Skip to content
Home » Blog » ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 695

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 695

ตอนที่ 695 ทำตัวเองก็ต้องรับเอง

ใต้เท้าหลินรีบสั่งการให้คนไปตามเจ้าหน้าที่พิสูจน์ศพประจำที่ทำการศาลมาพิสูจน์ศพ

คนตระกูลนิ่งไม่ได้ห้าม เพราะบาดแผลบุตรชายอยู่ท้ายทอย ไม่ได้อยู่ที่ใด ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ที่อื่น

ริมบ่อปลาจิ๋นหลี่ ทุกคนต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ ฮูหยินนิ่งป๋อกับจูต้าเหนียงจื่อคุกเข่าอยู่ข้างศพนิ่งฮุยแผดเสียงร้องไห้ดัง คนรอบข้างต่างมองภาพตรงหน้าเป็นตาเดียว

เจ้าหน้าที่พิสูจน์ศพมาถึงรวดเร็ว พอมาถึงก็ลงมือพิสูจน์ศพ จากนั้นก็ยืนขึ้นรายงานกล่าวว่า “เรียนใต้เท้า บาดแผลที่ศีรษะของคุณชายใหญ่ตระกูลนิ่งถูกคนผลักล้มถึงแก่ความตาย”

เจ้าหน้าที่พิสูจน์ศพกล่าวจบ รอบด้านต่างส่งเสียงฮือดัง ท่านนิ่งป๋อกับฮูหยินนิ่งป๋อขอบตาแดง สองคนหันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นพร้อมกัน พลางกัดฟันคำรามว่า

“เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตอนนี้เจ้ายังมีอันใดกล่าวอีกหรือไม่”

“ข้าต้องการให้เจ้าชดใช้ชีวิตบุตรชายข้า”

ท่านนิ่งป๋อหันไปมองหลินจือฝู่

หลินจือฝู่มองไปยังเซี่ยอวิ๋นจิ่นด้วยสีหน้าเคร่งเครียดกำลังคิดจะเอ่ย ลู่เจียวแค่นยิ้มเอ่ยขึ้นก่อน นางชี้ไปที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์ศพประจำที่ทำการ กล่าวว่า “สามีข้าเป็นถงจือระดับหก อาศัยแค่เจ้าหน้าที่พิสูจน์ศพตำแหน่งเล็กๆ พิสูจน์ศพแล้วก็โยนความผิดให้เขาก็ได้หรือ เขาช่างมีเกียรติจริง”

ลู่เจียวกล่าวจบก็ไม่รอให้ผู้อื่นกล่าว นางกล่าวต่อว่า “ข้าสงสัยว่าเจ้าหน้าที่พิสูจน์ศพถูกซื้อตัว ดังนั้นข้าต้องการหาคนมาตรวจพิสูจน์ศพคุณชายใหญ่นิ่งฮุย”

ลู่เจียวกล่าวจบก็หันไปมองไม่ไกลนัก ฉีเหล่ยกำลังเดินเข้ามาอย่างร้อนใจ

ครั้งนี้ฉีเหล่ยตามลู่เจียวมาเมืองหนิงโจว ลู่เจียวให้เขาเช่าบ้านในละแวกนั้น ว่างๆ ก็ให้ออกไปหาคนที่ต้องการผ่าตัดมาทำการผ่าตัดฝึกฝีมือ

ดังนั้นฉีเหล่ยจึงตามมาอยู่ที่เมืองหนิงโจวแล้วก็ทำการผ่าตัดให้ผู้ป่วยเป็นการฝึกฝีมือผ่าตัดตนเองมาตลอด

ก่อนหน้านี้ลู่เจียวได้รับรายงานจากบ่าวรับใช้ก็คิดถึงความวุ่นวายเหล่านี้ จึงได้สั่งให้หร่วนจู๋รีบไปตามฉีเหล่ยมา

ลู่เจียวเห็นฉีเหล่ยมาก็ชี้ไปที่เขา หันไปเอ่ยกับทุกคน “ท่านนี้ก็คือหมอที่มาจากตระกูลหมอหลวงในเมืองหลวง บิดาหมอเป็นหัวหน้าหมอหลวงในวัง เขาเป็นทายาทตระกูลหมอหลวง สถานะเขาน่าจะเชื่อถือได้กระมัง”

ฉีเหล่ยเดินเข้ามา กล่าวน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ข้าฉีเหล่ยเป็นทายาทตระกูลหมอหลวง ด้วยศักดิ์ศรีนี้ ไม่มีทางมีพฤติกรรมบิดเบือนความจริง”

ทุกคนในที่นั้นพากันอึ้งไปทันที ผู้ใดก็คิดไม่ถึงว่าตระกูลเซี่ยถึงกับเชิญทายาทตระกูลหมอหลวงมาได้

ทายาทตระกูลหมอหลวงประจำวังหลวงน่าจะไม่บิดเบือนความจริง ไม่กระทำเรื่องเท็จ

ความจริงท่านนิ่งป๋อกับฮูหยินนิ่งป๋อไม่ยอมให้ฉีเหล่ยพิสูจน์อีก แต่เขามาแล้ว พวกเขาก็ได้แต่ต้องยอม

ท่านนิ่งป๋อกับฮูหยินนิ่งป๋อได้แต่มีท่าทีลำบากใจ กล่าวว่า “ในเมื่อหมอท่านนี้มาแล้ว ก็ให้เขาพิสูจน์สักหน่อย แต่ท่านจะต้องดำรงความเป็นธรรม อย่าได้เห็นแก่ส่วนตน”

ฉีเหล่ยพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็ก้าวเข้าไปพิสูจน์ศพ

ข้างศพนิ่งฮุยไม่ไกลนัก หลินจือฝู่มีสีหน้าย่ำแย่อย่างยิ่ง เขาคิดไม่ถึงว่าตระกูลเซี่ยถึงกับเชิญทายาทตระกูลหมอหลวงมาพิสูจน์ศพได้

เพราะเดิมหากแค่ตามหมอหลวงธรรมดาในเมืองหนิงโจวมา ตระกูลนิ่งย่อมไม่ยอมให้พิสูจน์ศพ แต่คนที่พวกเขาเชิญมาเป็นถึงทายาทตระกูลหมอหลวง

ฉีเหล่ยตรวจสอบคร่าวๆ แล้วก็กล่าวว่า “เรียนท่านนิ่งป๋อกับฮูหยินนิ่งป๋อ บาดแผลบนศีรษะเขาเล็กมาก ตามหลักการแล้วน่าจะลื่นล้มเอง”

ฉีเหล่ยกล่าวจบ คนตระกูลนิ่งก็แผดเสียงร้องไห้ดังลั่น พวกเขาไม่อาจยอมรับความจริงข้อนี้ได้

ท่านนิ่งป๋อเสียงดังขึ้นว่า “เป็นไปไม่ได้ บุตรชายข้าอยู่ดีๆ จะมาทำอันใดที่นี่”

เขากล่าวจบก็หันไปมองคนตระกูลนิ่ง กล่าวว่า “พวกเจ้าออกไปตามคนมาพิสูจน์อีก”

ทายาทตระกูลหมอหลวงเป็นคนตระกูลเซี่ยพามา เขาย่อมพูดเข้าข้างพวกเขา เขาไม่เชื่อ

ท่านนิ่งป๋อสั่งการ แต่เพิ่งจะสั่งการลงไป ฉีเหล่ยไม่ไกลนักก็เอ่ยขึ้นอีกครั้งว่า “นายผู้เฒ่า ข้ายังมีอีกคำที่ยังไม่ได้เอ่ยออกมา”

นายผู้เฒ่าตระกูลนิ่งหันไปมองฉีเหล่ย ฉีเหล่ยชี้ไปที่ใต้ศีรษะนิ่งฮุย กล่าวว่า “ตามหลักการแล้ว ก้อนหินแต่ละก้อนในตระกูลนิ่งท่านควรจะเป็นหินไข่ห่านกลมมนถึงจะถูก เหตุใดท้ายทอยคุณชายนิ่งถึงปูด้วยก้อนหินแหลมคมไม่น้อย”

เขากล่าวจบก็เดินไปที่ศพนิ่งฮุย พลิกร่างเขาออก ทุกคนในที่นั้นต่างเห็นว่าใต้ร่างนิ่งฮุยมีก้อนหินเล็กๆ แหลมคมไม่น้อย และรอบๆ ก้อนหินล้วนเป็นหินไข่ห่านกลมมนแวววาว หากนิ่งฮุยล้มลงไปไม่ได้โดนก้อนหินแหลมคมเข้าพอดี เขาก็คงไม่ตาย อย่างมากก็แค่บาดเจ็บเท่านั้น

ทุกคนในที่นั้นเห็นแล้วก็ต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมาทันที

“สวรรค์ นี่มันเรื่องอันใดกัน”

“หรือว่าเป็นเขาแต่งบทเองเล่นเองจริงๆ”

“พื้นที่อื่นในลานของตระกูลนิ่งล้วนเป็นหินไข่ห่านกลมมนแวววาว เหตุใดเฉพาะพื้นที่ตรงนี้จึงเป็นก้อนหิมแหลมคม หากไม่ใช่หินพวกนี้ นิ่งฮุยไม่มีทางตาย”

ท่านนิ่งป๋อกับฮูหยินนิ่งป๋อมองก้อนหินตรงหน้าด้วยสีหน้าแทบไม่อยากจะเชื่อ หากมองให้ละเอียด ก็ย่อมมองออกว่าก้อนหินพวกนี้เพิ่งเปลี่ยนมาใหม่ เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไรกัน

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเห็นแล้วก็ขมวดคิ้ว ตามหลักการแล้วนิ่งฮุยไม่มีทางเอาชีวิตตนเองมาล้อเล่น เขาอาจโดนอุบายผู้อื่นเข้าแล้ว

เซี่ยอวิ๋นจิ่นครุ่นคิดแล้วก็เงยหน้ามองไปยังหลินจือฝู่ เรื่องนี้อาจเป็นแผนของหลินจือฝู่ที่หลอกใช้นิ่งฮุย

ตระกูลนิ่งมีคนของหลินจือฝู่ เขากล่อมนิ่งฮุยให้ส่งเทียบเชิญเขา จากนั้นก็ให้นิ่งฮุยมีเรื่องกับเขา แสร้งทำเป็นล้มเพื่อโยนความผิดให้เขา คิดอาศัยเรื่องนี้ทำลายชื่อเสียงเขา นิ่งฮุยฟังแล้วก็เชื่อวาจาหลินจือฝู่ ไม่รู้ว่าหลินจือฝู่วางแผนหลอกใช้ชีวิตเขา

เซี่ยอวิ๋นจิ่นครุ่นคิดแล้วก็หันหน้าไปสั่งการเรียกลูกน้องออกมา ให้พวกเขาไปตรวจดูรอบๆ ว่ามีที่ใดที่มีก้อนหินเช่นนี้อีก

หลินจือฝู่ไม่มีทางแน่ใจได้ว่าเขาจะไปที่ใด เช่นนั้นก็เป็นไปได้ว่ายังมีการเปลี่ยนก้อนหินในบริเวณอื่นอีก

ลูกน้องเซี่ยอวิ๋นจิ่นรีบกระจายตัวกันออกตรวจสอบ ไม่นานก็ตรวจพบก้อนหินแหลมคมลักษณะเดียวกันในพื้นที่อื่นอีก และไม่ว่าเขาเดินไปที่ใด นิ่งฮุยก็จะเดินมาหาเรื่องเขา จากนั้นก็จะถือโอกาสทำร้ายใส่ความเขา

แต่นิ่งฮุยกลับไม่รู้เลยว่าที่นี่มีก้อนหินแหลมคม และเดินตามเซี่ยอวิ๋นจิ่นมาได้จังหวะพอดิบพอดีได้อย่างไร

เซี่ยอวิ๋นจิ่นครุ่นคิดแล้วก็พลันคิดได้เรื่องหนึ่ง ตอนนิ่งฮุยล้มกระแทกพื้นตาย บ่าวชายของเขาตะโกนดัง ว่าฆ่าคนตายแล้ว

ตอนนั้นบ่าวชายไม่ได้อยู่ใกล้ ตามหลักการแล้วเขาน่าจะรีบเข้ามาตรวจดูอาการคนผู้นี้ แต่เขากลับตะโกนดังว่าฆ่าคนตายแล้ว คล้ายว่าตอนนั้นเขาก็รู้ว่านิ่งฮุยจะต้องตาย

เซี่ยอวิ๋นจิ่นครุ่นคิดแล้วก็เงยหน้าจ้องมองบ่าวชายตรงหน้านิ่งฮุย บ่าวชายพยายามข่มจิตใจตนเองให้นิ่ง แต่สีหน้าซีดขาวอย่างมาก แววตามีแต่ฉายความตื่นตระหนกตกใจ

เซี่ยอวิ๋นจิ่นยื่นมือไปคว้าตัวเขามา เขาเงยหน้ามองไปยังท่านนิ่งป๋อกับฮูหยินนิ่งป๋อ กล่าวน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ตอนนี้ดูท่า เห็นชัดว่าตระกูลนิ่งท่านคิดวางอุบายข้า”

เขากล่าวจบก็ไม่รอให้ท่านนิ่งป๋อกับฮูหยินนิ่งป๋อกล่าวอันใด ชี้ไปยังที่ไม่ไกลนัก กล่าวว่า “หลายจุดในตระกูลนิ่งท่านเปลี่ยนเป็นก้อนหินแหลมคม แค่ทางเดินเส้นนี้ก็เพียงพอจะเกิดเรื่องมากมายได้แล้ว ล้วนเพราะตระกูลนิ่งแต่งบทเองเล่นเองคิดใส่ความข้า ไม่เช่นนั้นอยู่ดีๆ เหตุใดต้องเปลี่ยนก้อนหินในลาน หรือว่าข้าจะแล่นมาเปลี่ยนก้อนหินในจวนตระกูลนิ่งท่าน”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version