ตอนที่ 580 แรงสะท้อนกลับจากนิยาย
หร่วนไคกับถงอี้ตกใจส่งเสียงร้องดัง “คุณชาย”
ถงอี้ทิ้งหลินหรูเยว่ในมือ วิ่งเข้าไปรับเซี่ยอวิ๋นจิ่น รีบถามว่า “คุณชาย ท่านป่วยหรือ”
ครั้งแรกก่อนหน้านี้ หร่วนไคกับถงอี้ไม่เห็น นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นเซี่ยอวิ๋นจิ่นเป็นเช่นนี้ ดังนั้นทั้งสองคนจึงคิดว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นป่วย
ถงอี้เห็นเซี่ยอวิ๋นจิ่นเช่นนี้ ก็ไม่คิดสนใจหลินหรูเยว่ หันหลังกล่าวว่า “ข้าไปตามเหนียงจื่อ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นด้านหลังดิ้นรนคว้าเขาไว้ “เจ้ากลับมา”
ถงอี้ไม่สนใจ ยิ่งเร่งความเร็วยิ่งกว่าเดิม คุณชายล้มป่วย จะไม่ตามเหนียงจื่อมาได้อย่างไร ประการแรก วิชาการแพทย์เหนียงจื่อร้ายกาจ ประการที่สอง นี่เป็นเวลาที่จะทำให้เหนียงจื่อเห็นใจคุณชาย
เซี่ยอวิ๋นจิ่นด้านหลังเห็นถงอี้วิ่งไปไม่เห็นแม้เงา ก็ไม่ดึงดันจะเรียกเขาไว้อีก หันไปมองหลินหรูเยว่แทน
ยามนี้หลินหรูเยว่โดนป้อนยาลงไป ใบหน้าเริ่มแดงก่ำบิดกายไปมา เพราะความร้อนบนร่างกาย ทำให้นางยกมือกระชากเสื้อผ้าตรงหน้าอกด้วยสัญชาตญาณ
แววตาเซี่ยอวิ๋นจิ่นเยียบเย็นไม่อาจบรรยาย ออกคำสั่งหร่วนไคเสียงเข้มขึ้นทันที “โยนนางลงน้ำ”
หร่วนไคเป็นห่วงเซี่ยอวิ๋นจิ่น “คุณชาย แล้วท่านเล่า”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นบังคับกายให้นิ่ง โบกมืออ่อนแรงกล่าวว่า “เจ้าไปเถอะ ข้าไม่เป็นไร”
หร่วนไคหันหลังเดินไปข้างกายหลินหรูเยว่ คว้าตัวนางออกไป หลินหรูเยว่ด้านหลังบิดกายดิ้นรนไปมาส่งเสียงตะโกนเรียกเซี่ยอวิ๋นจิ่น
“เซี่ยอวิ๋นจิ่น ข้าชอบท่าน ข้าไม่ขอเป็นภรรยาเอกจ้วงหยวนของท่าน ข้าขอแค่ภรรยาเอกคนที่สอง ขอร้องท่านแล้ว ข้าจะดีต่อท่าน จะช่วยท่าน ท่านวางใจ ข้าไม่แก่งแย่งกับลู่เจียว ข้ารับรองจะอยู่อย่างสงบเสงี่ยม”
แม้ว่าหลินหรูเยว่โดนยา แต่กลับยังรู้จักพูดจารับรองเช่นนี้ ตอนนี้ชื่อเสียงนางถูกทำลายสิ้นแล้ว หากไม่แต่งกับเซี่ยอวิ๋นจิ่น นางไม่มีทางได้แต่งงาน และไม่มีทางอยู่เมืองหลวงต่อ
วิธีการจัดการของบิดามารดานางที่ดีที่สุดก็คือไปหาคู่แต่งงานให้นางยิ่งไกลยิ่งดี
คิดถึงสภาพเช่นนั้นแล้ว นางรู้สึกว่าตนเองแทบจะเสียสติคลุ้มคลั่งได้ กว่าจะได้มากลับมาเกิดใหม่อีกครั้งไม่ใช่เรื่องง่าย ถึงกับมีจุดจบเช่นนี้ นางทำใจยอมรับไม่ได้
น่าเสียดายเซี่ยอวิ๋นจิ่นด้านหลังไม่สนใจนางแม้แต่น้อย เขาจ้องมองหลินหรูเยว่ที่ถูกหร่วนไคลากออกไปด้วยสายตาเย็นยะเยือก ทำไม ทำไมเขาจะส่งหลินหรูเยว่ขึ้นเตียงผู้ชายอื่น เขาต้องปวดใจจนกระอักโลหิตด้วย
หรือว่าระหว่างเขากับหลินหรูเยว่มีอันใดพันผูกกัน เช่นว่า ชาติก่อนหลินหรูเยว่เป็นคนรักของเขา ดังนั้นชาตินี้เขาส่งนางขึ้นเตียงผู้ชายอื่น ตนเองจึงต้องปวดใจจนกระอักโลหิต
แต่เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็ปฏิเสธความคิดนี้ทันที หากชาติก่อนพวกเขาเป็นคนรักกัน เหตุใดชาตินี้เขาจึงไม่ได้รู้สึกอันใดกับนาง เขาแน่ใจว่า ตนเองไม่ได้รู้สึกอันใดกับหลินหรูเยว่
กลับกัน เขามีความรู้สึกต่อเจียวเจียว ทุกครั้งที่เข้าใกล้นาง เขาก็จะมีความสุข เป็นความสุขที่มาจากใจ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจ สมองสับสนวุ่นวายไปหมด สุดท้ายคิดจนสมองแทบระเบิด
ณ เรือนด้านหลัง
ลู่เจียวได้รับรายงานถงอี้ก็ตกใจ นางรีบลุกขึ้นตามหลังถงอี้ออกไป
ท่านย่าหลิวเห็นก็ตามไปด้วย “เจียวเจียว เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
คนไม่น้อยก็เดินมาทางนี้ ลู่เจียวเดินไปข้างกายท่านย่าหลิวเอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า “อวิ๋นจิ่นเหมือนไม่สบาย ข้าไปดูหน่อย”
“ได้ เจ้ารีบไป”
ท่านย่าหลิวร้อนใจรีบเร่งให้ไป
ลู่เจียวเดินออกไปเรือนด้านหน้า ถงอี้กับหร่วนจู๋สองคนรีบตามไป
ทั้งสองคนเพิ่งจะเดินถึงหน้าประตูฉุยฮวาเหมิน[1]เรือนด้านหลัง ก็เห็นหร่วนไคพาเซี่ยอวิ๋นจิ่นมายืนอยู่ข้างประตู
ยามนี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นสีหน้าซีดเผือดร่างกายไร้เรี่ยวแรง
ลู่เจียวก้าวเข้าไปถึงก็ถามอย่างเคร่งเครียดว่า “เกิดอันใดขึ้น อยู่ดีๆ เหตุใดจึงล้มป่วยได้”
นางมองสภาพเซี่ยอวิ๋นจิ่นออกว่าไม่ค่อยปกติ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นลู่เจียวสีหน้าเคร่งเครียด ในใจเขารู้สึกดีใจมาก แต่ก็กลัวลู่เจียวจะเป็นห่วง จึงรีบเอ่ยว่า “เจียวเจียว เจ้าใจเย็นๆ ไม่ได้เป็นอันใดมาก”
แต่ลู่เจียวไม่ได้สนใจเขา ยื่นมือไปคว้ามือเขามาจับชีพจร จากนั้นก็เอ่ยถามอาการของเขา
เซี่ยอวิ๋นจิ่นคว้ามือลู่เจียวเอาไว้ กล่าวน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “เจียวเจียว พวกเราหาที่คุยรายละเอียดเรื่องนี้กัน เรื่องนี้ไม่อาจคุยกันเพียงประโยคสองประโยคก็จะกระจ่างได้”
ลู่เจียวเงยหน้ามองเขา พบว่าเขามีท่าทางลำบากใจจะเอ่ย ในใจก็เริ่มหนักอึ้งขึ้นมา
“ตกลง”
ขณะที่ทั้งสองคนพูดกันอยู่ ก็เดินไปยังศาลาบุปผาที่อยู่ไม่ไกลนัก หร่วนไคกับถงอี้ออกไปยืนห่างออกไปอีกหน่อยอย่างรู้ความ คอยเฝ้าระวังให้ทั้งสองคน
ลู่เจียวไม่ได้รีบร้อนถามเซี่ยอวิ๋นจิ่นว่าเกิดเรื่องอันใด แต่ตรวจร่างกายเซี่ยอวิ๋นจิ่นก่อน ตรวจไปตรวจมาก็ตรวจไม่พบความผิดปกติในร่างกายเซี่ยอวิ๋นจิ่น สุดท้ายนางเอ่ยถามด้วยสีหน้างุนงงว่า “ร่างกายเจ้าไม่ได้ป่วยตรงไหน”
พอลู่เจียวเอ่ยขึ้น เซี่ยอวิ๋นจิ่นก็หลับตาลงทันที ตอนเขาลืมตามองไปยังลู่เจียวอีกที ก็กล่าวว่า “เจียวเจียว ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเชื่อหรือไม่ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง”
“งานเลี้ยงฉยงหลินครั้งก่อนอ๋องจิ้นสั่งให้ข้าไปสวนดอกไม้เด็ดดอกไม้ ข้าพบหลินหรูเยว่ที่สวนดอกไม้ มองแผนการในใจของหญิงผู้นี้ออก ข้ารังเกียจพฤติกรรมของนางอย่างมาก ดังนั้นจึงแอบครุ่นคิดว่า หญิงผู้นี้เหมาะสมกับอ๋องฉินเซียวถิงดี ไม่สู้จับคู่ให้ทั้งสองคน แต่พอข้าเพิ่งมีความคิดนี้ ในใจก็พลันราวกับมีเข็มทิ่มแทง เจ็บปวดเสียจนหน้ามืดตาลายเกือบหมดสติ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบ ลู่เจียวก็พลันคิดถึงว่างานเลี้ยงฉยงหลินครั้งก่อน เซี่ยอวิ๋นจิ่นบอกว่าเขาสงสัยว่ามีคนวางยาพิษเขา
เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่รอให้ลู่เจียวกล่าว แต่เล่าต่อว่า “ต่อมาที่หอปาซ่าน หญิงผู้นี้บุกเข้ามาในห้องรับรองข้า ข้าไม่ได้ขับไล่นางไป ก็เพราะคิดอยากตรวจสอบให้เข้าใจสภาพอาการของร่างกายข้า ว่าเกี่ยวข้องกับนางหรือไม่ ปรากฏข้าเข้าใกล้นางก็ไม่ได้เป็นอันใด”
“ต่อมาข้าสงสัยสมองข้ามีปัญหาจึงได้เป็นเช่นนี้ แต่เมื่อครู่อาการเพิ่งจะเกิดอีกครั้ง เมื่อครู่หลินหรูเยว่มาหาข้า บอกว่าคิดจะเป็นภรรยาเอกคนที่สองของข้า แต่พอข้าคิดถึงว่านางบงการคุณชายรองเนี่ยวางยาเจ้าก็โมโหมาก ดังนั้นจึงได้สั่งให้ถงอี้ป้อนยานาง ให้พวกเขานำหญิงผู้นี้ไปส่งขึ้นเตียงอ๋องฉินเซียวถิง ไม่คิดว่าพอข้าออกคำสั่งลงไป ก็ถึงกับปวดใจจนหน้ามืดตาลาย และยังกระอักโลหิตอีกด้วย”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวจบ สมองลู่เจียวก็อึงอลไปหมด สีหน้าพลันซีดขาวไร้สีเลือดทันที
เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่เข้าใจ แต่นางมีอะไรให้ไม่เข้าใจ นี่คือแรงสะท้อนกลับจากนิยาย เพราะในนิยาย หลินหรูเยว่จึงจะเป็นภรรยาตามชะตากำหนดของเซี่ยอวิ๋นจิ่น ตอนนี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นจะส่งหลินหรูเยว่ขึ้นเตียงชายอื่น เห็นได้ชัดว่าจะพลิกเรื่องราวในนิยาย แรงสะท้อนกลับจากนิยายทำให้เขาเป็นเช่นนี้
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นลู่เจียวสีหน้าซีดเผือดราวกับกระดาษขาว เขาก็นึกเป็นห่วงขึ้นมา ยื่นมือออกไปกอดลู่เจียวไว้แน่น กล่าวว่า “เจียวเจียว เจ้าอย่าได้เป็นห่วง ข้าไม่เป็นไร แม้ว่าตอนนี้ข้าไม่รู้ว่าทำไมจึงเป็นเช่นนี้ แต่ข้าจะพยายามหาสาเหตุให้ได้”
ลู่เจียวสมองสับสนไปหมด นางหันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น พูดไม่ออกแม้สักคำ
หรือว่านางกับเขาไม่อาจอยู่ร่วมกันได้ เซี่ยอวิ๋นจิ่นต้องอยู่ร่วมกับหลินหรูเยว่จึงจะได้
ลู่เจียวยิ่งคิดก็ยิ่งปวดใจ สุดท้ายก็อดขอบตาแดงไม่ได้
เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นนางปวดใจเช่นนี้ ในใจก็ปวดร้าวตามไปด้วย เขายื่นมือขึ้นโอบกอดนางเอาไว้ ปลอบใจอย่างนุ่มนวลว่า “เจ้าอย่าได้ปวดใจไป ข้าไม่เป็นไร”
…………….
[1] เป็นประตูสอง กั้นระหว่างเรือนด้านนอกกับเรือนด้านในบนเส้นกึ่งกลางของจวน ในสมัยก่อนสตรีในตระกูลผู้ดีจะไม่กล้าออกจากประตูนี้