Skip to content
Home » Blog » ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 558

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 558

ตอนที่ 558 จิตใจอันชั่วร้ายโหดเหี้ยม

ลู่เจียวรีบปลอบใจพวกเขา “ใช่ ท่านพ่อเจ้าชอบพวกเจ้ามาก เขาไม่มีทางไปเป็นบุตรเขยผู้อื่น เขาไม่คิดเสียดายอยากได้แน่นอน”

“ท่านพ่อเองก็ชอบท่านแม่” ต้าเป่าสีหน้าเคร่งขรึมกล่าวขึ้น

เจ้าหนูที่เหลืออีกสามคนก็พยักหน้าตาม เอ้อร์เป่าคิดถึงหลินหรูเยว่ที่ปรากฏตัวก่อนหน้านี้ รีบมองไปยังลู่เจียวกล่าวว่า “หญิงไม่ดีผู้นั้นคิดเป็นอนุท่านพ่อใช่หรือไม่”

ซานเป่ากับซื่อเป่าเอ่ยขึ้นตามกันมาว่า “นางฝันไปเถอะ ท่านพ่อรับปากพวกเราแล้วว่าไม่รับอนุ หากเขากล้ารับอนุ พวกเราก็ไม่ต้องการเขา จะไปอยู่กับท่านแม่”

ซื่อเป่ายื่นมือออกไปกอดแขนลู่เจียว “ท่านแม่ ท่านวางใจ พวกเราต้องปกป้องท่านแม่ หากท่านพ่อกล้าไปเป็นบุตรเขยตระกูลอื่น พวกเราก็ไม่ต้องการเขา จะไปอยู่กับท่านแม่”

ลู่เจียวอดหัวเราะไม่ได้ “ตกลง”

เด็กน้อยพากันหัวเราะดีใจขึ้นมาทันที

รถม้าขับออกจากร้านอาหารไม่นาน ถงอี้ก็กลับมารายงานสถานการณ์ให้ลู่เจียวฟังว่า “เหนียงจื่อ ห้องหนังสือคุณชายหลิวจัดเรียบร้อยแล้ว ไม่มีช่องโหว่อันใด”

ลู่เจียวได้ฟัง ก็คิดถึงว่าหลิวโส่วฝู่เป็นถึงโส่วฝู่แคว้นต้าโจว เขาย่อมต้องเป็นดังจิ้งจอกเฒ่า นางคิดได้ หลิวโส่วฝู่ย่อมคิดได้ ดังนั้นเขาต้องเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว

ดังนั้นนางเป็นห่วงเสียเปล่าแล้ว แต่ไปดูให้แน่ใจย่อมดีกว่า

ลู่เจียวคลายความกังวลลงได้แล้ว แต่นางไม่รู้ว่าพอถงอี้ออกจากจวนตระกูลหลิว สายลับฮ่องเต้ก็แอบเข้าจวนตระกูลหลิว ไปค้นห้องหนังสือพวกเขา

ในวัง ฮ่องเต้กำลังอ่านกระดาษคำตอบการสอบเตี้ยนซื่อของจ้วงหยวน ปั้งเหยี่ยนและทั่นฮวา

ซุนหมิงเหลียงมหาบัณฑิตในสำนักศึกษาฮั่นหลินและหวาเฉิงเจ๋อมหาบัณฑิตในสำนักมนตรีกำลังรอรับใช้อยู่ข้างกาย

ฮ่องเต้หยิบกระดาษคำตอบของสามอันดับแรกส่งให้ซุนหมิงเหลียงกับหวาเฉิงเจ๋อ “อ่านดู อ่านดู คำตอบของจ้วงหยวน ปั้งเหยี่ยนกับทั่นฮวาปีนี้ เหนือความคาดหมายใช่หรือไม่”

ซุนหมิงเหลียงกับหวาเฉิงเจ๋อเป็นขุนนางคนสนิทฮ่องเต้ ฮ่องเต้ไว้วางพระทัยมาก

ซุนหมิงเหลียงกับหวาเฉิงเจ๋อรับกระดาษคำตอบไปอ่านอย่างละเอียด ไม่นานทั้งสองคนก็อุทานตกใจ “ทั้งสามคนมีความรู้ความสามารถจริง ถึงกับตอบเรื่องยกเลิกฟานอ๋องได้แยบยลเช่นนี้ โดยเฉพาะคำตอบจ้วงหยวนมีหลักมีการ มีความรู้ความสามารถแท้จริง”

ฮ่องเต้พยักหน้าเห็นด้วย จากนั้นก็ชี้ไปที่คำตอบหลิวจื่อเหยียน “ทั่นฮวาปีนี้เหมือนอายุเพียงแค่สิบแปด เจ้าว่าเขาอายุน้อยๆ ก็เขียนคำตอบเช่นนี้ได้ ใช่ว่าเป็นเรื่องผิดปกติหรือไม่ เขาอายุเพียงเท่านี้ แม้มีความรู้ความสามารถ แต่อ่านตำรามาไม่น่าจะเพียงพอ เหตุใดจึงเขียนคำตอบได้สมบูรณ์เช่นนี้”

ฮ่องเต้กล่าวจนสุดท้ายสีหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ น้ำเสียงก็เริ่มเย็นเยียบอย่างไม่รู้ตัว

ซุนหมิงเหลียงกับหวาเฉิงเจ๋อหันไปมองสบตาอีกฝ่ายทันที รู้ว่าวาจาฮ่องเต้นี้แฝงความหมายอื่น

ไม่ใช่กำลังบอกว่าหลิวโส่วฝู่คาดเดาพระทัยฝ่าบาท และเผยข้อสอบให้บุตรชายตนเองรู้หรือ

หากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง เกรงว่าฮ่องเต้คงไม่ปล่อยหลิวโส่วฝู่ไป

แม้ซุนหมิงเหลียงกับหวาเฉิงเจ๋อเป็นขุนนางคนสนิทฮ่องเต้ แต่ก็เป็นคนทะนุถนอมผู้มีความรู้ความสามารถ ดังนั้นจึงรีบทูลว่า “ฝ่าบาท กระหม่อมรู้สึกว่าไม่อาจใช้อายุมาวัดความสามารถคน บางทีบุตรชายหลิวโส่วฝู่อาจมีความสามารถเช่นนี้จริง”

“ฝ่าบาทออกข้อสอบ พวกกระหม่อมยังไม่รู้ นับประสาอันใดกับหลิวโส่วฝู่ กระหม่อมรู้สึกว่าไม่น่าเป็นไปได้”

ฮ่องเต้แค่นยิ้มมองไปยังขุนนางคู่พระทัยทั้งสองคน “พวกเจ้าเอาไม่ได้ ไม่ได้แปลว่าโส่วฝู่เดาไม่ได้”

คิดถึงว่าหัวข้อที่ตนออกสอบถึงกับถูกหลิวโส่วฝู่เดาได้ ในพระทัยฮ่องเต้ก็เต็มไปด้วยความโมโห ยิ่งคิดจะข่มหลิวโส่วฝู่ลง ในฐานะฮ่องเต้ ข้างแท่นบรรทมจะยอมให้คนมากรนเสียงดัง[1]ได้อย่างไร

ซุนหมิงเหลียงกับหวาเฉิงเจ๋อเห็นสีหน้าฮ่องเต้ที่แน่ใจว่าหลิวโส่วฝู่คาดเดาพระทัยได้ จากนั้นจึงเผยข้อสอบให้บุตรชายเขารู้

ในใจซุนหมิงเหลียงกับหวาเฉิงเจ๋อเริ่มเป็นห่วงหลิวจื่อเหยียน คงไม่ใช่ว่าได้ข้อสอบไปก่อนหน้าแล้วจริงๆ กระมัง หากโดนฮ่องเต้จับได้ ตระกูลหลิวก็คงโชคร้ายแล้ว

ทั้งสองคนได้แต่อธิษฐานขอให้หลิวโส่วฝู่ในใจ ขอให้เขาไม่ได้คาดเดาพระทัยฮ่องเต้

ทั้งสองคนอธิษฐานไปก็มองฮ่องเต้ไป “ในเมื่อฝ่าบาทสงสัยหลิวโส่วฝู่บอกข้อสอบบุตรชาย เหตุใดจึงเลือกหลิวจื่อเหยียนเป็นทั่นฮวา”

ฮ่องเต้แค่นยิ้มกล่าวว่า “ยกให้สูงจะได้จัดการง่ายไม่ใช่หรือ”

หน้าผากซุนหมิงเหลียงกับหวาเฉิงเจ๋อเริ่มมีเหงื่อผุดขึ้นมา

ฮ่องเต้ไม่สนใจพวกเขาอีก หันหน้าไปอ่านคำตอบเซี่ยอวิ๋นจิ่น ครู่หนึ่งก็เอ่ยขึ้นว่า “ได้ยินว่าบุตรชายตระกูลหลิวได้รับการรักษาจากภรรยาเซี่ยจ้วงหยวนจนหาย เจ้าว่าเซี่ยจ้วงหยวนจะได้ข้อสอบด้วยไหม”

ยามนี้ซุนหมิงเหลียงทนไม่ไหวแล้ว หากสงสัยเช่นนี้ต่อไป ทุกคนก็ล้วนมีปัญหาแล้ว ซุนหมิงเหลียงอยากถามฮ่องเต้ว่า ท่านอย่าได้ออกข้อสอบตามใจตนเองได้หรือไม่ ต้องมาออกเรื่องยกเลิกฟานอ๋อง แล้วก็ยังไปคิดสงสัยผู้อื่น

ซุนหมิงเหลียงเตือนฮ่องเต้ไม่หนักไม่เบาว่า “ฝ่าบาท คำตอบปั้งเหยี่ยนก็ดีมาก”

นี่คือกำลังเตือนฮ่องเต้ คำตอบปั้งเหยี่ยนก็ดีงามอย่างมาก จะว่าปั้งเหยี่ยนเองก็มีปัญหาหรือ หากเป็นเช่นนี้ อันดับหนึ่งสามคนปีนี้ล้วนมีปัญหา

ฮ่องเต้ได้ฟังซุนหมิงเหลียงก็ส่งสายตาจ้องใส่เขาทีหนึ่ง “เราก็แค่พูดถึง”

กล่าวจบก็ก้มหน้าอ่านกระดาษคำตอบในมือต่อ เอ่ยไปอย่างนั้นว่า “แต่แม้ว่าได้ข้อสอบไป ทว่าก็ไม่อาจปฏิเสธความสามารถจ้วงหยวนได้”

ขุนนางสองคนเงียบไม่ตอบ วาจานี้พวกเขาไม่สะดวกตอบ

สายสืบที่ฮ่องเต้ส่งออกไปกลับมารวดเร็ว สายสืบไม่ได้เข้าเฝ้าฮ่องเต้ แต่รายงานสถานการณ์ให้กับกงกงข้างพระวรกายฮ่องเต้เท่านั้น

กงกงรับใช้ข้างพระวรกายฮ่องเต้ก้าวเข้ามารวดเร็ว รายงานข่าวจากสายสืบรอบหนึ่ง

ฮ่องเต้ขมวดคิ้ว สีหน้าไม่อยากจะเชื่อ

ในพระที่นั่งเงียบกริบ ซุนหมิงเหลียงกับหวาเฉิงเจ๋อเห็นท่าทางฮ่องเต้ก็โล่งอก นี่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าสืบความชัดเจนแล้ว ปรากฏไม่เป็นดังที่ฮ่องเต้คิดไว้

ฮ่องเต้ที่นั่งอยู่บนบังลังก์มังกรรู้สึกผิดหวังอย่างมาก เดิมเขาคิดใช้โอกาสครั้งนี้จัดการข่มบารมีหลิวโส่วฝู่ ดึงเขาลงจากตำแหน่งโส่วฝู่ เปลี่ยนเป็นสวี่จั๋วตำแหน่งชื่อโส่วฝู่ขึ้นแทน คิดไม่ถึงว่าไม่อาจได้สมดังหวัง

ฮ่องเต้หันไปมองซุนหมิงเหลียงกับหวาเฉิงเจ๋อ “ไป เตรียมงานเลี้ยงฉยงหลิน[2]กันได้แล้ว”

“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”

สองคนก็โล่งอก ขอบพระทัยแล้วก็ออกจากพระที่นั่งมา ฮ่องเต้ด้านหลังยังทรงกริ้วหนักยกมือทุบเก้าอี้มังกรเต็มแรง เขาหันไปมองกงกงข้างกาย “เจ้าว่าหนุ่มน้อยอายุสิบแปด จะเขียนคำตอบได้สมบูรณ์ครบถ้วนเช่นนี้หรือ”

กงกงข้างพระวรกายแววตาวูบไหว ทูลอย่างระมัดระวังว่า “กระหม่อมครุ่นคิดดูแล้ว เป็นไปได้ไหมว่าจ้วงหยวนให้คำชี้แนะเขา ได้ยินว่าหลิวทั่นฮวาได้คารวะภรรยาจ้วงหยวนเป็นพี่สาว คนสองตระกูลเดินทางจากเมืองหนิงโจวมาเมืองหลวงด้วยกัน จ้วงหยวนน่าจะมีเวลาว่างคุยเรื่องข้อสอบกับทั่นฮวากระมัง”

กงกงกล่าวจบก็ไม่พูดอะไรอีก ฮ่องเต้คิดแล้วก็รู้สึกว่าเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงลงแรงเสียเปล่า?

ตกค่ำ ลู่เจียวให้ฮวาเสิ่นเตรียมอาหารโต๊ะหนึ่ง ยังสั่งการฮวาเสิ่นเพิ่มอาหารให้บ่าวรับใช้อีกสองอย่าง พร้อมกันนี้ยังสั่งให้พ่อบ้านเซียวแจกเงินบ่าวรับใช้ในบ้านคนละสองตำลึง

ยามนี้บ่าวรับใช้ทั้งบ้านต่างดีอกดีใจ พอเซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับมา ทุกคนก็ไปแสดงความยินดีกับเขา “ยินดีกับคุณชายที่สอบจ้วงหยวนได้”

…………..

[1] เปรียบถึงในขอบเขตอำนาจและผลประโยชน์ตน ไม่อาจปล่อยให้ผู้อื่นมาก้าวล่วง

[2] งานเลี้ยงที่จัดฉลองหลังการสอบเตี้ยนซื่อ ในสมัยราชวงศ์ซ่งนั้นจัดที่เรือนฉยงหลินย่วนในอุทยานหลวง จึงเรียกว่างานเลี้ยง ฉยงหลิน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version