Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 917

บทที่ 917 คู่สวรรค์สรรสร้าง 2

กู้ซีจิ่วรู้สึกประสบความสำเร็จยิ่งนักในการแทะโลมเขา คนผู้นี้สูงส่งเหนือปวงชนมาโดยตลอด เกรงว่าคงไม่เคยถูกผู้อื่นกดไว้ด้านล่างเช่นนี้กระมัง?

ฮ่าๆ เธอได้กดเขาแล้ว!

หากเธอเป็นผู้ชาย เช่นนั้นยามนี้เธอก็คือม้าป่าบ้าพลัง ส่วนเขาก็คือม้าราชินี…

เสียอย่างเดียวคือเขาสูงเกินไป เทียบกันแล้วเธอกระจ้อยร่อยกว่าเขามาก ต่อให้อยู่ด้านบนเขาก็ไม่มีกำลังยับยั้งมากขนาดนั้น เธอกึ่งๆ ควํ่าอยู่บนร่างเขา แขนข้างหนึ่งคํ้าร่างท่อนบนของตนไว้ ส่วนอีกข้างลูบไล้ใบหน้าของเขา ใช้ปลายนิ้ววาดไปตามแนวคิ้วเขา หัวแม่มือแตะเบาๆ ที่สันจมูกเขา ฝ่ามือสัมผัสถึงแพขนตายาวของเขา เครื่องหน้าของคนผู้นี้งดงามเหลือเกิน เมื่อก่อนเธอทำได้เพียงมองอยู่ใกล้ๆ มากสุดก็ได้พิศดูใกล้ๆ แต่ตอนนี้เธอสามารถลูบคลำได้ตามอำเภอใจ…

ความรู้สึกประสบความสำเร็จของกู้ซีจิ่วแทบจะเอ่อล้นออกมา กดเสียงตํ่าเอ่ยถามเขา “ที่รัก ความรู้สึกเช่นนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”

ตี้ฝูอีกะพริบตาปริบ ๆ แสดงท่าทางน่าเอ็นดูยิ่งนัก “เขินอายนัก…”

กู้ซีจิ่วพูดไม่ออก

เขาเขินบ้าเขินบออะไร?

หน้าไม่แดง ลมหายใจไม่หอบถี่ ในดวงตาคล้ายมีสายนํ้าไหวกระเพื่อมเท่านั้น เหมือนหมาป่าในฤดูผสมพันธุ์ที่แสร้งปลอมเป็นกระต่ายขาวตัวน้อย

มือกู้ซีจิ่วแตะแก้มเขาเบาๆ เลิกคิ้วขึ้นแล้วถามเขา “เขินอาย? ไฉนหน้าไม่เห่อร้อนเล่า?”

ตี้ฝูอีถามเธออย่างใฝ่รู้ยิ่ง “เขินอายต้องหน้าร้อนด้วยหรือ?”

นี่ไร้สาระไปหน่อยไหม?

เขินอายต้องหน้าร้อน ใครหน้าไหนก็รู้ไม่ใช่หรือ?

เธอแทะโลมเขาอยู่นานสองนานเจ้า คนผู้นี้กลับไม่เขินอายเลย!

ตี้ฝูอีมองเธอ แนะนำด้วยท่าทีจริงใจยิ่ง “หน้าข้าไม่ร้อนเลย ดูเหมือนการแทะโลมของเจ้ายังไม่เพียงพอนะ เห็นทีว่าการแทะโลมระดับนี้จะอ่อนเกิน ไป มิสู้รุ้นแรงขึ้นอีกหน่อย?”

รุนแรงขึ้น?

กู้ซีจิ่วเม้มปาก นัยน์ตาสาดแสงแวบหนึ่ง ดีร้ายอย่างไรชาติก่อนเธอก็เป็นนักฆ่า เพื่อปฏิบัติภารกิจให้ลุล่วงก็ต้องรับมือกับพวกผู้ชายอยู่บ่อยๆ เสน่ห์ล่อลวงยั่วเย้าฝ่ายตรงข้ามคือหลักสูตรบังคับผู้เป็นนักฆ่า แน่นอนว่าเธอที่เป็นนักฆ่ามาหลายปีสิ่งที่พึ่งพาก็คือทักษะการฆ่าที่โหดเหี้ยมและการซุ่มโจมตีที่เฉียบขาด อย่างมากใช้มารยาหญิงเต้นรำอะไรสักอย่าง ก็สามารถดึงดูดเหล่าเสี่ยพุงพลุ้ยมาวนเวียนอยู่รอบตัวเธอได้แล้ว ไม่เคยต้องใช้แผนยั่วยวนล่อลวงอย่างอื่นเลย แต่ไม่เคยใช้ ไม่ได้หมายความว่าเธอทำไม่เป็น

ยามนี้แทะโลมตี้ฝูอีอยู่นานสองนาน ผลคือเจ้าคนผู้นี้หน้าไม่แดงเลยสักนิด กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าความสามารถของตนถูกผู้อื่นหยามหมิ่น ดังนั้นเธอตัดสิน ใจงัดไม้ตายออกมา…

เธอโน้มร่างลงไป ลมหายใจอุ่นร้อนอ้อยอิ่งอยู่ที่โพรงหูเขา “อยากให้รุนแรงขึ้นหรือ? หืม?”

นํ้าเสียงเจือความแหบพร่ารางๆ หางเสียงดั่งติดตะขอแล้วเกี่ยวเบาๆ แฝงเสน่ห์ยั่วยวนตามธรรมชาติ

ดวงตาตี้ฝูอีฉํ่ารื้นนํ้า ลมหายใจถี่กระชั้นเล็กน้อย สองแขนเขารองศีรษะอยู่เช่นเดิม พยักหน้านิดๆ “เจ้า มาได้เลย!”

กู้ซีจิ่วยิ้มมุมปากแวบหนึ่ง รอยยิ้มนั้นเย้ายวนยิ่งทำให้ลมหายใจตี้ฝูอีชะงักเล็กน้อย

กู้ซีจิ่วจุมพิตลงบนติ่งหูเขา สัมผัสถึงร่างกายที่หดเกร็งของเขาได้ชัดเจน!

มีทางแล้ว!

ข้าไม่เชื่อหรอกว่าจะสยบเจ้าไม่ได้!

ข้าไม่เชื่อว่าจะทำให้เจ้าหน้าร้อนผ่าวใจเต้นแรงอย่างแท้จริงไม่ได้เลยสักครั้ง!

กู้ซีจิ่วรุกคืบเข้าไปอีก ลมหายใจหอมสดชื่นปานดอกกล้วยไม้เป่ารดริมหูเขา “ข้าจะทำให้เจ้ารู้ถึงความร้ายกาจ!”

จุมพิตที่แผ่วเบาราวกับผีเสื้อสยายปีกไล่จากติ่งหู หลังหู ไปถึงปลายคางเขา จนถึงลูกกระเดือกเขา ประทับตรงนั้นซํ้าๆ หลายครา เขาสัมผัสได้ชัดเจนว่าลูกกระเดือกเขาเคลื่อนไหวขึ้นๆ ลงๆ หลายครั้ง ร่างกายเขาเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมา…

เธอกึ่งๆ นอนคล่อมอยู่บนตัวเขา จึงรับรู้ได้ว่าจังหวะหัวใจที่อยู่ภายในทรวงอกเขาดวงนั้นทรงพลังยิ่ง เต้นถี่รัวขึ้นเรื่อยๆ เยี่ยมมาก!

เขาใจเต้นแรงแล้ว งั้นก็เหลือแค่หน้าเห่อร้อน…

เธอผละจากลูกกระเดือกเขาเคลื่อนต่ำลงด้านข้าง จุมพิตกระดูกไหปลาร้าเขา…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version