ตอนที่ 449 กลับไปฉลองปีใหม่ที่หมู่บ้าน
ลู่เจียวพาเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ออกไปเดินซื้อของ ส่วนใหญ่ก็จะซื้อขนมให้ชาวบ้านในหมู่บ้านตระกูลเซี่ย และยังมีของขวัญมอบให้ทุกบ้าน
ของขวัญปีใหม่ที่ตระกูลจ้าว ตระกูลหัน ตระกูลหู ตระกูลเถียน ส่งมอบมาค่อนข้างมีราคา ลู่เจียวเองก็ซื้อของมีราคาใกล้เคียงกันคืนกลับไป
ต้องมอบของขวัญปีใหม่กลับคืนแด่บรรดาพ่อค้า และยังต้องมอบให้เพื่อนบ้านเพื่อแสดงน้ำใจอีกด้วย
นอกจากลู่เจียวจะเตรียมของขวัญให้ชาวบ้านในหมู่บ้านตระกูลเซี่ยแล้ว ยังเตรียมให้ครอบครัว เซี่ยอวิ๋นจิ่นอีกด้วย แต่นางเตรียมเหมือนกับที่มอบให้ชาวบ้านในหมู่บ้านตระกูลเซี่ย ทุกครอบครัวได้ของขวัญสี่อย่าง ให้เสื้อผ้าเซี่ยเหล่าเกินเพิ่มอีกสองชุด ถึงตอนนั้นก็เพิ่มให้อีกสิบตำลึง ของขวัญปีใหม่นี้ก็นับว่าไม่เลวอย่างมากแล้ว
แต่ที่มอบให้เซี่ยเอ้อร์จู้ เห็นได้ชัดว่ามากกว่ามาก นอกจากของสี่อย่างที่เหมือนกับชาวบ้านในหมู่บ้านแล้ว ยังมีเสื้อผ้าให้ครอบครัวเซี่ยเอ้อร์จู้คนละชุด มอบกำไลเงินให้พี่สะใภ้รองและลูกสาวสองคนของเขาคนละวง เพิ่มผ้าให้อีกสองสามพับ พร้อมเงินอีกสิบตำลึง
นอกจากคนตระกูลเซี่ยและคนหมู่บ้านตระกูลเซี่ย ลู่เจียวยังเตรียมของขวัญให้บ้านตระกูลลู่ด้วย ของขวัญที่นางเตรียมมอบให้เถียนซื่อนั้นเรียกได้ว่าอลังการที่สุด
ไม่เพียงแต่ซื้อของกินและเครื่องแต่งกาย ลู่เจียวยังบรรจงเลือกกำไลทองคำแกะลวดลายเถาบุปผามอบให้เถียนซื่อ แค่ลองคะเนน้ำหนักก็หนักไม่น้อย
นอกจากซื้อของกินและเครื่องแต่งกายพร้อมกำไลทองคำแล้ว นางยังเตรียมมอบเงินสามสิบตำลึงให้เถียนซื่อ
ส่วนคนบ้านตระกูลลู่ก็ซื้อของที่เหมาะสมให้ แต่เทียบกับเถียนซื่อก็ถือว่าน้อยกว่ามาก
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่เลือกซื้อของเล่นให้เพื่อนๆ ในหมู่บ้านทุกคน เป็นของเล่นที่เด็กๆ ในหมู่บ้านไม่เคยเห็น อย่างเช่น ตุ๊กตาดินปั้น ตุ๊กตาล้มลุก น้ำตาลปั้น ตุ๊กตาดินเผา เป็นต้น
สรุปก็คือทั้งครอบครัวออกไปรอบเดียวก็ซื้อของขวัญกลับมาหลายคันรถ
จากนั้นลู่เจียวก็อยู่แต่บ้านจัดการของขวัญที่เตรียมมอบให้ชาวบ้านในหมู่บ้านตระกูลเซี่ย แต่ละครอบครัวนอกจากของหวานกับลูกอมแล้ว ยังเพิ่มเติมน้ำมันครึ่งชั่งและสบู่หอมสองก้อน
ของขวัญสี่อย่าง น้ำมันกับสบู่หอมเป็นของที่หายาก แม้ว่าสามโรงผลิตอยู่ในอำเภอชิงเหอ แต่คนอำเภอชิงเหอคิดจะซื้อของสองอย่างนี้ก็ยังหาซื้อไม่ง่าย
น้ำมันกับสบู่หอมเป็นสินค้าหายาก ผลิตออกมาก็จะถูกพ่อค้าจากที่ต่างๆ พากันมาแย่งซื้อไปจนไม่พอแบ่งขาย อย่าว่าแต่คนอำเภอชิงเหอ บางครั้งจ้าวหลิงเฟิงคิดมอบเป็นของขวัญก็ยังไม่มีเหลือ
ส่วนลู่เจียวที่มอบน้ำมันกับสบู่หอมให้ชาวบ้านในหมู่บ้านครั้งนี้ได้ เพราะนางได้แอบบอกเฉิงเสียงให้เก็บไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
ดังนั้นการมอบของขวัญสี่อย่างนี้ถือได้ว่าหรูหราอลังการอย่างที่สุด
สำหรับคนในตระกูลเซี่ย นอกจากของขวัญเซี่ยเหล่าเกินกับเซี่ยเอ้อร์จู้มากหน่อย คนอื่นก็ไม่ต่างกับชาวบ้านในหมู่บ้านเท่าไร
วันที่ยี่สิบ เดือนสิบสอง สำนักศึกษาอำเภอชิงเหอปิดทำการ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวจัดการเรื่องในอำเภอเรียบร้อยแล้ว ก็พาเจ้าหนูน้อยทั้งสี่กลับไปฉลองปีใหม่ที่หมู่บ้านตระกูลเซี่ยอย่างมีความสุข
เพราะครั้งนี้ซื้อของมากเกินไป รถม้าสองคันขนไปไม่หมด สุดท้ายจึงได้ว่าจ้างรถม้าอีกสองคันจึงพอจะขนของไปให้ชาวบ้านในหมู่บ้านตระกูลเซี่ยได้หมด
ในการนี้ยังมีของบางอย่างที่ลู่เจียวเก็บเข้าไปในห้วงอากาศแล้ว แน่นอนว่านางไม่อาจเอาเข้าไปเก็บมากเกินไป เพราะกลัวเซี่ยอวิ๋นจิ่นจะสังเกตเห็น
“ท่านพ่อ ท่านแม่ พวกเราใกล้จะถึงบ้านแล้วใช่หรือไม่”
“โอย ข้าจะได้พบพวกพี่เสี่ยวเป่าแล้ว”
“ยังมีพี่มู่โถวกับพี่โก่วเซิ่ง ไม่รู้ว่าพวกเขาคิดถึงพวกเราไหม”
แม้ว่าเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ไม่ค่อยมีความทรงจำที่ดีในหมู่บ้านสักเท่าไร แต่ที่นั่นคือรากฐานของพวกเขา ก้าวออกมาแล้ว ยามกลับไปย่อมตื่นเต้น เมื่อวานตอนค่ำได้รู้ว่าวันนี้จะได้กลับหมู่บ้าน เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็ตื่นเต้นจนเลยเที่ยงคืนแล้วยังนอนไม่หลับ
ลู่เจียวมองลูกๆ อย่างนึกขำ “พวกเขาย่อมคิดถึงพวกเจ้าแล้ว”
เอ้อร์เป่าหันไปมองลู่เจียวทันที “ท่านแม่ พวกเรากลับไปก็จะได้ไปเล่นกับพี่เสี่ยวเป่าและพี่มู่โถวแล้วหรือ”
“ได้สิ ออกไปเล่นก็ต้องใส่ใจความปลอดภัยด้วยนะ”
ตอนนี้ลู่เจียวไม่เป็นห่วงเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ ประการแรก พวกเขาตัวสูงและอ้วนท้วน ประการที่สอง ฝึกวิชากับหลี่หนานเทียน เคลื่อนไหวคล่องแคล่วกว่าเมื่อก่อนมาก ตอนนี้เด็กทั่วไปคิดรังแกพวกเขา ก็ไม่อาจทำได้แล้ว
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่รีบแย่งกันเอ่ยว่าจะไปหาใครบ้างอย่างดีใจ
ลู่เจียวในรถยิ้มมองพวกเขา จากนั้นก็มองไปยังเซี่ยอวิ๋นจิ่น
เทียบกับความดีใจของเจ้าหนูน้อยทั้งสี่แล้ว สีหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับเย็นเยียบไม่น้อย ลู่เจียวมองดูก็รู้ว่าเขาไม่ได้รู้สึกดีอันใดกับหมู่บ้านตระกูลเซี่ย นางเดาว่า หากไม่ใช่เซี่ยเอ้อร์จู้อยู่หมู่บ้านตระกูลเซี่ย และมีคำว่ากตัญญูค้ำคอเซี่ยอวิ๋นจิ่น เขาน่าจะไม่กลับมาฉลองปีใหม่ที่หมู่บ้านตระกูลเซี่ย
ลู่เจียวแอบยื่นมือออกไปดึงมือเซี่ยอวิ๋นจิ่นมากุมไว้
เซี่ยอวิ๋นจิ่นหันไปมองนาง คิดถึงว่าตอนนี้ภรรยาคนงามและลูกๆ อยู่ข้างกายเขา เขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว แต่เป็นทั้งครอบครัว และยังเป็นทั้งครอบครัวที่รักใคร่กลมเกลียวว เขาพลันหัวเราะขึ้นมา ความมืดดำในแววตามลายหายไปสิ้น รอยยิ้มบนริมฝีปากเผยรัศมีงดงามแผ่ปกคลุมรอบกายเขา
ตอนนี้จิตใจเขามีความอบอุ่นและบริสุทธิ์ผ่องใสมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ได้เย็นเยียบไร้ความรู้สึกเหมือนเมื่อก่อน
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่หันหน้าไปเห็นท่านพ่อกับท่านแม่กุมมือกัน ทั้งสองคนยังอมยิ้มส่งสายตาให้กัน
รอยยิ้มบนใบหน้าเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็ยิ้มกว้างขึ้นมาทันที ต้าเป่าเลิกคิ้วครุ่นคิดขึ้นมาทันทีเช่นกัน รอให้ผ่านปีใหม่นี้ไป ตอนไปบ้านท่านยาย เขาจะต้องบอกท่านยายว่าท่านพ่อกับท่านแม่นอนด้วยกันแล้ว พวกเขาทั้งสองคนตอนนี้ดีกันแล้ว
รถม้าสี่คันวิ่งทะยานรวดเร็วเข้าหมู่บ้านตระกูลเซี่ย
หมู่บ้านตระกูลเซี่ยคึกคักกันขึ้นมาในบัดดล คนไม่น้อยพากันบอกต่อๆ กันไป เสียงตะโกนอย่างยินดีดังขึ้นไปทั่ว
“อวิ๋นจิ่นกับภรรยาอวิ๋นจิ่นกลับมาแล้ว”
“สวรรค์ พวกอวิ๋นจิ่นกลับมาแล้ว รีบไปดูกัน”
“อวิ๋นจิ่นร้ายกาจ ภรรยาเขาก็ร้ายกาจ ไม่เพียงแต่เปิดสามโรงผลิต ได้ยินว่าตอนนี้นางยังเป็นรองประธานสมาคมการค้าชิงเหออีกด้วย”
“เจ้ารู้ไหมว่าตำแหน่งรองประธานสมาคมใหญ่ขนาดไหน ร้ายกาจราวกับขุนนางใหญ่”
รถม้าสี่คันเพิ่งเข้ามาในหมู่บ้าน หน้าประตูบ้านตระกูลเซี่ยทางตะวันออกสุดของหมู่บ้านก็มีชาวบ้านในหมู่บ้านมาออกัน แต่ละคนมองดูทั้งครอบครัวลงจากรถ
ทั้งครอบครัวแต่งกายด้วยเสื้อผ้าแพรงาม ไม่ได้มีสภาพป่วยไข้ดังเช่นเมื่อก่อนอีกแล้ว เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ไม่เพียงแต่ตัวสูง แต่ยังขาวผ่องราวกับเด็กน้อยในภาพวาด
ทั้งครอบครัวยืนอยู่นอกรถม้าด้านบน ก็ราวกับชนชั้นสูงที่มองลงมาเบื้องล่าง
ชาวบ้านในหมู่บ้านพากันมองอย่างตกตะลึง สุดท้ายเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวก็ส่งเสียงทักทายขัดความคิดของพวกเขาขึ้น
“ผู้ใหญ่บ้าน ฮูหยินผู้เฒ่ารอง ป้ากุ้ยฮวา ทุกคนสบายดีหรือ”
เซี่ยฟู่กุ้ยกับฮูหยินผู้เฒ่ารองและพวกป้ากุ้ยฮวาได้สติคืนมา มองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวอีกครั้ง แม้ว่าเสื้อผ้าหรูหรา แต่ท่าทางการพูดจาก็ยังคงอ่อนโยนเหมือนเมื่อก่อน โดยเฉพาะอวิ๋นจิ่น ครั้งนี้ดูแล้วอ่อนโยนและดูน่าคบหายิ่งกว่าเมื่อก่อน เมื่อก่อนเห็นเจ้าหมอนี้ทีไร ก็เอาแต่ทำหน้าตาเย็นชาเหมือนไม่อยากสนทนากับผู้อื่น
ตอนนี้มาดูอีกครั้ง กลับมีความอ่อนโยนและมีมารยาทอยู่มาก ใบหน้ายังเผยรอยยิ้มงามราวกับคนในม้วนภาพวาด
เซี่ยฟู่กุ้ย ฮูหยินผู้เฒ่ารองและป้ากุ้ยฮวาต่างรับคำอย่างตื่นเต้นดีใจว่า “ดี ดีมาก”
เซี่ยเอ้อร์จู้นำพี่สะใภ้รองกับเซี่ยต้ายาและเซี่ยเอ้อร์ยาเบียดฝ่าฝูงชนเข้ามา
เซี่ยเอ้อร์จู้เห็นครอบครัวเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับพวกเซี่ยฟู่กุ้ยก็อึ้งไปทันที
ครอบครัวน้องสามมองดูแล้วช่างแตกต่างจากพวกเขาที่เปื้อนดินฝุ่นโคลนอย่างมาก ครอบครัวพวกเขาประดุจชนชั้นสูงที่อยู่เหนือขึ้นไป
เซี่ยเอ้อร์จู้รู้สึกสับสนในใจขึ้นมาทันที เซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับยิ้มเอ่ยทักอย่างอ่อนโยนว่า “พี่รอง พี่สะใภ้รอง พวกพี่กลับมาแล้ว”
เซี่ยเอ้อร์จู้เห็นเขาเผยรอยยิ้มสนิทสนม ก็พุ่งเข้าไปกอดเซี่ยอวิ๋นจิ่นพร้อมกับลูบแผ่นหลังเขา “กลับมาแล้ว กลับมาก็ดี กลับมาก็ดี”
