ตอนที่ 549 สะใภ้ทุบตีแม่สามี
นายผู้เฒ่าฉีกับฉีเหล่ยได้ยินเสียงเรียกก็รีบวิ่งตรงไปที่กำแพงระหว่างสองบ้าน ถามว่า “พวกเจ้าไปอยู่ข้างบ้านได้อย่างไร”
ทั้งสองคนอาศัยต้นไม้ปีนขึ้นกำแพงคุยกัน
ข้างกำแพง เจ้าหนูน้อยทั้งสี่เงยหน้ามองมาก็เห็นพวกเขาสองคน จึงโบกมือทักทายพวกเขา “ท่านปู่ฉี พี่ฉีเหล่ย”
นายผู้เฒ่าฉีถามอย่างเป็นห่วงว่า “พวกเจ้าไม่เป็นอันใดใช่หรือไม่”
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ส่ายหน้า “ไม่เป็นอันใด”
ฉีเหล่ยปีนข้ามกำแพงไปก่อน จากนั้นก็ดึงท่านปู่ตนข้ามไป
แม้ว่านายผู้เฒ่าฉีอายุมากแล้ว แต่มือไม้ยังคล่องแคล่วว่องไว สองปู่หลานปีนกำแพงข้ามไปข้างบ้าน รวดเร็ว
“เจียวเจียว แท้จริงเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่ บ้านพวกเจ้าอยู่ดีๆ ถูกคนวางเพลิงได้อย่างไรกัน”
นายผู้เฒ่าฉีเอ่ยถามลู่เจียวอย่างเป็นห่วง
ลู่เจียวเดิมไม่คิดเล่าเรื่องเซียวถิงซื่อจื่อจวนอ๋องฉินให้นายผู้เฒ่าฉีกับฉีเหล่ยฟัง
แต่ตอนนี้เกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้แล้ว นางก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังอีก จึงเล่าเรื่องที่ท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่วางอุบายนางให้นายผู้เฒ่าฉีฟัง พวกเขาโมโหเดือดเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันที
“นังอสรพิษนี่ ความคิดชั่วร้ายมาก ไม่ได้การละ เรื่องนี้ไม่อาจปล่อยไปเช่นนี้ ข้าต้องไปถามหลิวโส่วฝู่ สักหน่อย เป็นถึงโส่วฝู่ เหตุใดแม้แต่สตรีก็จัดการไม่ได้”
นายผู้เฒ่าฉีกล่าวจบก็หันหลังจะไป ลู่เจียวรีบเรียกเขาไว้ ปรากฏว่าไม่ทันแล้ว
ฉีเหล่ยกลัวท่านปู่ตนจะก่อเรื่อง จึงรีบไล่ตามเขาไป พร้อมกันหันมาตะโกนบอกลู่เจียว
“อาจารย์ เดี๋ยวพวกเราค่อยมาใหม่”
ลู่เจียวกล่าวว่า “เจ้าไปดึงท่านปู่เจ้ากลับมา”
“ได้”
ตระกูลฉีสองปู่หลานเพิ่งจะไป ฮูหยินขุนพลหวังหลี่ว์หว่านก็พาคนมา ส่วนฮูหยินซิ่งอันโหวพาคนมาถึงก็ถามว่า
“เจียวเจียว เหตุใดจึงมีคนวางเพลิงบ้านพวกเจ้า แท้จริงเกิดเรื่องอันใด”
ลู่เจียวเล่าเรื่องท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่และซื่อจื่อจวนอ๋องฉินโมโหบงการให้คนสังหารพวกนาง
หญิงทั้งสองโมโหตวาดด่าท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่ ด่าจบแต่ละคนก็ควักเงินห้าพันตำลึงเงินออกมามอบให้ลู่เจียว “บ้านพวกเจ้าถูกเผา ตอนนี้กำลังต้องการใช้เงิน เจ้ารับไว้”
ความจริงฮูหยินซิ่งอันโหวเดิมคิดมอบให้มากอีกหน่อย แต่ต้องไว้หน้าฮูหยินขุนพลหวังบ้าง ป้องกัน ฮูหยินขุนพลหวังคิดมาก
ลู่เจียวรีบปฏิเสธพวกนาง ที่บ้านนางไม่ได้ขาดแคลนเงินทองจริงๆ
นางกับจ้าวหลิงเฟิงร่วมมือกันเปิดสามโรงผลิต ทุกวันได้กำไรไม่น้อย ดังนั้นนางไม่ขาดแคลนเงินทองจริงๆ
แต่ฮูหยินซิ่งอันโหวกับฮูหยินขุนพลหวังไม่รู้ จึงพยายามยัดเงินใส่มือนาง
“เจ้าเกรงใจอันใดกับพวกเรา รับไว้ ดูว่าที่บ้านต้องซื้ออะไรเพิ่มเติม รีบไปซื้อหามา”
สตรีสองนางคุยกันไป นอกประตู พ่อบ้านเซียวก็รีบเข้ามารายงานว่า “คุณชาย เหนียงจื่อ หมัวมัวผู้ดูแลจวนองค์หญิงใหญ่กับพ่อบ้านจวนอู่กั๋วกงมา”
ลู่เจียวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นคาดเดาได้ทันที สองตระกูลย่อมต้องได้ยินเรื่องที่พวกเขาประสบมาเมื่อคืน ดังนั้นจึงให้คนมาถามไถ่
“เชิญพวกเขาเข้ามา”
“ขอรับ”
พ่อบ้านเซียวหันหลังเดินไปยังเชิญหมัวมัวผู้ดูแลจวนองค์หญิงใหญ่กับพ่อบ้านจวนอู่กั๋วกงเข้ามา ลู่เจียวรู้จัก เป็นหมัวมัวที่ก่อนหน้านี้ให้การต้อนรับลู่เจียว
“หลันหมัวมัว ท่านมาได้อย่างไร รีบเชิญเข้ามานั่ง”
ลู่เจียวเอ่ยเรียกหลันหมัวมัวให้นั่งลง แล้วก็เอ่ยเรียกพ่อบ้านจวนอู่กั๋วกงให้นั่งลง
ทั้งสองคนนั่งลงได้ครู่หนึ่งก็ลุกขึ้น
“บ่าวรับคำสั่งองค์หญิงใหญ่มาถามไถ่ลู่เหนียงจื่อ ไม่ทราบว่าลู่เหนียงจื่อมีอันใดให้องค์หญิงใหญ่เราช่วยเหลือหรือไม่”
ตอนนี้ลู่เจียวไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่าเรื่องเมื่อคืนวานนี้เป็นฝีมือซื่อจื่อจวนอ๋องฉิน ดังนั้นนางจึงไม่กล่าวอันใด
“ตอนนี้ยังไม่มี หากมี ข้าย่อมขอให้องค์หญิงใหญ่ช่วยเหลือ”
ลู่เจียวเพิ่งกล่าวจบ หลี่ว์หว่านก็กล่าวว่า “เจียวเจียว เรื่องนี้เจ้าควรทูลองค์หญิงใหญ่ให้ออกหน้าให้ความเป็นธรรมถึงจะถูก”
หลี่ว์หว่านกล่าวจบก็ไม่รอให้ลู่เจียวเล่า นางมองไปยังหมัวมัวผู้ดูแลจวนองค์หญิงใหญ่ เล่าว่า “หลันผอผอ ที่บ้านเจียวเจียวโดนวางเพลิงเผา ก็เป็นเรื่องที่เกิดจากการไปงานเลี้ยงในจวนองค์หญิงใหญ่ครั้งก่อน หลันผอผอคงรู้ว่าเจียวเจียวเป็นหมอ นางรักษาคุณชายคนโตจวนหลิวโส่วฝู่หาย ปรากฏล่วงเกินท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่ หญิงผู้นี้เดิมคิดอาศัยมือองค์หญิงใหญ่จัดการเจียวเจียว ปรากฏเจียวเจียวรักษาท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่หาย”
“หญิงผู้นี้แผนแรกไม่สำเร็จ ก็ตามมาด้วยแผนสอง ถึงกับล่อลวงให้ซื่อจื่อจวนอ๋องฉินไปพบกับเจียวเจียว ปรากฏเจียวเจียวไม่สนใจซื่อจื่อจวนอ๋องฉิน ทำให้ซื่อจื่อจวนอ๋องฉินแค้นใจมาก โจรเมื่อคืนวานนี้หากไม่เหนือความคาดหมายก็คือคนที่ซื่อจื่อจวนอ๋องฉินส่งมา”
พอกล่าวจบ ในห้องโถงก็เงียบกริบ นอกประตูมีเสียงตบหน้าดังมา “นังอสรพิษ ข้าจะตบเจ้าให้ตาย”
ทุกคนในห้องหันไปมองที่หน้าประตู พบว่าขั้นบันไดหน้าประตูมีคนยืนกันอยู่หลายคน คนที่นำมาก็คือโส่วฝู่ ข้างกายหลิวโส่วฝู่ก็คือนายผู้เฒ่าฉีที่มีสีหน้าโกรธจัด
ข้างนายผู้เฒ่าฉีกับหลิวโส่วฝู่ก็มีคนตระกูลหลิว ท่านปู่หลิวกับท่านย่าหลิว ยังมีหลิวจื่อเหยียนและท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่
ยามนี้ท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่กุมใบหน้า มองท่านย่าหลิวอย่างแทบไม่อยากจะเชื่อ
นางเป็นถึงบุตรีอ๋องผิงหลิงถึงกับถูกยายแก่บ้านนอกตบ
สวรรค์ นางยังมีหน้าพบผู้คนอีกหรือ
ท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่โมโหเดืดดดาลพุ่งเข้าไปตบท่านย่าหลิว ท่านย่าหลิวร่างผอมเล็ก ถูกท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่ตบไปหลายที แต่ท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่ก็ยังไม่พอใจ จิกผมท่านย่าหลิวกดนางลงกับพื้น ตบต่อเต็มแรงไม่หยุดก็ยังไม่พอใจ บีบคอท่านย่าหลิวต่อ
เดิมทุกคนกำลังอึ้งมอง แต่พอได้สติ แต่ละคนก็เข้าไปดึงท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่
หลิวโส่วฝู่เห็นมารดาตนถูกท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่กดอยู่กับพื้น สภาพน่าอนาถทำเอาหลิวโส่วฝู่ สะเทือนใจขอบตาแดงก่ำ
เขาพุ่งเข้าไปจิกผมท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่ลากตัวออกมา
ท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่รู้สึกเจ็บจึงปล่อยมือ พอนางหันหน้าไปเห็นคนที่จิกผมนางถึงกับเป็นหลิวโส่วฝู่
ท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่โมโหคำรามด่าทอดังลั่น “เจ้ากล้าลงมือกับข้า เจ้ามันตัวอันใด ในปีนั้นหากไม่ใช่ข้า เจ้าจะได้เป็นโส่วฝู่ในวันนี้หรือ เจ้าอาศัยข้า ไม่เช่นนั้นถือสิทธิ์อันใดที่บ้านนอกคอกนาอย่างเจ้าจะได้เป็นโส่วฝู่ในวันนี้”
หลิวโส่วฝู่ถูกคนฉีกหน้าต่อหน้าสาธารณชน ก็มีสีหน้าย่ำแย่อย่างยิ่ง เขาไม่อาจระงับอารมณ์เดือดดาลในใจได้อีกต่อไป ยกมือตบหน้านางอย่างแรงไปทีหนึ่งทันที
จากนั้นก็ไม่รอให้ท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่พูดอันใด เขาก็ยกมือตบตามไปอีกที
ไม่รู้ว่าเพราะเก็บกดมานานหรือว่าระยะนี้เรื่องในราชสำนักไม่ได้ดังใจหลิวโส่วฝู่ผู้นี้ เขาจึงราวกับระบิดถูกจุดชนวนขึ้นมา ไม่ได้มีท่าทางรักทะนุถนอมดังเดิมแม้สักนิด เขายกมือตบท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่อย่างแรงไปหลายทีเสร็จ ยามนี้ผมเผ้านางก็โดนตบจนยุ่งเหยิงไปหมด
ท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่ถูกตบจนสลบไป
ยามนี้หลิวโส่วฝู่จึงได้สติ พอได้สตินึกถึงสิ่งที่ตนได้ทำลงไป ก็รู้สึกเสียหน้ามาก หลิวโส่วฝู่รีบกล่าวอย่างเจ็บปวดว่า “นังชั้นต่ำ เจ้ากล้าตบท่านแม่ข้า สตรีไร้จรรยา ควรถูกตบ”
กล่าวจบเขาก็หันไปมองท่านแม่ตนด้านหลัง
ยามนี้ท่านย่าหลิวเริ่มฟื้นตัวแล้ว ลู่เจียวกำลังตรวจร่างกายให้นาง และยังป้อนน้ำให้ ท่านย่าหลิวจึงได้ฟื้นตัวขึ้นมา นางเงยหน้ามองหลิวโส่วฝู่ กล่าวว่า “นี่คือสะใภ้ที่เจ้าแต่งเข้าตระกูลหลิวข้าอย่างนั้นหรือ”
หลิวโส่วฝู่สีหน้าอนาถจนพูดไม่ออก เขาเกรงว่ามารดาตนจะพูดจาอันใดไม่น่าฟังออกมา ดังนั้นหลิวโส่วฝู่จึงหันขวับไปมองลู่เจียวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่น
“ข้าขอโทษแทนหลันหยางด้วย ข้าขอรับรองกับพวกเจ้าว่า แต่นี้ไปนางจะไม่หาเรื่องพวกเจ้าอีก”
หลิวโส่วฝู่แววตาเยียบเย็น