ตอนที่ 251 ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญวิชาฝ่ายมาร
พวกหลวงจีนฮือกันไปยังฉินมู่ แต่หลวงจีนหมิงซิ่นกล่าวทันที “ช้าก่อนศิษย์พี่ทั้งหลาย ให้ข้าเป็นคนปราบมารกําราบปีศาจตนนี้เอง!”
ไม่ทันที่หลวงจีนทั้งหลายจะได้พูดอะไร หลวงจีนหมิงซิ่นก็พุ่งไปข้างหน้าและขยิบตาให้ฉินมู่พลางกล่าวด้วยเสียงเบา “เมื่อเจ้าสู้กับข้า แลกเปลี่ยนกระบวนท่าสองสามทีแล้วบอกยอมแพ้นะ เมื่อเจ้าบอกยอมแพ้ พวกเขาก็จะละอายเกินกว่าที่จะสังหารเจ้า อีกอย่าง อย่าใช้วิชาของฝ่ายมาร ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงโมโหโกรธากันอีก”
จิตใจของหลวงจีนน้อยนี้ไม่เลวเลย เขานั้นดีกว่าหลวงจีนเฒ่าจิ่งหมิงมาก
ประกายตาฉินมู่ไหววูบและเผยยิ้ม “เจ้าและข้ามาแลกเปลี่ยนฝีมือกัน”
หลวงจีนหมิงซิ่นลงมือร่ายรํากระบวนท่าทันทีและมันคือฟ้าคํารามแปดจู่โจม สายฟ้าวสันต์ในทะเลบูรพา เมื่อเขาเคลื่อนไหวสายฟ้าก็แล่นพล่านทั่วบริเวณราวกับแม่นํ้าเชี่ยวกรากโถมลงใส่ทะเลพร้อมกับที่สายฟ้าวสันต์ฟาดเปรี้ยงปร้างลงมา
เมื่อกระบวนท่านี้ถูกช่วงใช้ออกไป มันก็มีรูปเงาของทักษะเทวะ ปราณชีวิตทั้งข้างหน้าและข้างหลังหลวงจีนหมิงซิ่นก่อรูปขึ้นมาเป็นมหาบรรพตอันยิ่งใหญ่ที่มีแม่นํ้าอันอลังการโถมลงมาจากบนนั้น ราวกับว่ามันไหลบ่าลงมาจากฟากฟ้าทะลวงลงไปยังทะเล
เมื่อกระบวนท่าของฟ้าคํารามแปดจู่โจมถูกช่วงใช้อย่างวิเศษปานนี้ มันก็แทบจะไม่แตกต่างจากทักษะเทวะพระสูตรมหายานยูไลแห่งวัดใหญ่ฟ้าคํารามนับว่าสมชื่อลือชา!
ฉินมู่เองก็ร่ายรําฟ้าคํารามแปดจู่โจม อันน่าตื่นตาและยิ่งใหญ่พอๆ กันด้วยรูปเงาภูเขา แม่นํ้าเชี่ยว ทะเลกว้าง และสายฟ้าวสันต์เช่นเดียวกับเสียงกัมปนาทสะเทือนเลื่อนลั่นระเบิดออกมาจากกล้ามเนื้อที่เกร็งแกร่งของทั้งคู่ เส้นเอ็นของพวกเขาดูราวกับมังกรตัวเล็กละเอียดมุดเข้าไปทางนั้นและทางนี้ใต้ผิวหนัง ทําให้การโคจรเคลื่อนย้ายพละกําลังเป็นไปถึงขีดสุด หลวงจีนที่ชมดูถึงกับโห่ร้อง
“หมิงซิ่น ต่อยไอ้มารร้ายนี่ให้ตาย!” หลวงจีนเฒ่าผอมซูบราวกิ่งไม้ตะโกนออกมา “มารนี่ถึงกับฝึกปรือวิชาของวัดใหญ่ฟ้าคํารามเรา นี่คือการลบหลู่พุทธองค์ ดังนั้นฆ่ามันให้ตาย!”
กระบวนท่าของฉินมู่แปรเปลี่ยนและกลายเป็นพุทธองค์พันกร ในพริบตานั้น ฝ่ามือของเขาก็กลายเป็นเงาพร่าพรายที่ทําให้ดูเหมือนเขามีแขนพันแขนจริงๆ แต่ละท่วงท่าฝ่ามือสร้างเสียงสายฟ้าฟาดราวกับพุทธองค์เงื้อแขนทั้งหนึ่งพันเพื่อปราบมาร กําราบอสูร หลวงจีนทั้งหมดเห็นเช่นนี้ก็สีหน้าแปรเปลี่ยน
ฉินมู่ มารจากลัทธิมารฟ้า ได้ตรึกตรองทําความเข้าใจทุกแก่นแท้ของฟ้าคํารามแปดจู่โจม เพียงดูแค่พุทธองค์พันกรที่เขาช่วงใช้ออกมา ความสําเร็จของเขาก็สูงส่งกว่าหลวงจีนกว่า 9 ส่วนในวัดแล้ว
เสียงของพวกหลวงจีนเบาลงๆ เมื่อพวกเขาพึมพําในใจ ดูเหมือนความสำเร็จของหมิงซิ่นในกระบวนท่านี้จะต่ำต้อยว่ามัน เขาอาจจะไม่ชนะ…
หมิงซิ่นก็ร่ายรําพุทธองค์พันกรเพื่อตอบโต้กลับ และพลันพบว่าความสําเร็จของเขาในกระบวนท่านี้ยังขาดพร่อง ร่างของเขาสั่นเทิ้มเมื่อขับเคลื่อนวิชาไพรีพ่ายฤทธิ์และขยายออกมาอย่างมหาศาล ตัวอักษรในพระสูตรจํานวนมากล่องลอยออกมาห้อมล้อมร่างของเขาประดุจระฆังใหญ่ที่ร้องเหง่งหง่างไม่หยุดยั้ง
แขนทั้ง 2,000 ของพุทธองค์ปะทะกันและความเหนือกว่าก็ถูกตัดสินในพริบตา ฝ่ามือของฉินมู่ฟาดลงไปยังระฆังใหญ่อันก่อรูปขึ้นมาจากพระสูตร และวงแหวนแสงพุทธธรรมก็สาดส่องออกมาจากผิวระฆัง
ในเวลานี้ ตรงไหนของฉินมู่ที่ดูเหมือนมารร้าย?
เขานั้นราวกับเป็นหลวงจีนชั้นสูงที่บรรลุธรรมชัดๆ คือพุทธเจ้าหนุ่มสูงศักดิ์ผู้มีมังกรเขียวล้อมรอบร่าง
ในพริบตาถัดมา หลวงจีนหมิงซิ่นเห็นฝ่ามือของฉินมู่ทะลุผ่านระฆังใหญ่และแปรเปลี่ยนเป็นมุทราหมัดที่ต่อยเข้าตรงตําแหน่งหัวใจ อันทําให้เขาแตกตื่นเป็นอย่างยิ่ง
หมัดของฉินมู่ทะลุผ่านช่องโหว่ในพระสูตรมหายานยูไลของเขาอย่างแม่นยํา ด้วยหมัดเป็นมุทรา เขาก็ฉวยใช้ช่องโหว่นี้เพื่อทะลวงตรงไปยังร่างกาย การโจมตีนี้ได้ต่อยเข้าตรงจุดตายของเขา!
แต่ทว่าหมัดของฉินมู่มิได้มีพลังอะไรมากมาย เขารั้งมันกลับหลังจากต่อยเข้าไปเบาๆ
หัวใจของบรรดาหลวงจีนสงบลง พลังวัตรของมารตนนี้ไม่ค่อยสูงเท่าไหร่ มีแต่กระบวนท่าเขาเท่านั้นที่เพริศแพร้วพิสดาร
หลวงจีนหมิงซิ่นตั้งสติ แล้วโต้กลับทันที แต่กลับเห็นฉินมู่บิดร่างพลิกตัวรอบๆ เขาราวกับมังกรตัวหนึ่ง ด้วยแขนทั้ง 1,000 ที่เคลื่อนไหวไปมา จุดอ่อนนับไม่ถ้วนพลันปรากฏบนระฆังพระสูตรนี้ ในริบตาเดียว จุดตายที่หว่างคิ้ว ที่หู ที่ตา และที่หลังตําแหน่งหัวใจ ที่ทะเลปราณ ที่จุดหยกท้ายทอย ล้วนแต่ถูกฉินมู่แตะบอกตําแหน่งครั้งหนึ่ง ในเสี้ยวพริบตาเท่านั้น เขาถูกการโจมตีตําแหน่งถึงชีวิตจํานวนนับครั้งไม่ถ้วน!
การจู่โจมเหล่านี้ล้วนแต่เล็งไปยังจุดอ่อนในพระสูตรมหายานยูไลของหลวงจีนหมิงซิ่น เขาตกตะลึงไปครู่หนึ่งและรู้สึกราวกับตนเองเป็นหม้อนํ้าที่มีรูรั่วเต็มไปหมด มีแต่จุดตายเต็มไปหมด เหงื่อเย็นเยียบไหลลงจากหน้าผากเขาอย่างมิอาจควบคุมได้
เพื่อลบล้างจุดอ่อนของตน เขาได้ริเริ่มลงมือปรับเปลี่ยนพระสูตรมหายานยูไลด้วยตนเอง เขาคิดว่าเขาได้ลบล้างจุดอ่อนที่คอไปแล้ว แต่กลายเป็นว่าเขากลับสร้างจุดอ่อนในวิชาฝึกปรือนี้เต็มไปหมดทั้งร่างกายแทน
พลังวัตรของมารตนนี้ไม่สูงจริงๆด้วย! หลวงจีนทุกคนค่อยคลายใจ หากว่าเขาทะลวงผ่านระฆังทองคุ้มกายของหมิงซิ่นไม่ได้ ไม่ว่ากระบวนท่าเขาจะเพริศแพร้วพิสดารมากแค่ไหน การโจมตีของเขาก็ไม่มีพลังอะไร
ฉินมู่หยุดมือ และหลวงจีนหมิงซิ่นก็พลันตระหนักรู้ เขากล่าวขอบคุณโดยพลัน “ขอบคุณศิษย์พี่ที่ชี้แนะข้า! ตอนนี้ข้าถึงเพิ่งรู้ว่าพระสูตรมหายานยูไลมิอาจปรับเปลี่ยนได้ตามใจชอบ”
ฉินมู่ส่ายหน้า “ไม่ใช่ว่าเจ้าเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เจ้าเพียงแต่ขาดคู่ต่อสู้ที่จะช่วยให้เจ้ารีดเร้นพรสวรรค์และศักยภาพออกมาอย่างเต็มพิกัด หากว่าเจ้ามีผู้ชี้แนะที่รอบรู้อย่างลึกซึ้งทั้งมีวิสัยทัศน์ขอบฟ้าอันกว้างไกล เขาก็จะช่วยผลักดันให้เจ้ารุดหน้าไปได้ ให้เจ้าได้ปรับเปลี่ยนแก้ไขวิชาฝึกปรือไปอย่างไม่หยุดยั้ง เมื่อเป็นเช่นนั้น เจ้าก็จะสามารถแก้ไขมันให้สมบูรณ์แบบได้”
หลวงจีนหมิงซิ่นมองไปที่เขา และฉินมู่ส่ายหน้าอีกครั้ง “ข้าไม่สามารถ ข้าไม่มีความสามารถระดับนั้น เจ้าสามารถลองไปหายูไล ให้เขาถ่ายทอดพระสูตรมหายานยูไลให้เจ้าโดยตรง ถ้าใช้ข้าเป็นคู่มือต่อสู้ขัดเกลาก็จะกลายเป็นการจํากัดความก้าวหน้าของเจ้า”
หลวงจีนหมิงซิ่นรับคํา แต่กล่าว “ยูไลนั้นทั้งมวลเป็นเรื่องของชะตาวาสนา ข้าไม่รู้ว่าข้าจะมีวาสนานี้หรือไม่…แย่แล้ว!”
สีหน้าเขา แปรเปลี่ยนขยี้เท้ารํ่าร้อง “นี่แย่จริงๆ! หากว่าเจ้าแพ้ให้กับข้า พวกเขาก็คงไม่อาจทุบตีเจ้าถึงตายได้ แต่ตอนนี้เจ้าเอาชนะข้า พวกเขาจะต้องสังหารเจ้าแน่ๆ! พวกเราทําอย่างไรดี”
“หมิงซิ่น ถอยไป” หลวงจีนวัยกลางคนก้าวเข้ามาด้วยสีหน้าทะมึนเล็กน้อยพลางติเตียน “ศิษย์น้องหมิงซิ่น เจ้าจะใจดีเกินไปไหม นี่คือการปราบมารกําราบปีศาจ แต่เจ้าก็ยังออมมือและไม่ปลิดชีวิตมัน เจ้าจะปล่อยให้มารตนนี้มีชีวิตต่อไปเพื่อสร้างความวุ่นวายให้กับโลกหล้าอย่างงั้นหรือ นี่คือบาปหนาสาหัส!”
หลวงจีนหมิงซิ่นอ้าปากหมายจะโต้แย้ง แต่หลวงจีนกลางคนนั้นปัดชายแขนเสื้อใส่เขา “เจ้ายังไม่ถอยไปและทบทวนตัวอีกรึ”
หลวงจีนหมิงซิ่นได้แต่ถอยกลับไปด้วยความรู้สึกแค้นใจ ข้าออมมือตอนไหนกัน ข้าใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีชัดๆ!
หลวงจีนกลางคนมองไปยังฉินมู่และกล่าว “จ้าวลัทธิฉิน เจ้าเป็นจ้าวลัทธิแห่งลัทธิมารฟ้า ส่วนข้านั้นเป็นเพียงหลวงจีนที่ไร้ชื่อเสียงเรียงนามในกุฎิมังกรฟ้าแห่งวัดใหญ่ฟ้าคําราม นี่ไม่นับว่าเป็นผู้ใหญ่รังแกผู้น้อยใช่หรือไม่”
ฉินมู่ยิ้ม “ใช่แล้ว กลับเป็นข้าต่างหากที่เป็นผู้ใหญ่รังแกผู้น้อย”
หลวงจีนกลางคนผู้นั้นเอ่ยสรรเสริญนามพุทธองค์แล้วกล่าวต่อ “จ้าวลัทธิฉิน ข้าจะให้เจ้าได้เข้าใจถึงความกว้างใหญ่ไพศาลแห่งพุทธศาสนา ดูที่เสามังกรข้างๆ เจ้า รูปลักษณ์มังกรบนเสามังกรนี้เป็นหนึ่งในร้อยรูปมังกรของวัดใหญ่ฟ้าคํารามเรา หลวงจีนตํ่าต้อยผู้นี้จะส่งจ้าวลัทธิมารสู่สุคติ”
ฉินมู่พิจารณาเสามังกรข้างๆ เขาเพ่งความสนใจไปที่รูปมังกรของมังกรฟ้าอันดุร้าย กรงเล็บของมันขยุ้มลงมาราวกับกําลังปราบมารกําราบปีศาจ
หลวงจีนกลางคนพลันลงมือ และพุ่งมาด้วยฝีเท้าอันรวดเร็ว พลางร้องตะโกน “ชาติหน้าขอให้จ้าวลัทธิเกิดมาในครอบครัวดีๆ อย่ามาเป็นมารร้ายอีกเลย!”
ตูม!
เขาฟาดมุทราลงล่าง และสายฟ้าก็คํารามเลื่อนลั่น ที่เขาใช้นั้นคือพายุสายฟ้าเก้ามังกรจากฟ้าคํารามแปดจู่โจม ปราณชีวิตของเขาก่อรูปเป็นมังกรเขียวอันมีรูปลักษณ์ไม่ผิดแผกไปจากเสามังกรข้างๆ ฉินมู่!
มังกรเขียวทะยานพุ่งมาข้างหน้าด้วยอสุนีบาตกัมปนาท ราวกับราชามังกรเหินเหาะลงสู่พื้นพิภพ!
ฉินมู่ละสายตาจากเสามังกรและปราณชีวิตเขาก็พลันแผ่พุ่งไป มันคือกระบวนท่าพายุสายฟ้าเก้ามังกรเช่นเดียวกันและเมื่อร่างมังกรทั้ง 2 เข้าปะทะ เสียงคํารามมังกรก็ปรากฏขึ้นระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย และก็มีพลังมังกรที่ก่อขึ้นมาจากเพลงหมัดทั้งคู่ต่างก็มีพลังมังกร 45 ตัว
มังกร 90 สิบตัวเข้าปะทะกัน ปราณชีวิตรูปมังกรโรมรันพันตูกันรอบๆ เสามังกร
“ศิษย์พี่ถานซิ่นวรยุทธ์สุดยอด!” หลวงจีนทุกคนโห่ร้อง
เมื่อเสียงของพวกเขาจางไป หลวงจีนกลางคนก็ไม่อาจต้านรับไหวและครางเสียงหนักเขารู้สึกได้ว่าพลังวัตรของฉินมู่โถมทับใส่เขาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงอันยากจะหยั่งของพลังมังกรในหมัดฉินมู่ทําให้เขายิ่งสับสนหนัก ฉินมู่ก็ใช้รูปมังกรบนเสานี้ แต่มันมีการเปลี่ยนแปลงร้อยอย่างในรูปลักษณ์มังกรของเขา ดังนั้นแม้ว่าฉินมู่จะใช้มังกรชนิดเดียว แต่การเปลี่ยนแปลงอันนับไม่ถ้วนภายในนั้นก็ทําให้ศัตรูมิอาจรับมือได้ทั้งหมด
เขาได้รับสืบทอดแก่นแท้คำสอนของกุฏิมังกรฟ้า…
ดวงตาของหลวงจีนวันกลางคนเผยแววสิ้นหวังเมื่อพลังมังกร 45 สายที่ก่อขึ้นมาจากปราณชีวิตของเขาแหลกสลายไป พลังมังกรอีก 45 สายจากฉินมู่ก็ผสานเข้าเป็นหนึ่งและทะลวงเข้าไปในอกหลวงจีนในวูบเดียว!
ฉินมู่ได้รับแก่นแท้คําสอนของรูปร้อยมังกรในกุฏิมังกรฟ้าเมื่อเขาเพิ่งมาถึงที่นี่และได้เห็นรูปปั้นเหล่านี้เป็นครั้งแรก นี่เป็นสิ่งที่เหลือเชื่อเกินจินตนาการ!
หลวงจีนกลางคนพลันตระหนักว่าสถานการณ์ยํ่าแย่และช่วงใช้รูปลักษณ์มังกรตัวอื่นๆ จากรูปร้อยมังกรด้วยหวังว่าจะใช้แก้ไขความเปลี่ยนแปลงเกินคาดหยั่งในพลังมังกรของหมัดฉินมู่
วรยุทธ์ของเขาเหนือลํ้ากว่าหลวงจีนหมิงซิ่นและเขาได้ปลุกเปิดสมบัติเทวะหกทิศแล้ว ซึ่งหมายความว่าเขามีอํานาจวิเศษ ปราณชีวิตของเขาสามารถก่อรูปขึ้นมาเป็นทักษะเทวะได้
กุฏิมังกรฟ้าเป็นหนึ่งในกุฏิของวัดใหญ่ฟ้าคําราม หลวงจีนที่ฝึกปรืออยู่ที่นี่ส่วนใหญ่แล้วอยู่ในขั้นห้าธาตุหรือหกทิศ ยังมียอดฝีมือที่วรยุทธ์สูงขึ้นไปอีกในขั้นเจ็ดดาว อย่างหลวงจีนสินคงที่เผาตัวเองตายไปเมื่อครู่
หลวงจีนกลางคนผู้นี้นับว่าเป็นหนึ่งในผู้มีฝีมือโดดเด่นแห่งกุฏิมังกรฟ้า แต่พลังวัตรปราณชีวิตของเขาก็ไม่อาจเทียบได้กับฉินมู่ การเปลี่ยนแปลงในพลังมังกรของเขาก็ด้อยกว่า
แย่แล้ว ข้าแก้ไขมันไม่ได้...
หลวงจีนถานซิ่นสีหน้าบิดเบี้ยว และหน้าอกเขาก็ระเบิดปล่อยพลังมังกร 45 สายพวยพุ่งออกมาจากในร่าง เศียรมังกร 45 เศียรแสยะเขี้ยวกว้างกู่ร้องคํารามใส่ทุกคนโดยรอบ
แสงเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ และโลหิตสดก็กระจัดกระจายไปทุกทิศ ร่วงใส่ใบหน้าและเสื้อผ้าของหลวงจีนเหล่านั้น
ฉินมู่ส่ายหน้า “หากว่าเจ้าไม่มีจิตคิดสังหาร ข้าก็คงออมมือ และไม่ปลิดชีวิตเจ้า แต่เจ้านั้นกระเหี้ยนกระหือรือที่จะสังหารข้า ข้าจึงไม่ออมมือ”
หลวงจีนทั้งหมดนิ่งขึงด้วยความตื่นตะลึง ทันใดนั้นหลวงจีนอีกรูปก็ชี้นิ้วไปยังฉินมู่และกล่าวด้วยความ
เดือดดาล “เขาใช้วิชาของฝ่ายมารมาสังหารศิษย์พี่ถานซิน! ที่เขาใช้คือวิชาฝ่ายมาร!”
สายตาของฉินมู่ทอดลงไปจับจ้องเขา และกล่าวอย่างแช่มช้า “ฟ้าคํารามแปดจู่โจมเป็นวิชามาร? ข้าอยู่ในขั้นห้าธาตุส่วนเขาอยู่ในขั้นหกทิศ และข้าใช้กระบวนท่าเดียวกันกับเขาเพื่อเอาชนะปลิดชีวิต แต่กระนั้นพวกเจ้าก็ยังไม่ยอมรับว่าฝีมือเขาด้อยกว่าข้า เลยใส่ไคล้ว่าข้าใช้วิชามาร? ยูไล ศิษย์ของท่านทําให้ท่านขายหน้าดีจริงๆ”
“หลอกลวงผู้คนด้วยคํามดเท็จ ข้าจะฆ่าเจ้า!” เสียงหนึ่งตะโกนมาอย่างเกรี้ยวกราด และหลวงจีนจีวรเหลืองก็พุ่งเข้ามาด้วยปราณชีวิตอันไร้ขอบเขตที่พวยพุ่งออกมาจากตน เขาก็ฝึกปรือถึงขั้นหกทิศ และวิชาของเขานั้นอุกอาจเขื่องโข พละกําลังของเขาไม่ต่างอะไรกับพายุสายฟ้า
ฉินมู่คร้านจะเหลือบแลเขา และยกมือขึ้นส่งกระบี่ผู้พิทักษ์เยาว์ออกไป แสงกระบี่พวยพุ่งไปข้างหน้าสร้างภาพดวงอาทิตย์กําลังจมลับแม่นํ้าหย่ง หลวงจีนจีวรเหลืองพลันถูกแทงทะลุเป็นพันรูให้ศพของเขาร่วงลงกับพื้น ฉินมู่กล่าวด้วยสีหน้าเย็นยะเยียบ “นี่คือเพลงกระบี่อัสดงแห่งจักรวรรดิอวี้เหยียน”
หลวงจีนอีกคนกระโจนใส่เขา หมายจะใช้วิชาสังหาร แต่พลันมีประตูเปิดเบื้องหลังฉินมู่ มันคือประตูน้อมสวรรค์
หลวงจีนพุ่งเข้าไปในประตูและเห็นแสงตะเกียงอยู่ไกลๆ วิญญาณของหลวงจีนผู้นี้พลันหลุดลอยเข้าไปในแดนใต้พิภพและจากไปกับเรือน้อย
ฉินมู่ปิดประตูน้อมสวรรค์ข้างหลังเขาแล้วกล่าวอย่างเย็นชา “นี่ก็ไม่ใช่วิชาของฝ่ายมาร แต่คือประตูน้อมสวรรค์แห่งแดนใต้พิภพ”
“ฆ่ามารร้าย!” หลวงจีนอีกคนพุ่งเข้ามา และฉินมู่ซัดมุทราไปทางเขา “ซาโม เยว่!”
วิญญาณของหลวงจีนนั้นพลันถูกกระชากออกมาจากร่างและแหลกสลายในอากาศ จากฉินมู่จึงกล่าวอย่างโมโห “นี่ต่างหากล่ะถึงจะเป็นวิชาฝ่ายมาร! พวกเจ้าเข้าใจหรือยัง ข้าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญวิชาฝ่ายมารเลยสักนิด!”