ตอนที่ 617 ภรรยาดี รุ่งเรืองสามรุ่น
มหาบัณฑิตหลิวลูบศีรษะซื่อเป่าอย่างซึ้งใจ “เจ้าช่างกตัญญูจริง”
ต้าเป่า เอ้อร์เป่ากับซานเป่ารับคำพร้อมกัน “มหาบัณฑิตหลิว พวกเราล้วนกตัญญูมาก”
มหาบัณฑิตหลิวพยักหน้าหงึกๆ “ใช่ ใช่ พวกเจ้าล้วนเป็นเด็กกตัญญู ข้าตัดสินใจรับพวกเจ้าเป็นศิษย์”
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่หัวไว พอได้ยินมหาบัณฑิตหลิวก็รีบคุกเข่าลงเรียกมหาบัณฑิตหลิว “ศิษย์คารวะอาจารย์ วันหน้าจะตั้งใจฟังคำสอนของอาจารย์”
มหาบัณฑิตหลิวอึ้งไปทันที จากนั้นก็ยิ้ม “พวกเจ้าช่างเป็นผีน้อยหัวไวเสียจริง ได้ อาจารย์รับพวกเจ้าเป็นศิษย์”
“ขอบคุณอาจารย์”
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่เองก็เบิกบานใจมาก แม้ว่าพวกเขาไม่รู้ว่าอาจารย์ท่านนี้มีความสามารถร้ายกาจอันใด แต่ท่านพ่อกับท่านแม่รู้สึกว่าดี ก็ย่อมต้องดี
มหาบัณฑิตหลิวพาเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ไปห้องข้างๆ พอดีได้เห็นลู่เจียวเล่นแข่งขันเป็นเพื่อนฮูหยินผู้เฒ่า เขาดีใจอย่างบอกไม่ถูก
กล่าวตามตรง แม้เป็นลูกๆ ของพวกเขา ก็ไม่ได้มีความอดทนมาเล่นแข่งขันกับภรรยาแก่ชราของเขาเช่นนี้ สะใภ้เขาแม้ว่าเป็นสะใภ้ที่ดี แต่กับฮูหยินผู้เฒ่าก็มิได้มีความผูกพันใกล้ชิดอันใด กลับกัน ลู่เจียวกลับสนิทสนมกับฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเร็วมาก
มหาบัณฑิตหลิวเห็นแล้วก็ยิ่งตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะรับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่เป็นศิษย์
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่เข้ามาในห้อง ไม่รอให้มหาบัณฑิตหลิวเอ่ย ก็วิ่งไปตรงหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียว กล่าวอย่างดีใจว่า “ท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านอาจารย์ตัดสินใจรับพวกเราทั้งสี่คนเป็นศิษย์แล้ว”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวดีใจขึ้นมาทันที หันหน้าไปมองมหาบัณฑิตหลิวพร้อมกัน กล่าวว่า “ขอบคุณมหาบัณฑิตหลิว”
มหาบัณฑิตหลิวโบกมือ “ไม่มีอันใด ล้วนเพราะพวกเขาทั้งสี่มีความสามารถ”
เขากล่าวจบมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “เจ้าแต่งภรรยาดี รุ่งเรืองสามรุ่นโดยแท้”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยักหน้าเห็นด้วยอย่างซาบซึ้งใจ “ขอรับ”
ลู่เจียวถูกพวกเขาชมจนรู้สึกเขินอาย ยิ้มกล่าวว่า “มหาบัณฑิตหลิว ข้าขอกลับไปเตรียมแผนรักษาฮูหยินผู้เฒ่าก่อน เริ่มการรักษาตั้งแต่พรุ่งนี้”
“ดี ดี”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับกล่าวว่า “อีกสามวัน บ้านเราจัดงานเลี้ยงคารวะอาจารย์ ให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ได้คารวะอาจารย์ผู้มีพระคุณอย่างเป็นทางการ ไม่ทราบว่าอาจารย์คิดเห็นเช่นไร”
มหาบัณฑิตหลิวเห็นด้วยอย่างอารมณ์ดียิ่ง “ตกลง”
ภรรยามีความหวังว่าจะรักษาหาย เขายังได้ศิษย์เก่งกาจถึงสี่คน เขารู้สึกว่าวัยชราตนเองน่าสนุกขึ้นมาแล้ว
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวลุกขึ้นกล่าวอำลา ก่อนไปลู่เจียวยังกำชับมหาบัณฑิตหลิว “เป็นเพื่อนคุยกับฮูหยินผู้เฒ่าหลิว จะต้องอดทน เมตตา ตอนนี้นางสูญเสียความทรงจำ พูดไม่ได้ หากคนข้างกายไม่อดทน ก็จะทำให้นางหงุดหงิดโมโหง่าย ไม่เป็นผลดีต่ออาการของนาง”
“ได้ ข้ารู้แล้ว”
มหาบัณฑิตหลิวได้ฟังคำพูดลู่เจียว ก็รีบคิดทันที นึกได้ว่าแม้แต่สาวใช้นาง ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวก็ไม่ยอมเข้าใกล้ นี่แสดงให้เห็นชัดเจนว่าสาวใช้ไม่ได้อดทนกับนาง ทำให้นายผู้เฒ่าอดโมโหไม่ได้
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวทั้งครอบครัวออกจากประตูซีเฟิงย่วนมา คนรอบด้านไม่น้อยวิ่งมาทักทายพวกเขา “ใต้เท้าเซี่ย ฮูหยินเซี่ย เหตุใดมหาบัณฑิตหลิวจึงยอมพบพวกท่าน”
ก่อนหน้านี้คนเหล่านี้ไปสืบข่าวครอบครัวเซี่ยอวิ๋นจิ่นมาแล้ว รู้ว่าพวกเขาก็คือถงจือกับฮูหยินถงจือที่เพิ่งมายังเมืองหนิงโจว
แม้ว่าถงจือเป็นขุนนางระดับหก แต่บรรดาคนที่มาตระกูลหลิว คิดคารวะมหาบัณฑิตหลิวเป็นอาจารย์ ต่างก็ไม่ใช่คนธรรมดา ดังนั้นคนเหล่านี้ล้วนไม่เกรงถงจือระดับหก
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวยิ้มอย่างสุภาพ กล่าวว่า “ก่อนหน้านี้มหาบัณฑิตหลิวเคยมาเป็นประธานคุมสอบที่เมืองหนิงโจว เขาเป็นคนเลือกให้ข้าได้เป็นเจี่ยหยวน มาครั้งนี้ก็เพื่อกล่าวขอบคุณ”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวเช่นนี้ คนโดยรอบก็พลันเข้าใจ ที่แท้คนเขามีสายสัมพันธ์เช่นนี้ มิน่าจึงได้พบมหาบัณฑิตหลิว
มีคนเอ่ยปากถามว่า “เช่นนั้น มหาบัณฑิตหลิวรับบุตรชายพวกเจ้าเป็นศิษย์หรือไม่”
หากรับแล้ว พวกเขาก็ไม่มีหวังแล้ว
เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ได้ตอบ แต่ถามกลับว่า “พวกเจ้าว่าอย่างไรเล่า”
กล่าวจบเขากับลู่เจียวพาเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ขึ้นรถม้าตระกูลเซี่ย
ทั้งครอบครัวขึ้นรถม้าแล้วก็พากันดีใจมาก เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ กล่าวเตือนด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “พวกเจ้าต้องขอบคุณท่านแม่”
หากไม่ใช่ลู่เจียว มหาบัณฑิตหลิวย่อมไม่มีทางรับพวกเขาเป็นศิษย์ และยังรับทีเดียวถึงสี่คน
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ดีใจหันไปมองลู่เจียว “ท่านแม่ พวกข้าขอบคุณท่านแม่”
ลู่เจียวยิ้มยื่นมือไปลูบศีรษะพวกเขา “วันหน้ามาเรียนที่ตระกูลหลิว ต้องเชื่อฟังอาจารย์ให้ดี อย่าได้ไม่ยอมฟังคำสอน”
“ทราบแล้ว”
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่รับคำอย่างว่านอนสอนง่าย ครู่หนึ่งเจ้าหนูน้อยทั้งสี่พลันคิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา “ท่านแม่ พวกเราคารวะอาจารย์เช่นนี้ วันหน้าก็ต้องมาอยู่ตระกูลหลิวหรือ เช่นนั้นพวกเราก็จะไม่ได้พบท่านพ่อกับท่านแม่แล้วหรือ”
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่รู้สึกกังวลแล้ว
พอเจ้าหนูน้อยทั้งสี่เอ่ย เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวก็คิดถึงปัญหานี้ขึ้นมา สองสามีภรรยาสบตากัน จากนั้นก็ มองไปยังเจ้าหนูน้อยทั้งสี่พร้อมกัน แม้ว่าเจ้าหนูน้อยทั้งสี่หกขวบแล้ว แต่พวกเขาแต่ไรมาไม่เคยแยกจากกัน กอปรกับหกขวบก็อายุน้อยไปจริงๆ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองลู่เจียวกล่าวว่า “หรือว่าทุกวันเข้าเรียนเลิกเรียนเช้าค่ำ ไม่ต้องอยู่ที่ซีเฟิงย่วน”
ลู่เจียวพยักหน้าเห็นด้วย “อืม ไว้ค่อยบอกมหาบัณฑิตหลิวว่า ทุกสี่วันพักหนึ่งวัน”
พอนางกล่าว เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็ยิ้มดีใจ “ท่านแม่อันนี้ดี ทำตามนี้”
ลู่เจียวยิ้มมองพวกเขากล่าวว่า “เรื่องนี้ยังต้องหารือกับอาจารย์พวกเจ้า ไม่ใช่พวกเราตกลงกันเองได้”
ต้าเป่ารีบยิ้มตาหยีกล่าวว่า “อาจารย์ฟังท่านแม่ ก่อนหน้านี้ท่านแม่บอกให้อาจารย์รับพวกเราสี่คน อาจารย์ก็รับพวกเราสี่คนเป็นศิษย์ไม่ใช่หรือ”
ลู่เจียวอารมณ์ดี กล่าวว่า “นั่นเพราะพวกเจ้าฉลาด แต่แม่ต้องบอกกับพวกเจ้าเรื่องหนึ่ง อย่าได้คิดว่าฉลาดก็จะเหิมเกริม ต้องยิ่งพยายาม รู้ไหม การเรียนไม่มีที่สิ้นสุด พวกเจ้าดูท่านพ่อกับแม่ฉลาดไหม”
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ได้ฟังลู่เจียวถามก็รีบพยักหน้า ในใจพวกเขา ท่านพ่อกับท่านแม่ฉลาดที่สุด
ลู่เจียวกลับมองพวกเขาด้วยสีหน้าจริงจัง “ท่านพ่อเจ้ากับแม่ยังต้องเรียนรู้อะไรอีกมาก ท่านพ่อต้องเรียนรู้การจะเป็นถงจือเมืองหนิงโจวอย่างไรที่จะนำพาราษฎรให้ร่ำรวย ตอนนี้เมืองหนิงโจวลำบากยากจนมาก อย่าเห็นว่าเมืองหนิงโจวรุ่งเรือง ยังมีหลายพื้นที่ยากจนลำบากมาก บางครอบครัวไม่เคยได้กินอิ่มท้อง ล้มป่วยก็ไม่มีเงินรักษา”
ลู่เจียวกล่าวถึงตรงนี้ เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็พยักหน้า พวกเขารู้ว่าหลายพื้นที่ยากจน เช่นหมู่บ้านพวกเขาเมื่อก่อนก็ยากจนมาก มักจะกินไม่อิ่มท้อง ต่อมาได้ท่านแม่ช่วยเหลือ ดังนั้นท่านแม่กล่าวได้ถูกต้อง
“ข้าน่ะ แม้ว่าวิชาการแพทย์ดีมาก แต่ยังมีหลายโรคที่ข้าเองก็รักษาไม่ได้ ดังนั้นข้ายังต้องพยายามศึกษาโรคที่รักษาไม่ได้เหล่านั้น ดังนั้นเจ้าดู แม้ท่านพ่อกับแม่ฉลาดเช่นนี้ ยังต้องเรียนรู้อีกมาก นับประสาอันใดกับพวกเจ้าที่ยังเป็นแค่เด็กน้อย”
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ได้ฟังคำพูดลู่เจียว ก็มีสีหน้าจริงจัง “พวกเราเข้าใจความหมายท่านแม่แล้ว พวกเราจะตั้งใจเรียน”
ลู่เจียวพยักหน้าอย่างพอใจ แต่ก็ยังคงชื่นชมเจ้าหนูน้อยทั้งสี่อีกยกใหญ่
“แต่วันนี้พวกเจ้าทำได้ไม่เลว เย็นนี้กลับไป แม่จะให้ฮวาเสิ่นทำของอร่อยให้พวกเจ้ากิน”
“ขอบคุณท่านแม่”
ทั้งครอบครัวเบิกบานใจ ส่งเสียงหัวเราะดังขึ้น