Skip to content

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 856


บทที่ 856 : ข้าไม่เคยลงมือเป็นครั้งที่สอง! (ปลาย)

เสียงผู้ฝึกกระบี่ซึ่งหันไปพูดกับฝ่ายนั้นว่า “เจ้าไม่ใช่คนอ่อนด้อย……นอกจากจะต้านทานพลังปะทะของข้าได้แล้ว ยังยืนหยัดอยู่ได้จนถึงตอนนี้……นับว่าไม่เลวนี่”

เสียงพูดขาดห้วงไปพร้อมกับร่างที่เลือนหายจนหมดสิ้น

และภายหลังจากนิ่งขึงไปชั่วขณะ ร่างจักรพรรดิซิงค่อยๆ พร่าเลือนไปทีละน้อยๆ

ทุกคนต่างงงงัน “……”

เยี่ยฉวนรีบร้องถามผู้ฝึกกระบี่ ขณะที่อีกฝ่ายยังไม่ทันหายไปว่า “ท่านพบสตรีลึกลับบ้างไหมขอรับ?”

ผู้ที่ถูกถามเลิกคิ้วมองชายหนุ่มพร้อมกับตอบยิ้มๆ “ไม่เลย”

คำตอบที่ได้รับทำให้เยี่ยฉวนได้แต่นิ่งเงียบ

เสียงผู้ฝึกกระบี่พูดกับเขาว่า “ระวังตัวด้วย ถ้าพวกนั้นอาละวาดขึ้นมาล่ะก็……จะไม่มีใครคอยกำราบ!”

เยี่ยฉวนถึงกับชะงักกึกก่อนจะถามกลับ “พวกนั้น?”

อีกฝ่ายไม่ได้ตอบคำถามเพียงยิ้มๆ ทันใดนั้นร่างของเขาได้หายวับไป……

เยี่ยฉวนขมวดคิ้วยุ่ง ด้วยรู้สึกฉงนในใจ

ในตอนนี้เหลือเพียงจักรพรรดิซิง ฝ่ายนั้นเหลือกตามองเยี่ยฉวน คนหลังหันมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย ความคิดวูบขึ้นในใจหรือเจ้าหนุ่มนั่นจะสังหารเขาเสียก่อน?

จักรพรรดิซิงจ้องหน้าเยี่ยฉวนด้วยสายตาแน่วแน่ ไม่ปริปากว่ากระไรมีเพียงสายตาที่มองเขม็ง เวลานี้รู้สึกประหวั่นพรั่นใจกับเจ้าหนุ่มตรงหน้าขึ้นมาเสียแล้ว

ทันใดนั้นจักรพรรดิซิงเอ่ยกับเขาว่า “ข้าติดใจอยู่เรื่องเดียว”

เยี่ยฉวนนิ่งราวกับจะรอฟัง

เขาไม่พูดไม่ถามก็จริงทว่าภายในใจกำลังสบถลั่น ให้ตายเถอะ! แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้าด้วยเล่า?

ทว่าชายหนุ่มไม่คิดเช่นนั้นออกมาดังๆ! เห็นอยู่แล้วว่าคนผู้นั้นกำลังมอดม้วยมรณา ตอนนี้เขาไม่ควรทำอะไรให้เกิดความขัดเคืองต่อคนคนนั้น ซึ่งเกรงว่ามันจะพาเขาม้วยมอดไปเสียพร้อมกันนั่นเอง!

ดูเหมือนจะมองออกว่าชายหนุ่มกำลังคิดอะไร จักรพรรดิซิงพูดขึ้นว่า “ข้าจะมอบสิ่งนี้ให้เจ้านำไปใช้ประโยชน์!”

ประโยชน์?

เยี่ยฉวนนิ่งคิดไตร่ตรองอยู่เงียบๆ บางครั้งคนเราอาจมองเห็นและได้ประโยชน์จากบางสิ่ง มิเช่นนั้นแล้วของบางอย่างอาจมีค่าเพียงก้อนเมฆที่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศ

จักรพรรดิซิงมองคนตรงหน้าก่อนจะเผยฝ่ามือข้างขวายื่นออกไป กลางฝ่ามือนั้นปรากฏแหวนสีดำสนิทอยู่วงหนึ่ง “แหวนจักรพรรดิ!”

ชายหนุ่มมีสีหน้าลังเลเหมือนไม่แน่ใจ พลางถามว่า “มันคืออะไร?”

อีกฝ่ายบอกว่า “นี่คือสมบัติล้ำค่า ทักษะหนึ่งเดียวของข้าถูกเก็บไว้ในนี้ เพราะไม่อยากให้มันขาดคนที่จะรับช่วงต่อ อีกอย่างสิ่งนี้ใช้แทนสัญลักษณ์แสดงตัวตน ต่อไปภายหน้าถ้ามีโอกาสได้ไปที่ดินแดนจักรวาลดาวเถี่ยนซิง แหวนวงนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมาก”

เยี่ยฉวนนิ่งฟัง

เสียงคนตรงข้ามกล่าวต่อไป “ในวงแหวนสัมภาระมีของสองอย่างเก็บไว้ในนั้นด้วย แล้วก็ของอีกเล็กๆ น้อยๆ ที่เก็บไว้ ทั้งสองอย่างนั้นไม่ได้ต่ำชั้นกว่ากระบี่ของเจ้าหรอกนะ”

เยี่ยฉวนเอ่ยเสียงแหบพร่า “เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน!”

พลันชายหนุ่มกอบเอาเศษกระบี่เจิ้นหุนที่แตกหักเสียหายออกมา “ถ้าช่วยมันได้ ข้าจะยอมรับสิ่งนี้แล้วจะทำตามที่ท่านบอกทุกอย่าง!”

จักรพรรดิซิงมองชายหนุ่มตรงหน้านิ่งๆ ก่อนจะบอกกับเขาว่า “เจ้าทำเองดีกว่า!”

ได้ยินคำตอบหัวคิ้วของเยี่ยฉวนขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “หมายความว่าอะไร?”

คนถูกถามย้อนถามโดยไม่ตอบ “ผู้ฝึกกระบี่เคยบอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือว่า เจ้าซ่อมแซมมันด้วยตัวเองจะเป็นการดีที่สุด”

เยี่ยฉวนเงียบงัน

เสียงอีกฝ่ายพูดเรื่อยๆ “ถ้าเจ้ารับปากว่าจะทำตาม ก่อนที่ข้าจะตาย ถ้าเป็นนั้นก็ยินดีจะช่วย!”

ชายหนุ่มเงยหน้ามองจักรพรรดิซิง “ท่านจะช่วยอะไรข้า?”

ฝ่ายตรงข้ามตอบทันที “ข้าสามารถผนึกชั้นที่หกไว้ได้ชั่วคราว!”

เยี่ยฉวนฟังแล้วถึงกับหน้าบิดเบี้ยวเหยเก “อะไรอีก! ชั้นที่หก! นี่ยังไม่จบไม่สิ้นอีกงั้นหรือ?”

ชายหนุ่มอยากลงไปดิ้นตายไปเดี๋ยวนั้น

คนพวกนี้โผล่ออกมาทีละคนๆ ใครจะรับได้? ใครเล่า?

ถึงอย่างไรพอได้ยินคำว่าชั้นที่หก เขาก็รับไม่ไหวแล้ว!

จักรพรรดิซิงมองคนตรงหน้าด้วยความงุนงง “เจ้าจะโทษใคร? โทษหอคอยสิ! จัดการมันเสีย!”

เยี่ยฉวน “……”

เสียงจากฝั่งตรงข้ามถามย้ำ “ว่าไง! จะรับปากข้าหรือไม่!”

ชายหนุ่มจำตอบเสียงขรึม “ใครที่ชั้นหกเป็นอะไร?”

จักรพรรดิซิงสั่นศีรษะ “ข้าก็ไม่รู้!”

เยี่ยฉวนนิ่วหน้าเล็กน้อย ฝ่ายตรงข้ามพูดต่อไปว่า “ข้ากำลังจะเข้าไปแล้วดูให้รู้แน่ชัด ทว่าโชคร้ายที่ไม่สามารถเข้าไปได้! เดิมทีต้องใช้พลังเพื่อเข้าไป ทว่าต้องฟื้นฟูพลังเสียก่อนถึงจะเข้าไปเจอกับคนที่มีพลังเหนือกว่าได้……ข้าเองอยากรู้เหมือนกันว่าใครกันแน่ที่ถูกขังอยู่ในชั้นที่สูงอย่างนั้น”

มุมปากของเยี่ยฉวนกระตุกยิก เจ้าหมอนี่ที่แท้ก็ห่วงเรื่องนี้เอง

คนผู้นี้อยู่บนชั้นที่ห้า ส่วนคนที่ถูกขังในชั้นหกเป็นชั้นที่เหนือกว่า ซึ่งย่อมเป็นไปได้ว่าคนคนนั้นมีพลังอำนาจยิ่งกว่าเขา เจ้านี่ถึงไม่ค่อยสบอารมณ์นัก!

จักรพรรดิซิงเอ่ยเบาๆ “ข้าอยากเห็นคนบนชั้นที่เหนือกว่า ถ้าเจ้าตกลงรับปาก……คงยื้อเวลาให้ได้สักระยะ”

ชายหนุ่มรำพึงเสียงขรึม “บางที……คนที่อยู่บนชั้นที่หกอาจจะนิสัยดี สุภาพอ่อนโยนหรือว่าไงกัน?”

จักรพรรดิซิงส่ายหน้าปฏิเสธทันควัน พลางพูดยิ้มๆ “พวกมันออกอาละวาดฆ่าเจ้าแน่!”

คนถามเกิดความสงสัย “ทำไม?”

อีกฝ่ายสวนคำตอบให้ว่า “ถ้าพวกมันอยากจะเข้าสู่ตำนานโลกห้ามิติต้องอาศัยหอคอยนำทาง หาไม่แล้วจะไม่มีทางเข้าไปในนั้นได้อย่างเด็ดขาด”

เยี่ยฉวนสีหน้าครุ่นคิด “โลกห้ามิติงั้นหรือ? เหตุใดพวกท่านจึงอย่างเข้าไปกันนัก?”

จักรพรรดิซิงมองหน้าเยี่ยฉวนพลางนิ่งไปนิดหนึ่ง “บางทีเมื่อถึงตอนนั้นเจ้าจะเข้าใจข้าไม่มีเวลาอธิบาย ว่าแต่ตัดสินใจได้หรือยัง?”

ชายหนุ่มไม่ตอบ

คนตรงหน้าเห็นท่าจึงถามกลับมาว่า “เจ้าไม่อยากรู้หรือว่าคนบนชั้นที่หกมีพลังขั้นไหน?”

เยี่ยฉวนพยักหน้า “เงื่อนไขคืออะไร?”

ได้ยินเช่นนั้นจักรพรรดิซิงอมยิ้มน้อยๆ “เดินทางไปที่ดินแดนจักรวาลดาวตี้ซิง ตามหาสตรีผู้หนึ่งนามว่าหมู่ชิวเยี่ยน แล้วช่วยบอกกับนางว่าข้าขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง……”

หมู่ชิวเยี่ยน!

เยี่ยฉวนพยักหน้ารับคำ “ข้ารับปากว่าจะจำไว้!”

อีกฝ่ายมองออกไปที่ขอบฟ้าไกลลิบ ก่อนแววตาจะเหม่อลอยขณะพึมพำออกมาว่า “ความจริงแล้ว……ข้ามันโง่เขลานัก! กระบี่ทั้งสามเล่มที่ปักบนยอดหอคอยนั่น แสดงว่าตอนนั้นกระบี่ร่วมต่อสู้กับผู้เป็นเจ้าของ ย่อมหมายความว่าเจ้าของกระบี่ไม่ได้ถูกขังไว้ในนี้……ถ้าข้าไม่คิดอยากเด่นอยากดัง……คงไม่ต้องมาตาย”

จากนั้นร่างของเขาเปลี่ยนเป็นลำแสงสีขาวกระจ่าง พุ่งหายกลับเข้าสู่กายของชายหนุ่มตรงหน้า

พลันจิตสัมผัสของเยี่ยฉวนดำดิ่งเข้าสู่ภายในทันที ในตอนนั้นลำแสงสีขาวพุ่งไปยังชั้นที่หกอย่างรวดเร็ว

หลังจากเงียบไปพักใหญ่ เสียงของจักรพรรดิซิงดังออกมาในหัวของเยี่ยฉวน “คนผู้นี้ไม่ได้มาจากโลกสี่มิติ……”

ก่อนที่เสียงของจักรพรรดิซิงจะพูดจบประโยค จู่ๆ เสียงได้ขาดหายไปอย่างกะทันหัน

เยี่ยฉวนนิ่งงัน

ACAC

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version