ตอนที่ 667 ถอนพิษ
ในห้องท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่เห็นบุตรสาวตนเองเอาแต่พูดจากับลู่เจียวก็เอ่ยขึ้นว่า “เหยาเอ๋อร์กับเจียวเจียวเป็นพี่น้องร่วมสาบาน ทั้งสองคนน่าจะมีเรื่องคุยกัน พวกเจ้าทั้งสองคนไปคุยกันเถอะ พวกเราจะนั่งในห้องน้องสี่สักครู่”
เนี่ยอวี้เหยากับลู่เจียวสองคนรับคำพร้อมกัน
ลู่เจียวมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยักหน้าให้นางเล็กน้อย นางหันหลังเดินออกไปกับเนี่ยอวี้เหยา
พอทั้งสองคนเดินออกไป เนี่ยอวี้เหยาก็ยื่นมือไปดึงมือลู่เจียวมาถามอย่างห่วงใยว่า “พวกเจ้าเดินทางเข้าเมืองหลวงไม่เป็นอันใดกระมัง”
ลู่เจียวยิ้มกล่าวว่า “ก็ไม่ได้มีเรื่องราวอันใด แต่เจ้ารู้ไหมว่าอันตรายมาก มีด่านตรวจค้นตลอดเส้นทาง”
หากไม่ใช่นางกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นหลบเข้าห้วงอากาศ พวกนางไม่มีทางมาถึงเมืองหลวงในระยะเวลาอันสั้นเช่นนี้ได้
ลู่เจียวกล่าวจบ ก็ถามเนี่ยอวี้เหยาอย่างห่วงใย “พี่อวี้เหยาอยู่เมืองหลวงเป็นอย่างไรบ้าง สบายดีไหม”
เนี่ยอวี้เหยาพยักหน้า “ดีมาก เพียงแต่รู้สึกไม่ค่อยชิน เจ้าก็รู้ แต่เล็กข้าเติบโตจากบ้านนา ไม่ค่อยถนัดเรื่องคิดวางอุบาย แต่คนเมืองหลวงคล้ายว่าถนัดเรื่องพวกนี้มากเป็นพิเศษ ประเด็นสำคัญก็คือยามพวกเขาคุยกันก็มักแอบซ่อนคมดาบ ทุกวาจาล้วนแฝงความนัย ดังนั้นปกติข้าพูดน้อยได้เท่าไรก็น้อยเท่านั้น”
“เจ้าก็รู้จักข้า ข้าเป็นคนชอบพูด ปรากฏว่าตอนนี้ต้องควบคุมนิสัยเดิม อึดอัดแทบตายเลยจริงๆ”
ลู่เจียวรู้ว่านางไม่ชิน กุมมือนางกล่าวว่า “เดี๋ยวก็ค่อยๆ ดีขึ้นเอง เจ้าเป็นบุตรีท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ เดิมก็เป็นหยกงาม นี่คือชีวิตของเจ้า หรือเจ้ายังคิดกลับไปใช้ชีวิตที่เมืองหนิงโจว”
พอลู่เจียวเอ่ยถึงเมืองหนิงโจว เนี่ยอวี้เหยาก็คิดถึงมารดาสามีขึ้นมา “เป็นอย่างไรบ้าง มารดาสามีข้าไม่ได้หาเรื่องให้พวกเจ้าลำบากใจกระมัง”
ลู่เจียวยิ้มพลางส่ายหน้า “เปล่า ตอนนี้นางดีมาก”
เนี่ยอวี้เหยาได้ฟังแค่นเสียงฮึเยียบเย็น “นับว่านางรู้ดีชั่ว หากยังทำตัวเหมือนเมื่อก่อน ข้าก็จะไม่ให้ท่านแม่ข้าออกหน้าช่วยพวกเขา”
ลู่เจียวยิ้มถามว่า “ครั้งนี้บิดาสามีเจ้าได้เลื่อนตำแหน่ง เพราะองค์หญิงใหญ่ออกหน้ากระมัง”
“ใช่ ท่านยายข้า ท่านแม่ข้า บอกว่าอย่างไรก็เป็นบิดาสามีข้า แต่ไรมาท่านพ่อก็ดีต่อข้า ดังนั้นจึงขอให้ท่านยายออกหน้า พอท่านยายทูลกับฝ่าบาท ฝ่าบาทก็ทรงเห็นชอบ”
ลู่เจียวพยักหน้า ดึงเนี่ยอวี้เหยาเดินไปคุยที่ห้องรับแขกข้างๆ ที่อยู่ไม่ไกลนัก
เพราะอ๋องเยียนถูกพิษยังไม่ได้ถอนพิษ ดังนั้นท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่กับเนี่ยอวี้เหยาจึงไม่อาจอยู่นาน เนี่ยอวี้เหยาพูดจากับลู่เจียวได้ครู่หนึ่งก็ลุกขึ้นเตรียมกลับ แต่ก็ยังอาลัยตัดใจไม่ได้ “เจ้าจะมาเป็นแขกที่จวนข้าเมื่อใดกัน”
“ตอนนี้พวกเจ้าอยู่ที่จวนอู่กั๋วกงหรือ”
ลู่เจียวถามเนี่ยอวี้เหยา เนี่ยอวี้เหยาส่ายหน้า “เปล่า ท่านแม่ข้าซื้อบ้านหลังใหญ่ให้ข้า ครอบครัวพวกเราอยู่กันที่นั่น ไม่ได้อยู่ในจวนอู่กั๋วกง มีอย่างที่ไหนบุตรสาวออกเรือนแล้วยังอยู่กับมารดา”
ลู่เจียวพยักหน้า เนี่ยอวี้เหยาดึงมือนางมากล่าวว่า “เจียวเจียว หากพวกเจ้าอยู่เมืองหลวงก็คงดี ข้าจะได้มีคนคุยด้วย”
ลู่เจียวกลั้นยิ้ม “ไหนเลยจะเร็วเพียงนั้น จะอย่างไรก็ต้องครบวาระสามปี ครบวาระแล้วจะได้เข้าเมืองหลวงหรือไม่ ก็ยังไม่อาจรู้ได้ เป็นไปได้ว่าอาจจะถูกย้ายไปที่อื่น และก็อาจเป็นไปได้ว่าอาจได้ย้ายมาเมืองหลวง แต่สุดท้ายพวกเราย่อมต้องเข้าเมืองหลวง”
“เยี่ยม หวังว่าเจ้าจะรีบมา”
ทั้งสองคนคุยกันไปก็เดินออกจากหน้าประตูลาน ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่กับเนี่ยเยี่ยหลิงกำลังรออยู่ พระชายาอ๋องเยียนเองก็รอเป็นเพื่อน
แต่ไรมาจวนอู่กั๋วกงไม่เคยเลือกข้าง พวกเขาเป็นคนสนิทฮ่องเต้ ปกติก็ปฏิบัติต่อองค์ชายหลายพระองค์เฉกเช่นเดียวกัน
แต่บรรดาองค์ชายไม่มีผู้ใดกล้าไม่เคารพตระกูลพวกเขา
พระชายาอ๋องเยียนรู้ความสำคัญเรื่องนี้ดี ดังนั้นจึงเกรงใจท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่กับซื่อจื่อจวนอู่กั๋วกงเนี่ยเยี่ยหลิงอย่างมาก อยู่เป็นเพื่อนมาแต่ต้นจนบัดนี้
ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่เห็นเนี่ยอวี้เหยาตัดใจกลับไม่ได้
นางยิ้มเอ่ยว่า “เจียวเจียว รอไว้ถอนพิษให้อ๋องเยียนแล้วก็มาเป็นแขกที่จวนอู่กั๋วกงนะ”
ลู่เจียวรับปาก “เจ้าค่ะ ท่านแม่บุญธรรม”
ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่กำชับอีกสองสามคำก่อนจะพาเนี่ยอวี้เหยากับเนี่ยเยี่ยหลิงกลับ
ตอนค่ำ คนจากจวนอู่กั๋วกงก็ส่งผักดองหน่อไม้ดองมาเป็นกอง ยังมีขนมที่ทำอย่างประณีตอีกหลายอย่าง ลู่เจียวถึงกับกินไปไม่น้อย
ทำให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นดีใจมาก
เวลาสามวัน หมอหลวงฉีเก็บรวบรวมสมุนไพรที่ลู่เจียวต้องการมาได้ครบ
อาจกล่าวได้ว่าสามวันนี้ หมอหลวงฉีทุ่มเทเต็มที่อย่างที่สุด หาสมุนไพรถอนพิษให้อ๋องเยียนอย่างไม่หลับไม่นอน ในบรรดาสมุนไพรเหล่านี้ ในวังและห้องยาหลายตระกูลในเมืองหลวงล้วนไม่มี เขาไปสอบถามจากชนชั้นสูงศักดิ์ต่างๆ ในเมืองหลวงว่ามีสมุนไพรนี้หรือไม่ หากได้ยินว่ามี ก็จะวิ่งไปยามเที่ยงคืนดึกดื่นเพื่อขอสมุนไพรนี้
โชคดีที่คนเหล่านี้รู้ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอ๋องเยียน ก็ไม่กล้าอิดออด ได้แต่มอบสมุนไพรออกมาอย่างไม่รีรอ
ตอนหมอหลวงฉียุ่งกับการรวบรวมสมุนไพร ถึงกับมีคนลอบสังหารเขา โชคดีฝ่าบาทส่งกององครักษ์ชิงหลินมาอารักขาเขา
หมอหลวงฉีจึงได้ปลอดภัย รวบรวมสมุนไพรที่อ๋องเยียนต้องการมาได้ครบ
กององครักษ์ชิงหลินอารักขาหมอหลวงฉีเข้าจวนอ๋องเยียนอย่างปลอดภัย สุดท้ายยังอยู่จวนอ๋องเยียนอารักขาอ๋องเยียนต่อ ป้องกันมีคนลอบปองร้ายอ๋องเยียนยามค่ำคืน
ในห้องโถงจวนอ๋องเยียน หมอหลวงฉีนำสมุนไพรที่รวบรวมมาได้ส่งถึงมือลู่เจียว “ปฏิบัติภารกิจลุล่วง ในที่สุดก็หามาได้ครบ สมุนไพรเหล่านี้ ตอนนี้ทำเช่นไรต่อ ต้องต้มหรือไม่”
ลู่เจียวส่ายหน้า “มอบให้ข้า ข้าปรุงเป็นยาเม็ดเอง ผู้ใดก็อย่าได้มารบกวนข้า”
นางต้องเข้าไปในห้วงอากาศปรุงยาเม็ด และเติมน้ำพุจิตวิญญาณในยาเม็ด น้ำพุจิตวิญญาณช่วยล้างเส้นชีพจร ฟื้นฟูสภาพร่างกาย พร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพให้กับตัวยา
หมอหลวงฉีไม่ได้คิดสงสัยคำพูดลู่เจียว พยักหน้าทันที “เช่นนั้นเจ้าไปปรุงยา ข้ารับหน้าที่เฝ้าท่านอ๋อง”
ต้องปรุงยาให้ได้ในคืนนี้ หาไม่เช่นนั้น อ๋องเยียนก็จะสิ้นลมหายใจ
ลู่เจียวย่อมรู้เรื่องนี้ ดังนั้นจึงหยิบสมุนไพรเดินกลับห้องตนเองไปกับเซี่ยอวิ๋นจิ่น
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพาคนไปเฝ้าอยู่ด้านนอก ให้ลู่เจียวเข้าห้องไปปรุงยา
ลู่เจียวพยักหน้าเล็กน้อย พอเข้าห้องก็เข้าไปในห้วงอากาศ เริ่มใช้เครื่องมือบดสมุนไพร จากนั้นก็ปรุงยาถอนพิษ
เที่ยงคืน ในที่สุดยาถอนพิษก็ปรุงเสร็จ ได้มาสองเม็ดขนาดเพียงเท่าเม็ดถั่วเหลือง แต่กลับมีกลิ่นหอมอบอวลกำจายอย่างมาก
ลู่เจียวหยิบยาถอนพิษสองเม็ดไปที่ห้องท่านอ๋องมอบให้หมอหลวงฉี กล่าวว่า “นี่คือยาถอนพิษสองเม็ด ตอนนี้ป้อนท่านอ๋องหนึ่งเม็ด รอไว้ตอนเที่ยงค่อยป้อนอีกหนึ่งเม็ด ผงเจ็ดพิษในร่างกายท่านอ๋องก็จะถูกขจัดหมดสิ้น”
ทุกคนในห้องต่างตื่นเต้น แต่ละคนจ้องมองยาถอนพิษสองเม็ดในมือลู่เจียว
หมอหลวงฉีเข้าไปรับยามาอย่างตื่นเต้น
ครั้งนี้ลู่เจียวไม่เพียงแต่ช่วยท่านอ๋อง ยังได้ช่วยตระกูลฉีทั้งครอบครัว
บุตรชายคารวะอาจารย์ครานี้ได้ดีจริง เป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตคนตระกูลฉีพวกเขาไว้โดยแท้
หมอหลวงฉีรีบหันไปป้อนยาถอนพิษให้อ๋องเยียนเม็ดหนึ่ง ทุกคนในห้องต่างจ้องมองอ๋องเยียนบนเตียงอยากดูว่าอ๋องเยียนกินยาถอนพิษแล้วจะมีปฏิกิริยาอันใด
ไม่นาน อ๋องเยียนบนเตียงก็ขยับ อาเจียนออกมาเป็นโลหิตสีดำ ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งทั่วห้อง