Skip to content

สู่วิถีอสุรา 788

ตอนที่ 788 ออกจากดาวแดงเพลิง

“เจ้าพูดตลอดว่าข้าเป็นเผ่ายมโลก ทว่าข้าเองกลับยังไม่รู้เบื้องหลังตัวเอง”

ซูหมิงเงียบอยู่ชั่วครู่แล้วจึงเอ่ยเสียงเบา เวลานี้ผนึกถล่มลงถึงขีดสุดแล้ว โดยรอบตลบอบอวลไปด้วยฝุ่น เศษหินร่วงหล่น ทั้งแดนผนึกเกิดเสียงโครมคราม พังพินาศลงมากกว่าครึ่งแล้ว

ทุกคนที่มาที่นี่ นอกจากซูหมิงแล้วตอนนี้ก็ตายไปทีละคนจนหมด และนอกจากที่แห่งนี้จะถล่มลงก็ไม่มีอันตรายใดๆ อีก

ซูหมิงมองชื่อหั่วโหว มองยอดผู้ฝึกฌานเผ่าประหลาดที่ไม่รู้ว่ามีชีวิตมากี่ปี เขายังจำได้ว่าอีกฝ่ายเรียกตนอย่างไร ยังจำได้ว่าอีกฝ่ายเคยบอกว่าพวกเขามาจากบ้านเกิดเดียวกัน

“ข้ามาจากโลกแท้จริงลำดับที่ห้า…ข้าสัมผัสวิญญาณของเจ้าไม่ผิดแน่ นั่นคือกลิ่นอายพลังของเผ่าศักดิ์สิทธิ์ยมโลกที่บริสุทธิ์ เจ้า…คือชาวเผ่ายมโลก และก็เป็นเผ่าจักรพรรดิที่หมื่นเผ่าพันธุ์ยอมรับภายใต้สัญญายมโลกของโลกแท้จริงที่ห้า!

เผ่าศักดิ์สิทธิ์ยมโลกมีสัญญาที่หมื่นเผ่าพันธุ์ต้องปฏิบัติตาม ประทับธงวิญญาณเป็นตาย หล่อหลอมความบ้าคลั่งของชีวิตนิรันดร…ชาวเผ่ายมโลกทุกคนจะมีโลกยมโลกของตัวเอง วางเป็นวัฏสงสาร และเป็นเผ่าพันธุ์เดียวในจักรวาล…ที่ทำให้คนตายฟื้นคืนชีพได้!”

“เมื่อนานแสนนานมาแล้ว ข้าจำไม่ได้ว่านานเท่าไร บ้านเกิดของหมื่นเผ่าพันธุ์อย่างพวกข้าหรือโลกแท้จริงลำดับที่ห้าถูกสี่มหาโลกแท้จริงรุกรานพร้อมกัน

สงครามครั้งนั้นเป็นสงครามที่คิดทำลายล้างพวกเราให้สิ้น ผืนฟ้ากระจ่างดาวที่เราสองคนอยู่ตรงนี้ก็คือหนึ่งในสนามรบตอนนั้น…สุดท้ายพวกเราปราชัยในสงคราม โลกแท้จริงที่ห้าพังพินาศ ชาวหมื่นเผ่าพันธุ์บ้างตาย บ้างถูกผนึก”

“ทว่าสี่มหาโลกแท้จริงก็ต้องจ่ายในราคาสูงยิ่ง เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้รู้ถึงความแกร่งของโลกแท้จริงที่ห้า”

“สี่มหาโลกแท้จริง ไม่ว่าโลกใดก็ล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของโลกแท้จริงที่ห้า ต่อให้สองโลกร่วมมือกันยังยากจะสั่นคลอนได้

แต่ทว่า สี่มหาโลกร่วมมือกัน โลกแท้จริงที่ห้าเลยต้านไม่ไหวอีก สงครามดำเนินมาหลายหมื่นปี ภายใต้สงครามนั้น โลกแท้จริงที่ห้าแตกกระจัดกระจาย ชาวหมื่นเผ่าตายกันอย่างน่าอนาถ”

“ข้ารู้ว่าสำหรับเจ้าแล้วคงไม่รู้สึกอะไร ถึงอย่างไรเจ้าก็ไม่ใช่ชาวเผ่ายมโลกที่เกิดในยุคสมัยนั้น แต่สิ่งที่ข้ารู้คือสงครามในครั้งนั้น เผ่ายมโลกเป็นเป้าหมายทำลายหลักของสี่มหาโลกแท้จริง ข้าไม่รู้ว่าเจ้ามีชีวิตรอดมาได้อย่างไร แต่ข้ามั่นใจอย่างหนึ่งว่าบิดามารดาเจ้า บรรพบุรุษของเจ้า พวกเขาตายในสงครามกันหมดแล้ว”

เสียงชื่อหั่วโหวดังกึกก้อง แฝงไว้ด้วยความหนักแน่นและผ่านโลกมานาน

ซูหมิงเงียบงัน เขาเพิ่งเคยได้ยินเรื่องนี้เป็นครั้งแรก เพียงแต่เป็นอย่างที่อีกฝ่ายพูด เขาไม่ได้เกิดความรู้สึกร่วมอะไร เขาคือเขา โลกแท้จริงลำที่ห้าก็คือโลกแท้จริงที่ห้า

“ทางเข้าโลกแท้จริงที่ห้าอยู่ที่ใด?” ผ่านไปพักหนึ่ง ซูหมิงจึงถามขึ้นเนิบๆ

“โลกแท้จริงที่ห้าไม่อยู่แล้ว จะมีทางเข้าอะไรอีก…ต่อให้มีจริงๆ ตอนข้าถูกสี่มหาโลกแท้จริงผนึกให้หลับใหลสงครามยังไม่จบสิ้น ข้าก็เลยไม่รู้แน่ชัด” ชื่อหั่วโหวส่ายศีรษะ เขามองซูหมิงแบบนี้อยู่ครู่หนึ่ง เพราะกระบี่ผนึกตรงกลางกระหม่อมหายไป ใบหน้าโครงกระดูกจึงมีเลือดเนื้อเพิ่มขึ้นมาไม่น้อย

“พวกเราไม่พูดถึงโลกแท้จริงที่ห้ากันดีกว่า เจ้าคือเผ่ายมโลกก็ดี หรือไม่ใช่ก็ไม่เป็นไร จะยอมรับหรือไม่ก็แล้วแต่เจ้า พวกเรามาคุยข้อตกลงส่วนตัวกันดีกว่า” แสงหม่นในแววตาชื่อหั่วโหวค่อยๆ สว่างขึ้น

“ข้าต้องการฟื้นฟูขั้นพลัง ต้องรวมภัยพิบัติจันทราขึ้นอีกครั้ง แต่ทำในแดนรกร้างต้นกำเนิดจิตไม่ได้ เพราะกลิ่นอายพลังภัยพิบัติของที่นี่แทบจะไม่มีเลย

แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น ด้วยการควบคุมกฎ ความมั่นใจในร่างกาย และความเข้าใจในกฎเกณฑ์ของข้า เว้นแต่เจอผู้ฝึกระดับภัยพิบัติตอนปลาย มิเช่นนั้นแล้วจะสังหารข้าก็ไม่ใช่ง่ายๆ แต่เจ้าเป็นเพียงผู้ฝึกฌานระดับดิน ถึงจะใช้กลอุบายทั้งหมดสังหารเจ้าปกครองโลกได้ แต่ก็สู้ได้เพียงเจ้าปกครองโลกตอนต้น หากเจอเจ้าปกครองโลกตอนกลางต้องตายแน่!

ฉะนั้นข้าจึงขอเสนอตัวปกป้องเจ้า กระทั่งลงมือช่วยเจ้าได้” นัยน์ตาชื่อหั่วโหวขยับประกายพลางกล่าวเนิบช้า

“เป็นอย่างไร ข้าไม่เพียงช่วยเจ้าลงมือเท่านั้น ยังมอบโชควาสนาครั้งใหญ่ให้ด้วย แม้แดนผนึกนี้จะถล่มลง ทว่าภายในแฝงไว้ด้วยพลังเลือดเนื้อของข้ามาแต่โบราณ พลังเหล่านี้ไม่มีประโยชน์กับข้า แต่กับเจ้ามีผลดีอย่างยิ่ง อย่างน้อยก็ทำให้ร่างกายเจ้าแกร่งจนถึงจุดสูงสุดของระดับฟ้า กระทั่งบรรลุถึงเจ้าปกครองโลกก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”

“นี่คือข้อตกลง เจ้าจะจ่ายสิ่งเหล่านี้ให้ แต่ของเจ้านั้นง่ายมาก ข้าขอคำสัญญาจากเจ้าอย่างหนึ่ง ตอนที่เจ้าสร้างยมโลก วางเส้นทางวัฏจักร เจ้าต้องเอาธงวิญญาณผนึกของเผ่าหมีซื่อมา และฟื้นคืนชีพชาวเผ่าหมีซื่อหนึ่งล้านคนที่ตายตกไปในสงคราม

ขอเพียงเจ้ารับปากข้อนี้ ข้าชื่อหั่วโหวยินยอมปฏิบัติตามคำสัญญา ช่วยเหลือเจ้าอย่างเต็มที่!” ขณะเสียงชื่อหั่วโหวดังกึกก้องโดยรอบ ซูหมิงใจสั่นสะท้าน

“เจ้าไม่ต้องตอบข้าในตอนนี้ก็ได้ ถึงอย่างไรเจ้าก็เป็นคนบ้านเกิดเดียวกันคนแรกที่ข้าเจอหลังจากตื่นขึ้น ไม่ว่าเจ้าจะยอมรับหรือไม่ ข้าจะมอบโชควาสนาครั้งใหญ่ให้เจ้าก่อน

ที่นี่อัดแน่นไปด้วยพลังแห่งเลือดเนื้อของข้า แต่มันไม่มีประโยชน์กับข้า จันทราภัยพิบัติของข้าหายไปแล้ว มันจะไม่รวมขึ้นมาอีก ร่างกายก็ดี ขั้นพลังก็ดี ข้าฝึกฝนไม่ได้อีกแล้ว

ข้ามอบให้เจ้าทั้งหมด เจ้ารับได้เท่าไรก็รับไป”

ชื่อหั่วโหวเอ่ยพลางยกมือขวาขึ้น หินหนืดสีม่วงอมดำใต้ร่างพลันหมุนวน พลังแห่งเลือดเนื้อมหาศาลหลั่งทะลักไปหาซูหมิงทั้งหมด และยังมีเส้นสีแดงนับไม่ถ้วนตรงเข้ามาจากรอบๆ หมุนวนโอบล้อมเขาเอาไว้

แววตาซูหมิงเพ่งสมาธิ เขาเปิดรูขุมขนทั่วร่าง พลังแห่งเลือดเนื้อที่เข้มข้นอย่างยิ่งทะลวงเข้าสู่ร่างอย่างรวดเร็ว เสริมสร้างร่างกายทุกส่วนอย่างเช่นกระดูกและเลือดเนื้อให้แกร่งขึ้น

ความแกร่งนี้ทำให้เขารู้สึกจิตใจโบยบิน ชั่วขณะที่สูบเข้ามา เขารู้สึกอย่างชัดเจนว่าการสูบทุกครั้ง ร่างกายจะแกร่งขึ้นเล็กน้อย

การเพิ่มพลังแห่งเลือดเนื้อทำให้เขารู้สึกชัดเจนว่าตนกำลังแกร่งขึ้นเรื่อยๆ หัวใจเต้นโครมครามกว่าเดิม ทุกครั้งที่พลังแห่งเลือดเนื้อทะลักเข้ามา ทำให้โลหิตทั่วร่างไหลเวียนครบหนึ่งรอบ ช่วงที่โลหิตกลับเข้าสู่หัวใจ เขาจะแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ราวกับฝึกฝนหนึ่งวัน

ซูหมิงปรารถนาความแข็งแกร่ง ปรารถนาจะได้พลังที่กุมชะตาชีวิตตัวเองได้ ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ตกลงมาที่แดนผนึกตามคำเชิญของเถียนหลิน

“ผู้รักษาการณ์ตายแล้ว เกรงว่าผู้รักษาการณ์ของสี่มหาโลกแท้จริงคงรู้แล้ว จะอยู่ที่นี่นานไม่ได้” เสียงโครมดังในความคิดซูหมิง ขณะเดียวกับที่ทั้งในและนอกร่างกายปกคลุมด้วยพลังแห่งเลือดเนื้ออันไม่มีสิ้นสุด เสียงชื่อหั่วโหวดังแว่วมาข้างหู

ในเวลาเดียวกัน ชื่อหั่วโหวทำสัญลักษณ์มือขวาแล้วกดไปยังหินหนืดสีม่วงอมดำ ทั้งแดนผนึกที่กำลังถล่มพลันสั่นสะเทือน ก่อนจะแข็งตัวไปทีละชั้นจนไม่ถล่มลงมาอีก แต่กลายเป็นก้อนหินยักษ์ก้อนหนึ่ง

ก้อนหินนี้คือทั้งแดนผนึก ยามนี้ภายใต้อภินิหารของชื่อหั่วโหว หินแดนผนึกสั่นสะเทือน ตรงขอบก้อนหินยักษ์เกิดระลอกคลื่นเก้าชั้น

ระลอกคลื่นเก้าชั้นนี้กลายเป็นเก้าชั้นที่บิดเบี้ยวแล้วเกิดระลอกคลื่นตามมา พริบตาเดียวก็ปกคลุมไปรอบๆ หลังจากอัดแน่นอยู่ทุกจุดของหินแล้ว ก็เกิดเสียงครึกโครมดังกึกก้องอยู่กลางฟ้ายามค่ำคืนข้างนอกดาวแดงเพลิง

ช่วงที่ผู้ฝึกฌานนับไม่ถ้วนพากันตื่นตระหนก สัตว์ร้ายบนดาวแดงเพลิงร้องคำราม ก้อนหินแดนผนึกข้างในดาว…พลันหายไปในทันที

หายไปแล้ว ส่วนในของดาวแดงเพลิงว่างเปล่า

นี่คือการเคลื่อนย้าย ชื่อหั่วโหวใช้พลังแห่งภัยพิบัติเสี้ยวสุดท้ายในร่างกายทำการเคลื่อนย้ายครั้งใหญ่…พาแดนผนึกออกไปจากดาวแดงเพลิง

กลางฟ้ากระจ่างดาวมีหินผุพังจำนวนมากกำลังพุ่งผ่าน ภายในหินผุพังก้อนหนึ่ง ยามนี้มีระลอกคลื่นเก้าชั้นกระจายออกเป็นวงกว้าง พริบตาเดียวหินแดนผนึกจากดาวแดงเพลิงก็เคลื่อนย้ายมาอยู่ในก้อนหินที่ผุพังนี้

เวลานี้ดวงตาชื่อหั่วโหวมัวหมองลง แต่เขาไม่หยุดพักในทันที หันหน้าไปจ้องกระบี่ผนึกที่วางอยู่ตรงหน้าไม่ไกลนัก ภายใต้การเคลื่อนย้ายของทั้งแดนผนึก จึงพากระเรียนขนร่วงที่ดูตระหนกเล็กน้อยมาด้วย

“เจ้าเป็นใครกันแน่?”

“ปู่กระเรียนเจ้าเถอะ จะเคลื่อนย้ายเหตุใดไม่บอกท่านกระเรียนผู้นี้ก่อน สมควรตาย ทำเอาข้าตกใจแทบแย่ หัวใจเล็กๆ ของข้าสั่นรัวไปหมด บัดซบ ข้ากลัวการเคลื่อนย้ายที่สุด ผิดปกติ…ก่อนหน้านี้ข้าต้องมีบางอย่างผิดปกติแน่” กระเรียนขนร่วงหน้าซีดขาว พอได้ยินชื่อหั่วโหวกล่าวก็ถลึงตามองทันที

หนึ่งคนหนึ่งกระเรียนอยู่ในหินหนืดซึ่งห่างกันไม่ไกลนัก ส่วนซูหมิงในยามนี้หลับตาอยู่ รอบตัวอบอวลไปด้วยพลังแห่งเลือดเนื้อ และกำลังสูบกลืนไม่หยุด

ร่างกายเขาแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เสียงเต้นหัวใจดังตึกๆ ซูหมิงอยู่ในสภาวะแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ราวกับเป็นผีเสื้อในรังไหม กำลังจะถือกำเนิดใหม่

ขณะเดียวกัน เมื่อแดนผนึกเคลื่อนย้ายมาซ่อนอยู่ในหินผุพังได้ไม่นาน กลางฟ้ากระจ่างดาวนอกดาวแดงเพลิงมีแรงกดดันอันน่าสะพรึงมาเยือน ฟ้ากระจ่างดาวบิดเบี้ยวและขยายออกไปรอบๆ ครู่ต่อมาก็ปรากฏเรือหนึ่งลำ สองลำ สามลำ…

เรือยักษ์ทั้งหมดสามสิบเจ็ดลำทะลวงมาจากความว่างเปล่า สายฟ้าเส้นโค้งแผ่กระจายจากนอกเรือ แรงกดดันจากพวกมันทำให้ดาวแดงเพลิงสั่นไหว

บนเรือทุกลำมีคนยืนอยู่เกือบพันคน โดยเฉพาะข้างหน้าที่มีกลิ่นอายพลังเจ้าปกครองโลกจำนวนมากอบอวลอยู่ เรือตรงกลางระเบิดกลิ่นอายพลังออกมา อยู่เหนือกว่าเจ้าปกครองโลกทุกคน ดวงตะวันครึ่งดวงซึ่งรวมจากสายฟ้ายักษ์ปรากฏขึ้นกลางฟ้า!

เพราะเห็นดวงตะวันครึ่งดวง มันจึงดูเหมือนดวงจันทร์

สิ่งนี้คือ…..พลังของผู้ฝึกฌานครึ่งก้าวก่อนระดับภัยพิบัติตะวัน หรือเรียกอีกอย่างว่าภัยพับัติจันทรา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version