Skip to content
Home » Blog » ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 1065

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 1065

ตอนที่ 1065 ไม่ได้

เซียวเหวินอวี๋อดแปลกใจไม่ได้ คนตระกูลฟู่เช่นนั้นถึงกับเลี้ยงดูบุตรชายเช่นนี้ออกมาได้ น่าอัศจรรย์จริง

เซียวเหวินอวี๋พลันคิดถึงท่านแม่ตนเองและฮองเฮาข้างกาย หรือว่ามีเรื่องราวที่ผู้อื่นไม่รู้

เซียวเหวินอวี๋คิดถึงเรื่องนี้ก็พลันระวังตนเองขึ้นมา หากเป็นเช่นนี้ เขาไม่มีทางยอมตกลงให้เขาแต่งกับหวงเอ๋อร์อย่างแน่นอน

คนเช่นเขาตามหลักแล้วไม่ควรยินยอมแต่งเข้าตระกูลฝ่ายหญิง เขาทำเช่นนี้ย่อมต้องมีแผนการในใจ

ดังนั้นเขาไม่อาจให้หวงเอ๋อร์แต่งกับเขาได้

ในใจเซียวเหวินอวี๋ตัดสินใจแล้วก็มองลงไปหาฟู่หลิน เอ่ยขึ้นว่า “เจ้าคือผู้ใด”

ฟู่หลินตอบด้วยท่าทีไม่แข็งกร้าวจนดูเย่อหยิ่งและไม่ถ่อมตัวจนดูต่ำต้อย “กระหม่อมฟู่หลิน บุตรชายขุนนางระดับห้าพ่ะย่ะค่ะ”

เซียวเหวินอวี๋อดโมโหไม่ได้ ตวาดดังเยียบเย็นว่า “บังอาจ ฮองเฮามีราชโองการชัดเจนว่าให้บุตรชายขุนนางระดับสามขึ้นไปมาร่วมงานวันนี้ เจ้าเป็นเพียงแค่บุตรชายขุนนางระดับห้า ถึงกับกล้าขัดราชโองการเข้าวังมาร่วมงาน เห็นชัดว่าไม่เห็นเรากับฮองเฮาอยู่ในสายตา”

ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนกับเซียวหวงคิดไม่ถึงว่าเซียวเหวินอวี๋พบกับฟู่หลินก็ถึงกับโมโหเช่นนี้ ทั้งสองคนสบตากันรวดเร็วทีหนึ่ง

เซียวหวงรีบก้าวออกมาทูลว่า “เสด็จพ่อ ฟู่หลินเคยช่วยชีวิตหม่อมฉัน หม่อมฉันเชิญเขาเข้าวังมาร่วมงานเลี้ยงเพคะ เสด็จพ่ออย่าได้ทรงตำหนิเขา”

เซียวหวงไม่พูดยังดี พอออกมาพูดก็ทำให้เซียวเหวินอวี๋ยิ่งแน่ใจว่าฟู่หลินใช้อุบายอันใดอย่างแน่นอน บุตรสาวเขาเป็นคนเช่นไร เขาไม่รู้หรือ ตอนนี้นางถึงกับถูกผู้ชายจูงจมูกได้

เซียวเหวินอวี๋ยิ่งนึกรังเกียจฟู่หลิน

ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนยื่นมือไปดึงเซียวเหวินอวี๋ ค่อยๆ เอ่ยขึ้นว่า “เอาละ งานเลี้ยงก็ใกล้จะเริ่มแล้ว พวกเราเข้าไปในงานกันเถอะ”

เซียวเหวินอวี๋มองซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนทีหนึ่ง สุดท้ายก็ยอมหยุดชั่วคราว

เขาไม่ได้ทนเพื่อฟู่หลิน แต่เพื่อบุตรสาวตน หากเขาต้องมีเรื่องขัดแย้งกับบุตรสาวเพราะฟู่หลินย่อมไม่คุ้มค่า

เซียวเหวินอวี๋ส่งสายตาไม่พอใจจ้องใส่ฟู่หลินทีหนึ่ง ก่อนจะหันเดินเข้าไปในพระที่นั่ง เซียวหวงส่งสายตารู้สึกผิดให้ฟู่หลินทีหนึ่ง

ฟู่หลินไม่คิดสนใจ แต่เขากำลังคิดอย่างแปลกใจ

เห็นชัดว่าก่อนหน้านี้ ฝ่าบาทมองเขาด้วยแววตาผิดปกติ จากนั้นก็โมโหมาก แท้จริงเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่

งานเลี้ยงในวังเริ่มต้นรวดเร็ว ฮ่องเต้รับสั่งให้คุณชายแต่ละตระกูลในพระที่นั่งอออกมาเล่าถึงความชื่นชอบของตนเองและความถนัด

คุณชายแต่ละตระกูลปกติล้วนเป็นคนหยิ่งยโส ย่อมไม่ยินดีที่ตนเองต้องถูกนำมาเปรียบเทียบให้ผู้อื่นชื่นชม นี่เป็นเรื่องที่สตรีควรกระทำมากกว่า

แต่เพราะผู้อาวุโสในตระกูลส่งสายตากำราบมา สุดท้ายได้แต่ออกมาแสดงความสามารถ แต่ความไม่พอใจในใจอย่างไรก็ยังแสดงออกทางสีหน้าอยู่บ้าง

ฮ่องเต้กับฮองเฮาเห็นแล้วก็ไม่พอพระทัยอย่างมาก แต่เซียวหวงไม่ได้สังเกตคนเหล่านี้

นางเอาแต่จ้องมองฟู่หลิน เห็นฟู่หลินนั่งอยู่ในมุมสุดของพระที่นั่ง นางก็รู้สึกว่าฟู่หลินต้องอดทนกล้ำกลืนแล้ว ในใจรู้สึกไม่ดีอย่างมาก เอาแต่มองเขาอยู่ตลอด

ฟู่หลินเองกลับไม่ได้คิดสนใจ

จนกระทั่งทุกคนในพระที่นั่งแนะนำตนเองเสร็จ เขากำลังจะลุกขึ้นยืนขึ้นแนะนำตนเองบ้าง แต่กลับถูกฝ่าบาทขัดขึ้น หันไปตรัสถามเซียวหวงว่า

“หวงเอ๋อร์ เจ้าดูคุณชายเหล่านี้ คุณชายท่านใดค่อนข้างเป็นที่พึงใจของเจ้า”

เซียวหวงยิ้มเอ่ยเตือนว่า “เสด็จพ่อ ยังมีคนไม่ได้แนะนำ อย่างไรก็ทรงให้เขาได้แนะนำตัวสักหน่อยไหมเพคะ”

พอเซียวหวงเอ่ย ทุกคนในพระที่นั่งต่างนับว่าได้รู้ความคิดนางแล้ว รัชทายาทพึงพอใจคุณชายใหญ่ตระกูลฟู่ผู้นี้แล้วจริงๆ

พวกวังโส่วฝู่ไม่ได้รู้สึกอันใด ด้วยสถานะตระกูลฟู่ คนเช่นนี้แม้ได้รับความสำคัญจากรัชทายาท อย่างมากก็เป็นได้แต่ราชบุตรเขยรอง

ตำแหน่งพระสวามีฮ่องเต้หญิง ย่อมต้องเลือกจากบรรดาคุณชายที่อยู่ ณ ที่นี้ในตอนนี้

เซียวเหวินอวี๋เม้มปากไม่พอใจ ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนกลับเอ่ยว่า “ฟู่หลิน ใช่ไหม เจ้าออกมาแนะนำตนเอง”

ฟู่หลินลุกขึ้นถวายคำนับทีหนึ่ง แนะนำตนเองด้วยท่าทางไม่แข็งกร้าวจนดูเย่อหยิ่งและไม่ถ่อมตัวจนดูต่ำต้อย จากนั้นก็เอ่ยถึงความสามารถตนเอง “กระหม่อมถนัดวิชายุทธ์ ยินดีแสดงวิชากระบี่ให้ทุกคนในพระที่นั่งได้ชมกันสักท่อนหนึ่ง”

ภพก่อนฟู่หลินฝึกพลังทำลายล้างโลก ชาติภพนี้แม้ว่าฝึกได้ไม่นาน และยังไม่ได้บรรลุผลสำเร็จสุดยอด แต่ก็มีอานุภาพเพียงพอแล้ว เขาจึงคิดแสดงเพลงกระบี่ต่อหน้าทุกคนในที่นี้

พอแสดงจบลง คนไม่น้อยในพระที่นั่งต่างอุทานว่าเพลงกระบี่เขาร้ายกาจมาก

ฟู่หลินทำเช่นนี้เพื่อให้ฮ่องเต้กับฮองเฮาได้ทรงรู้ว่า เขาไม่เพียงแต่ดูแลเซียวหวงได้ ยังปกป้องนางได้

ปรากฏฮ่องเต้กลับคิดไปถึงเรื่องอื่น

ดูท่าเจ้าหมอนี่จะเหมือนกับท่านแม่และอวิ๋นเยี่ยนจริง ไม่แน่ว่าอาจมาจากภพอื่นใด เห็นชัดว่าเป็นคนมีอุบายในใจ

เพลงกระบี่เขาแค่มองก็รู้ว่าไม่ธรรมดา ถึงกับมีแสงสีดำ

ไม่ได้ ไม่ได้ เขาไม่มีทางให้บุตรสาวแต่งกับเจ้าหมอนี่แน่

เซียวเหวินอวี๋คิดไปก็โบกมือให้ฟู่หลินกลับไปนั่ง

เขายังหันไปมองเซียวหวง เอ่ยขึ้นว่า “หวงเอ๋อร์ เราคิดว่าคู่ครองรัชทายาทเป็นเรื่องสำคัญมาก แม้ว่าเขาเป็นพระสวามีฮ่องเต้หญิง แต่ปกติก็ต้องช่วยหวงเอ๋อร์ต้อนรับแขกมีเกียรติสูงศักดิ์ ดังนั้นพระสวามีฮ่องเต้หญิงจะต้องได้รับการอบรมอย่างดีมาแต่เล็กจึงจะได้”

วาจานี้แทบจะบอกชัดเจนว่า ฟู่หลินไม่ผ่านเกณฑ์

เซียวหวงนึกปวดหัว เดิมเสด็จพ่อนางไม่ได้รู้สึกไม่ดีต่อฟู่หลินมากนัก ตอนนี้นางกลับมองออกว่าเขารู้สึกไม่ดีต่อฟู่หลิน

เซียวหวงไม่เข้าใจว่าเกิดปัญหาอันใดขึ้น แต่นางไม่ได้โต้แย้งเสด็จพ่อ เอ่ยเพียงว่า “เสด็จพ่อ หม่อมฉันอยากเลือกคนที่รักหม่อมฉัน แต่ดูท่าทาง พวกเขาคล้ายกลัวหม่อมฉัน ไม่ได้ชอบหม่อมฉันเพคะ”

พอเซียวหวงเอ่ยเช่นนี้ เซียวเหวินอวี๋ก็มีสีหน้าไม่ดีนัก มองไปยังพวกวังโส่วฝู่จนพวกเขาขนลุกหวาดกลัว

สุดท้ายวังโส่วฝู่ยืนขึ้นทูลนอบน้อมว่า “รัชทายาททรงคิดมากไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ บุตรชายตระกูลของพวกกระหม่อมไม่ได้หวาดกลัวรัชทายาท พวกเขาเพียงแค่ให้ความเคารพยำเกรงต่อรัชทายาท ในฐานะรัชทายาทแคว้นต้าโจวรัชทายาท ความสามารถยอดเยี่ยม รูปโฉมงามล้ำเลิศ ก็ควรได้รับความเคารพ พระสวามีฮ่องเต้หญิงจะต้องให้ความเคารพต่อรัชทายาทจึงจะถูกต้อง”

วังโส่วฝู่กล่าวจบ ใต้เท้าฟางรองโส่วฝู่ก็รีบเอ่ยรับคำตาม พยักหน้าแสดงอาการเห็นด้วย

ตระกูลพวกเขาเหล่านี้ล้วนพาคุณชายตระกูลตนเข้าวังมาร่วมการคัดเลือก แม้ว่าบุตรชายไม่ยินดีแต่งกับรัชทายาท แต่พวกเขากลับยินดี ไม่ว่าอย่างไรการได้เป็นพระสวามีฮ่องเต้หญิง ย่อมต้องนำพาวงศ์ตระกูลให้เจริญก้าวหน้าขึ้นไปได้เป็นแน่

เพียงแต่น่าเสียดาย เซียวหวงไม่รับน้ำใจพวกเขา แค่นยิ้มเอ่ยขึ้นว่า “เหอะ เคารพหรือ น่าเสียดายเราไม่ต้องการความเคารพ เราต้องการเพียงคนที่รักเรา แน่นอนว่าอันดับแรกคนผู้นี้ต้องไม่กลัวเราก่อน”

ใต้เท้าวังโส่วฝู่ ใต้เท้าฟางรองโส่วฝู่ต่างมีสีหน้าไม่ดีนัก อยากจะบอกว่าเจ้าสังหารคนน้อยหน่อย ก็ไม่มีคนหวาดกลัวเจ้าแล้ว เจ้าเอาแต่เพียงแค่พูดจาขัดหูก็สังหารพวกเขาทั้งตระกูล จะไม่ให้พวกเขากลัวเจ้าได้อย่างไร เป็นไปได้หรือ พวกเราเองก็ยังกลัวเจ้า

เซียวเหวินอวี๋มองไปรอบๆ สุดท้ายแววตาไปตกที่คุณชายท่านหนึ่ง “เรารู้สึกว่าคุณชายตระกูลวังไม่เลว”

วังโส่วฝู่มีสีหน้ายินดี เซียวหวงกลับวิจารณ์ด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “หน้าตาอัปลักษณ์ เราเห็นแล้วกินข้าวไม่ลง”

ตระกูลวังหน้าเหม็นทั้งตระกูล

เซียวเหวินอวี๋มองไปยังคุณชายใต้เท้าฟางรองโส่วฝู่อีกคน ครั้งนี้ไม่รอให้เซียวเหวินอวี๋เอ่ย เซียวหวงก็เอ่ยขึ้นก่อนว่า “ดูอ้อนแอ้นดังอิสตรีเกินไป ไม่มีกลิ่นอายแห่งชายชาตรี”

เซียวเหวินอวี๋มองไปยังคุณชายจวนอู่กั๋วกง “เขาเหมือนโตแต่แขนขา สมองไม่โต ดูแล้วสมองไม่น่าจะดี”

เซียวเหวินอวี๋มองไปยังคุณชายจวนหย่งหนิงโหว คนนี้ก็ไม่เลว

เซียวหวงก็เอ่ยอีกว่า “คุณชายจ้าวค่ำนี้ถลึงตาจ้องใส่เราทั้งหมดห้าครั้ง เรากลัวว่าแต่งกับเขาแล้ว วันหน้าเขาจะเอาแต่ถลึงตาจ้องเราทั้งวัน”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version