ตอนที่ 146-2
นักปรุงยาระดับจิตวิญญาณ VS นักปรุงยาระดับจิตวิญญาณ
มู่ชิงเกอมองไปทางชายหนุ่มที่สวมเครื่องแบบทหารแคว้นฉิน นี่ก็เป็นคนของฉินจิ่นเฉิน รับผิดชอบการอารักขาการขนส่งตัวยาในครั้งนี้ ก็ถือว่าเป็นการแสดง ไมตรีและความนับถือต่อโรงโอสถกลางของแคว้นฉิน
“มีเรื่องอันใดรึ?” มู่ชิงเกอกล่าวถามขึ้น
เกาจิ้นกล่าว “ด้านหน้าก็จะถึงอาณาจักรเซิ่งหยวนแล้ว ข้าน้อยตามกฎระเบียบแล้วไม่สามารถเข้าไปในโรงโอสถกลางได้จึงตั้งใจมาสอบถามเกี่ยวกับที่พักกับคุณชาย”
“ไม่สามารถเข้าไปในโรงโอสถกลาง?” มู่ชิงเกอขมวดคิ้วเข้าหากัน เรื่องเรื่องนี้นางก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน
ขณะนั้น จ้าวหนานซิงก็ได้สั่งการเรียบร้อยแล้วเดินเข้ามา ก่อนจะกล่าวอธิบายกับมู่ชิงเกอ “คนที่ไม่ใช่คนของโรงโอสถกับศิษย์ในสำนัก ล้วนแต่ไม่สามารถเข้าไปในด้านในของโรงโอสถได้ นี่ถือเป็นกฎเกณฑ์ของโรงโอสถกลาง พวกเราสาขาย่อยก็ไม่ต่างกัน พอถึงตอนนั้นนายกองเกาก็ไปพักที่เดียวกับคนของแคว้นข้าก็ได้ มีเรื่องอะไรจะได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน”
มู่ชิงเกอยังไม่ทันได้พยักหน้า ชั่วขณะนั้นก็พลันมีคนเดินเข้ามาอีกคน
ผู้ที่มาก็เป็นนายกองของฝั่งแคว้นลี่ที่มาอารักขา มาขบวนขนส่ง ตอนอยู่ที่เมืองมู่ก็ได้พบกันหนหนึ่ง เขาเคยแนะนำตัวเองว่าชื่อเกียนเหิง
เกียนเหิงเดินขึ้นด้านข้างของมู่ชิงเกอ ประสานมือคารวะ “เกียนเหิงคารวะคุณชาย”
“นายกองเกียนมีธุระ?” มู่ชิงเกอตอบรับกลับไป
เกียนเหิงกล่าวไปทางมู่ชิงเกอ “ก่อนออกเดินทาง รัชทายาทหญิงกำชับข้าน้อยเอาไว้ว่าหลังจากพบคุณชายที่เมืองมู่แล้ว ให้ข้าน้อยฟังการสั่งการจากคุณชาย ทั้งหมด เพียงแต่ว่าระหว่างทางไม่มีเรื่องราวใด ดังนั้นข้าน้อยก็เลยไม่ได้เข้าไปรบกวนคุณชาย ครั้งนี้ที่ข้าน้อยมา ก็เพราะอยากจะมาเรียนถามเรื่องที่พักหลังจากถึงอาณาจักรเซิ่งหยวนแล้ว ”
มู่ชิงเกอเบ้ปาก คิดไม่ถึงว่าฟ่งอวี๋เฟยจะทำได้จริงตามที่กล่าว คิดจะให้แคว้นลี่ถือนางเป็นจ้าวงั้นรึ
จ้าวหนานซิงกะพริบตาปริบๆ มองๆ ดูเกียนเหิงก่อนจะหันไปทางมู่ชิงเกออีกครั้ง ในแววตาฉายแววประหลาดใจขึ้นหลายส่วน
มู่ชิงเกอคิดแล้วคิด ก่อนจะกล่าวออกไปว่า “ก็ดี เช่นนั้นคนของพวกเราทั้งสามแคว้นก็ให้พักรวมอยู่ด้วยกัน จะได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน”
หลังจากเกียนเหิงจากไปแล้ว มู่ชิงเกอก็เรียกเกาจิ้นเอาไว้ ให้เขาหลังจากนี้ไปครู่หนึ่งค่อยมาพบตนเพียงลำพัง เกาจิ้นถึงค่อยจากไปพร้อมกับคนของจ้าวหนานซิง
มู่ชิงเกอกับจ้าวหนานซิงมองไปทางทั้งสามคนที่รวมตัวอยู่ด้วยกัน เห็นพวกเขากำลังหารือเรื่องที่พัก
มู่ชิงเกอมองท่าทางหารือของทั้งสามคนก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “ล้วนแต่กล่าวว่าผู้มาเยือนล้วนเป็นแขก พวกเราในเมื่อเดินทางรอนแรมมาไกล สำหรับเรื่องที่จะพักที่ไหนนั้นโรงโอสถไม่จัดการเลยสักนิดรึ?”
จ้าวหนานซิงรู้ว่านางกำลังกล่าวถึงกองกำลังที่แต่ละแคว้นส่งมาอารักขาขบวนขนส่งยา ก่อนจะอธิบายขึ้นอับจนหนทาง “ใครให้พวกเราเป็นแคว้นระดับสามกัน? นักปรุงยาแต่เดิมก็เป็นคนหยิ่งในศักดิ์ศรี บวกกับพวกเราที่เป็นแคว้นระดับสาม พวกเขาถึงแม้จะอยู่ในอาณาจักรเซิ่งหยวน แต่ว่าก็ไม่ได้ขึ้นตรงต่อส่วนกลาง อีกทั้งระยะห่างก็ยังไกลกันมาก พวกเขาไหนเลยจะมาสนใจว่าพวก เราว่าจะเป็นเช่นไร? ครั้งที่ผ่านๆ มา กองกำลังของแต่ละแคว้นที่มาที่นี่ล้วนแต่พำนักที่เมืองใกล้ๆ โรงโอสถ รอคอยลูกศิษย์โรงโอสถตอนขากลับ หลังจากนั้นค่อยอารักขาส่งกลับแว่นแคว้น”
มู่ชิงเกอยิ้มหยันขึ้น “เรื่องลำบากลำบนเช่นนี้ แต่ละแคว้นกลับยินดีที่จะทำ”
“ใครให้พวกเรามีคนศึกษาอยู่ในโรงโอสถสาขาย่อยกันเล่า? อีกทั้งโอสถของโรงโอสถ ก็ถือเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้แต่ละแคว้นไม่อาจไม่เกรงใจไม่ยำเกรงไม่ได้” จ้าวหนานซิงกล่าวคำพูดในใจกับมู่ชิงเกอ
“นี่ก็ถือเป็นสาเหตุเริ่มแรกที่ข้าไปศึกษาที่โรงโอสถ ก็เพราะอยากให้ราชวงศ์ของแคว้นอวี๋หยิบจับยาโอสถได้สะดวก ไม่ต้องไปลดเกียรติก้มหัวให้ใคร”
มู่ชิงเกอกล่าวขึ้นยิ้มๆ “ดูท่าองค์ชายเช่นเจ้าผู้นี้ก็ไม่ได้ไม่สนใจราชกิจของแคว้นอย่างที่เห็นนี่”
จ้าวหนานซิงเบ้ปาก ยิ้มขำขึ้นแต่ไม่กล่าววาจา
มู่ชิงเกอหลังจากกลับไปถึงห้องพักแล้ว ก็เรียกมั่วหยางให้มาที่ห้องของตน ให้เขาเอาแผนที่ของหลินชวนวางปู ลงไปบนโต๊ะ
สายตาของมู่ชิงเกอกวาดมองลงไปยังแผนที่ด้านล่าง มองไปยังแคว้นหรงก่อนจะเลื่อนสายตาไปยังแม่นํ้าไร้พรมแดนทางทิศใต้ของแคว้นหรง นางชี้นิ้วจิ้มลงไปที่แม่นํ้าไร้พรมแดน ก่อนจะค่อยๆ ขยับมันไปแล้วไปหยุดลงที่ทะเลแห่งความอ้างว้าง
“ทะเลแห่งความอ้างว้าง” มู่ชิงเกอกล่าวคำพูดไม่กี่คำออกมา
มั่วหยางที่กำลังก้มหน้าอยู่ หลังจากได้ฟังคำกล่าวของมู่ชิงเกอก็พลันเงยหน้าขึ้น มองไปทางนางพร้อมกล่าวขึ้น เสียงขรึม “ทะเลแห่งความอ้างว้างแบ่งแยกเขตแดนระหว่างแคว้นหรงกับแคว้นกู่วู่ ตามตำนาน ในทะเลแห่งความอ้างว้างมีเหล่าวิญญาณอาละวาดอยู่ด้านในไม่เคยมีใครสามารถข้ามผ่านไปได้ หากมีผู้ใดอาจหาญผ่านเข้าไป ล้วนแต่จะถูกเหล่าภูตผีเข้าโจมตีหลอกหลอน สุดท้ายร่วงจมลงในทะเลแห่งความอ้างว้างกลายเป็นผีร้าย”
‘เจ้านาย จิ้งจอกหัวเหม็นบอกว่าในทะเลแห่งความอ้างว้างมีมนต์มายาอยู่ มันสามารถจัดการได้’ ในความคิดของมู่ชิงเกออยู่ๆ ก็มีเสียงของเหมิงเหมิงดังขึ้น ประโยคนี้ก็ทำเอาแววตาของนางกระจ่างวาบขึ้นมา ค่อยๆ กล่าวยิ้มๆ ขึ้น “ทะเลแห่งความอ้างว้างสามารถข้ามผ่านได้”
มั่วหยางพอได้ฟังก็มองไปทางนางอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรให้มากความอีก
มู่ชิงเกอหันกล่าวไปทางมั่วหยาง “อาหญิงกำลังท่องเที่ยวอยู่ที่แคว้นกู่วู่พอดี จากทะเลแห่งความอ้างว้างเข้าสู่แคว้นกู่วูแล้วออกเดินจากแคว้นกู่วู่เข้าสู่แคว้นลี่ เดิน ทางกลับแคว้นฉิน นี่ก็เป็นเส้นทางกลับ หลังจากถึงอาณาจักรเซิ่งหยวนแล้ว พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องรั้งอยู่นาน ให้ไปที่ทะเลแห่งความอ้างว้างโดยตรง ไปยังอาณาเขตใกล้ๆ แถวนั้น สืบข่าวคราวแล้วสร้างเรือรอข้าอยู่ที่นั่น”
“คุณชายจะเดินทางเพียงลำพัง?” มั่วหยางเร่งร้อนถามขึ้น ในแววตาเต็มไปด้วยความกังวลที่ยากจะปิดบัง
มู่ชิงเกอพยักหน้า “เรื่องราวครั้งนี้ก็ไม่ควรมีความเคลื่อนไหวใหญ่โต ข้าไปเองจะสะดวกมากกว่า พวกเจ้ารอข้าอยู่ใกล้ๆ ทะเลแห่งความอ้างว้างก็พอแล้ว ครานี้ได้มาเยือนแคว้นระดับสองแคว้นระดับหนึ่งก็ถือว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยากนัก ครั้งนี้เจ้าจะต้องวางแผนดำเนินการให้ข้าเรื่องหนึ่ง หาเส้นทางที่พอใช้สอยได้ เพื่อจะได้สะดวกให้พวกเจ้าสามารถเข้ามาฝึกฝีมือในเขตแดนของแคว้นระดับสองได้ตลอดเวลา”
“ขอรับ” มั่วหยางพยักหน้ารับคำสั่ง
“สามเดือนไม่ก็ครึ่งปีข้าแน่นอนว่าจะต้องไปรวมตัวกับพวกเจ้าที่ทะเลแห่งความอ้างว้าง ดังนั้นช่วงเวลานี้ขอให้ พวกเจ้าฝึกฝนตามอิสระ”
สามเดือน ครึ่งปี…..
มั่วหยางจำเวลานัดหมายเอาไว้ในใจ ก่อนจะพยักหน้าแรงๆ
ก๊อก ก๊อก—–
เสียงเคาะประตูดังเข้ามา มู่ชิงเกอสะบัดแขนเสื้อเบาๆ มั่วหยางเดินขึ้นมาเก็บแผนที่กลับไป
“เข้ามา” มู่ชิงเกอกล่าวขึ้นเสียงเรียบ
เกาจิ้นผลักประตูเข้ามา ก่อนจะหันไปทางมู่ชิงเกอประสานมือคำนับ “คุณชาย”
มู่ชิงเกอพยักหน้า “ที่เรียกเจ้ามาก็เพราะมีบางเรื่องอยากพูดคุยกับเจ้า ข้าหลังจากถึงอาณาจักรเซิ่งหยวนแล้ว ก็อาจจะเดินทางท่องเที่ยวอยู่นั่นสักช่วงหนึ่ง ไม่ตามพวกเจ้ากลับไป ให้เจ้าเดินทางกลับแคว้นพรอมกับเรือขากลับ บนเรือถ้าหากมีเรื่องอันใดอยากขอความช่วยเหลือ ก็สามารถไปหาองค์ชายสี่ของแคว้นอวี๋ได้”
“คุณชายจะไม่กลับไปที่แคว้นฉินพร้อมกับพวกเรา?” เกาจิ้นถามขึ้นอย่างประหลาดใจ
เขาก็ยังไม่ได้ลืมถึงรับสั่งอีกข้อของฝ่าบาทที่ให้เขาดูแลความปลอดภัยของคุณชายมู่ ถึงแม้ว่าเขาจะคิดว่าด้วย ฝีมือของคุณชายมู่ จะไม่ได้ต้องการการคุ้มครองจากเขาเลยก็ตาม แต่ว่านี่ก็เป็นรับสั่งจากฮ่องเต้ เขาไม่อาจขัด
คำสั่งได้!
“ไม่ผิด ข้าจะไม่กลับไป เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องกังวลใจตอน ที่กลับไปรายงานตัว ฉินจิ่นเฉินไม่มีทางโทษเจ้า” มู่ชิงเกอเอาความลังเลในใจของเขาพูดออกมา
เกาจิ้นก็ได้แต่กล่าวรับคำ “ผู้น้อยรับบัญชา”
หลังจากเกาจิ้นจากไปแล้ว มั่วหยางก็ถอยออกจากห้องพักของมู่ชิงเกอ