ห่างไกลจากข้ามาก!

ในตอนนั้นเอง ฉินมู่ก็ยินดีลิงโลดและหัวเราะออกมาดังลั่น ด้วยเสียงอันดังราวฟ้าคําราม มันก็กึกก้องไปทั่วบริเวณ “สําเร็จแล้ว ในที่สุดก็สําเร็จ สวรรค์มีตา ในที่สุดข้าก็ฟั่นเฟ้นเส้นด้ายปราณชีวิตสําเร็จ!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version