Skip to content

พลิกปฐพี 918

ตอนที่ 918

ภาพลึกลับ

ภาพลึกลับที่ทั้งสองคนเอ่ยถึงตามลำดับทำให้มู่ชิงเกอกับซือมั่วให้ความสนใจขึ้นมา

“แรกเริ่มพวกข้าคิดว่าเป็นภาพจำนวนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับเคล็ดวิชา ดังนั้นจึงตั้งใจดูอยู่พักหนึ่ง แต่ว่า ต่อมาหลังออกจากสุสานมาร พวกข้ากลับพบว่า ภาพเหล่านั้นคล้ายไม่ใช่เคล็ดวิชาอย่างสิ้นเชิง เพียงแค่เป็นภาพที่ดูไม่รู้เรื่องกองหนึ่ง” หวงฝู่ฮ่วนกล่าว

“ภาพเหล่านั้น พวกเจ้ายังจำได้อยู่หรือไม่” มู่ชิงเกอกล่าวถาม

“ตอนนั้นพวกข้าคัดลอกสำเนาไว้” เฉินปี้เฉิงกล่าว

“สำเนา ดีจริงๆ” มู่ชิงเกอเผยสีหน้าดีใจ

“ตอนนั้นคนของสุสานเทพก็มีฉบับสำเนาเช่นกัน เพียงแต่ไม่รู้ว่าพวกเขายังเก็บไว้อยู่หรือไม่” หวงฝู่ฮ่วนพูดพลางหยิบก้อนหินที่มีลักษณะเหมือนแผ่นหยกทรงกลมหนึ่งขึ้นยื่นให้มู่ชิงเกอ

ของชิ้นนี้ สามารถทำการบันทึกได้ มู่ชิงเกอทราบดี

ตอนที่นางรับมา หวงฝู่ฮ่วนยังกล่าว “ตอนนั้นพวกข้าแยกกันคัดลอกสำเนา หลังออกจากสุสานมารแล้ว ข้ากับเฉินปี้เฉิงมองไม่ออกว่าภาพในมือแต่ละคนมีความหมายอย่างไร จึงรวบรวมภาพในมือผู้บำเพ็ญมารคนอื่นๆ มาด้วย น่าจะพูดได้ว่าค่อนข้างสมบูรณ์”

มู่ชิงเกอพยักหน้า เชื่อมพลังเทพเข้าไปในนั้น แผ่นหยกทรงกลมก็ส่องแสงเจิดจ้าออกมาในชั่วพริบตา

ภาพที่กระจัดกระจายแต่ละภาพ ปรากฎอยู่ในวังชานไห่ ล้อมรอบคนทั้งสี่ไว้

มู่ชิงเกอเงยหน้า สังเกตภาพเหล่านั้นอย่างละเอียด ซือมั่วก็ทำเช่นเดียวกัน

ทว่า ภาพภาพนี้ มีเส้นมีทรงกลม มีรูปทรงต่างๆ นานา ล้วนเรียบง่ายอย่างถึงที่สุด แต่กลับมีจำนวนมากอย่างยิ่ง

“พวกข้าศึกษามานานยิ่งนัก ตลอดมาศึกษาไม่ได้ว่าแท้จริงแล้วคืออะไร แต่ว่า ภาพเหล่านี้ปรากฎอยู่ในสุสานบรรพเทพ น่าจะต้องมีประโยชน์” หวงฝู่ฮ่วนกล่าว

ความคิดเห็นนี้ของเขา มู่ชิงเกอเห็นด้วยอย่างถึงที่สุด

แต่ว่า มองดูเช่นนี้ กลับมองอะไรไม่ออกจริงๆ ต้นตอแม้แต่นิดเดียวก็ไม่มี

“ลำดับถูกหรือไม่” ซือมั่วพลันกล่าวถาม

คำถามข้อนี้ของเขาสำคัญอย่างยิ่ง มู่ชิงเกอละสายตามองหวงฝู่ฮ่วนกับเฉินปี้เฉิงทันที ทั้งสองตกตะลึงครู่หนึ่ง ย้อนนึกอย่างละเอียดครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพยักหน้าอย่างมั่นใจ

“ตอนนั้นบนผนังสี่ด้านของห้องลับห้องนั้นก็เรียงตามลำดับนี้” เฉินปี้เฉิงกล่าว

ลำดับไม่ผิดหรือ

ริมฝีปากทั้งคู่ของมู่ชิงเกอเม้มแน่น คิ้วขมวดเบาๆ สายตากวาดไปมาอยู่บนรูปเรขาคณิตเหล่านั้นอย่างต่อเนื่อง

นางคิดอยากจะหาหัวใจสำคัญที่เชื่อมโยงซึ่งกันและกันให้เจอ แต่กลับเสียแรงเปล่าทั้งสิ้น

“หากลำดับถูก เหตุใดเส้นเหล่านี้จึงเชื่อมต่อกันไม่ได้” จู่ๆ ซือมั่วก็เงยหน้าขึ้น ชี้ทิศทางที่แตกแยกอย่างเห็นได้ชัดบริเวณหนึ่งแล้วกล่าว

สายตาของหวงฝู่ฮ่วนกับเฉินปี้เฉิงหดลง มองบริเวณที่ซือมั่วชี้

มู่ชิงเกอเองก็ทำเช่นนี้เหมือนกัน

ตรงนั้น เดิมควรจะเป็นเส้นตรงที่ยืดขยายเส้นหนึ่ง แต่กลับถูกครึ่งวงกลมกั้นไว้

“หากจะบอกว่า ภาพเหล่านี้ เดิมก็ถูกวาดสะเปะสะปะบนผนังอยู่แล้วเล่า” มู่ชิงเกอหรี่ตาทั้งครู่ เอ่ยสมมติฐานที่กล้าหาญข้อหนึ่งออกมา

ทว่าหวงฝู่ฮ่วนกลับขมวดคิ้วมุ่น “หากเป็นเช่นนี้ ฉะนั้นก็จ ยิ่งแก้ปริศนาของภาพเหล่านี้ยากขึ้น”

“อย่างน้อยก็ต้องมีเบาะแสอะไรบ้าง” เฉินปี้เฉิงกล่าว “ในเมื่อวาดภาพเหล่านี้ไว้ในสุสานมาร ก็ชัดเจนแล้วว่าต้องการทั้งไว้ให้คนรุ่นหลังดู หากไม่มีเบาะแสทั้งหมดนี้ก็เป็นภาพไร้สาระ มีประโยชน์อันใด”

“อาจไม่ได้ทิ้งไว้คนรุ่นหลังดูเสมอไป สุสานบรรพเทพยากจะพบเห็น มีสักกี่คนที่จะเข้าไปในนั้นได้ บางทีอาจจะเป็นเพียงของที่ฝังพร้อมผู้ตายธรรมดาๆ” หวงฝู่ฮ่วนแสดงความเห็นที่แตกต่างของตนเอง

เฉินปี้เฉิงยืนกรานกล่าว “แต่ว่า หากเป็นเพียงของผู้ตาย เหตุใดจะต้องทำให้ซับซ้อนเพียงนี้ด้วย หากทำเพื่อป้องกันการขโมย เช่นนั้นไม่ต้องวาดเสียเลยมิใช่จะดีกว่าหรือ”

หวงฝู่ฮ่วนพูดไม่ออกในชั่วขณะ ทำได้เพียงขมวดคิ้วมุ่น หาเบาะแสในภาพต่อ

มู่ชิงเกอกับซือมั่วต่างก็ฟังบทสนทนาของสองคนนั้นอยู่เงียบๆ ไม่ได้พูดแทรก

ดูอยู่เนิ่นนาน ไม่พบเบาะแส

หมดหนทาง หวงฝู่ฮ่วนกับเฉินปี้เฉิงทำได้เพียงทิ้งแผ่นหยกทรงกลมไว้ ถอยออกจากวังซานไห่ไปก่อนแล้ว

มู่ชิงเกอถูกซือมั่วรบเร้าให้กินอะไรบ้าง นางนอนอยู่บนเก้าอี้เอนหลังในวังซานไห่ ยังคงมองภาพที่ลึกลับแปลกประหลาดเหล่านี้อยู่

ลายเส้นเหล่านี้ แท้จริงแล้วหมายความว่าอย่างไร

การมีอยู่ของพวกมัน แท้จริงแล้วต้องการจะอธิบายอะไร

คำถามสองข้อนี้ วนไปเวียนมาอยู่ในสมองของมู่ชิงเกอไม่หยุด

“ยังคิดอยู่อีก ไม่เหนื่อยหรือ” ชือมั่วเดินมานั่งลงข้างๆ มู่ชิงเกอ บังทัศนวิสัยส่วนใหญ่ของนาง

ทันใดนั้น ดวงตาทั้งคู่ของมู่ชิงเกอก็หดลงอย่างรวดเร็ว ผลักชือมั่วที่บังอยู่ตรงหน้านางออกด้วยความตกใจ

ซือมั่วไม่ทันระวัง ถูกผลักจนถอยไปข้างหลังหนึ่งก้าว ในดวงตาสีอำพันปรากฎความแปลกใจขึ้นมา

ทว่ามู่ชิงเกอกลับกระโดดขึ้นมาจากเก้าอี้เอนหลังทันที จ้องมองบริเวณที่ถูกซือมั่วบังเมื่อครู่ ยื่นมือทั้งคู่ออกไปวาดอยู่ข้างหน้าตนเองอย่างต่อเนื่อง

ซือมั่วไม่ได้รบกวนนาง เพียงแค่รออย่างสงบนิ่ง

ผ่านไปครู่หนึ่ง มู่ชิงเกอจึงมองเขาแล้วยิ้มกล่าวด้วยความดีใจ “อามั่ว หากว่านี่ไม่ใช่ภาพพื้นราบ แต่เป็นภาพหน้าตัดเล่า”

“ภาพพื้นราบ? ภาพหน้าตัด?” ซือมั่ว มองนางอย่างไม่เข้าใจ

มู่ชิงเกอพยักหน้าด้วยความตื่นเต้น “ตอนนี้ข้าอธิบายกับเจ้าไม่ชัดเจน แต่อีกประเดี๋ยวเจ้าก็จะเข้าใจ”

พูดจบ นิ้วมือของนางก็เชื่อมเข้ากับพลังเทพ เริ่มขยับรูปทรงของภาพเหล่านั้น

มือทั้งคู่ของนาง กำลังปรับตำแหน่งของภาพอย่างรวดเร็ว การครุ่นคิดมาเป็นเวลานานก่อนหน้านี้ ทำให้นางสลักตำแหน่งขนาดรูปทรงของภาพแต่ละภาพไว้ในสมองอย่างสมบูรณ์แล้ว

ตอนนี้ สำหรับนาง พูดง่ายๆ ก็คือไม่ต้องลงแรงเยอะก็สามารถหาภาพที่ต้องหาเจอ

ภาพใหม่หนึ่งภาพค่อยๆ ปรากฎอยู่ตรงหน้าซือมั่ว

ซือมั่วเห็นภาพตรงหน้าก็เข้าใจการอธิบายของมู่ชิงเกอก่อนหน้านี้แล้ว อะไรคือภาพพื้นราบ ภาพแนวตัดเขาไม่เข้าใจ แต่ว่า เขากลับเข้าใจภาพใหม่ที่ปรากฎขึ้นหลังจากที่มู่ชิงเกอสับเปลี่ยน

นี่คือต้นไม้หนึ่งต้น

แต่ก็ไม่อาจเรียกว่าต้นไม้ได้

เพราะว่า สิ่งที่ก่อตัวเป็นต้นไม้ต้นนี้ไม่ใช่ลำต้นกับใบไม้ แต่เป็นภาพที่สลับซับช้อนต่างๆ นานา

ภาพเหล่านี้ เดิมก็อยู่อย่างกระจัดกระจาย แต่ภายใต้มือทั้งคู่ของมู่ชิงเกอกลับคืนสู่ตำแหน่งเดิมได้ ปรากฎลักษณะเดิมที่ควรจะเป็นของพวกมันออกมา

“ต้นไม้โลกหรือ” ซือมั่วพึมพำเสียงตํ่า แม้ว่านํ้าเสียงจะเป็นคำถาม แต่ความจริงแล้ว ภายในใจเขาก็มั่นใจแล้ว

มู่ชิงเกอเองก็มองเห็นสิ่งของที่ตนประกอบขึ้นมาอย่างตกใจ ควรพูดว่าก่อนที่นางจะประกอบขึ้นมา ไม่รู้เลยว่าตนจะประกอบอะไรออกมา

นางถอยไปข้างหลังอย่างไม่รู้ตัว กระทั่งชนเข้าไปในอ้อมอกซือมั่วก็ยังไม่รู้ตัว

“หรือว่านี่ก็คือแผนที่ของจักรวาล” มือทั้งคู่ของซือมั่วประคองไหล่ทั้งสองของมู่ชิงเกอไว้ กล่าวอย่างตกใจ

มู่ชิงเกอส่ายหน้าช้าๆ “ตอนนี้ยังมั่นใจไม่ได้ แต่มีความเป็นไปได้สูง เพียงแต่…”

“เพียงแต่อะไร” ซือมั่วถาม

มู่ชิงเกอขมวดคิ้วน้อยๆ กล่าวอย่างลังเลเล็กน้อย “ข้าเหมือนคุ้นเคยกับต้นไม้ต้นนี้เล็กน้อยคล้ายเคยเห็นที่ไหนมาก่อน”

ซือมั่วหลุบตา มองนางด้วยสายตาสงสัย ไม่ได้รบกวนความคิดของนาง

มู่ชิงเกอจ้องมองต้นไม้ต้นนั้นมาโดยตลอด ทันใดนั้น ดวงตานางก็เปล่งประกาย หันหลังกลับกล่าวกับซือมั่วด้วยความตื่นเด้น “ข้านึกออกแล้ว ข้าเคยเห็นในเผ่าภูติภูเขาที่ป่าอสูร”

“เผ่าภูติภูเขาหรือ ต้นไม้โลกไปอยู่ในป่าอสูรได้อย่างไร” ซือมั่วขมวดคิ้วด้วยความงุนงง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version