Skip to content

สู่วิถีอสุรา 781

ตอนที่ 781 ทำลายร่างแยก

“เชิญน้ำเต้าล้ำค่าสังหาร!”

ทันทีที่ซูหมิงเอ่ยประโยคง่ายๆ ดวงตาบนน้ำเต้าที่จับจ้องบุรุษผมแดงกะพริบตาเร็วไว จากนั้นมันพ่นควันสีดำออกมา พร้อมกับปะทุกลิ่นอายพลังที่สร้างความตื่นตะลึงกับซูหมิง

ซูหมิงเห็นกับตาว่าขณะหมอกปะทุ ภายในปรากฏตุ๊กตาน้อยน่ารักตัวหนึ่ง มีขนาดเพียงฝ่ามือ ในมือถือกระบี่เล็ก มันขี่หมอกดำไปด้วยความเร็วน่าสะพรึงและเห็นไม่ชัดมาปรากฏอยู่ข้างบุรุษผมแดงในพริบตา หลังจากวนรอบหนึ่งแล้ว หมอกดำก็จางลงไม่น้อย ก่อนจะกลับมาอยู่ในน้ำเต้าอีกครั้ง

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ตั้งแต่ตุ๊กตาในน้ำเต้าออกมาข้างนอกจนหายไป ทุกอย่างเพียงสองถึงสามลมหายใจเท่านั้น

ยามนี้บุรุษผมแดงที่อยู่ไกลๆ ร่างแหลกเป็นเสี่ยง ศีรษะกับร่างแยกออกจากกันโดยสมบูรณ์ กระทั่งคุณสมบัติโต้กลับยังไม่มี ตัวเขาสลายไปโดยพลัน ร่างกายถูกพิษจนเป็นน้ำโลหิต วิญญาณและจิตแรกถูกน้ำเต้าสังหาร

ซูหมิงสูดลมหายใจด้วยความตกใจ แม้จะคาดเดาน้ำเต้าเอาไว้สูงมากแล้ว ทว่าตอนนี้รู้แล้วว่าตนประเมินน้ำเต้าต่ำไป นึกไม่ถึงว่ามันจะมีอานุภาพน่ากลัวถึงเพียงนี้ ‘หากใช้เพียงน้ำเต้าล้ำค่าอาจไม่ได้น่ากลัวเพียงนี้ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการที่ผู้รักษาการณ์ผมแดงถูกพิษจากผึ้งพิษของข้าก่อน’ ซูหมิงปรับอารมณ์อยู่ครู่หนึ่ง แล้ววิเคราะห์ด้วยสติปัญญา

ตอนนี้เอง ภายในแดนผนึกมีเสียงคำรามแว่วมาด้วยความโกรธ ขณะเดียวกับที่เสียงคำรามดังกึกก้อง ก็มีเสียงหึอ่อนแรงของหลงลี่ เถียนหลิน และซุนคุนปะปนมาด้วย

“ซูหมิง เจ้าคือซูหมิง กล้าสังหารร่างแยกของข้าจิงหนานจื่อ ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ที่ใด ข้าจะต้องฆ่าเจ้าให้ได้!”

ซูหมิงมีสีหน้าเรียบเฉย หมุนตัวกลับไม่สนใจเสียงคำรามของจิงหนานจื่อแม้แต่น้อย ยามนี้เขาไม่มีร่างแยกขวางแล้ว การจะออกจากที่นี่จึงไม่ใช่เรื่องยาก

“ข้าจะไม่ใช่แค่ฆ่าเจ้า แต่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เจ้า ฆ่าล้างสายเลือดเจ้า!”

เสียงจิงหนานจื่อยังคงดังกังวานอย่างบ้าคลั่ง เสียงครึกโครมดังรุนแรงขึ้น กระทั่งยังเหมือนใกล้เข้ามาเรื่อยๆ

ซูหมิงหยุดชะงัก สิ่งที่ทำให้เขาหยุดชะงักไม่ใช่เพราะว่าตอนนี้นอกทางออกมีเส้นสีแดงมารวมกันนับไม่ถ้วน ดูจากลักษณะของพวกมันแล้วเหมือนจะเป็นกลุ่มที่เคยล่าสังหารพวกซูหมิง

ไม่รู้ว่าพวกมันวนมาถึงที่นี่ได้อย่างไร วินาทีที่เขาจะออกไปข้างนอก ในจิตสัมผัสพลันรู้สึกถึงสีแดงอันไร้ที่สิ้นสุด ทว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เขาหยุด สาเหตุแท้จริงคือคำว่าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จากคำพูดจิงหนานจื่อ

“ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ข้า…เป็นประโยคที่คุ้นหูมาก เคยมีคนหนึ่งพูดกับข้าแบบนี้ สุดท้ายเขาก็ตาย ข้าเกลียดคนพูดแบบนี้กับข้านัก” ซูหมิงพึมพำเสียงเบา

“ไม่เพียงฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เจ้า แต่ข้าจิงหนานจื่อจะหาสำนักของเจ้าให้เจอแล้วทำลายมันเสีย แบบนี้ถึงจะชดเชยโทษที่เจ้ากล้าสังหารร่างแยกข้าได้!”

เสียงจิงหนานจื่อเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังมีพลังน่าสะพรึงแผ่ขยายตามเสียงมา

ซูหมิงไม่เดินหน้าอีก แต่นัยน์ตามีจิตสังหารวูบผ่าน หมุนตัวไปมองแดนผนึกแวบหนึ่ง

“ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ข้า ฆ่าล้างสำนักข้า ในเมื่อข้าออกไปไม่ได้ในตอนนี้ เช่นนั้นก็ขอลองดูหน่อยว่า…จะสังหารเจ้าได้หรือไม่!” ซูหมิงแค่นเสียงหึเย็นชาพลางถอยร่นมาจนถึงทางออก กลิ่นอายพลังทั่วร่างแผ่กระจาย เส้นสีแดงที่ไปๆ มาๆ อยู่นอกทางออกและไม่สังเกตเห็นซูหมิงพลันร้องเสียงแหลมเล็กแล้วพุ่งตรงมาหาเขา

เมื่อเส้นสีแดงเหล่านี้ขยับ จึงไปกระตุ้นให้เส้นสีแดงตัวอื่นๆ พากันหลั่งไหลเข้ามา พริบตาเดียวก็กลายเป็นทะเลเส้นสีแดงที่แน่นขนัด สร้างเป็นคลื่นยักษ์ถาโถมใส่ซูหมิง

ซูหมิงพุ่งตรงไปยังจุดผนึกดุจสายฟ้า มุ่งหน้าไปตามเส้นทาง ด้านหลังมีเส้นสีแดงจำนวนมากหลั่งไหลตามมาติดๆ

“เถียนหลิน หลงลี่ ซุนคุน หากพวกเจ้าสามคนยังมีชีวิตอยู่ก็ขอให้ถ่วงเวลาผู้รักษาการณ์คนนี้อย่างสุดกำลัง ใช้กลิ่นอายพลังบอกให้ข้ารู้ตำแหน่งของพวกเจ้า ข้างหลังข้ามีฝูงเส้นสีแดง!” ซูหมิงเดินหน้าพลางเอ่ยเสียงดังก้อง

วินาทีที่เสียงดังออกไป บนพื้นที่กว้างโล่งที่มีถ้ำรังผึ้งจำนวนมากแห่งหนึ่งในจุดผนึก จิงหนานจื่อสวมหมวกเกราะแดง มือถือทวนยาวสีแดงกำลังปาทวนออกไป เกล็ดทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนตรงระหว่างคิ้วหลงลี่แตกกระจายออกทั้งหมดจนกระทบไปถึงโลหิต ร่างกระเด็นถอยไปชนกับผนังหินด้านหลัง

ซุนคุนซึ่งอยู่ข้างๆ มุมปากมีโลหิตไหล สีหน้ามัวหมอง ตรงหน้าอกเป็นแผลเหวอะ ราวกับหัวใจถูกควักไป

ทั้งยังมีต้นไม้ใหญ้ต้นหนึ่งบนพื้นที่กว้างโล่ง กิ่งไม้กระจายไปรอบๆ ปิดตายเส้นทางสู่ข้างนอกทั้งหมด และยังมีกิ่งใหญ่คล้ายแส้กำลังตวัดใส่จิงหนานจื่ออย่างเร็วไว

“พวกเจ้าสามคนเป็นผู้โดดเด่นในเจ้าปกครองโลกตอนต้น โดยเฉพาะเจ้า ชนรุ่นหลังแซ่เถียนที่ข้าไว้ชีวิต ไม่นึกเลยว่าจะฝึกถึงระดับเจ้าปกครองโลกแล้ว

ดูท่าการไว้ชีวิตเจ้าตอนนั้นจะเป็นทางเลือกที่ถูกต้อง ถึงอย่างไรสายเลือดตระกูลเถียนก็หาคนที่ผสานรวมกับโครงสร้างของพืชได้ยาก

ต้นซาหลัวต้นนี้เจ้าเลี้ยงมันได้ไม่เลวเลย” จิงหนานจื่อมองต้นไม้ใหญ่ร่างแปลงเถียนหลินอย่างเย็นชาพลางเอ่ยเรียบๆ

“จิงหนานจื่อ วันนี้ต่อให้แซ่เถียนต้องตาย ก็จะให้เจ้าต้องชดใช้!”

ใบหน้าเถียนหลินปรากฏบนต้นไม้ ในใจเขาเต็มไปด้วยความไม่ยอม นี่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของแผนการเขา ทุกอย่างไม่ควรเป็นแบบนี้ คนที่สู้กับจิงหนานจื่อนอกจากพวกเขาแล้วควรจะมีเผ่าประหลาดชื่อหั่วโหวด้วย

เพราะมีแต่แบบนี้เท่านั้นจิงหนานจื่อถึงจะถูกสังหารลง อีกทั้งตนยังได้ระบายความแค้น แต่ตอนนี้กลับไม่เป็นไปตามแผน เขาจึงรู้สึกไม่ยินยอมและที่มากกว่าคือความรู้สึกเสียดายกับไม่ถูกต้อง

‘ข้าเตรียมตัวมานานปีตามหาโอกาสมาโดยตลอด ไม่ง่ายเลยที่จะหาโอกาสสังหารจิงหนานจื่อแบบนี้พบ แต่เพราะข้าหมดสติไปเลยทำให้เยียเซินถงตื่นขึ้น แล้วไปเรียกจิงหนานจื่อตามจิตสัมผัสที่ข้าวางเอาไว้ให้เขา…

เวลาไม่ถูกต้อง หรือว่ากระทั่งสวรรค์ยังเอ็นดูจิงหนานจื่อ ทำให้ข้าไม่อาจเลี่ยงเคราะห์ภัยครั้งนี้!’ เถียนหลินคลุ้มคลั่ง ร่างเงาแส้ตรงหน้าตวัดเข้าไป

เพียะ เพียะ เพียะ เพียะ!

จิงหนานจื่อทั้งเหวี่ยงทั้งแทงทวนยาว เสียงระเบิดดังขึ้น มวลอากาศโดยรอบบิดเบี้ยว แม้แต่ต้นไม้ใหญ่ร่างแปลงเถียนหลินยังเกิดรอยร้าวจำนวนมาก

และเป็นตอนนี้เอง เสียงซูหมิงดังแว่วมาถึง เถียนหลินคืนสภาพเป็นคนแล้ว เขากำลังโซเซถอยไป พอได้ยินเสียงซูหมิงนัยน์ตาก็แดงก่ำ ก่อนจะส่งกลิ่นอายพลังตรงไปหาจิงหนานจื่อ

หลงลี่พยายามยันกายขึ้นจากพื้น ตรงมุมปากมีโลหิตไหล ภายในแววตามัวหมองมีความแค้นอย่างแรงกล้า เห็นๆ อยู่ว่าหินโลกของเขาขาดอีกเพียงก้าวเดียวก็จะใช้ได้อยู่แล้ว แต่กลับถูกผู้รักษาการณ์มาขวางไว้ ความพยายามทุกอย่างเลยสูญเปล่า

ยามนี้ยังมาเผชิญกับภยันตรายเป็นตายอีก ความแกร่งของอีกฝ่าย ความต่างชั้นหนึ่งขั้นพลัง บวกกับใช้พลังเจ้าปกครองโลกโดยไม่ต้องกลัวเปลือง ทำให้การต่อสู้ครั้งนี้พวกเขาสามคนทำได้เพียงตั้งรับ

และนี่ก็เป็นเพราะหลงลี่เป็นจุดสูงสุดเจ้าปกครองโลกตอนต้น ห่างจากตอนกลางครึ่งก้าวแล้ว หนำซ้ำยังมีเถียนหลินที่สลับกายเนื้ออีก จึงระเบิดพลังได้มากกว่าหลงลี่เล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ถึงเจ้าปกครองโลกตอนกลาง เมื่อรวมกับซุนคุนซึ่งมีของวิเศษจำนวนมาก การต่อสู้จึงดำเนินมาถึงตอนนี้ได้

“สู้ ไม่สู้ก็ตาย!” หลงลี่คำรามเสียงต่ำ พอใช้มือขวากดหน้าอกตัวเองหลายครั้งแล้ว พลังเจ้าปกครองโลกพลันปะทุออกมา ขณะเดียวกันก็มีเขาข้างหนึ่งงอกออกมาตรงกลางกระหม่อม บนผิวใบหน้าเกิดเกล็ดขึ้นจำนวนมาก พริบตาเดียวหลงลี่ก็กลายเป็นสัตว์ร่างคน คำรามพร้อมกับพุ่งไปหาจิงหนานจื่อ

ซุนคุนที่อยู่ไม่ไกลกัดปลายลิ้นอย่างรุนแรง ดวงตาสองข้างปรากฏเส้นเลือดฝอยจำนวนมาก ร่างคนแคระสั่นไหวพลางคำรามเสียงแหลม เสียงนี้มีพลังการทะลวงผ่านอันน่าทึ่ง ขณะเดียวกับที่เขาคำราม ร่างกายก็สั่นไหวอย่างรุนแรง ทั้งยังแห้งเหี่ยวอย่างเร็วรี่ ราวกับว่าพลังชีวิตและแก่นสำคัญทั้งหมดกลายเป็นของช่วยเสริมให้กับเสียงแหลม

พอเสียงแหลมดังขึ้น จิงหนานจื่อพลันหยุดชะงักกลางอากาศ มีเสียงอื้ออึงดังในความคิดประหนึ่งถูกหนามแหลมแทงอย่างรุนแรง กลายเป็นเสียงหึ่งๆ อยู่ในหูสองข้าง

ในเวลานี้เอง หลงลี่ในร่างครึ่งคนครึ่งสัตว์คว้าหน้าอกจิงหนานจื่ออย่างแรง เถียนหลินเองก็เข้ามาใกล้ด้วยใบหน้าเหยเกย ภายในเล็บสองมือมีกิ่งไม้งอกออกมา จากนั้นมุดเข้าไปในร่างจิงหนานจื่อ

มิหนำซ้ำในวินาทีนี้ยังมีเสียงลากยาวดังแว่วมาจากถ้ำรังผึ้งแห่งหนึ่ง ซูหมิงพุ่งออกมาจากถ้ำรังผึ้งในพริบตา มาถึงจุดที่เขามาตามกลิ่นอายพลังของทุกคน

หลังจากสี่คนกระจัดกระจายกันในตอนแรก ยามนี้ต่อให้รวมกันอีกครั้งก็ไม่มีเวลามาพูดคุยกัน ซูหมิงเพิ่งบินออกมาก็มีเสียงกระหึ่มดังมาจากถ้ำด้านหลัง ฝูงเส้นสีแดงปะทุออกมาจากถ้ำราวภูเขาไฟระเบิด

“ข้ารู้จุดผนึกชื่อหั่วโหว พาข้าไป ข้าจะชี้ทางให้!” ซุนคุนเอ่ยเสียงเล็กเป็นคนแรก แทบเป็นขณะเดียวกับที่เขากล่าว ซูหมิงขยับวูบไหวเข้ามาใกล้ คว้าตัวเขาเอาไว้แล้วมุ่งหน้าไปยังถ้ำรังผึ้งฝั่งตรงข้าม เถียนหลินกับหลงลี่ก็ตามหลังไปติดๆ โดยไม่ลังเลและไม่สนอาการบาดเจ็บ

ส่วนจิงหนานจื่อ เขาถูกเสียงแหลมพิลึกของซุนคุนทิ่มแทงสมอง แล้วถูกหลงลี่โจมตีอย่างสุดชีวิต เถียนหลินก็ลงมืออย่างบ้าคลั่ง ทว่าขั้นพลังเขาสูงส่ง ไม่นานจึงฟื้นคืนกลับมา ยังไม่ทันที่เส้นสีแดงจะกระโจนเข้าใส่ เขาก็พุ่งทะยานตามพวกซูหมิงไปแล้ว ทว่าชั่วขณะที่เขาขยับตัว ซูหมิงที่กำลังจะก้าวเข้าไปในถ้ำพลันหมุนตัวกลับแล้วขว้างวัตถุชิ้นหนึ่งมา

มันมีแปดสีไหลเวียนอยู่ นั่นก็คือหินผลึกแปดสี เมื่อหินผลึกปรากฏก็ระเบิดออกแล้วสร้างเป็นพลังหยุดวิญญาณ ทำให้จิงหนานจื่อต้องหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง!

ราคาที่ต้องจ่ายของครู่หนึ่งนี้คือฝูงเส้นสีแดงนับไม่ถ้วนโอบล้อมตัวเขาไว้ในเสี้ยววินาทีเดียว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version