Skip to content
Home » Blog » ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 570

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 570

ตอนที่ 570 เรื่องราวตามนิยายเกิดขึ้นแล้วหรือ

หลินหรูเยว่เดิมตกใจกับสายตาเย็นเยียบราวกับน้ำแข็งของเซี่ยอวิ๋นจิ่นจนไม่กล้ากล่าวอันใด แต่คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายเซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับผ่อนสีหน้าลง

หลินหรูเยว่อดดีใจไม่ได้ เซี่ยจ้วงหยวนรู้จักโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว รู้ว่าชาติกำเนิดนางเช่นนี้จะส่งเสริมเขา

หลินหรูเยว่ไม่ถือสาหากเซี่ยอวิ๋นจิ่นต้องตาต้องใจสถานะนาง เขาต้องตาต้องใจสถานะนาง จึงจะแต่งกับนางไม่ใช่หรือ

หลินหรูเยว่คิดไปก็อมยิ้มไป กล่าวว่า “ขอโทษ ข้าเข้าผิดห้อง เมื่อครู่ข้ากำลังกินข้าวกับเพื่อนๆ อยู่ข้างห้อง กลับมาก็จำประตูผิด”

นางกล่าวจบก็ไม่รอให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าว กลับกล่าวต่อว่า “เซี่ยจ้วงหยวน เหตุใดมากินข้าวที่นี่คนเดียว”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวน้ำเสียงนิ่งเรียบว่า “ได้ยินว่าอาหารที่หอปาซ่านในเมืองหลวงประณีตมาก ดังนั้นข้าจึงมาลิ้มลองสักหน่อย”

หลินหรูเยว่รู้สึกแปลกอยู่ไม่น้อย เหตุใดมากินข้าวที่ร้านอาหารคนเดียว

แต่นางก็มิได้คิดมาก

เซี่ยอวิ๋นจิ่นลุกขึ้นจะเดินออกไปข้างนอก ตอนจะเดินผ่านหลินหรูเยว่ยังกล่าวว่า “คุณหนูหลิน ”

สาเหตุหลักก็เพราะเขาต้องการดูว่า เมื่อเขาเข้าใกล้หลินหรูเยว่จะเกิดอาการผิดปกติอันใดหรือไม่

ปรากฏพอเดินถึงข้างกายของหลินหรูเยว่ ก็ไม่ได้เกิดอาการผิดปกติอันใด เซี่ยอวิ๋นจิ่นแปลกใจอย่างมาก ในนาทีนี้เขาสงสัยเรื่องราวที่เกิดขึ้นในเรือนฉยงฮวาก่อนหน้านี้ เป็นเพราะสมองตนเองเกิดความผิดปกติบกพร่องเอง หรือว่าสมองเขามีปัญหาอันใดกัน

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเดินออกไปด้วยสีหน้าครุ่นคิด หลินหรูเยว่ขยิบตาให้บ่าวหญิงที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก บ่าวหญิงก็รีบก้าวเข้าไปรายงานว่า “คุณหนู พวกคุณหนูจ้าวเห็นท่านยังไม่กลับมาก็ไปกันแล้ว”

หลินหรูเยว่ได้ฟังยิ้มกล่าวว่า “เช่นนั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ”

นางกล่าวจบก็เดินตามหลังเซี่ยอวิ๋นจิ่นลงจากหอปาซ่านไป

ตลอดทางมา นางยิ้มกล่าวอวยพรเซี่ยอวิ๋นจิ่นว่า “ยังไม่ได้กล่าวอวยพรเซี่ยจ้วงหยวน เซี่ยจ้วงหยวนมีชื่อติดประกาศเป็นอันดับหนึ่ง วันน่าจะต้องได้เป็นขุนนางในเมืองหลวงอย่างแน่นอน”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นหันหน้าไปมองนางด้วยแววตานิ่งเรียบ การที่เขาไม่ได้ขับไล่หลินหรูเยว่ ก็เพราะคิดถึงอาการผิดปกติของตนเองก่อนหน้านี้ ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวข้องกับหญิงผู้นี้หรือไม่กันแน่

แต่รอไปรอมาก็ไม่ได้รู้สึกผิดปกติอันใด

แท้จริงเกิดเรื่องอันใดกัน

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเดินลงไปชั้นหนึ่งด้วยสีหน้าครุ่นคิดไป หลินหรูเยว่เห็นเซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ได้สนใจนาง ก็ไม่ได้สนใจ ยังคงเดินตามหลังเขาลงไป ทุกคนเดินออกจากหอปาซ่านมาด้วยกัน

หร่วนไคกับถงอี้ที่เดินตามหลังเซี่ยอวิ๋นจิ่น มองคุณหนูจวนเฉิงเต๋อโหวด้วยสีหน้าพูดไม่ออก ก่อนหน้านี้พวกเขาถอยห่างออกไป เพราะอ๋องเยียนมีเรื่องสนทนากับคุณชาย คิดไม่ถึงว่าหญิงผู้นี้ถึงกับวิ่งเข้าไปในห้องคุณชาย เห็นชัดว่านางไล่ตามผู้ชาย หรือว่าคุณหนูใหญ่จวนเฉิงเต๋อโหวแต่งไม่ออกจริง เอาแต่เกาะติดคุณชายของพวกเขาไป หากเหนียงจื่อพวกเขารู้ คุณชายน่าจะเจอดีเข้าแล้ว

ลูกน้องสองคนคิดไปก็เดินตามออกไป

พอทุกคนเดินถึงหน้าประตูหอปาซ่าน ก็หยุดรอรถม้า

หลินหรูเยว่ยิ้มมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นในระยะประชิด ว่าที่ใต้เท้าโส่วฝู่ รูปงามราวกับภาพวาดเสียจริง แม้ว่าเขาตอนนี้ไม่ค่อยจะสนใจนาง แต่วันหน้านางจะต้องใช้ความจริงใจอบอุ่นหล่อหลอมจิตใจเย็นเยียบของเขาได้

หลินหรูเยว่ครุ่นคิดแล้วก็ยิ้มขึ้นมา ยามนี้รถม้าตระกูลหลินมาแล้ว หลินหรูเยว่เดินไปที่รถม้า นางเดินไปพลางหันมาส่งยิ้มให้กับเซี่ยอวิ๋นจิ่น “เซี่ยจ้วงหยวน เช่นนั้นข้าขอตัวไปก่อน วันหน้าหากมีสิ่งใดต้องการให้ช่วยเหลือก็ให้คนมาหาข้าที่จวนเฉิงเต๋อโหว”

หลินหรูเยว่รู้ว่าว่าที่ใต้เท้าโส่วฝู่ควรมองออกว่านางคิดแต่งกับเขา

ในเมื่อมองออก นางก็ไม่คิดปิดบังอีก ให้เขาได้เห็นการตัดสินใจของนาง เชื่อว่าในใจเขาย่อมชั่งน้ำหนักเรื่องนี้ได้ว่านางมีผลประโยชน์ต่อเขา หรือว่าหญิงบ้านนอกนั่นจะมีผลประโยชน์ต่อเขากัน

หลินหรูเยว่แอบคิดอย่างมั่นใจ

เซี่ยอวิ๋นจิ่นด้านหลังเขม่นมองนาง พลางครุ่นคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับตนเองก่อนหน้านี้หรือว่าไม่เกี่ยวข้องกับหญิงผู้นี้

ยามนี้ บนท้องถนนรถม้าขับมาอย่างไม่ช้าไม่เร็ว คนหนึ่งบนรถม้าเลิกม่านออกมามอง ก็เห็นทุกคนหน้าประตูหอปาซ่าน

หลินหรูเยว่กำลังยิ้มอ่อนโยนกล่าวอำลากับคนหน้าประตู คนอยู่หน้าประตูกลับมีสีหน้านิ่ง แต่ไม่ได้เย็นเยียบวางตัวห่างไกลพันลี้จากผู้คนดังเช่นปกติ

ลู่เจียวเห็นภาพนี้แล้วก็รู้สึกวาบขึ้นในใจ คว้าม่านหน้าต่างแน่นด้วยสัญชาตญาณ สีหน้างามมีเลือดฝาดค่อยๆ ซีดจางลง

เรื่องราวในนิยายเริ่มเกิดขึ้นแล้วหรือ

เซี่ยอวิ๋นจิ่นยังคงต้องร่วมเส้นทางกับหลินหรูเยว่หรือ

นางอยู่กับเซี่ยอวิ๋นจิ่นมานานไม่น้อยแล้ว เข้าใจคนเช่นเขามาก เขาไม่สนใจทะนุถนอมสตรีทั้งปวง กลับกันบางครั้งยังรังเกียจสตรีอย่างมาก แต่ตอนนี้เขาเผชิญหน้ากับคุณหนูใหญ่จวนเฉิงเต๋อโหวด้วยสีหน้าที่ไม่เย็นเยียบดังเดิม และก็ไม่ได้มีสีหน้ารังเกียจ

ดังนั้นเขากำลังดำเนินเรื่องตามเรื่องราวในนิยาย ต้องตาต้องใจหลินหรูเยว่ผู้นี้หรือ

ลู่เจียวยิ่งคิดก็ยิ่งปวดใจราวกับมีเข็มทิ่มแทงใจ สีหน้ายิ่งซีดขาวลงเรื่อยๆ

เดิมหลี่ว์หว่านฮูหยินขุนพลหวังกำลังแนะนำสถานที่ให้ลู่เจียวว่าที่นี่คือถนนอะไร ขายสินค้าอะไรเป็นหลัก

ไม่คิดว่าพอเงยหน้าเห็นลู่เจียวสีหน้าซีดเผือด หลี่ว์หว่านก็สะดุ้งตกใจ คิดว่าลู่เจียวล้มป่วยแล้ว

นางยกมือไปจับหน้าผากลู่เจียวด้วยสัญชาตญาณทันที “เจียวเจียว เจ้าเป็นอะไรหรือ สีหน้าซีดมาก”

เมื่อสัมผัสที่หน้าผากพบว่าหน้าผากเย็นเฉียบพร้อมกับยังหลั่งเหงื่อเย็น

แต่ลู่เจียวได้สติคืนมาแล้ว นางไม่อยากให้หลี่ว์หว่านรู้เรื่องระหว่างนางกับเซี่ยอวิ๋นจิ่น ดังนั้นจึงไม่ได้เล่าเรื่องด้านนอก เพียงเผยรอยยิ้มบางกล่าวว่า “อาจเพราะก่อนหน้านี้เหนื่อยเกินไป ดังนั้นสุขภาพจึงไม่ค่อยดีเท่าไร”

ที่นางออกมาก็เพราะหลี่ว์หว่านเชิญนางออกมาเดินเล่น หลี่ว์หว่านไม่รู้ว่านางกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นจะไปจากเมืองหลวง ดังนั้นจึงกระตือรือร้นพานางออกมาเดินเล่นตามท้องถนน เพื่อจะได้แนะนำถนนต่างๆ ในเมืองหลวงให้นางรู้จัก ว่าที่ไหนขายอะไร ดำเนินกิจการอะไร ลู่เจียวจะได้สะดวกหากวันหน้าคิดมาเดินหาซื้อของ

ลู่เจียวเห็นสีหน้ากระตือรือร้นของหลี่ว์หว่านก็รับปาก เพียงแต่นางคิดไม่ถึงว่าจะเห็นภาพนี้

หลี่ว์หว่านได้ยินลู่เจียวก็ตำหนิตนเองทันทีว่า “เพราะข้าแท้ๆ โทษข้าที่ไม่ได้คิดให้ดี ควรรออีกหน่อยค่อยพาเจ้าออกมาเดินชม”

ลู่เจียวเห็นหลี่ว์หว่านตำหนิตนเองก็รู้สึกผิด พยายามฝืนยิ้มมองหลี่ว์หว่านกล่าวว่า “พี่หลี่ว์อย่าได้ตำหนิตนเอง ไม่เป็นไร ข้าแค่หน้ามืด ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว ข้าเป็นหมอ จะไม่รู้หรือ พี่วางใจได้”

หลี่ว์หว่านได้ฟังก็ยังไม่ค่อยวางใจ ไม่พาลู่เจียวไปเที่ยวชมเมืองหลวงอีก แต่ส่งเสียงออกไปนอกรถม้า “กลับบ้านตระกูลเซี่ย”

รถม้าหันหน้ามุ่งกลับตระกูลเซี่ย ในรถม้า หลี่ว์หว่านมองลู่เจียวกล่าวว่า “เจ้ากลับไปก็พักผ่อนให้มาก อย่าได้เหน็ดเหนื่อยเกินไป ตอนนี้รอเพียงตำแหน่งจากเบื้องบนก็พอ อย่าได้เหน็ดเหนื่อยเหมือนก่อนหน้านี้อีก”

“รออีกสักระยะ สุขภาพเจ้าดีแล้ว ข้าค่อยมาพาเจ้าออกไปเดินชมอีก อย่างไรวันหน้าเจ้าก็อยู่เมืองหลวงยังมีเวลา ไม่ต้องรีบร้อน”

ลู่เจียวเห็นหลี่ว์หว่านกล่าวเช่นนี้ก็มิได้ปฏิเสธ รีบรับคำนาง “อืม ได้ ทำพี่หลี่ว์เสียเวลาแล้ว”

“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร”

หลี่ว์หว่านส่งลู่เจียวกลับตระกูลเซี่ย ตอนลู่เจียวกลับถึงบ้าน เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็ถึงบ้านแล้ว ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวหน้าประตูก็ออกมารับ หลี่ว์หว่านเห็นเขาก็รีบกล่าวว่า “เจียวเจียวไม่ค่อยสบาย เซี่ยจ้วงหยวนต้องให้นางพักผ่อนมากๆ”

พอนางกล่าว เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็ร้อนใจ “ไม่ค่อยสบายได้อย่างไรกัน”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version