Skip to content

พลิกปฐพี 192-3

ตอนที่ 192-3

กลุ่มสุนัขเฒ่าที่หน้าด้าน

นอกช่องว่างแห่งการทดสอบ ภายในเขตต้องห้ามของพระราชวังอาณาจักรเซิ่งหยวน

ที่นี่เป็นทางเข้าทางเดียวและทางออกของช่องว่างแห่งการทดสอบ

คนของสี่ตระกูลใหญ่ที่ทยอยถอยออกมาดึงดูดความสนใจของหวงฝู่เฮ่าเทียนและหวงฝู่ฮ่วนในทันที

ในตอนที่พวกเขานำผู้อาวุโสเจ็ดไล่ตามมาถึงนั้น ประมุขของอีกสามตระกูลก็ล้วนมาถึงก่อนแล้ว สีหน้าดูไม่ดี ถามเกี่ยวกับปัญหาของศิษย์ตระกูลตนเอง

หวงฝู่ฮ่วนมองไม่เห็นเงาร่างของเฉินปี้เฉิง ฮวาฉินฉินแล้วก็จิ่งเทียนในกลุ่มคนจึงอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้น

“ทั้งหมดเงียบ!” ท่าทางที่ดูสับสนวุ่นวายรอบด้านทำให้ หวงฝู่เฮ่าเทียนโมโหขึ้นมา

ใบหน้าของเขาดำคลํ้ากวาดตามองคนที่ยืนอยู่รอบนอกเขตหวงห้าม

ยกมือชี้ไปที่คนของตระกูลเฉินคนหนึ่ง เอ่ยถามว่า “ตอนนี้ภายในช่องว่างแห่งการทดสอบมีสถานการณ์อย่างไรบ้าง เหตุใดพวกเขาจึงยังไม่ถอยออกมา นายน้อยของพวกเจ้าอยู่ที่ไหน? เจ้าตอบข้ามา”

ศิษย์ของตระกูลเฉินลอบมองประมุขตระกูลของตนเองแวบหนึ่ง หลังจากเห็นเขาพยักหน้าแล้วถึงได้เอ่ยว่า “ทูลฝ่าบาท เดิมทีพวกเราก็กำลังค้นหาแผ่นป้ายอยู่ในสุสานเทวะ แต่อยู่ดีๆ คุณหนูเฟยเยว่จากตระกูลหลานก็นำคนไล่ตามมาบอกว่าต้องการจะหาเรื่องคุณชายมู่ นายน้อยของพวกเราจึงให้พวกเรากลับมาก่อน ส่วนเขายังคงอยู่”

เรื่องราวเป็นเหมือนกับที่พวกเขาคาดการณ์เอาไว้

ตอนนี้คนของตระกูลฮวาและตระกูลจิ่งก็ล้วนแสดงท่าทีออกมาเช่นนี้

ประมุขตระกูลฮวาเอ่ยอย่างกระวนกระวายใจว่า “เหตุใดฉินฉินจึงมีนิสัยเช่นนี้? นางมีพลังเท่าไหร่กันเชียว ก็ยังกล้าจะเข้าไปช่วย?” พูดแล้วนัยน์ตาของนางก็ฉายแววดุร้าย เอ่ยกับจักรพรรดิหยวนว่า “จักรพรรดิหยวน หากว่าบุตรสาวข้าเป็นอะไรไปในช่องว่างแห่งการทดสอบ ตระกูลฮวาของข้าจะตัดขาดกับตระกูลหลานแน่!”

หวงฝู่เฮ่าเทียนเอ่ยด้วยสีหน้าที่ดูเคร่งขรึมว่า “ประมุขตระกูลฮวาโปรดวางใจ ตระกูลหลานทำตัวเอง ห่างจากตระกูลล่มสลายไปไม่ไกลแล้ว”

ประมุขตระกูลเฉินเอ่ย “ในเมื่อลูกๆ ของพวกเราล้วนแต่ตัดสินใจแล้ว ฝ่าบาท พวกเราก็อย่าได้ลังเลอีกเลย” ความหมายในคำพูดของเขาก็คือจะเริ่มสงครามกับ ตระกูลหลาน

ข้อเสนอนี้ทำให้ในใจของหวงฝู่เฮ่าเทียนกระตุก

อาณาจักรเซิ่งหยวนเป็นบ้านของเขา เทียนตูก็ยิ่งเป็นสถานที่ของเขา หากว่ามีสงครามขึ้นจริงๆ นอกจากตระกูลหลานแล้ว ฝั่งที่สูญเสียมากที่สุดก็คือราชวงศ์หวงฝู่

ดีที่ประมุขตระกูลจิ่งเอ่ยยั้งได้ทันเวลา “ตอนนี้ช่องว่างแห่งการทดสอบยังเปิดไม่ได้พวกเรากับตระกูลหลานก็จะทำอย่างไรได้ เรื่องด่วนในตอนนี้ก็คือจะต้องคิดหาวิธีเปิดประตูช่องว่างแห่งการทดสอบให้ได้ เอาคนที่อยู่ด้านในทุกคนออกมา หลังจากแน่ใจว่าทุกคนปลอดภัยดีแล้ว ก็ค่อยไปเอาความกับตระกูลหลาน”

หวงฝู่เฮ่าเทียนพยักหน้า “ไม่ผิด ตอนนี้เหล่าผู้อาวุโสของราชวงศ์ก็ล้วนแต่กำลังประจัญหน้ากับผู้อาวุโสของตระกูลหลานอยู่ หากประมุขทุกท่านยินยอมก็สามารถให้เหล่าผู้อาวุโสในตระกูลออกหน้ากดดันตระกูลหลานด้วย แต่ว่าวิธีที่จะเปิดช่องว่างแห่งการทดสอบ ”

เมื่อเอ่ยถึงปัญหาที่ยากที่สุดหวงฝู่เฮ่าเทียนก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา

ชั่วขณะนั้นหวงฝู่ฮ่วนก็พลันเอ่ยขึ้น “เสด็จพ่อฝืนเปิดช่องว่างแห่งการทดสอบเถอะพ่ะย่ะค่ะ!”

คำพูดของเขาทำให้ประมุขของตระกูลอื่นๆ ล้วนแต่มองไปทางเขา

หวงฝู่เฮ่าเทียนก็หันไปมองเขาแล้วเอ่ยว่า “ฮ่วนเอ๋อร์ เวลาที่จะเปิดช่องว่างแห่งการทดสอบอีกครั้งนั้นยังเหลืออีกสองวน”

หวงฝู่ฮ่วนกลับส่ายหน้าแล้วเอ่ยว่า “กุญแจได้เย็นลงแล้วห้าวัน ตอนนี้ก็น่าจะสามารถฝืนเปิดช่องว่างได้แล้ว”

“ฮ่วนเอ่อร์ เจ้ารู้หรือไม่ว่าตนเองกำลังพูดอะไรออกมา? หากว่าฝืนเปิดช่องว่างก็อาจจะนำมาซึ่งการล่มสลายของช่องว่าง ทั้งช่องว่างก็จะหายไปทั้งหมด!” หวงฝู่เฮ่าเทียนตะคอกออกมา

หวงฝู่ฮ่วนรีบพูดอย่างไม่ยอมแพ้ “เสด็จพ่อ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมัวคำนึงถึงการสูญเสีย ทั้งช่องว่างแห่งการทดสอบนั้นเป็นมหาปราชญ์สร้างขึ้น ขอเพียงคุณชายมู่ไม่เป็นอะไร มหาปราชญ์ก็ยังสามารถสร้างช่องว่างแห่งการทดสอบขึ้นมาใหม่ได้หากแต่คุณชายมู่ถูกตระกูลหลานทำร้ายแล้วจริงๆ พวกเราเหล่านี้จะมีใครสามารถรับความพิโรธจากมหาปราชญ์ได้?”

หวงฝู่เฮ่าเทียนดูตกตะลึงเมื่อได้ฟังคำพูดของหวงฝู่ฮ่วน

ถ้าหากว่าช่องว่างแห่งการทดสอบถูกทำลาย ที่สูญเสียมากที่สุดก็คือราชวงศ์หวงฝู่ สำหรับตระกูลอื่นๆ แล้วก็ไม่ได้มีผลกระทบมากเท่าไหร่

ในตอนนี้ประมุขทั้งสามตระกูลล้วนแต่มองมาที่จักรพรรดิหยวน เช่นเดียวกันพวกเขารู้สึกนับถือในความกล้าหาญของหวงฝู่ฮ่วน อายุยังน้อยแต่กลับสามารถ มองเห็นได้อย่างชัดเจนถึงผลดีและผลเสียของเรื่องราวทั้งหมด ซึ่งมันก็ไม่ง่ายเลย

ถึงความสามารถทางพลังของหวงฝู่ฮ่วนจะไม่ใช่อันดับหนึ่งในรุ่นเยาว์ของเทียนตู แต่ในด้านความเด็ดขาดแล้วก็ยังมีจิตใจของเขานั้นกลับเป็นผู้ที่โดดเด่นมากที่สุด

แม้พวกเขาผู้อาวุโสเหล่านี้ก็มีความรู้สึกที่ด้อยกว่า

ในที่สุดหวงฝู่เฮ่าเทียนก็กัดฟันเงยหน้ามองผู้อาวุโสเจ็ด เอ่ยกับเขาว่า “ผู้อาวุโสเจ็ด รบกวนท่านไปตระกูลหลานสักครั้ง เอากุญแจที่เก็บอยู่กับตระกูลหลานมา”

คำพูดของเขาก็แสดงถึงการตัดสินใจของเขา

จากนั้นเขาก็มองหวงฝู่ฮ่วนแล้วเอ่ยว่า “ฮ่วนเอ๋อร์เจ้าขึ้นไปตำหนักหลีกงอีกครั้ง ดูสิว่ามหาปราชญ์กลับมาหรือยัง”

หวงฝู่ฮ่วนพยักหน้าจากไป ไม่ได้ชักช้า

หวงฝู่เฮ่าเทียนได้ตัดสินใจแข็งขืนเปิดช่องว่างแห่งการทดสอบแล้ว ประมุขของทั้งสามตระกูลก็รีบกลับไปเอากุญแจของตนเองมา

บรรดาศิษย์ของตระกูลเหล่านี้ก็ล้วนถูกนำกลับไปด้วย ด้านหน้าเขตหวงห้ามของพระราชวังจึงเหลือแค่เพียงคนของราชวงศ์หวงฝู่

ถึงตอนนี้หวงฝู่เฮ่าเทียนถึงได้กัดฟันเอ่ยอย่างน่ากลัวออกมา “ตระกูลหลาน ยังมีสำนักหมื่นอสูรและหอหลอมศาสตรา!”

ตอนนี้ในสายตาของเขา สามขุมกำลังนี้ก็ดูเหมือนศัตรูที่ฆ่าบิดา แค้นจนอยากจะกำจัดให้สิ้นซาก

“ใครก็ได้!” หวงฝู่เฮ่าเทียนเรียกคนสนิทเข้ามา สั่งการกับเขาว่า “ทำหนังสือให้ข้า สำนักหมื่นอสูรและหอหลอมศาสตราของแคว้นหรงก่อความวุ่นวาย วางแผน การร้ายทำลายช่องว่างแห่งการทดสอบ ให้ราชสำนักแคว้นหรงประกาศจับพวกเขาทั้งหมด! ฆ่าล้างให้หมด!” คนสนิทเงยหน้าอย่างแปลกใจ พิจารณาแล้วก็เอ่ย ปากออกมา “ฝ่าบาท อาศัยแค่ราชสำนักแคว้นหรงเกรงว่าจะไม่ใช่คู่ต่อกรของสำนักหมื่นอสูรและหอหลอมศาสตรา”

“ข้าไม่สน! พวกเขากล้าก่อเรื่องวุ่นวายในเทียนตูของข้า ข้าก็จะทำให้พวกเขากลายเป็นสุนัขไร้บ้าน!” หวงฝู่เฮ่าเทียนเอ่ยอย่างมั่นใจ

คนสนิทหมดหนทาง ทำเพียงแค่ถอย รีบส่งหนังสือของหวงฝู่เฮ่าเทียนไปยังแคว้นหรง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version