Skip to content
Home » Blog » ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 694

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 694

ตอนที่ 694 กำกับเอง แสดงเอง

ริมบ่อปลาจิ๋นหลี่รายล้อมไปด้วยผู้คนอย่างรวดเร็ว แต่ละคนมองคุณชายใหญ่นิ่งฮุยที่นอนตายตาไม่หลับหงายอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าตกใจ จากนั้นก็ทุกคนเงยหน้ามองไปยังเซี่ยอวิ๋นจิ่นริมบ่อปลาจิ๋นหลี่ด้วยสัญชาตญาณทันที

เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ได้รู้สึกหวาดกลัว สีหน้ายังคงนิ่งสงบ เขาเลิกคิ้วเล็กน้อยครุ่นคิดว่าตนเองจะล้างมลทินนี้อย่างไร

ใต้เท้าหูเดินเข้ามาถามเซี่ยอวิ๋นจิ่นทันที “อวิ๋นจิ่น เกิดอันใดขึ้น เหตุใดคุณชายใหญ่ตระกูลนิ่งจึงตายแล้ว”

ยามนี้ท่านนิ่งป๋อไม่อาจควบคุมสติได้อีกต่อไป พอได้ยินใต้เท้าหูก็คำรามตวาดดังลั่นว่า “เป็นเขา เขาฆ่าบุตรชายข้า ต้องเป็นเขาฆ่าบุตรชายข้าอย่างแน่นอน”

ท่านนิ่งป๋อนึกเสียใจภายหลังอย่างที่สุด หากรู้เช่นนี้ วันนี้เขาก็จะไม่เชิญเซี่ยอวิ๋นจิ่นมา หากไม่เชิญเชามา บุตรชายเขาก็ไม่ต้องตาย

ท่านนิ่งป๋อหันไปมองบ่าวชายประจำตัวนิ่งฮุย คำรามอย่างโมโหว่า “เจ้าบอกว่า เขาเป็นคนทำร้ายคุณชายใหญ่ตายใช่หรือไม่”

บ่าวรับใช้ของนิ่งฮุยสีหน้าซีดขาว ชี้ไปที่เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “เขา เขามีปากเสียงกับคุณชายข้า จากนั้น ทั้งสองคนผลักกัน สุดท้ายเขาผลักคุณชายใหญ่ล้ม คุณชายใหญ่ล้มลงกับพื้น กระแทกเข้ากับก้อนหินจนตาย”

ท่านนิ่งป๋อได้ยินวาจานี้ก็หันไปมองหลินจือฝู่ทันที “ใต้เท้าหลิน ข้าต้องการให้เขาตาย ต้องการให้เขาตาย”

ยามนี้หลินจือฝู่ตื่นเต้นจนพูดจาไม่ออก เรื่องช่างราบรื่นกระไรเยี่ยงนี้

แต่เขาก็พยายามระงับความตื่นเต้นในใจตนเองลง มองท่านนิ่งป๋อด้วยสีหน้าสลดใจ เอ่ยปลอบใจเขาว่า “ท่านนิ่งป๋ออย่าได้โศกเศร้าเสียใจมากเกินไป”

หลินจือฝู่กล่าวจบก็หันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น กล่าวอย่างเจ็บปวดว่า “เซี่ยถงจือ เจ้าเป็นขุนนางราชสำนัก เหตุใดรู้กฎหมายแต่ทำผิดกฎหมายเสียเอง ข้าปวดใจมาก”

เขากล่าวจบก็ไม่รอให้เซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวอันใด ก็เอ่ยขึ้นว่า “ใต้เท้าหู ท่านเป็นทงพั่นเมืองหนิงโจว ตามหลักคดีนี้ก็ควรมอบให้ท่านสอบสวนไหม”

ใต้เท้าหูสีหน้าแข็งค้าง หันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น

เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยักหน้าให้เขาเล็กน้อย ใต้เท้าหูก้าวออกมา “ได้ ข้าน้อยรับคดีนี้”

ยามนี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นเริ่มพูดจาแล้ว

“ใต้เท้าหลิน แม้ว่าท่านเป็นจือฝู่เมืองหนิงโจว แต่ไม่อาจอาศัยว่าตำแหน่งใหญ่กว่าก็จะกดขี่ผู้อื่น หลินจือฝู่ทำเช่นนี้ จะทำให้ข้าสงสัยว่าใต้เท้าหลินถือโอกาสนี้จัดการข้า”

หลินจือฝู่พลันมีสีหน้าดำทะมึน เขาหันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น “เซี่ยถงจือ เจ้าไร้ทางเยียวยาแล้วจริงๆ ที่นี่มีแต่เจ้ากับคุณชายใหญ่ตระกูลนิ่ง ตอนนี้เขาตายไปแล้ว ไม่ใช่เจ้าทำร้ายเขา หรือว่าข้าทำร้ายเขากัน”

คนในที่นั้นไม่น้อยพากันพยักหน้า ในนั้นมีคนพึมพำว่า “ใต้เท้าเซี่ยต้องไม่ได้ตั้งใจทำร้ายคุณชายใหญ่นิ่งอย่างแน่นอน คงพลั้งมือ”

“ข้ารู้สึกเหมือนกัน”

“ต้องเป็นเช่นนี้แน่นอน ใต้เท้าเซี่ยเป็นถึงใต้เท้าทรงธรรม จะยอมทำผิดกฎหมายทำร้ายคุณชายใหญ่นิ่งได้อย่างไร ย่อมต้องพลั้งมือ”

ทุกคนต่างคิดว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นพลั้งมือ

แต่แม้พลั้งมือก็เป็นความผิดต้องโทษไม่น้อย

เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ได้สนใจคนเหล่านี้ หันไปมองใต้เท้าหูกล่าวว่า “ตามกระบวนการสอบสวน ต้องให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์ศพมาพิสูจน์ศพก่อนกระมัง”

เขาเพิ่งกล่าวจบ ก็มีเสียงเอะอะดังมาจากหัวถนนพร้อมกับกลุ่มคนที่มากันอย่างรวดเร็ว คนที่นำมาก็คือฮูหยินนิ่งป๋อ ด้านหลังนางมีจูต้าเหนียงจื่อภรรยานิ่งฮุยตามมาด้วย

แม่สามีและสะใภ้สองคนวิ่งตะบึงมาเห็นนิ่งฮุยนอนอยู่บนพื้น ก็ไม่อาจควบคุมสติอารมณ์ตนเองได้ เสียสติโผเข้าไปแผดเสียงดังร่ำไห้

“ลูกแม่ เจ้าเป็นอันใดไป เจ้าเป็นอันใด รีบลืมตามาดูท่านแม่”

จูต้าเหนียงจื่อร่ำไห้ปิ่มว่าจะขาดใจ แม้ว่านิ่งฮุยไม่ใช่สามีที่ดี แต่มีสามีอยู่ พวกนางจึงจะมีที่พึ่ง ไม่มีสามี พวกนางแม่ลูกจะทำเยี่ยงไร

“ท่านพี่ เป็นอันใดไป ท่านรีบตื่นสิ ท่านรีบฟื้นสิ”

น่าเสียดายนิ่งฮุยไม่อาจตอบรับคำใดๆ

ฮูหยินนิ่งป๋อร้องไห้เสร็จ ก็หันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น แววตาโกรธแค้นราวอาบด้วยพิษร้าย นางกัดฟันกรอดมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น ตวาดด่าเสียงดังว่า “ขุนนางสุนัข เจ้าถึงกับฆ่าบุตรชายข้า ข้าขอสู้ตายกับเจ้า”

กล่าวจบนางก็ลุกขึ้นมาจะโผเข้าใส่เซี่ยอวิ๋นจิ่น โจวเส้ากงข้างกายเซี่ยอวิ๋นจิ่นก้าวเข้ามาขวาง ยื่นมือผลักฮูหยินนิ่งป๋อออก

ฮูหยินนิ่งป๋อส่งเสียงร้องไห้คร่ำครวญ คนในที่นั่นต่างหลั่งน้ำตา คนผมขาวส่งศพคนผมดำ ไม่ว่าผู้ใดพบกับเรื่องเช่นนี้ ก็ล้วนต้องเสียใจ

ฮูหยินนิ่งป๋อร้องไห้ไปก็คิดจะพุ่งเข้าใส่เซี่ยอวิ๋นจิ่นไป ยามนี้ลู่เจียวเดินมาจากทางด้านหลัง

นางเดินมาถึงข้างกายเซี่ยอวิ๋นจิ่น กล่าวด้วยสีหน้าเย็นเยียบว่า “ฮูหยินนิ่งป๋อสงบจิตสงบใจก่อนดีกว่า หากสามีข้าพลั้งมือฆ่าคุณชายใหญ่ตระกูลนิ่งตายจริง พวกเราก็จะชดใช้ด้วยชีวิต แต่กลับกัน หากไม่ใช่สามีข้าฆ่า พวกท่านก็อย่าได้คิดโยนความผิดให้พวกเรา”

ลู่เจียวกล่าวจบก็หันไปมองใต้เท้าหู กล่าวว่า “ใต้เท้าหู ข้าพิสูจน์ศพคุณชายใหญ่ตระกูลนิ่งผู้นี้ให้ดีหรือไม่”

ใต้เท้าหูกำลังจะเห็นด้วย คนตระกูลนิ่งกลับไม่เห็นด้วย “พวกเราไม่เห็นด้วย เจ้าเป็นฮูหยินเซี่ยอวิ๋นจิ่น เจ้าพิสูจน์ศพย่อมต้องปกป้องเขา อีกอย่าง บุตรชายข้าก็เป็นเช่นนี้แล้ว เหตุใดต้องพิสูจน์ศพอีก”

ลู่เจียวกล่าวอย่างไม่เกรงใจทันทีว่า “เพราะพวกเราสงสัยว่าคุณชายนิ่งกำกับเองแสดงเองน่ะสิ”

ลู่เจียวกล่าวจบ รอบด้านพลันมีเสียงฮือฮาดังขึ้น แต่ละคนพากันวิพากษ์วิจารณ์ด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ

ใต้เท้าหลินทนฟังต่อไปไม่ไหว เอ่ยขึ้นว่า “ฮูหยินเซี่ย เจ้าช่างไม่รู้ความ คนเราอยู่ดีๆ จะกำกับเองแสดงเองให้ตนเองตายเองเพื่ออันใดกัน เขาไม่ได้โง่กระมัง”

ลู่เจียวค่อยๆ เอ่ยขึ้นว่า “หากไม่ใช่ตระกูลพวกเขากำกับเองแสดงเอง เช่นนั้นข้าขอถามคำถามหนึ่งก่อน เห็นอยู่ว่าจวนนิ่งป๋อกับตระกูลเราขัดแย้งกัน แต่ไรมาไม่คบหาสมาคมกัน เหตุใดวันเกิดห้าสิบปีท่านนิ่งป๋อครั้งนี้กลับส่งเทียบเชิญตระกูลเซี่ยเรา”

พอเอ่ยวาจานี้ออกมา ทุกคนรอบด้านต่างสบตากัน สุดท้ายทุกคนก็รู้สึกว่าเรื่องนี้น่าประหลาด ก่อนหน้านี้ตระกูลนิ่งส่งเทียบเชิญตระกูลเซี่ยน้อยมาก ครั้งนี้วันเกิดท่านนิ่งป๋อ เหตุใดจึงส่งเทียบเชิญตระกูลเซี่ย

ท่านนิ่งป๋อกับฮูหยินนิ่งป๋อหยุดร้องไห้ทันที ครั้งนี้วันเกิดครบรอบห้าสิบปีของท่านนิ่งป๋อ คุณชายใหญ่ตระกูลนิ่งเสนอให้พวกเขาเชิญครอบครัวเซี่ยอวิ๋นจิ่นมา

ความหมายของคุณชายใหญ่นิ่งก็คือเซี่ยอวิ๋นจิ่นมีท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่หนุนหลัง ตระกูลนิ่งพวกเขาไม่อาจล่วงเกินพวกเขา ดังนั้นควรเชิญก็ต้องเชิญ

สองสามีภรรยารู้สึกว่าเขากล่าวได้ถูกต้อง ดังนั้นจึงได้เห็นด้วย

แต่คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้

ท่านนิ่งป๋อร่ำไห้กล่าวว่า “พวกเราเห็นว่าเจ้าเป็นถงจือเมืองหนิงโจว ไม่อยากล่วงเกินเจ้าก็เท่านั้น ดังนั้นจึงได้ส่งเทียบเชิญเจ้า”

ลู่เจียวแค่นยิ้มกล่าวว่า “แต่ไรมาจวนนิ่งป๋อพวกท่านอาศัยว่าตนเองมีเจาอี๋เหนียงเหนียงในวัง ยังจะเห็นตระกูลถงจือเล็กๆ ของเราอยู่ในสายตาหรือ”

ท่านนิ่งป๋อเบื้อใบ้ทันที ฮูหยินนิ่งป๋อกล่าวด้วยน้ำเสียงโกรธแค้นรุนแรงว่า “ตอนนี้บุตรชายข้าตายไปแล้ว พวกเจ้ามาพูดเรื่องจริงเท็จไม่อาจรู้ได้พวกนี้ทำไม ข้าจะแก้แค้นให้บุตรชายข้า”

ฮูหยินนิ่งป๋อกล่าวจบก็มองไปยังใต้เท้าหลิน “ใต้เท้าหลิน ท่านเป็นพ่อเมืองหนิงโจว ต้องออกหน้าให้ความเป็นธรรมกับบุตรชายข้า”

ใต้เท้าหลินแทบจะรีบจับเซี่ยอวิ๋นจิ่นเข้าคุก

เขาหันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่น ลู่เจียวเข้าขวางหน้าเซี่ยอวิ๋นจิ่นไว้

เซี่ยอวิ๋นจิ่นด้านหลังมองเห็นหญิงสาวตรงหน้าที่ตั้งใจปกป้องเขา ผู้หญิงของเขา ในใจก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความอ่อนโยน ดวงตาเป็นประกายอบอุ่น เขาแทบจะลืมไปว่าตนเองยังพัวพันคดีฆ่าคนตายอยู่

ยามนี้ลู่เจียวคิดแต่จะล้างมลทินให้เขา ไม่ได้สนใจเขาที่อยู่ด้านหลัง

ลู่เจียวเงยหน้ามองไปยังหลินจือฝู่ กล่าวว่า “ทำไมข้าจึงได้เอ่ยว่าคุณชายใหญ่ตระกูลนิ่งกำกับเองแสดงเองน่ะหรือ”

นางค่อยๆ เดินไปถึงตำแหน่งคุณชายใหญ่ตระกูลนิ่ง ยืนนิ่งแล้วก็กล่าวว่า “พวกท่านมองตำแหน่งเขาละเอียดแล้วหรือยัง หากทั้งสองคนมีเรื่องผลักกันจริงจนทำให้คุณชายใหญ่ตระกูลนิ่งตาย เช่นนั้นคุณชายใหญ่ตระกูลนิ่งไม่ควรอยู่ตำแหน่งนี้ แต่น่าจะถอยหลังออกไปอีกหน่อยจึงจะถูก”

“ตอนทั้งสองคนผลักกันรุนแรง คุณชายใหญ่ตระกูลนิ่งน่าจะถูกผลักออกห่างได้ระยะพอควรก่อนจะล้มลง แต่เขาถึงกับยืนอยู่ตรงนี้ ไม่ได้ก้าวแม้สักก้าว หากเขาไม่ได้ก้าว ข้าขอถามใต้เท้าหลิน เขาลื่นล้มได้อย่างไร”

ทุกคนรีบหันขวับไปมองทันที พบว่าเป็นเช่นนี้จริง หากเซี่ยอวิ๋นจิ่นผลักเขาล้ม เช่นนั้นคุณชายใหญ่ตระกูลนิ่งน่าจะถูกผลักออกห่างได้ระยะพอควรจึงจะถูกต้อง ปรากฏว่าเขาอยู่ที่เดิมและหงายหลังล้ม หากอยู่ที่เดิม แล้วจะลื่นล้มได้อย่างไร ไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยก็ต้องถอยหลังไปสักหน่อย

ลู่เจียวกล่าวจบก็ไม่รอให้คนพูดต่อ เอ่ยขึ้นอีกว่า “ใต้เท้าหลินเป็นจือฝู่เมืองหนิงโจว ควรรู้ว่าตนเองล้มหงายหลังเอง กับถูกคนผลักล้ม บาดแผลจะไม่เหมือนกัน เพราะในใจมีความหวาดกลัว ดังนั้นหากหงายหลังล้มก็จะเกิดแรงส่งน้อย บาดแผลเขาก็จะเล็ก แต่หากคนผลักเขาล้ม เพราะแรงส่งมาก บาดแผลก็จะใหญ่ ดังนั้นคุณชายใหญ่ตระกูลนิ่งล้มหงายหลังเอง หรือว่าสามีข้าผลักล้ม ขอเพียงเจ้าหน้าที่พิสูจน์ศพมาตรวจดูก็จะรู้ได้”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version