Skip to content

พลิกปฐพี 138-4

ตอนที่ 138-4

ฆ่าเตียวหยวน ชิงเกอโกรธ

ทันใดนั้น สายฟ้าในบ่อสายฟ้าก็ถูกพายุพลังเวทม้วนพัดขึ้น พุ่งขึ้นกลางอากาศ กลายเป็นวงกลมที่ล้อมมู่ชิงเกอและพลังเวทเอาไว้ตรงกลาง

พลังเวทหมุนเร็วขึ้นเรื่อยๆ จากสีนํ้าเงินเข้ม ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีม่วง

ไม่นาน พลังเวททั้งหมดของมู่ชิงเกอก็กลายเป็นสีม่วง แต่ทว่า การทะลวงยังไม่จบลงแค่นั้น…

มู่ชิงเกอขมวดคิ้วทั้งสองข้างเล็กน้อย ราวกับรับการทะลวงอย่างต่อเนื่องนี้ไม่ไหว แต่ทว่า นางกลับไม่มีแรงที่จะหยุดมัน

พลังเวทหมุนวนอย่างบ้าคลั่ง พลังเวทสีม่วงอ่อน ค่อยๆ เข้มมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งกลายเป็นสีม่วงเข้ม แล้วพลังเวทจึงหยุดหมุนลงอย่างกะทันหัน แล้วพุ่งเข้าสู่ร่างกายของมู่ชิงเกอ

“อ๊าก—–!” ความเจ็บปวดที่พลังเวทพุ่งเข้าสู่ร่างกาย ทำให้มู่ชิงเกอร้องออกมาเพราะยากที่จะต้านทานได้ เสียงร้องนี้ของนาง กระจายออกไปทั่วราวกับคลื่นทะเล

ทำให้หมอกหนาที่อยู่รอบๆกระจายไป เผยให้เห็นภาพบรรยากาศและสิ่งของที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางหมอก เหมิงเหมิงของหยินเฉินที่เฝ้าอยู่ข้างนอก เงยหน้าขึ้นมอง ฟ้าและตะลึงจนอ้าปากค้าง

มองเมฆบนฟ้าที่เคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว พร้อมกับสีของท้องฟ้าที่เปลี่ยนไป เหมิงเหมิงพูดอึ้งๆ ว่า “โชคดีที่เจ้านายทะลวงขั้นพลังในช่องว่าง หากทะลวงข้างนอก ไม่รู้ ว่าจะสร้างความตื่นตระหนกมากเพียงใด”

ทันทีที่สิ้นเสียงของนาง พื้นดินในช่องว่างก็สิ้นสะเทือนขึ้นมา

“เกิดอะไรขึ้น!” หยินเฉินทรงตัวเอาไว้ และหันไปถามเหมิงเหมิง

“พลังเวทของเจ้านายทะลวงแล้ว ช่องว่างจะเกิดการเปลี่ยนแปลง! ข้า ข้า หนูก็จะต้องเปลี่ยนไปเช่นกัน!” ทันทีที่เหมิงเหมิงพูดจบ ร่างกายก็ถูกแสงเจ็ด

สีปกคลุมเอาไว้ กลายเป็นไข่ใบใหญ่ ลอยอยู่กลางอากาศ

หยินเฉินมองไข่ใบใหญ่เจ็ดสีที่อยู่ตรงหน้า และพูดอย่างตะลึงว่า “เหมิงเหมิง ที่แท้เจ้าก็เกิดจากไข่เรอะ!”

เมื่อมู่ชิงเกอตื่นจากความมึนงง พบว่าตนเองยังอยู่ในช่องว่าง แต่ว่า ราวกับช่องว่างมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น

มู่ชิงเกอเดินออกจากบ่อสายฟ้า ยกฝ่ามือขึ้น ทันใดนั้น บนฝ่ามือก็มีพลังเวทสีม่วงเข้มเกิดขึ้น นางจ้องพลังเวทนั้นครู่หนึ่ง มู่ชิงเกอเก็บพลังเวท พลันถอนหายใจ “สายม่วงขั้นกลาง”

แม้ว่า การทะลวงนี้จะไม่ได้อยู่ในแผนการ แต่กำลังจะพบกับศัตรูที่เก่งกาจ การที่นางทะลวงเข้าสู่สายม่วงและกระโดดสู่สายม่วงขั้นกลางได้สำหรับนางแล้วเป็นเกราะป้องกันที่ยิ่งใหญ่จนไม่อาจปฏิเสธได้

หากไปพบกับศัตรูด้วยพลังเวทสายม่วง แน่นอนว่าเหนือกว่าสายนํ้าเงินขั้นสูงอยู่แล้ว ถือเป็นการเพิ่มอัตราการชนะ

มู่ชิงเกอรู้สึกระปรี้กระเปร่า แล้วเดินออกมาอย่างผ่อนคลาย

พอนางเดินออกไป จึงพบว่า โลกในช่องว่าง ล้วนแตกต่างไปจากเดิม ภาพบรรยากาศและสิ่งก่อสร้างที่ก่อนหน้ามีหมอกปกคลุมอยู่ ในตอนนี้กลับปรากฏอยู่ตรงหน้านางอย่างชัดเจน ซึ่งบ่งบอกว่า ที่เหล่านั้นนางสามารถเข้าไปได้แล้ว

มู่ชิงเกอตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

ทันใดนั้น นางพบว่าบริเวณที่ไม่ไกลนัก มีไข่เจ็ดสีใบใหญ่ใบหนึ่งลอยอยู่กลางอากาศ และบนพื้นถัดจากไข่ใบนั้น จิ้งจอกขาวดั่งหิมะตัวหนึ่งกำลังนอนขดตัวเป็นก้อนกลมก้อนหนึ่งดวงตาทั้งคู่ปิดสนิท

มู่ชิงเกอกะพริบตาและพึมพำว่า “แล้วเหมิงเหมิงล่ะ ไข่เจ็ดสีใบใหญ่นี้คืออะไร”

แน่นอนว่าไม่มีคนให้คำตอบนางได้

มู่ชิงเกอคิดทบทวนครู่หนึ่ง รู้สึกว่าเหมิงเหมิงเป็นตัวควบคุมช่องว่าง คงจะไม่ได้รับอันตรายอันใด จึงไปดูที่ๆ ปรากฏขึ้นใหม่

แน่นอนว่ามู่ชิงเกอไม่มีเวลาไป ‘สำรวจ’

นางเพียงแค่เดินรอบหนึ่ง เห็นว่าสิ่งก่อสร้างที่ถูกเปิด มีทั้งหมดสามหลัง ใต้หลังคาทั้งสามหลังเขียนว่า ‘ตึกยุทธภัณฑ์’ ‘คลังชิ้นส่วนยุทธภัณฑ์’ และ ‘คลัง ยุทธภัณฑ์ระดับเทพ’

ยังไม่ทันได้เข้าไป มู่ชิงเกอก็ตะลึงเพราะสามป้ายนี้ จนต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ความรู้สึกเช่นนี้ ช่างเหมือนการถูกรางวัลที่หนึ่ง จากคนจนกลายเป็นเศรษฐีเพียงชั่วข้ามคืนเดียว

มู่ชิงเกอตื่นเต้นมาก แทบจะทนไม่ได้ที่จะเข้าไปชื่นชมสมบัติที่อยู่ภายใน แต่ว่า โชคดีที่นางยังพอมีสติ รู้ว่า ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว นางเข้ามาอยู่ในช่องว่างนานเพียงนี้ไม่แน่ว่าข้างนอกอาจจะกลับถึงแคว้นฉินแล้ว

คิดทบทวนครู่หนึ่ง นางตัดสินใจวางเรื่องการเปลี่ยนแปลงในช่องว่างเอาไว้ก่อน และกลับเรือนที่ใต้ต้นไม้แก่ไป

ระหว่างทาง นางยังผ่านสวนยาสมุนไพรที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ในที่สุดนางก็รู้แล้วว่า เหมิงเหมิงไปเอายาชนิดต่างๆ ในปริมาณไม่จำกัดมาให้นางจากที่ใด

หลังจากที่กลับไปถึงใต้ต้นไม้สวรรค์โบราณ มู่ชิงเกอกลับพบว่า เรือนที่สร้างจากอิฐและกระเบื้องสีเขียวได้กลายเป็นตำหนักอันหรูหราหลังหนึ่ง สวยงามถูกใจนางเป็นอย่างมาก

เรื่องน่ายินดีเกิดขึ้นซํ้าแล้วซํ้าเล่า อยู่ๆ มู่ชิงเกอก็มีความรู้สึกว่า นี่ไม่ใช่ความจริง ราวกับอยู่ในความฝัน

ทันใดนั้น นางก็สัมผัสได้ว่า ข้างกายมีพลังเวทกำลังสั่นสะเทือนอยู่

นางหันกลับไปมอง พลันเห็นว่าบนร่างกายของหยินเฉินมีแสงสีม่วงปรากฏอยู่ ทำให้ขนสีขาวล้วนดั่งหิมะของมัน สะท้อนสีม่วงออกมา

ครู่หนึ่ง แสงสีม่วงก็หายไป ร่างกายของหยินเฉินกลับไปเป็นสีขาวดั่งหิมะดังเดิม

หยินเฉินที่เสร็จจากการฝึกพลังเวทค่อยๆ ลืมตาขึ้น เผยให้เห็นดวงตาสีโลหิต เมื่อมันเห็นว่ามู่ชิงเกออยู่ตรงหน้าตนเอง ก็พลันก้มหน้าลง แล้วทักทายอย่างนอบน้อมว่า “เจ้านาย”

“หยินเฉิน ดีใจด้วยที่เจ้าเลื่อนขั้นแล้ว” มู่ชิงเกอดูออกว่า หยินเฉินได้ทะลวงสู่สัตว์อสูรวิญญาณสายม่วงแล้ว

อีกก้าวหนึ่ง มันก็จะกลายเป็นสัตว์อสูรเทวะแล้ว

“ต้องยกความดีความชอบให้กับเจ้านาย” หยินเฉินพูด

“ข้าหรือ” มู่ชิงเกอชี้ตัวเองอย่างไม่เข้าใจ

หยินเฉินพยักหน้า และอธิบายกับนางว่า “พลังในการเลื่อนชั้นของเจ้านายนั้นมากมายนัก เพราะข้าทำสัญญากับเจ้านาย เพราะฉะนั้นพลังบางส่วนที่ยังไม่ได้รับการดูดซับ จึงเข้าสู่ร่างกายของข้าตามข้อสัญญาของเรา ทำให้ข้าเลื่อนระดับเช่นกัน”

มันก็ไม่คิดว่าการทำสัญญากับมู่ชิงเกอ จะมีประโยชน์เช่นนี้

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้” มู่ชิงเกอพยักหน้าอย่างเข้าใจ และ ถามต่อว่า “แล้วเหมิงเหมิงล่ะ”

ถามถึงเหมิงเหมิง หยินเฉินก็เคลื่อนดวงตาจิ้งจอกมองไปยังไข่เจ็ดสีใบใหญ่ที่ลอยอยู่กลางอากาศ

มู่ชิงเกอปากกระตุก นิ้วชี้เลื่อนไปที่ไข่ใบใหญ่ และพูดอย่างแปลกประหลาดว่า “เจ้าจะบอกข้าว่า ไข่ใบนี้คือเหมิงเหมิงอย่างนั้นหรือ”

“นางพูดว่า เพราะท่านเลื่อนขั้นแล้ว ทำให้ช่องว่างเกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้น จึงเกิดความเปลี่ยนแปลงกับตัวนางด้วย จากนั้นนางก็กลายเป็นไข่ใบใหญ่หลากสีสันนี่” หยินเฉินพูด

แค่กๆ…

มู่ชิงเกอรู้ว่าในตอนนี้ตอนยิ้มของตนเองต้องแข็งทื่อมากแน่ๆ

ครู่หนึ่ง นางไอเบาๆ ทีหนึ่ง และพูดกับหยินเฉินว่า “ข้าคิดว่าเหมิงเหมิงคงจะไม่ออกมาในเร็วๆ นี้แน่ ข้าจะออกไปก่อน เจ้าก็อยู่ที่นี่นั้นล่ะ”

หยินเฉินพยักหน้า

มู่ชิงเกอหันหลังและออกจากช่องว่างไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version