Skip to content
Home » Blog » ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 669

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 669

ตอนที่ 669 รู้ล่วงหน้า

แม้ว่าอ๋องเยียนถอนพิษได้แล้ว แต่นอนอยู่บนเตียงยี่สิบวัน ไม่ได้กินอันใด ร่างกายย่อมผ่ายผอมลงไปมาก เรื่องพวกนี้ต้องค่อยๆ ฟื้นตัว ใจร้อนไปก็ไร้ประโยชน์

อ๋องเยียนก็ไม่ได้คิดเป็นห่วงเรื่องพวกนี้ ขอเพียงเขาไม่ตาย ทุกอย่างก็ยังไม่เป็นอันใด

“ครั้งนี้ต้องขอบคุณฮูหยินที่ให้ความช่วยเหลือ เจ้าถือว่าเป็นผู้มีพระคุณต่อข้า ข้าควรมอบรางวัลให้เจ้าอย่างาม เจ้าบอกข้ามาว่าต้องการสิ่งใด”

อ๋องเยียนมองลู่เจียว ลู่เจียวลุกขึ้นแสดงท่าทีนอบน้อม ตนเองไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน เพียงแต่ทำตามหน้าที่อย่างเต็มที่เท่านั้น

อ๋องเยียนยิ้มหรี่ตามองลู่เจียว เขาคิดถึงว่าครั้งแรกที่หญิงผู้นี้ดึงลูกธนูให้เขา ก็เอ่ยปากทีเดียวห้าพันตำลึง ตอนนั้นม่อเป่ยยังโมโหตำหนิว่านางเสียมากมาย

อ๋องเยียนคิดแล้วก็หันไปมองพระชายาอ๋องเยียน ยิ้มกล่าวว่า “จะว่าไป นางก็ช่วยข้ามาถึงสองครั้งแล้ว ครั้งก่อนข้าโดนลูกธนูหัวแฉก ไม่มีคนกล้าดึงให้ข้า นางเป็นคนที่ดึงธนูหัวแฉกออกให้ข้า คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้จะช่วยข้าไว้อีกครั้ง ดังนั้นข้าต้องตกรางวัลให้นางอย่างงาม เจ้ารู้ไหมว่านางชอบอันใด”

พระชายาอ๋องเยียนส่ายหน้า ในใจแอบฝืดเฝื่อน เหตุใดรู้สึกว่าท่านอ๋องสนิทสนมกับฮูหยินเซี่ยผู้นี้มาก

แต่นางฉลาดพอที่จะไม่แสดงออกมา

อ๋องเยียนยิ้มกล่าวว่า “นางชอบเงิน ดังนั้นเจ้าก็เตรียมเงินให้นาง ตกรางวัลไปสองหมื่นตำลึง”

ตอนนี้ลู่เจียวไม่ขาดแคลนเงินทอง แต่ยังคงชอบเงินทอง ในเมื่อเงินทองเป็นของดี เหตุใดต้องหาเรื่องกับเงินทองด้วย นางรีบเอ่ยขอบคุณอ๋องเยียนคล่องแคล่ว “ขอบคุณท่านอ๋อง”

อ๋องเยียนหัวเราะดังลั่น กล่าวว่า “ดูสิ ข้าพูดถูกไหม”

พระชายาอ๋องเยียนมองอ๋องเยียนด้วยสีหน้าสับสน จากนั้นก็กล่าวน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “ได้ ข้าไปเตรียมตั๋วแลกเงิน”

พระชายาอ๋องเยียนนำคนออกไปเตรียมตั๋วแลกเงิน ในห้องอ๋องเยียนโบกมือให้พวกหมอหลวงฉีออกไป สุดท้ายในห้องเหลือเพียงเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียว และอ๋องเยียน

อ๋องเยียนมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น ถามว่า “เจ้าอยู่เมืองหนิงโจว หลินจือฝู่คงหาเรื่องเจ้าไม่น้อยกระมัง”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยักหน้า กล่าวว่า “ข้าน้อยไม่กลัวเขาหาเรื่อง เรื่องที่เมืองหนิงโจว ข้าน้อยจัดการได้ ข้าน้อยรับมือหลินจือฝู่ได้ เพียงแต่ท่านอ๋องอยู่เมืองหลวงต้องระมัดระวังให้มาก ครั้งนี้อ๋องจิ้นกระทำการไม่สำเร็จ เกรงว่าคงไม่ยอมเลิกรา วันหน้าท่านอ๋องต้องระมัดระวังให้มาก”

อ๋องเยียนพยักหน้าเล็กน้อย กล่าวว่า “ครั้งนี้ข้าประมาทเอง ตอนนั้นข้าเห็นคนลอบสังหารข้า ก็คิดจะซ้อนแผน จะได้นำเรื่องพี่สี่ไปกราบทูลเสด็จพ่อ เพียงแต่ข้าคิดไม่ถึงว่าพวกเขาถึงกับทาพิษไว้ที่ลูกศร ยังเป็นพิษที่แก้ยากเพียงนี้ ทำเอาเกือบสิ้นชีวิตได้ ดังนั้นจะว่าไป ล้วนเป็นเพราะข้าประมาทเกินไป”

หากเขาหลบ ก็หลบได้ แต่ตอนนั้นสมองเขาคิดแต่จะโต้อ๋องจิ้นกลับ

ในที่สุดเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวก็เข้าใจว่าเหตุใดอ๋องเยียนจึงถูกพิษได้

ที่แท้เพราะคิดโต้คืนอ๋องจิ้น เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าจะถูกพิษที่ถอนยากเพียงนี้

เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองอ๋องเยียน กล่าวว่า “ท่านอ๋องต้องระวังคนผู้หนึ่ง”

“ผู้ใด”

“พระชายาอ๋องฉิน หลินหรูเยว่ ก่อนหน้านี้ข้าเคยพบปะหญิงผู้นี้มาระยะหนึ่ง นางไม่ธรรมดา คล้ายว่ามีความสามารถในการรู้เรื่องราวล่วงหน้า”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่อาจเล่าเรื่องหลินหรูเยว่กลับมาเกิดใหม่ไร้สาระพวกนี้กับอ๋องเยียน พูดออกมาท่านอ๋องคงไม่เชื่อ แต่ถ้าเขาเปลี่ยนวิธีพูด เชื่อว่าท่านอ๋องจะให้ความสำคัญ

อ๋องเยียนได้ฟังเซี่ยอวิ๋นจิ่น ก็ให้ความสำคัญดังคาด เขาจ้องมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น ถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ“หลินหรูเยว่มีความสามารถในการรู้เรื่องราวล่วงหน้าหรือ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยักหน้า “ข้ารู้สึกว่านางมีความสามารถนี้ ก่อนหน้านี้ตอนข้าพาเจียวเจียวมาเมืองหลวงโดนโจรปล้น หลินหรูเยว่ก็บังเอิญมาพบเข้า เกรงว่าท่านอ๋องยังไม่รู้เรื่องหนึ่ง ก่อนหน้านี้หลินหรูเยว่ถึงกับวางยาทำลายโฉมหน้าตนเองเพื่อยกเลิกงานแต่งกับอ๋องฉินเซียวถิง”

“แม้ว่าอ๋องฉินไม่ได้มีความสามารถอันใด แต่ก็เป็นอ๋อง หลินหรูเยว่ยืนยันจะถอนหมั้นกับเขาให้ได้ ข้าน้อยครุ่นคิดแล้วก็เป็นไปได้มากกว่านางรู้เรื่องราวล่วงหน้าอันใด และยังรู้ว่าข้าเป็นเพียงคนบ้านนา ตอนนั้นยังเป็นแค่เจี่ยหยวนเมืองหนิงโจว หลินหรูเยว่เป็นบุตรีจวนโหว ถึงกับหาทางจะแต่งกับข้าน้อย ข้าน้อยสงสัยว่านางน่ารู้เรื่องราวล่วงหน้า”

อ๋องเยียนได้ฟังเซี่ยอวิ๋นจิ่นก็สีหน้าเย็นเยียบดุดัน แววตาเต็มไปด้วยความเยือกเย็นราวกับธารน้ำแข็งหนาวเหน็บ

แม้ว่าแต่ไรมาพี่สี่แย่งชิงกับเขา ทว่าไม่เคยโหดเหี้ยมเช่นนี้ หรือว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือพระชายาอ๋องฉินจริง

นางรู้เรื่องราวล่วงหน้าอันใดที่ทำให้พี่สี่โกรธแค้นเขาเช่นนี้

เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ได้เอ่ยมากความต่อ ขอเพียงเอ่ยถึงหลินหรูเยว่ต่อท่านอ๋องได้ เรื่องที่เหลือก็ให้เขาไปสืบความเอาเอง

“ถอนพิษให้ท่านอ๋องแล้ว ข้ากับฮูหยินข้าก็ควรกลับเมืองหนิงโจว ท่านอ๋องพักฟื้นให้ดีๆ”

อ๋องเยียนพยักหน้า กล่าวว่า “อืม ก่อนหน้านี้พวกเจ้าส่งคนนำยามา ข้าได้นำทูลเกล้าฯ ถวายเสด็จพ่อแล้ว เสด็จพ่อให้คนสำนักหมอหลวงทดสอบยาแล้ว ไม่นานก็จะทดสอบประสิทธิภาพของยาออกมาได้ หากยานี้มีประสิทธิภาพ ก็จะมอบให้สามโรงผลิต ผลิตยานี้กระจายไปใช้ทั่วแคว้นต้าโจวอย่างเป็นทางการ

“เดิมข้าคิดปิดบังสถานะพวกเจ้า แต่ครั้งนี้ข้าถูกพิษ พวกเจ้าได้เปิดเผยตัวต่อหน้าเสด็จพ่อแล้ว ดังนั้นก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังอีก วันหน้าจะเป็นอย่างไรก็คงต้องเป็นไป”

“ขอรับ ท่านอ๋อง”

“เอาละ พวกเจ้ากลับไปเถอะ ข้าเหนื่อยแล้ว อยากพักผ่อนสักครู่”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวเห็นอ๋องเยียนอ่อนล้า ก็ไม่ได้อยู่ต่อ กล่าวอำลาแล้วก็ออกจากห้องมาอย่างเงียบกริบ

นอกประตู หมอหลวงฉีเห็นพวกเขา ก็ถามอย่างห่วงใยว่า “พวกเจ้าจะกลับเมืองหนิงโจวแล้วหรือ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวพยักหน้า หมอหลวงฉีมองพวกเขา เอ่ยขอบคุณอย่างจริงใจว่า “ครั้งนี้ตระกูลฉีพวกเราโชคดีที่ได้พวกเจ้า ตระกูลฉีพวกเราจะจดจำบุญคุณครั้งนี้ของพวกเจ้าไว้ ครั้งนี้ก็ให้เหล่ยเอ๋อร์ติดตามพวกเจ้าไปเมืองหนิงโจวเถอะ”

ลู่เจียวหันไปมองฉีเหล่ย ฉีเหล่ยกล่าวอย่างดีใจว่า “อาจารย์ ข้าขอติดตามท่านกลับเมืองหนิงโจว”

ลู่เจียวมองเขา เลิกคิ้วกล่าวว่า “เหมือนอายุฉีเหล่ยไม่น้อยแล้ว เขาไม่ต้องอยู่เมืองหลวงแต่งงานหรือ”

ฉีเหล่ยพอได้ฟังลู่เจียวเอ่ยเรื่องนี้ ก็รีบเอ่ยว่า “อาจารย์ ข้าไม่ร้อนใจแต่งงาน”

เขาแต่งงานก็ต้องดูแลภรรยาและลูก ตอนนี้เขาไม่อยากแต่งงาน อยากจะเรียนวิชาการแพทย์กับอาจารย์ให้ดี

ตระกูลฉีเองก็ยินยอม เพราะวิชาการแพทย์ลู่เจียวร้ายกาจมาก พวกเขาหวังให้วิชาการแพทย์ตระกูลฉีพัฒนาไปอีกขั้น ในเมื่อฉีเหล่ยตั้งใจเรียนวิชาการแพทย์ พวกเขาก็อย่าได้ขัดขวางเขา ส่วนเรื่องแต่งงาน ไว้อีกสองสามปีก็เหมือนกัน

หมอหลวงฉีเอ่ยขึ้นว่า “บุตรชายข้าคิดแต่จะเรียนวิชาการแพทย์ รอให้วิชาการแพทย์เรียนสำเร็จก่อนค่อยแต่งงานก็ได้”

พอหมอหลวงฉีเอ่ย ลู่เจียวก็เข้าใจความหมายเขา ก็คือคิดให้ฉีเหล่ยเรียนวิชาการแพทย์สำเร็จก่อน จากนั้นก็ค่อยแต่งงาน

“ได้”

ตอนบ่ายเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวก็ออกเดินทางกลับเมืองหนิงโจว นอกจากพระชายาอ๋องเยียนมอบตั๋วแลกเงินสองหมื่น ยังมอบผ้าแพรต่วนและเครื่องประดับ พร้อมทั้งของโบราณให้ลู่เจียวนำกลับเมืองหนิงโจว

ลู่เจียวยิ้มมองของขวัญกองไปครึ่งพื้นที่ของห้องใต้ท้องเรือ กล่าวว่า “ไม่รู้ว่าวันหน้าพระชายาอ๋องเยียนรู้เรื่องพวกเราจะนึกเสียใจภายหลังหรือไม่ว่าวันนี้ดีกับพวกเราเช่นนี้”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version