Skip to content

พลิกปฐพี 160-3

ตอนที่ 160-3

เสี่ยวเกอเอ๋อร์ รอเจ้าอยู่นะ ปล่อยชายผู้นั้นซะ

หลังจากมองสภาพแวดล้อมรอบๆ อีกครั้ง นางก็พบว่าตนเองกลับมาที่จวนตระกูลมู่

เวลานั้นนางนอนอยู่บนเตียงของตนเอง เครื่องเรือนรอบๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย

ตอนนี้เองก็มีสาวใช้หน้าตาสะสวยเดินเข้ามา เมื่อเห็นว่านางลุกขึ้นนั่งก็ระบายยิ้มอ่อนๆ เอ่ยขึ้นว่า “นายหญิงน้อย ท่านตื่นแล้ว”

สาวใช้นางนั้นนางรู้จักเป็นอย่างดี “โย่วเหอ?”

โย่วเหอเดินเข้ามาหยุดลงตรงข้างกายมู่ชิงเกอ ปรนนิบัตินางลงจากเตียงเหมือนปกติที่ผ่านมา “เหตุใดนายหญิงน้อยถึงแปลกใจขนาดนั้นเจ้าคะ? เห็นหน้าบ่าวแล้วไม่ยินดีหรือเจ้าคะ? เช่นนั้นต้องการให้บ่าวไปตามฮวาเยวี่ยมาหรือไม่?”

“ไม่ต้อง พวกเจ้า…” ความรู้สึกของมู่ชิงเกอเปลี่ยนไป สับสนอยู่บ้าง ในห้วงความคิดคล้ายกับว่านางได้หลงลืมสิ่งใดไป

แต่เหมือนนางจะรู้ว่า ภาพเบื้องหน้าทั้งหมดไม่ควรเป็นเช่นนี้ถึงจะถูก

นางยกมือขึ้นทุบขมับตัวเอง

ปวดหัวจังเลย!

“นายหญิงน้อยท่านทำอะไรเจ้าคะ!” โย่วเหอปราดเข้ามาจับบ่าของนางด้วยความตกใจหน้าเสีย ยับยั้งการทำร้ายตนเองของนาง

มู่ชิงเกอกลับเอ่ยขึ้นว่า “มีความรู้สึกเจ็บ? หรือว่าจะไม่ใช่แดนมายากัน?”

“แดนมายาอะไรกันเจ้าคะ? นายหญิงน้อยท่านนอนเยอะไปใช่หรือไม่?” โย่วเหอกระโดดเหย็ง

มู่ชิงเกอสะบัดหัวเบาๆ คล้อยตามคำพูดของโย่วเกอและเอ่ยตอบว่า “น่าจะใช่”

ท่ามกลางความมึนงง มู่ชิงเกอถูกโย่วเหอดึงตัวมาด้านหนึ่งเพื่อผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า

นางกำลังนึกถึงความทรงจำที่บางส่วนที่หายไปจากห้วงความคิด ไม่ได้สังเกตเลยแม้แต่น้อยว่าโย่วเหอแต่งชุดอะไรให้นาง แต่เห็นลางๆ ว่าแต่งชุดสีแดงๆ

“นี่คือใคร!” หลังจากที่มู่ชิงเกอเห็นตัวเองในกระจก ก็ร้องเสียงหลง

โย่วเหอถูกนางทำให้ตกใจ “นายหญิงน้อยนี่คือท่านอย่างไรล่ะ? ท่านเป็นอะไรไป ไม่สบายใช่หรือไม่?”

มู่ชิงเกอมองสตรีในกระจกอย่างเหลือเชื่อ โครงหน้านั้น เป็นนางไม่ผิดแน่ๆ แต่ปัญหาก็คือว่า นางปลอมตัวแต่งเป็นผู้ชายมาโดยตลอด เหตุใดจู่ๆ ถึงได้ปรากฏตัวเผยใบหน้าที่แท้จริงออกมา

นางมองเห็นชุดที่ตนเองสวมในกระจก ก็ก้มหน้าลงมอง พบว่าตนเองสวมชุดกระโปรงผู้หญิง

นางเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง เอามือจับหูข้างซ้ายของตนเอง เพิ่งได้สังเกตว่าต่างหูสีม่วงที่ใช้ปกปิดฐานะของนางหายไปแล้ว!

“ต่างหูของข้าล่ะ?” มู่ชิงเกอหันมาถามโย่วเหอ

โย่วเหอมองนางด้วยความกังวลใจ ก่อนตอบ “ต่างหู? นายหญิงน้อยมิใช่ว่าตอนที่ท่านสารภาพรักกับท่านเขย หยิบให้ท่านเขยไปเองหรือเจ้าคะ?”

ท่านเขย? สารภาพรัก?

มู่ชิงเกอเบิกตากว้างทั้งสองข้าง ไม่เชื่อคำพูดของโย่วเหอ “ท่านเขยอะไร? สารภาพรักอะไร? อะไรจะยุ่งเหยิงขนาดนี้?”

โย่วเหอเห็นนางเป็นเช่นนี้ ก็รู้สึกร้อนรนขึ้นมาทันที จับบ่าทั้งสองข้างของนางไว้แน่น อธิบายอย่างตั้งใจว่า “นายหญิงน้อย ท่านเป็นอะไรไป? ท่านเขยก็เป็นสามี ของท่านอย่างไรล่ะ พวกท่านเพิ่งจะเข้าพิธีกันเมื่อเดือนก่อน! ตอนนั้นทั่วทั้งหลินชวนต่างก็พากันเฉลิมฉลองครึกครื้นยิ่งนัก ครึ่งปีก่อนเป็นท่านที่นำบรรดาองครักษ์เขี้ยวมังกรพร้อมด้วยสินสอดกองเป็นภูเขาเหล่ากาไปไว้ตรงหน้าท่านเขย ถอดต่างหูประจำตัวออก เผยฐานะสตรีให้คนทั้งแผ่นดินได้รับทราบ บอกว่าจะแต่งท่านเขยเข้าจวนตระกูลมู่! หรือว่าท่านลืมภาพบรรยากาศตอนนั้นไปเสียแล้ว? มีสตรีนับไม่ถ้วนใจสลายเพราะท่าน บุรุษจำนวนไม่น้อยซวนเซเพราะท่าน เรื่องที่ท่านขอท่านเขยแต่งงาน สะเทือนไปทั่วทั้งหลินชวน มีผู้คนมากมายพากันหัวเราะในความฝันเพ้อเจอของท่าน แต่ใครเลยจะคิดว่าท่านเขยกลับตอบตกลง ทำเอาพวกเขาหน้าแตกไปตามๆ กัน ”

‘นี่ใช่นางหรือ? คนที่โย่วเหอพูดถึงใช่นางจริงๆ หรือ? นางถึงขั้นวิ่งไปร้องขอความรักจากบุรุษ? และยังบอกว่าจะแต่งเขาเข้าบ้านอีก?’ มู่ชิงเกอเอามือกุมขมับตนเอง ไม่กล้าที่จะเชื่อคำพูดของโย่วเหอ

แต่ว่าในห้วงความคิด จากคำพูดของโย่วเหอก็ปรากฏภาพขึ้นมารางๆ คล้ายกับจะรับรองว่าสิ่งที่พูดนั้นคือเรื่องจริง

เรื่องพวกนี้หากนางทำลงไปจริงๆ นางมีความรู้สึกอยากตายขึ้นมา

มู่ชิงเกอเงยหน้าขึ้นมองโย่วเหอ

นัยน์ตาตื่นตะลึงเกินเหตุของนางจ้องเสียจนโย่วเหอตกใจ “แล้วข้าขอใครแต่งงาน?”

“ขอข้า” จู่ๆ นํ้าเสียงที่คุ้นหูก็แว่วมาจากทางประตู

มู่ชิงเกอหันกลับมาทันควัน ชุดตัวยาวสีขาว เงาร่างสูงใหญ่ ท่วงท่าสง่างามดุจหยก ภูมิฐานเกินใคร คุณชายที่หล่อเหลาเป็นหนึ่งไม่มีสองปรากฏกายในสายตานาง

“ปะ ปะเป็น ไปได้อย่างไร? ”ดวงตาของมู่ชิงเกอหดเล็กลง ตกใจเสียจนพูดตะกุกตะกัก

“เสี่ยวเกอเอ๋อร์เป็นอะไรไป? วันนั้นเป็นเจ้าที่ขอข้าแต่งงานด้วยตัวเอง วันนี้มีท่าทีเช่นนี้เพราะอยากล้มเลิกการแต่งงานใช่หรือไม่?” นัยน์ตาคู่สวยและลํ้าลึกยากจะหยั่งถึงของซือมั่ว หรี่ตาลงอย่างอันตราย

ชั่วขณะนั้นก็มาอยู่ตรงหน้ามู่ชิงเกอ ตวัดเอวนางเข้ามาโอบไว้ในอกของตนเอง

สายตาหวาดหวั่นและเบิกกว้างอย่างกะทันหันสะท้อนภาพของซือมั่วทำให้มู่ชิงเกอลืมขัดขืนไปชั่วขณะหนึ่ง

โย่วเหอเมื่อเห็นซือมั่วปรากฎตัวก็ยกยิ้มน้อยๆ ถอยออกไปเอง ปล่อยให้มู่ชิงเกอเผชิญหน้ากับซือมั่วตามลำพัง

“ท่าน ท่าน ท่าน ท่าน…”

นัยน์ตาแฝงอันตรายของซือมั่วแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม เอ่ยขึ้นเบาๆ ว่า “เหตุใดผ่านไปเพียงคืนเดียว ฮูหยินถึงกลายเป็นพูดติดอ่างไปเสียแล้ว? หรือเป็นเพราะเมื่อคืนทำฮูหยินเหนื่อยเกินไป?”

คำพูดแฝงความอ่อนหวานละมุนนั่น ทำเอาแก้มทั้งสองข้างของมู่ชิงเกอร้อนผ่าวราวไฟลวก

นางแกะมือซือมั่วที่โอบเอวนางไว้กระโดดออกมาจากอ้อมกอดของเขา มองเขาด้วยสายตาระวังภัย

“เสี่ยวเกอเอ๋อร์รู้สึกไม่สบายตรงไหน? ต้องโทษข้าทำเจ้าเหนื่อยมาหลายวัน แต่ว่าท่านปู่ของเจ้าบ่นเรื่องหลานทั้งวัน ข้าในฐานะหลานเขยก็ไม่ควรชักช้าใช่หรือไม่?” ซือมั่วก้าวเข้ามาใกล้มู่ชิงเกอหนึ่งก้าว คำพูดที่กล่าวออกมา ทำให้มู่ชิงเกอรู้สึกว่าเขาช่าง ‘หน้าไม่อาย!’

“ท่านอย่าเข้ามา!” มู่ชิงเกอยกมือขึ้นขวางความใกล้ชิดของทั้งสองคนเอาไว้ ส่วนอีกข้างก็กุมหัวตัวเอง “ให้ข้าตั้งสติก่อน!”

ทันใดนั้นนางก็รู้สึกว่าเท้าลอยขึ้น ตนเองถึงขั้นถูกซือมั่วอุ้มไปทางเตียงนอน

“ท่านทำอะไร!” มู่ชิงเกอเอ่ยถามด้วยความหวาดหวั่น ซือมั่วก้มหน้าลงมามองนาง นัยน์ตาลํ้าลึกยากจะคาดเดาเต็มไปด้วยความรักใคร่ “เหนื่อยแล้วก็พักผ่อนมากๆ ข้ารับรองว่าวันนี้จะไม่เคี่ยวกรำเจ้าแล้ว”

มู่ชิงเกอรู้สึกว่ามุมปากของตัวเองกระตุกไม่หยุด มองซือมั่วด้วยความตะลึง ไม่รู้ว่าจะตอบกลับเช่นไร

เพราะอะไรกัน เหตุใดความทรงจำเลือนรางในห้วงความคิดของนางกลับเกิดเป็นภาพที่ค่อยๆ ต่อเติมเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเองตามคำพูดของโย่วเหอ ตามคำพูดของซือมั่ว? ความจริงนั้นคล้ายกับอยู่ในความทรงจำของนางอย่างไรอย่างนั้น

ถูกซือมั่วโอบไว้ในอ้อมแขน กลิ่นหอมจากร่างกายของเขาลอยเข้าจมูกมู่ชิงเกอเป็นระยะๆ ปลุกความทรงจำส่วนลึกของนาง กลิ่นหอมประหลาดนี้ไม่มีผู้ใดเสมือน เขาก็คือซือมั่ว

ทันใดนั้นมู่ชิงเกอก็สงบลง อิงแอบแนบอกซือมั่วฟังเสียงหัวใจเขาเต้นดัง ‘ตึกตึก’

“ข้าเข้าใจแล้ว” จู่ๆ มู่ชิงเกอก็เอ่ยขึ้น

ซือมั่วมองหน้ำนาง นัยน์ตาแฝงไปด้วยความรู้สึกสงสัย คล้ายกับจะถามว่านาง ‘เข้าใจ’ อะไร

มู่ชิงเกอคลายมือขวาออก ในนั้นมีขนจิ้งจอกหิมะหนึ่งเส้น นางเงยหน้าขึ้นมองหน้าซือมั่ว ยกมืออีกข้างหนึ่งขึ้นลูบใบหน้าซือมั่ว “ท่านก็คือหัวใจของข้า”

ซือมั่วมองหน้านางเผยรอยยิ้มอ่อนโยน

รอยยิ้มนั้นแฝงความโอนอ่อน แฝงความเอ็นดู และแฝงความรักใคร่ที่ไม่มีที่สิ้นสุด

มู่ชิงเกอผละออกจากอ้อมกอดของเขาลุกขึ้นนั่ง ใช้สายตามุ่งมั่นชนิดที่ไม่เคยใช้มาก่อนเอ่ยกับเขาว่า “รอข้าก่อน ข้าจะไปหาท่าน!”

พูดจบขนจิ้งจอกหิมะในมือของนางก็เปล่งแสงทอง คลุมร่างของมู่ชิงเกอทำให้ร่างของนางเปลี่ยนไปเป็นพร่าเลือน

“เสี่ยวเกอเอ๋อร์ข้าจะรอเจ้า” ซือมั่วยิ้มขึ้นมาทันที

แต่คำพูดของเขากลับทำให้มู่ชิงเกอที่กำลังเลื่อนลอย เบิกตาทั้งสองข้างขึ้น!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version