Skip to content

พลิกปฐพี 110-4

ตอนที่ 110-4

มู่ชิงเกอเจ้ามียางอายหรือไม่

“ที่นี่แหละ” เงาร่างของหานฉายไฉ่ปรากฏขึ้นบนพื้นที่ที่แห้งแล้ง ชี้ไปบนพื้นที่กำลังเหยียบอยู่แล้วพูดกับมู่ชิงเกอ

“ที่นี่รึ” มู่ชิงเกอมองพื้นดินที่เขาเหยียบอยู่แล้วเม้มปาก ไม่พูดอะไรต่อ

หานฉายไฉ่พูดขึ้นอีกครั้งว่า “ข้าสัมผัสได้ว่ามันอยู่ที่นี่ และยังคงหลับไหล สำหรับเราแล้ว นี่ถือเป็นโอกาสที่มิอาจพบได้โดยง่าย”

“หากมันซ่อนตัวอยู่ใต้ดิน แล้วเราจะลงไปได้อย่างไร หากเราเคลื่อนไหวมากไป ก็อาจจะทำให้มันตื่นได้” มู่ชิงเกอพูดพลางขมวดคิ้ว คำถามนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งคำถามที่ทำให้หานฉายไฉ่ขมวดคิ้ว

พวกเขาก็ไม่สามารถแทรกเข้าไปในดินและมุดไปมาอย่างที่ต้องการได้ อีกประการหนึ่งการจะเข้าใกล้พญาเพลิงเมฆสุริยาอย่างเงียบๆ นั้นถือเป็นเรื่องที่ยากมาก

ทั้งสองเงียบลง

มู่ชิงเกอถามในใจ “เหมิงเหมิง เจ้ามีวิธีหรือไม่”

‘เจ้านาย หนูสัมผัสได้ว่าใต้ดินมีโลกที่ร้อนมากๆ ใบหนึ่ง แต่จะลงไปอย่างไรนั้น หนูก็ไม่รู้’ เหมิงเหมิงตอบอย่างรวดเร็ว

‘โลกที่ร้อนมากอย่างนั้นหรือ’ มู่ชิงเกอถามเหมิงเหมิงกลับ

‘ประเด็นคือจะลงไปอย่างไร’ มู่ชิงเกอขมวดคิ้ว

และในขณะที่มู่ชิงเกอกำลังคิดวิเคราะห์ บนฝ่ามือของหานฉายไฉ่ก็ได้รวบรวมแสงประกายสีนํ้าเงินเอาไว้ และเล็งพื้นที่ที่อยู่ตรงปลายเท้า

“เจ้าจะทำอะไร” มู่ชิงเกอจ้องเขม็ง พลันเอ่ยถาม

หานฉายไฉ่บอกว่า “เมื่อไม่สามารถหาวิธีที่ดีกว่านี้ได้ ถ้าเช่นนั้นก็ใช้วิธีที่ง่ายที่สุด”

“หากทำให้พญาเพลิงเมฆสุริยาตื่น และหนีไปจะทำอย่างไร” มู่ชิงเกอพูดอย่างไม่เห็นด้วย

หานฉายไฉ่กระตุกมุมปาก และมองนางอย่างเยาะเย้ย พร้อมถามว่า “ถ้าเช่นนั้น คุณชายมู่มีวิธีอะไร”

มู่ชิงเกอกระตุกมุมปาก หากว่านางมีวิธี จะมายื่นอยู่ที่นี่ทำไมกันเล่า

มู่ชิงเกอไม่อยากจะสนใจเขา จึงก้มหน้าลงมองพื้นดินใต้เท้า

บนที่ราบแห่งนี้ ดินทรายแห้งแล้งและแข็งเป็นอย่างมาก เหยียบลงไปแล้ว ราวกับเป็นเหล็กกล้า

จะมีวิธีอันใดเล่าที่จะสามารถแยกมันออก โดยไม่ทำให้พญาเพลิงเมฆสุริยารู้สึกตัว

เท่าที่เหมิงเหมิงบอก ในชั้นใต้ดิน ราวกับมีมิติแห่งช่องว่าง ถ้าเช่นนั้น หากพวกเขาสามารถแยกพื้นดินลงไปได้

ก็จะสามารถเข้าสู่โลกนั้นได้อย่างนั้นหรือ เมื่อคิดทบทวนแล้ว ทันใดนั้นใด สายตาของมู่ชิงเกอก็ เป็นประกาย

จากนั้น ในมือของนางก็มีแท่งเหล็กสีดำอันหนึ่งปรากฏขึ้น รูปร่างของมันคล้ายดังสว่าน ตรงปลายนั้นแหลมคมเป็นอย่างมาก พื้นผิวนั้นม้วนไปมาเป็นเกลียว

นี่เป็นอาวุธอันไร้ค่าที่นางหลอมสร้างขึ้นอย่างไม่เห็นความสำคัญตอนที่หลอมสร้างอาวุธ ไม่คิดว่าในวันนี้จะ…

หานฉายไฉ่มองสิ่งที่อยู่ในมือของนางด้วยความแปลกใจ และเดาไม่ออกว่าใช้ทำอะไรได้จึงหัวเราะเยาะว่า “คุณชายมู่คิดจะใช้แท่งเหล็กนี่ในการเจาะรูพื้นดินนี่อย่างนั้นหรือ”

มู่ชิงเกอเงยหน้าขึ้นมองเขาแวบหนึ่งโดยไม่ได้พูดอะไร

ในตอนนี้ การกระทำสำคัญกว่าคำพูด อีกทั้งสามารถตบหน้าได้ดังกว่าด้วยเช่นกัน

มู่ชิงเกอคุกเข่าลงข้างหนึ่ง มือขวาจับท่อนเหล็ก แล้วเสียบลงบนพื้นดินทันที

เพียงกึกๆ เสียงเดียว ท่อนเหล็กก็จมอยู่ในดินแล้วครึ่งหนึ่ง

มู่ชิงเกอคลายมือออก และใช้ฝ่ามือในการดันอีกด้านหนึ่งเอาไว้ แสงประกายสีนํ้าเงินแสงหนึ่งรวมอยู่ที่ท่อนเหล็ก

เพราะการเคลื่อนไหวของนาง ท่อนเหล็กที่เสียบอยู่เริ่มหมุนอย่างรวดเร็ว…ท่อนเหล็กเข้าสู่พื้นดินมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะหลุมที่เกิดขึ้น กรวดรอบๆที่แข็งตัวต่างก็ เริ่มคลายออกจากกัน

ในตอนแรก หานฉายไฉ่มองมู่ชิงเกอด้วยความเหยียดหยาม แต่พอเม็ดกรวดค่อยๆ เข้าสู่หลุมเล็กๆ นั่น ความเหยียดหยามในสายตาของเขาก็ค่อยๆ อันตรธานหายไป และแปรเปลี่ยนเป็นความตื่นตะลึง

ในขณะที่ท่อนเหล็กแทบจะจมมิดไปทั้งด้าม มู่ชิงเกอสูดลมหายใจเข้าทีหนึ่งอย่างกะทันหัน และดึงท่อนเหล็กออกในทันที หลังจากที่ท่อนเหล็กถูกดึงออก เม็ด กรวดที่อยู่โดยรอบก็ไหลเข้าสู่หลุมและจะกลบปิดหลุมอีกครั้ง

แต่ทว่า ปฏิกิริยาของหานฉายไฉ่นั้นว่องไวมาก เขาสะบัดมือทีหนึ่ง ใช้การปลดปล่อยจากท่อนเหล็ก ในการควบคุมหลุมบนพื้นดินเอาไว้โดยไม่ได้ส่งเสียงดังมากนัก

มู่ชิงเกอมองเขาพร้อมรอยยิ้มจางๆ ตรงมุมปาก

หานฉายไฉ่หันกลับมาสบตากับนาง และต่างเข้าใจกันโดยไม่ต้องอธิบาย

“อีกรอบ” มู่ชิงเกอเสียบท่อนเหล็กลงพื้น

หานฉายไฉ่จ้องนาง เตรียมพร้อมที่จะให้ความร่วมมือตลอดเวลา

ไม่นาน บริเวณที่พวกเขายืนอยู่ก็ได้กลายเป็นหลุมหลุมหนึ่ง

“ตาข้าบ้าง” หานฉายไฉ่ออกปากขอเปลี่ยนกับมู่ชิงเกอด้วยตนเอง เพื่อรับช่วงต่อจากมู่ชิงเกอ

มู่ชิงเกอดีใจที่ได้พัก จึงหลีกทางให้อย่างเชื่อฟัง

เพราะเมื่อเปรียบหน้าที่กันแล้ว แน่นอนว่าสิ่งหานฉายไฉ่รับผิดชอบก่อนหน้านี้นั้นง่ายกว่า

แม้ทั้งสองจะเปลี่ยนหน้าที่กัน แต่ก็ยังคงเข้าขากันได้เป็นอย่างดี

ไม่นาน หลุมนั้นก็ลึกลงไปมาก ความสูงประมาณคนสองคนได้

ในขณะที่หานฉายไฉ่เสียบท่อนเหล็กลงบนพื้นดินอีกหน ก็รู้สึกได้ว่าในฝ่ามือพลันว่างเปล่า ท่อนเหล็กที่เสียบอยู่บนพื้นดินหายแวบไปในทันที เหลือไว้เพียงแค่หลุมสีดำ

ทั้งสองหรี่ตาลงในทันที และโน้มตัวไปข้างหน้าพร้อมกัน

“ดูเหมือนว่า จะล่างสุดแล้ว” มู่ชิงเกอพูดแล้วเม้มปาก หานฉายไฉ่ยืนอยู่บนหลุม รวบรวมพลังทั้งหมดแล้วกดลง ร่างกายเขาก็เริ่มหนักขึ้นและจมลงไป

พื้นดินที่ไม่ได้แน่นอยู่แล้วในตอนแรก แน่นอนว่าไม่สามารถรับนํ้าหนักนี้ได้ทำให้เท้าของเขายุบลงไปเป็นหลุมกลมๆ หลุมหนึ่งทันที และร่างของหานฉายไฉ่ก็ร่วงลงไป

ทันทีที่เงาร่างของหานฉายไฉ่หายไป มู่ชิงเกอเองก็ไม่ได้ คิดอะไรมาก และโดดตามลงไป

เมื่อเข้าสู่โลกใบที่เหมิงเหมิงพูดถึง ลมร้อนที่ดังอยู่ข้างหู จึงทำให้มู่ชิงเกอรับรู้ถึงความหมายของคำว่า ‘ร้อนมากๆ’

แม่เจ้า! ที่นี่เป็นโลกแห่งลาวาโดยแท้!

มู่ชิงเกอที่กระโดดลงไปในหลุม รู้สึกว่าตนเองราวกับกระโดดลงสู่กระถางแปดเหลี่ยมของไท่ซ่างเหล่าจวินอย่างนั้น

รอบๆ เป็นของเหลวและมีหินสีแดงที่ร้อนและเดือดปุด ที่นี่ราวกับเป็นหลุมใหญ่หลุมหนึ่ง แต่กลับเต็มไปด้วยลาวาและเปลวเพลิง

มู่ชิงเกอเคยได้รับภารกิจให้ไปยังใต้ภูเขาไฟ แต่ทว่าโลก ที่นางอยู่ในตอนนี้ เป็นดั่งที่ๆ ลึกที่สุดของภูเขาไฟ และน่าหวาดผวากว่าเป็นไหนๆ

ตุ้บ!

มู่ชิงเกอหล่นลงบนก้อนหินก้อนใหญ่

เท้าเพิ่งจะแตะลงไป ในบริเวณที่เท้าสัมผัสกับพื้นดินก็เกิดกลุ่มควันสีขาว และนางเองก็รับรู้ได้ถึงความร้อนที่เกิดขึ้น ทำให้นางไม่อาจจะยืนได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version