Skip to content
Home » Blog » ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 539

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 539

ตอนที่ 539 หลิงตังคือนางหรือ

ฮูหยินซิ่งอันโหวชี้ไปทางยายเฒ่าชิวกล่าวว่า “เจียวเจียว ข้าพาหมิงอวี้กลับไปจวนโหวสักครั้งได้หรือไม่ ท่านโหวแก้ปมในใจไม่ออก หากหมิงอวี้ไปเกลี้ยกล่อมเขา ไม่แน่เขาอาจจะคลายปมในใจลงได้”

กอปรกับการปรากฏตัวของหลานชาย ไม่แน่ว่าท่านโหวอาจคลายปมในใจลงได้

ฮูหยินซิ่งอันโหวยิ่งคิดก็ยิ่งดีใจ สีหน้าเต็มไปด้วยแววยินดี

ลู่เจียวย่อมเห็นด้วย รีบสั่งการยายเฒ่าชิว “เจ้าตามฮูหยินท่านโหวกลับไปจวนโหวสักครั้ง”

“เจ้าค่ะ เหนียงจื่อ”

ยายเฒ่าชิวตามฮูหยินซิ่งอันโหวไปจวนซิ่งอันโหว ท่านโหวเห็นนางก็ดีใจมากดังคาด พอเขารู้ว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็คือบุตรชายพี่สาวเขา ในใจก็ดีใจอย่างที่สุด จิตใจประปรี้ประเปร่ากว่าเมื่อก่อนมาก ไม่ใช่ดีขึ้นแค่เล็กน้อย

ตอนยายเฒ่าชิวบอกกับเขาว่า คุณหนูไม่คิดให้เขาทำร้ายตนเองเช่นนี้ หากนางในปรภพได้รู้ ย่อมต้องตายตาไม่หลับเป็นแน่ ในปีนั้นคุณหนูทุ่มเทจิตใจปกป้องท่านโหวจนเติบโหญ่ นางต้องการเพียงให้ท่านโหวมีชีวิตที่ดี ไม่ใช่ให้ท่านโหวตำหนิตนเอง

วาจายายเฒ่าชิวกล่าวจนท่านโหวร่ำไห้เจ็บปวด เขานึกถึงพี่สาวตนเองขึ้นมา ความรักที่มีต่อเขาอย่างไร้ความเห็นแก่ตน ใช่แล้ว พี่สาวไม่อยากเห็นเขาทำร้ายตนเอง หากนางรู้ย่อมต้องผิดหวังเป็นแน่

หากเขาตายไปเช่นนี้ ไปสู่ปรภพก็คงไม่มีหน้าไปพบนาง อีกอย่างตอนนี้หลานชายเป็นแค่จวี่เหริน เขาต้องมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อช่วยเขา เมื่อก่อนพี่สาวรักเขาเช่นไร วันนี้ถึงคราที่เขาจะได้ทำหน้าที่น้าชายรักหลานชายผู้นี้แล้ว

ท่านโหวราวกลับคิดตกในทันที สีหน้าก็พลันไม่เหมือนดังเดิม

ฮูหยินซิ่งอันโหวดีใจอย่างที่สุด หลายปีมานี้ ในที่สุดท่านโหวแก้ปมในใจลงได้แล้ว ช่างไม่ง่ายเลยจริงๆ

ตกค่ำ ยายเฒ่าชิวก็กลับไปตระกูลเซี่ย รายงานเรื่องนี้ต่อลู่เจียวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่น ทั้งสองคนเองก็ดีใจมาก น้าชายแก้ปมในใจลงได้ เป็นเรื่องดีมาก

“นี่คือตั๋วแลกเงิน หนึ่งหมื่นตำลึงที่ท่านโหวกับฮูหยินให้ข้านำกลับมา พวกเขาว่าเมืองหลวงมีเรื่องให้ต้องใช้เงินมาก ให้คุณชายกับเหนียงจื่ออย่าได้ประหยัด”

ลู่เจียวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นแทบอยากจะร้องไห้ มองยายเฒ่าชิวกล่าวว่า “เจ้าไม่ได้บอกท่านโหวกับฮูหยินหรือว่าพวกเราไม่ขาดแคลนเงินทอง”

“เดิมบ่าวคิดบอก ปรากฏฮูหยินเอาแต่ส่งสายตาบอกให้บ่าวนำกลับมา ตอนนี้ท่านโหวเพิ่งจะคลายปมในใจลง คิดชดใช้ให้คุณชาย หากบ่าวไม่รับ ท่านโหวต้องเสียใจเป็นแน่ ดังนั้นบ่าวจึงได้แต่นำกลับมา”

ลู่เจียวรับตั๋วแลกเงินหมื่นตำลึงจากมือยายเฒ่าชิว หันหน้าไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “ตอนนี้ทำเช่นไรดี”

“ในเมื่อพวกเขามอบให้แล้วก็เก็บไว้เถอะ วันหน้าคงมีโอกาสได้ตอบแทน”

ลู่เจียวพยักหน้า ในความคิดนางตัดสินใจได้เรื่องหนึ่ง พรุ่งนี้จะปรุงยาเม็ดบำรุงให้ท่านน้า เติมน้ำพุจิตวิญญาณในยาเม็ดด้วย เช่นนี้ก็จะช่วยฟื้นฟูสมรรถนะร่างกายของท่านน้าได้

“ตกลง”

เพราะท่านโหวคลายปมในใจแล้ว เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็อารมณ์ดีแล้ว อาหารเย็นจึงกินข้าวมากขึ้นอีกครึ่งชาม

ลู่เจียวเห็นเขาเช่นนี้ก็อารมณ์ดีอย่างยิ่ง

เช้าวันรุ่งขึ้น ลู่เจียวกินข้าวเช้าเสร็จก็เริ่มปรุงยา ใช้สมุนไพรในห้วงอากาศผลิต ‘ยาเม็ดบำรุงแปดล้ำค่า’ จากนั้นก็สั่งการถงอี้นำยาไปส่งจวนโหว อย่าให้ผู้ใดรู้

ชาติกำเนิดเซี่ยอวิ๋นจิ่นเกี่ยวพันถึงราชวงศ์ ดังนั้นนางไม่อยากให้คนรู้ว่าพวกเขามีสายสัมพันธ์กับจวนโหว

ถงอี้รับคำสั่งออกไป

วันเวลาต่อมาก็มีแต่ความสุขสงบมาก ทุกวันเซี่ยอวิ๋นจิ่นอยู่บ้านทบทวนตำรา ลู่เจียวนอกจากไปฝังเข็มให้ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่แล้วก็ไม่มีงานอันใด จึงเล่านิทานเรื่องไซอิ๋วให้ลูกทั้งสี่ฟัง ปรากฏไม่เพียงแต่เด็กน้อยชอบฟัง แม้แต่นายผู้เฒ่าฉีท่านปู่ฉีเหล่ยเองก็ชอบฟัง นายผู้เฒ่าฉีเพิ่งจะกลับบ้านไปได้สองวัน ก็กลับมาอยู่ตระกูลเซี่ยจนไม่ยอมกลับไปอีก

ลู่เจียวไร้วาจาจะกล่าว แต่ก็ไม่อาจขับไล่ชายชราออกไป

หันถงจัดการการงานของร้านขนส่งสินค้าเหนือใต้เสร็จ ก็คิดจะกลับอำเภอชิงเหอแล้ว

ก่อนกลับ เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ฝากของขวัญที่ซื้อให้เพื่อนๆ ให้เขาช่วยนำกลับไปอำเภอชิงเหอด้วย ยังกำชับว่าชิ้นใดให้ผู้ใดอีกด้วย

หันถงดีใจมากที่เห็นว่ามีของไม่น้อยมอบให้บุตรชายทั้งสองของเขา เขารับรองว่าจะนำของขวัญไปมอบให้เด็กๆ ทุกคนถึงมือ

หันถงไปแล้ว ตระกูลเซี่ยก็เงียบสงบลง ทั้งครอบครัวอยู่ในบ้านกันอย่างสงบ ไม่ค่อยได้ออกไปข้างนอก แม้แต่เพื่อนบ้านโดยรอบก็มิค่อยได้สมาคม ทุกวันนอกจากลู่เจียวไปจวนอู่กั๋วกงแล้ว พวกเขาก็ล้วนไม่ค่อยได้ออกจากบ้าน

อาการท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่รักษามาได้ระยะหนึ่งก็เข้าสู่ภาวะทรงตัว

“วันหน้าขอเพียงท่านหญิงกินยาตามเวลา ไม่จำเป็นต้องฝังเข็มแล้ว”

องค์หญิงใหญ่ได้ฟังคำพูดลู่เจียวก็ดีใจมาก นางเองก็มองออกว่าบุตรสาวนางตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว

แม้ว่ายังคงกอดหมอนเป็นบุตรสาว แต่ไม่ปรากฏอาการคลุ้มคลั่งดังก่อนหน้านี้ เห็นคนก็ไม่คิดกัด บางครั้งนางถึงกับจำนางผู้เป็นมารดาได้

องค์หญิงใหญ่ดีใจอย่างที่สุด

“พรุ่งนี้ข้าจะจัดงานเลี้ยงชมบุปผาในจวนข้า เจ้ามาด้วยก็แล้วกัน”

ลู่เจียวไม่อยากไปร่วมงานเลี้ยงชมบุปผาที่องค์หญิงใหญ่จัด แต่องค์หญิงใหญ่เอ่ยปาก หากนางปฏิเสธก็คงดูเหมือนไม่ให้เกียรติ สุดท้ายได้แต่ตกลง

“ขอบพระทัยองค์หญิงใหญ่”

องค์หญิงใหญ่ยิ้มมองนางกล่าวว่า “ครั้งนี้เจ้ารักษาบุตรสาวข้าหายดี ข้าดีใจมาก งานเลี้ยงพรุ่งนี้จัดเพื่อเจ้า ข้าจะแนะนำเจ้าให้ฮูหยินในเมืองหลวงได้รู้จัก บอกพวกนางว่าวันหน้าอย่าได้หาเรื่องให้เจ้าลำบากใจ”

องค์หญิงใหญ่กล่าวจบก็มีสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย นางคิดถึงท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่ อย่าคิดว่านางไม่รู้ความคิดท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่ นางเพียงแต่เพราะอาการป่วยบุตรสาว จึงไม่ได้สนใจนางมากนัก ตอนนี้อาการบุตรสาวคงที่แล้ว นางก็คงต้องตักเตือนหลันหยางสักหน่อยแล้ว

ลู่เจียวได้ฟังองค์หญิงใหญ่ จึงได้รู้องค์หญิงใหญ่คิดตอบแทนนาง เพราะนางรักษาอาการให้ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่อยู่ในภาวะทรงตัวได้ ดังนั้นนางจึงมอบน้ำใจนี้ให้กับนาง

องค์หญิงใหญ่น่าจะสืบรู้แล้วว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นมาเมืองหลวงเข้าร่วมสอบครั้งนี้ เป็นถึงเจี่ยหยวนเมืองหนิงโจว

ดังนั้นนางแน่ใจว่าหากพวกเขาจะอยู่เมืองหลวงต่อ บัณฑิตยากจนเช่นพวกเขาอยู่เมืองหลวงจะถูกคนรังแกได้ง่าย ดังนั้นนางจึงคิดแสดงให้ผู้อื่นเห็นว่ามีนางให้การสนับสนุนลู่เจียวอยู่

ความจริงลู่เจียวไม่ต้องการ เพราะพวกนางไม่คิดอยู่เมืองหลวงต่อ

แต่วาจานี้นางไม่อาจกล่าวกับองค์หญิงใหญ่ได้ อย่างไรคนเขาก็เจตนาดี

ลู่เจียวได้แต่ขอบคุณองค์หญิงใหญ่ “ขอบพระทัยองค์หญิงใหญ่”

องค์หญิงใหญ่ยิ้มมองลู่เจียว แววตาค่อยๆ รื้นขึ้นมา “หากหลิงตังยังอยู่ ก็คงโตพอๆ กับเจ้า”

องค์หญิงใหญ่ไม่เอ่ยถึงหลิงตังยังดี แต่พอเอ่ยลู่เจียวก็คิดถึงท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ขึ้นมา

ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่รักษามาได้ระยะหนึ่ง ใบหน้าค่อย ๆ มีเนื้อมีหนังขึ้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้ราวกับเปลี่ยนเป็นคนละคน งดงามอย่างมิอาจบรรยายด้วยวาจาใด

ลู่เจียวคิดถึงท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ ในสมองพลันมีภาพบุคคลหนึ่งแวบขึ้นมา คนผู้นั้นเป็น หลี่อวี้เหยาที่นางได้ร่วมสาบานเป็นพี่สาวบุญธรรมในอำเภอชิงเหอ

หลี่อวี้เหยากับท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่หน้าตาละม้ายคล้ายกันอยู่บ้าง หรือว่านางก็คือหลิงตังบุตรสาวท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่

พอความคิดนี้ผุดขึ้นมา ลู่เจียวก็หลุดขำ ไม่ควรแค่ว่าเพราะหน้าตาคล้ายกันก็ว่าพี่หลี่เป็นบุตรสาวที่หายตัวไปของท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่กระมัง

พี่หลี่เป็นบุตรสาวตระกูลหลี่ในอำเภอชิงเหอ นางอยู่อำเภอชิงเหอมานาน แต่ไรมาไม่เคยได้ยินว่าพี่หลี่ไม่ใช่บุตรสาวแท้ๆ ของตระกูลหลี่

ดังนั้นนางห้ามคิดเหลวไหลมากไปอย่างเด็ดขาด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version