Skip to content
Home » Blog » ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 540

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 540

ตอนที่ 540 ให้การสนับสนุน

ขณะลู่เจียวกำลังคิดอยู่ องค์หญิงใหญ่เห็นสีหน้านางแปรเปลี่ยน ก็ถามอย่างห่วงใยว่า “เจ้าเป็นอะไรหรือ”

ลู่เจียวรีบยิ้มกล่าวว่า “นึกเป็นห่วงว่าเรื่องงานเลี้ยงชมบุปผาพรุ่งนี้ กลัวจะทำเรื่องน่าอาย”

องค์หญิงใหญ่ยิ้ม “ไม่เป็นไร ทุกอย่างมีข้าอยู่ ข้าไม่ให้ผู้ใดทำให้เจ้าลำบากใจ”

“ขอบพระทัยองค์หญิงใหญ่”

ลู่เจียวสนทนากับองค์หญิงใหญ่อีกเล็กน้อยก็ขอตัวกลับ

ตกค่ำ นางก็บอกเรื่องที่พรุ่งนี้จะไปร่วมงานเลี้ยงชมบุปผาที่จวนองค์หญิงใหญ่ให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นฟัง

สีหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นชัดว่าไม่ได้การแล้ว แววตาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง

“เจ้าควรปฏิเสธไป”

“องค์หญิงใหญ่เจตนาดี นางคิดว่าพวกเราจะอยู่เมืองหลวงต่อ เป็นห่วงว่าวันหน้าพวกเราจะโดนคนรังแก ดังนั้นจึงคิดให้การสนับสนุนข้า ข้าเองก็เอ่ยถึงแผนการในวันหน้าของพวกเราไม่ออก อย่างไรเจ้าก็ยังไม่ได้สอบเป็นจิ้นซื่อได้ ดังนั้นจึงได้แต่รับปาก”

รับปากก็รับปากไปแล้ว เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้แต่ยอมรับ เขามองลู่เจียวกล่าวว่า “พรุ่งนี้เจ้าต้องพาคนไปเพิ่มอีกสองคน อีกอย่าง เจ้าต้องระวังตัวหน่อย”

“อืม เจ้าวางใจ อย่าได้เป็นห่วง ไม่มีอันใดหรอก”

ทั้งสองคนคุยกันไปก็เอนตัวลงนอนไป เซี่ยอวิ๋นจิ่นยื่นมือไปโอบกอดลู่เจียว กล่าวเบาๆ ว่า “เจียวเจียว เจ้าจะต้องป้องกันตนเองให้ดี ข้ากับลูกๆ ไม่อาจขาดเจ้า”

“อืม ข้าจะป้องกันตนเองให้ดี เจ้าอย่าได้เป็นห่วง ตอนนี้เจ้าทุ่มเททบทวนตำราให้เต็มที่เพื่อเข้าร่วมการสอบในเดือนสองก็พอ ข้าจะรอเจ้านำตำแหน่งฮูหยินมาให้ข้า”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นแนบกายลงจุมพิตข้างแก้มลู่เจียว

“เจ้าจะได้สมดังหวัง”

ทั้งสองคนคุยกันได้ครู่หนึ่งก็หลับไป วันรุ่งขึ้นเจ้าหนูน้อยทั้งสี่รู้ว่าลู่เจียวจะไปร่วมงานเลี้ยงชมบุปผาที่จวนองค์หญิงใหญ่ ทุกคนพากันเป็นห่วงขึ้นมา แสดงท่าทีว่าจะตามลู่เจียวไปด้วย

ลู่เจียวมองพวกเขาด้วยสีหน้าแทบอยากจะร้องไห้ “นี่เป็นงานเลี้ยงชมบุปผาของสตรี พวกเจ้าไปทำอันใด วางใจเถอะ แม่ไม่เป็นอันใดหรอก พี่หร่วนจู๋ก็ตามแม่ไปด้วย”

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่สบตากันแล้วก็กำชับลู่เจียวว่า “ท่านแม่ต้องระวังตัวหน่อย หากมีคนรังแกท่าน ท่านก็ให้พี่หร่วนจู๋โต้กลับไป”

ต้าเป่าหันไปมองเฝิงจือในห้องโถง กล่าวว่า “พี่เฝิงจือต้องคอยตามท่านแม่ข้า อย่าให้คนรังแกนางได้”

“เจ้าค่ะ คุณชายใหญ่วางใจได้”

เอ้อร์เป่าชูกำปั้นไปมา “ข้าจะฝึกยุทธ์ให้ดี ไว้โตอีกหน่อยก็จะปกป้องท่านแม่ข้าได้แล้ว”

ซานเป่ากับซื่อเป่าก็รับคำ “ใช่ พวกเราไม่เพียงแต่จะฝึกยุทธ์ แต่ยังจะกินให้มาก เช่นนี้ก็จะยิ่งโตเร็ว จากนั้นก็จะปกป้องท่านแม่ได้แล้ว”

ลู่เจียวมองเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ ในใจรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

แต่เห็นว่าสายแล้ว นางรีบกลับห้องไปเตรียมตัวพาเฝิงจือ หร่วนจู๋ ถงอี้กับโจวเส้ากงไปจวนองค์หญิงใหญ่

แม้ว่าถงอี้กับโจวเส้ากงเข้าไปในจวนองค์หญิงใหญ่ไม่ได้ แต่ก็เฝ้าอยู่นอกจวน หากได้ยินเสียงเคลื่อนไหวด้านในก็เข้าไปคุ้มกันเหนียงจื่อได้ในทันที

งานเลี้ยงชมบุปผาจวนองค์หญิงใหญ่ไม่ได้เชิญคนมามากนัก เชิญเพียงแค่ฮูหยินขุนนางคนสำคัญ ท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่เองก็มา นอกจากท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่ ฮูหยินซิ่งอันโหว ฮูหยินขุนพลหวังก็มากันครบ

ลู่เจียวเห็นฮูหยินซิ่งอันโหวกับฮูหยินขุนพลหวังก็ดีใจมาก สามคนเดินมาร่วมวงสนทนากัน

ลู่เจียวหน้าตางามโดดเด่น กิริยาท่าทางก็ดูดีไม่แพ้ฮูหยินชนชั้นสูงศักดิ์เมืองหลวง ดังนั้นหลายคนต่างพากับซักถามว่าเป็นท่านผู้สูงศักดิ์จากที่ใดกัน

ท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่เอ่ยดูแคลนสถานะนางขึ้นมาทันที ฮูหยินชนชั้นสูงศักดิ์ได้ยินว่านางเป็นเพียงแค่ภรรยาจวี่เหรินเล็กๆ ก็ไม่ได้สนใจจะคบหาสมาคมด้วย แต่ละคนไปร่วมวงสนทนากันเอง

ลู่เจียวเองก็ไม่ได้สนใจท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่กับฮูหยินเหล่านั้น

วันนี้นางมาร่วมงานเลี้ยงชมบุปผาจวนองค์หญิงใหญ่เป็นพิธีเท่านั้น ไม่ได้คิดจะสมาคมกับผู้ใด

“เจียวเจียว เจ้าไม่ต้องไปสนใจท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่ผู้นั้น นางสมองเลอะเลือน ตอนนี้หลิวโส่วฝู่กำลังอยู่ในสภาวะราวกับน้ำมันเดือด แต่นางผู้เป็นภรรยากลับไม่รู้ตัวแม้สักนิด”

ฮูหยินซิ่งอันโหวส่งสายตาจ้องใส่ท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่อย่างไม่พอใจ ตอนนี้นางเห็นลู่เจียวเป็นดังหลานสะใภ้ ดังนั้นจึงโมโหพฤติกรรมท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่อย่างมาก

ลู่เจียวยิ้มบางพลางส่ายหน้า “ข้าไม่สนใจนาง นางอยากพูดอันใดก็พูดไป”

ขุนพลหวังฮูหยินยิ้มดึงมือลู่เจียวมากล่าวว่า “พวกเราไปคุยทางนั้นกัน อย่าไปสนใจพวกนาง”

“ได้”

สามคนจะเดินไปที่มุมหนึ่ง ไม่คิดว่าเพิ่งจะเดินไปสองสามก้าว ก็ได้ยินคนด้านหลังกล่าวว่า “นั่นไม่ใช่คุณหนูใหญ่จวนเฉิงเต๋อโหวหรือ ได้ยินว่านางล้มป่วยจนเสียโฉม”

“มิน่าจึงถอนหมั้นหมายกับจวนอ๋องฉิน”

“วันหน้านางจะแต่งกับคนเช่นไร ใบหน้าเสียโฉมไปแล้ว อายุก็ขนาดนี้แล้ว”

“อย่างไรตระกูลชนชั้นสูงศักดิ์เมืองหลวงย่อมไม่ยอมแต่งสะใภ้เช่นนี้ ดูท่านางคงได้แต่ลดตัวแต่งแล้ว”

ลู่เจียวได้ยินก็หันไปมองด้วยสัญชาตญาณ นอกประตูมีคนเดินเข้ามา คนที่เดินนำมาเป็นฮูหยินที่ดูมีบารมีท่านหนึ่ง ข้างกายนางมีหญิงปิดผ้าแพรปิดบังใบหน้าตามมาด้วยนางหนึ่ง สตรีผู้นั้นมีสีหน้าปกติ ไม่ได้รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจหรือโมโหเพราะวาจาผู้อื่น

หญิงผู้นี้ก็คือคุณหนูใหญ่หลินหรูเยว่แห่งจวนเฉิงเต๋อโหว

ลู่เจียวเห็นนางก็ไม่รู้สึกยินดีอย่างยิ่ง แต่ก็มิได้กล่าวอันใด หันหน้าไปสนทนากับฮูหยินซิ่งอันโหวและขุนพลหวังฮูหยินพลางเดินไปต่อ

ตอนใกล้เที่ยง องค์หญิงใหญ่ก็มา พอนางมาก็กวักมือเรียกลู่เจียวเข้าไปหา

คนในที่นั้นไม่น้อยพากันมองมาที่ลู่เจียว ลู่เจียวเดินมาตรงหน้าองค์หญิงใหญ่ด้วยอาการสงบนิ่ง เส้นทางที่นางเดินผ่าน ล้วนมีคนส่งเสียงซุบซิบกันไม่น้อย

“หญิงผู้นี้เกี่ยวข้องอันใดกับองค์หญิงใหญ่”

“ไม่ใช่บอกว่านางเป็นแค่ภรรยาจวี่เหรินหรือ เหตุใดจึงสานสัมพันธ์ถึงองค์หญิงใหญ่ได้”

“ย่อมต้องประจบสอพลอ”

ทุกคนพูดจาประดามี สีหน้าลู่เจียวยังคงนิ่งไม่เปลี่ยนแปลง เดินไปตรงหน้าองค์หญิงใหญ่ พอนางเดินไปถึงหน้าองค์หญิงใหญ่ องค์หญิงใหญ่ก็ยื่นมือมาคว้ามือนางมาด้วยท่าทางสนิทสนม บอกให้นางนั่งข้างกายตน

พอลู่เจียวนั่งลงแล้ว องค์หญิงใหญ่ก็ยิ้มมองบรรดาฮูหยินในที่นั้น กล่าวว่า “วันนี้ข้าจัดงานเลี้ยงชมบุปผานี้ก็เพื่อเจียวเจียว นางมาเมืองหลวงครั้งแรก หวังว่าทุกท่านวันหน้าอย่าได้ทำให้นางลำบากใจ หากทำให้นางลำบากใจ ข้าก็จะไม่ยินดีอย่างยิ่ง”

องค์หญิงใหญ่กล่าวจบ ก็มองไปยังท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่ด้วยสีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม

ท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่สะดุ้งในใจทันที แม้นางหยิ่งในสถานะตนเองจนดูแคลนผู้อื่น แต่กับบุตรีไทเฮาผู้นี้ นางไม่กล้าล่วงเกิน เมื่อก่อนองค์หญิงใหญ่ล้วนเป็นคนตัดสินใจเรื่องของไทเฮา

ท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่เดิมคิดอาศัยมือองค์หญิงใหญ่จัดการลู่เจียว คิดไม่ถึงว่าลู่เจียวกลับทำให้องค์หญิงใหญ่พอใจ องค์หญิงใหญ่ยังจัดงานเลี้ยงชมบุปผาเพื่อแนะนำนางให้ฮูหยินชนชั้นสูงศักดิ์ในเมืองหลวงได้รู้จัก

คนในที่นั้นไม่น้อยต่างกล่าวว่า “องค์หญิงใหญ่เอ่ยแล้ว พวกหม่อมฉันย่อมต้องฟังรับสั่งองค์หญิงใหญ่ ทรงวางใจได้ วันหน้าพวกหม่อมฉันจะไม่ทำให้ลู่เหนียงจื่อลำบากใจอย่างเด็ดขาด”

คนเหล่านี้ปากเอ่ยเช่นนี้ แต่ในใจแอบบ่นว่าอยู่ดีๆ องค์หญิงใหญ่ออกหน้าเพื่อหญิงผู้นี้ทำไมกัน ในเรื่องนี้ย่อมต้องมีเรื่องที่ไม่เปิดเผยอันใดซ่อนอยู่ ไว้พวกนางต้องส่งคนไปสืบความสักหน่อย

องค์หญิงใหญ่มองทุกคนในที่นั้นอย่างพึงพอใจ

ท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่กัดฟันกรอด สีหน้าไม่ดีอย่างมาก หลินหรูเยว่ที่อยู่ไม่ไกลนักสังเกตเห็นสีหน้าท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่ ก็รีบกวักมือเรียกให้สาวใช้ไปสืบดูว่า ท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่มีปัญหากับลู่เจียวใช่หรือไม่

สาวใช้รีบไปสืบทันที

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version