ตอนที่ 668 ความผูกพันอบอุ่น
ในห้องทุกคนไม่คิดสนใจกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง พากันส่งเสียงร้องตกใจ
“ท่านอ๋อง”
พระชายาอ๋องเยียนหันไปมองลู่เจียวทันที “ฮูหยินเซี่ย ท่านอ๋องไม่เป็นอันใดกระมัง”
ลู่เจียวส่ายหน้า “ขับพิษออกมาเป็นเรื่องดี ตอนเช้าท่านอ๋องก็จะฟื้นแล้ว”
พระชายาอ๋องเยียนได้ฟังก็ดีใจมาก ก่อนจะร่ำไห้อย่างไม่อาจระงับความตื่นเต้น พนมมืออธิษฐาน “สวรรค์คุ้มครอง ท่านอ๋องไม่เป็นอันใดแล้ว ดีจริงๆ”
ในห้องทุกคนต่างดีใจ
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวย่อมต้องดีใจเช่นกัน แต่เซี่ยอวิ๋นจิ่นห่วงสุขภาพลู่เจียวมากกว่า ตอนนี้เห็นว่าท่านอ๋องไม่เป็นอันใดแล้ว เขายื่นมือไปดึงลู่เจียวกล่าวว่า “เจียวเจียว ดึกแล้ว เจ้ากลับไปนอนสักครู่เถอะ”
“ตกลง”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพาลู่เจียวเดินออกไป พระชายาอ๋องเยียนรีบสั่งการให้คนไปส่งพวกเขา
วันรุ่งขึ้น เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวเพิ่งจะตื่นนอนก็ได้ยินเสียงรายงานอย่างดีใจของหร่วนไค “ใต้เท้า ฮูหยิน อ๋องเยียนฟื้นแล้ว”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวได้ฟังหร่วนไคก็ดีใจมาก ทั้งสองคนลุกขึ้นพาลูกน้องไปเรือนพักอ๋องเยียน
องครักษ์เฝ้าประตูนำพวกเขาเข้าไปด้านในอย่างนอบน้อม ท่านอ๋องถอนพิษได้อย่างราบรื่นก็เพราะความดีความชอบของฮูหยินเซี่ย นางเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตท่านอ๋อง ดังนั้นพวกเขาต้องเกรงใจอีกฝ่ายมากขึ้นสักหน่อย
ในห้องอ๋องเยียนมีคนยืนอยู่เต็มไปหมด นอกจากพระชายาเอกยังมีพระชายารองและอนุ พร้อมทั้งซื่อจื่อและคุณชายหลายคน หมอหลวงฉีกำลังตรวจอ๋องเยียนบนเตียง
แม้ว่าอ๋องเยียนฟื้นแล้ว แต่สติยังไม่ค่อยสมบูรณ์ดี ร่างกายยังคงอ่อนแอ แต่สมองกลับกระจ่างชัด กำลังถามหมอหลวงฉีว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น
หมอหลวงฉีเล่าเรื่องที่เกิดกับอ๋องเยียนรอบหนึ่ง สีหน้าอ๋องเยียนฉายแววเย็นเยียบขึ้นมาทันที แววตาเต็มไปด้วยความดุดัน
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวเดินเข้าประตูมาพอดี หมอหลวงฉีรีบกล่าวว่า “ครั้งนี้ท่านอ๋องถอนพิษได้ราบรื่นก็เพราะได้ฮูหยินเซี่ย หากไม่ใช่ฮูหยินเซี่ยรีบเร่งมาเมืองหลวง คงไม่มีใครถอนพิษให้ท่านอ๋องได้”
อ๋องเยียนเงยหน้ามองไปยังเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียว สีหน้าเย็นเยียบก็อ่อนโยนลงมาก เขาเอ่ยขอบคุณด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ข้าต้องขอขอบคุณฮูหยินเซี่ยด้วย”
ลู่เจียวส่ายหน้า “ได้รับใช้ท่านอ๋องถือเป็นเกียรติของหม่อมฉัน พิษในกายท่านอ๋องถูกถอนหมดแล้ว แต่ร่างกายอ่อนแออย่างมาก ดังนั้นต้องพักผ่อนให้มาก”
อ๋องเยียนพยักหน้าอ่อนแรง หลับตานอนพักทันที
พระชายาอ๋องเยียนส่งสัญญาณให้ทุกคนในห้อง นอกจากหมอหลวงฉีกับองครักษ์และขันทีประจำกายท่านอ๋อง ที่เหลือให้ออกไปให้หมด
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวก็เดินตามทุกคนออกมา
พระชายาอ๋องเยียนอมยิ้มเดินมาตรงหน้าทั้งสองคน เอ่ยอย่างอ่อนโยนว่า “ครั้งนี้พวกเจ้าได้ช่วยท่านอ๋องไว้ มีความดีความชอบ ไว้สุขภาพท่านอ๋องดีแล้ว ก็จะตกรางวัลอย่างงาม ข้าเองก็ต้องขอขอบคุณพวกเจ้าที่เดินทางรอนแรมนับพันลี้มาเมืองหลวงเพื่อช่วยชีวิตท่านอ๋อง พวกเจ้าช่วยท่านอ๋อง ก็เหมือนได้ช่วยข้ากับซื่อจื่อ”
พระชายาอ๋องเยียนรู้แก่ใจดีกว่าวันหน้ายามอยู่ต่อหน้าท่านอ๋อง เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวย่อมต้องมีความสำคัญยิ่งกว่าผู้ใด ดังนั้นนางต้องถือโอกาสสร้างปฏิสัมพันธ์อันดีกับพวกเขา วันหน้าพวกเขาก็จะเป็นกำลังสำคัญให้บุตรชายนาง
พระชายาอ๋องเยียนกล่าวจบ ก็หันไปรับสั่งด้านหลัง “เจินเอ๋อร์ มานี่ มาขอบคุณใต้เท้าเซี่ยกับฮูหยินเซี่ย หากไม่ได้ใต้เท้าเซี่ยกับฮูหยินเซี่ย บิดาเจ้าก็คงต้องจากไปแล้ว”
ซื่อจื่อจวนอ๋องเยียน ‘เซียวเจิน’ เดินเข้ามาประสานมือขอบคุณเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียว
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวรีบประสานมือตอบอย่างนอบน้อม
ทั้งสองคนเงยหน้ามองประเมินเซียวเจิน เซียวเจินอายุไม่มาก ดูแล้วน่าจะราวสิบเจ็ด กิริยาท่าทางก็แลดูสูงส่งดังเชื้อพระวงศ์สูงศักดิ์ แววตาคมเช่นคนตระกูลเซียว สง่างามผ่าเผย รอให้โตอีกหน่อย เกรงว่าคงยิ่งงามสง่ากว่านี้
ลู่เจียวมองแล้วก็แอบถอนหายใจ ไม่เสียทีที่เป็นพระเอกในนิยาย ไม่เพียงแต่ตระกูลดี ยังหน้าตาดี และเพราะพระชายาอ๋องเยียนตั้งใจอบรม เซียวเจินยังมีความสามารถดีอย่างมาก
ตามหลัก เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวเห็นเซียวเจินควรดีใจ น่าเสียดายพวกเขาทั้งสองคนไม่ลืมเรื่องซื่อเป่าว่าเป็นบุตรชายอ๋องเยียน หากวันหน้าอ๋องเยียนรู้เรื่องนี้และพาซื่อเป่ากลับมา ซื่อเป่าก็เป็นองค์ชาย เช่นนั้นเขากับซื่อจื่ออ๋องเยียนก็จะเป็นศัตรูกัน
ถึงตอนนั้นพระชายาอ๋องเยียนรู้ว่าพวกเขาเลี้ยงดูซื่อเป่ามา ก็จะเห็นพวกเขาเป็นศัตรู คงไม่ได้รู้สึกอันใดกับพวกเขา และจุดยืนของทั้งสองฝ่ายก็คงตรงข้ามกัน
แต่ยามนี้พระชายาอ๋องเยียนไม่รู้ ในใจนางคิดแต่จะดึงเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวไว้เป็นพวก จึงเกรงใจพวกเขาเป็นพิเศษ แม้แต่ซื่อจื่อเองก็เป็นมิตรกับพวกเขาเป็นพิเศษเช่นกัน
“ขอบคุณใต้เท้าเซี่ยกับฮูหยินเซี่ยที่ช่วยบิดาข้า วันหน้าหากใต้เท้ากับฮูหยินต้องการความช่วยเหลือ ก็ให้ส่งคนมาหาพวกเราที่จวนอ๋องเยียนได้”
เขากล่าวออกไปด้วยท่าทางเป็นมิตรและใจกว้าง ราวกับเขาคือผู้ดูแลจวนอ๋องเยียน
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวขอบคุณซื่อจื่อและพระชายาอ๋องเยียนอย่างนอบน้อม
พระชายาอ๋องเยียนบอกให้พวกเขาสองคนไปพักผ่อน พิษส่วนใหญ่ในกายท่านอ๋องขจัดออกไปแล้ว ตอนนี้ไม่ต้องการใต้เท้าเซี่ยกับฮูหยินเซี่ยมาคอยเป็นห่วงอีกแล้ว ดังนั้นพวกเขาทั้งสองคนจึงพักผ่อนอย่างสบายใจ หากมีอันใดต้องการ ก็ให้ส่งคนมาบอกกับนาง
เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวเอ่ยขอบคุณพระชายาอ๋องเยียนแล้วก็นำคนจากไป
พอทั้งสองคนเข้ามาในห้องตนเองก็เอ่ยขึ้นว่า “พระชายาอ๋องเยียนคิดดึงพวกเราเป็นพวกหรือ”
“น่าจะใช่ เพียงแต่เจ้านายของพวกเราทั้งสองเป็นคนละฝั่งกัน”
ลู่เจียวทอดถอนใจ ไม่กล่าวอันใดเรื่องพระชายาอ๋องเยียนกับซื่อจื่ออีก แม้ว่านางรู้ว่าวันหน้าซื่อจื่อจะเป็นศัตรูกับซื่อเป่า แต่ตอนนี้เขายังเล็ก นางก็ทำร้ายซื่อจื่อไม่ลง
“ตอนเที่ยงท่านอ๋องกินยาไปอีกเม็ดก็ถอนพิษได้พอสมควรแล้ว พวกเราต้องรีบกลับเมืองหนิงโจว เจ้าเป็นถงจือเมืองหนิงโจว ออกมาอยู่นอกเมืองนานไปย่อมไม่ดี”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยักหน้า แต่ไม่คิดรีบร้อนเดินทาง เจียวเจียวตั้งครรภ์ ก่อนหน้านี้เข้าเมืองหลวงก็มาอย่างรีบร้อน ขากลับเดินทางช้าลงหน่อยได้
ตอนเที่ยง อ๋องเยียนก็ฟื้น หมอหลวงฉีรีบป้อนยาถอนพิษเม็ดที่สองให้เขา หลังกินยาถอนพิษลงไป อ๋องเยียนก็อาเจียนโลหิตออกมาอีกกองโต อาเจียนโลหิตนี้ออกมาหมด เขาก็รู้สึกสติกระจ่างขึ้นมาก ถึงกับดีขึ้นไม่น้อย รู้สึกหิวขึ้นมาทันที
พระชายาอ๋องเยียนได้ยินท่านอ๋องว่าหิว ก็รีบสั่งการให้คนไปเตรียมอาหารมา
เห็นท่านอ๋องกินได้มาก พระชายาอ๋องเยียนก็อดหลั่งน้ำตาแห่งความปีติไม่ได้
อ๋องเยียนเห็นนางเช่นนี้ ในใจก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาก เห็นพระชายาผ่ายผอมลงไปเป็นกอง เขาก็อดเอ่ยขึ้นว่า “ข้าถูกพิษสลบไปหลายวันนี้ ลำบากเจ้าแล้ว”
เสด็จพ่อพระราชทานสมรสให้เขากับพระชายา ทั้งสองคนไม่ได้มีความผูกพันอันใดกันมากมายนัก แต่ละคนทำหน้าที่ของตนเองไปให้ดีก็พอ แต่เขาประสบเคราะห์ครั้งนี้ ดูแล้วพระชายาทุ่มเทอย่างมาก ทำให้ท่านอ๋องรู้สึกดีกับนางไม่น้อย
พระชายาอ๋องเยียนได้ยินวาจาอ๋องเยียน ในใจก็ดีใจอย่างไม่อาจระงับ นางรู้ว่าท่านอ๋องเย็นชากับนางมาตลอด แม้ว่าให้ความเคารพนาง แต่กลับไม่ได้รักใคร่ผูกพันสักเท่าไร คิดไม่ถึงว่าท่านอ๋องประสบเหตุครั้งนี้ ถึงกับมีความผูกพันอันอบอุ่นให้นางมากขึ้นไม่น้อย ในใจพระชายามีความยินดีเหลือล้น
อ๋องเยียนกินอาหารแล้ว เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวก็เข้ามา
ลู่เจียวตรวจชีพจรให้อ๋องเยียนก่อน สุดท้ายแน่ใจว่าพิษในกายอ๋องเยียนถูกขจัดหมดแล้ว นางก็โล่งอก
“ขอแสดงความยินดีกับท่านอ๋องด้วย ถอนพิษได้หมดแล้ว วันหน้าขอเพียงพักฟื้นให้มากๆ ก็พอ”