Skip to content

พลิกปฐพี 195-2

ตอนที่ 195-2

ตบะหมื่นปีแลกกับความปลอดภัยของเจ้า!

ปีศาจเฒ่าตระกูลหลานพอถูกพลังสายฟ้าของมู่ชิงเกอสะกดข่ม ก็กลายเป็นยุ่งเหยิงว้าวุ่นไปชั่วขณะ ปีศาจเฒ่าของหอหลอมศาสตรากับสำนักหมื่นอสูรทนมองต่อไปไม่ได้อีก ก็เลยพากันร่วมวงเข้ามา ปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บสามคน สีหน้าขึงขังต่อกรกับรุ่นเยาว์ระดับสีม่วงขั้นสูงสุดคนหนึ่ง!

“ก๊าซ—–

ระหว่างการปะทะมู่ชิงเกออยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงร้องทรมานของสัตว์อสูร

มู่ชิงเกอหาช่องว่างจ้องมองไป ก่อนจะเห็นงูยักษ์ของเจียงหลีถูกถูกโจมตีจนระเบิดออก การโจมตีของปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บผู้นั้น ก็กำลังพุ่งตรงไปทางเจียงหลี

ถ้าหากถูกโจมตีโดน เจียงหลีจะต้องตายเป็นแน่!

ในระหว่างที่ร้อนรน มู่ชิงเกอก็ดึงจี้สีเลือดตรงคอของตนออก ก่อนจะโยนมันไปทางยอดฝีมือขั้นกักเก็บผู้นั้น

ปัง—–!

“อ๊าก—–!”

พร้อมกับเสียงระเบิดก็ยังมีเสียงร้องโหยหวนที่ดังสะท้อนออกมา

ปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บที่โจมตีเจียงหลีก็พลันสลายกลายเป็นเศษผง จี้สีแดงเลือดของมู่ชิงเกอก็กลายเป็นเงาร่างเลือนรางของคนผู้หนึ่งก่อนจะสลายหายไปจากฟ้า เจียงหลีปลอดภัยแล้ว!

มู่ชิงเกอนิ่งชะงักไป นางก็คิดไม่ถึงว่าจี้ที่ซือมั่วใช้เลือดควบรวมออกมาจะถึงกับสามารถสังหารปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บได้คนหนึ่ง

พอคิดถึงซือมั่วในใจของมู่ชิงเกอก็ปรากฏความผิดหวังขึ้นสายหนึ่ง

พอถึงท้ายที่สุดนางก็ยังไม่สามารถรอจนเขากลับมาถึง ไม่มีโอกาสได้ถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างนางกับเขาให้ชัดเจน

“นั่นมันของสิ่งใดกัน!” ปีศาจเฒ่าตระกูลหลานร้องเสียงตระหนก

เสียงระเบิดก็ทำให้ช่องว่างเริ่มต้นพังทลายขึ้น คนของทั้งสามขุมกำลังแต่ละคนก็พากันหน้าเปลี่ยนสี

พวกเขานั้นมาสังหารมู่ชิงเกอ แต่ไม่ได้คิดจะมาตายไปพร้อมกันกับเขา เพียงแต่หากไม่ได้ฆ่ามู่ชิงเกอให้ตายด้วยมือของตัวเอง พวกเขาก็คงไม่อาจจากไปอย่างสุขใจได้

โดยเฉพาะการที่ฝั่งพวกเขาสูญเสียอย่างหนักหนาเช่นนี้

ก่อนที่จะปะทะกัน พวกเขาไม่ว่าใครก็ไม่เคยคิดว่าจะเกิดภาพการณ์เหมือนเช่นตอนนี้ทั้งยังต่อตีได้อย่างยากเย็นนัก

ชีวิตของมู่ชิงเกอชีวิตนี้ก็เอามายากเย็นขนาดนี้เลยรึไง?

นี่ชัดเจนว่าเป็นกระดูกแข็งที่ยากจะเคี้ยวชิ้นหนึ่ง!

การโจมตีอันกะทันหันของมู่ชิงเกอกระบวนนี้ก็ทำเอาปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บทั้งสามที่รุมโจมตีนาง พากันล่าถอยไปอย่างรวดเร็ว ราวกับกำลังกลัวว่านางจะโยนของอะไรออกมาอีก แล้วทำให้พวกเขาตกตายไปทั้งกลุ่ม พวกเขาพอถอยออกไป โหลวเสวียนเถี่ยก็พลันเร่งร้อนกล่าวว่า “ช่องว่างจะพังทลายแล้ว พวกเราจำเป็นต้องจากไปโดยเร็ว!” ถึงแม้การที่ไม่ได้เห็นมู่ชิงเกอตายด้วยตาตัวเอง กับไม่ได้ทวนหลิงในมือของมู่ชิงเกอมาไว้ในครอบครองนี้จะทำให้เขาหงุดหงิดใจมากก็ตาม

“คิดจะหนีกันแล้วรึ? นี่ก็คงไม่อาจตามใจพวกเจ้าได้!” มู่ชิงเกอทะยานขึ้นสู่ฟ้า วาดทวนหลิงหลงขึ้นไปในอากาศ ยกมันขึ้นเหนือหัวนาง

มือทั้งสองข้างกางออก ประกายสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนไหลออกจากตัวนาง แผ่ขยายออกไปทั่วทั้งช่องว่างแห่งการทดสอบ

ชั่วขณะนั้น ดวงตาทั้งสองข้างของนางก็พลันกลายเป็นนํ้าเงินคราม

ในช่องว่างและกาลเวลที่ห่างไกลออกไป บนแผ่นดินที่ไม่รู้จักชื่อแห่งหนึ่ง แผ่นดินที่เต็มไปด้วยความเวิ้งว้างและไร้ซึ่งกลิ่นไอของสิ่งมีชีวิต

บนพื้นดินไม่ว่าตรงจุดไหนก็เต็มไปด้วยศพของสัตว์ประหลาดหน้าตาน่ากลัว เลือดเหม็นสีดำย้อมไหลเจิ่งนองไปทั่วพื้นอันแห้งกรัง

ซือมั่วในชุดสีขาวไร้คราบสกปรก ดูแตกต่างกับสภาพแวดล้อมที่นี่ยิ่งนัก

ตรงหน้าของเขาก็นอนอยู่ด้วยซากศพของตัวประหลาดที่มีร่างเหมือนคนตัวหนึ่ง ดวงตาทั้งสองข้างของปีศาจตนนั้นเบิกกว้าง เหมือนกับนอนตายตาไม่หลับ ส่วนซือมั่วนั้นกลับมีสีหน้าเรียบเฉย ในมือถือผ้าเช็ดหน้าสีขาวเอาไว้ กำลังตั้งใจเช็ดนิ้วมือของตนอย่างพิถีพิถัน

กู่หยาเดินมาที่ด้านหลังของเขา กล่าวเสียงนอบน้อมว่า “ท่านประมุข ราชาปีศาจตนนี้ก็เป็นเจ้าครองเขตแดนเขตนี้ ตอนนี้พอตายไป พวกเราก็จะสามารถยึดครองที่นี่ได้ ในเขตแดนนี้เหมืองแร่ก็ถือว่ามีอยู่มากมายนัก สำหรับพวกเราแล้วก็คงจะสามารถสร้างกองทัพใหญ่ที่แข็งแกร่งได้อีกกองหนึ่ง!”

“อืม” ซือมั่วตอบรับขึ้นเสียงหนึ่ง ผ้าสีขาวที่อยู่บนมือของเขาลอยตกจากปลายนิ้วของเขา ปิดลงไปที่ใบหน้าราชาปีศาจ

กู่เย่ตอนนี้ก็มาที่ด้านข้างของซือมั่ว มองไปยังบนพื้นที่เต็มไปด้วยซากศพก่อนจะเอ่ยขึ้น “สัตว์ประหลาดพวกนี้ ก็แค่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ถือกำเนิดมาจากสงครามใหญ่ครั้งที่แล้ว เดิมก็ไม่ควรมีอยู่บนโลกนี้ แต่ก็คิดไม่ถึงว่าพอไม่มีเวลาไปควบคุมจัดการพวกมัน กลับทำให้พวกวิวัฒนาการจนไปมีสภาพเช่นนี้ได้ ถ้าหากครั้งนี้ท่านประมุขไม่ลงมือเอง เกรงว่าการศึกครั้งนี้คนของพวกเราก็จะต้องบาดเจ็บล้มตายไปเป็นจำนวนมาก”

เสียงของเขาพอจบลง บนแผ่นดินอันเวิ้งว้างแห่งนี้ก็พลันปรากฏเงาเลือนรางของกองทัพกองหนึ่ง

“เรื่องราวเสร็จสิ้น ควรกลับไปได้แล้ว” ซือมั่วค่อยๆ กล่าวออกมา

อยู่ๆ ทันใดนั้นเองก็มีแสงสีแดงเลือดสายหนึ่งทะลุมิติออกมา ร่วงหล่นลงมาจากฟ้า ลอยเข้าไปที่หว่างคิ้วของซือมั่ว

เขาร่างกายชะงักไปครู่หนึ่ง ดวงตาทั้งสองข้างอยู่ๆ ก็ เปล่งประกายดุดันและชิงชังอย่างถึงที่สุดออกมา “พวกเขาถึงกับกล้า!”

ไม่ได้อธิบายแม้แต่ประโยคเดียว ซือมั่วพริบตาก็หายไป จากจุดที่ยืนอยู่

กู่หยาและกู่เย่ตกตะลึงไปช่วงหนึ่ง ก่อนจะเร่งรีบตามติดไป

รอพวกเขาทั้งสามคนจากไปแล้ว

ในกองทัพใหญ่ที่อยู่ไกลออกไปถึงจะมีเสียงเสียงสะท้อนดังมา “ฝ่าบาทเล่า?”

ในช่องว่างแห่งการทดสอบ มู่ชิงเกอก็เหมือนกับจะกลายเป็นมนุษย์สายฟ้าก็ไม่ปาน ถูกสายฟ้าสีนํ้าเงินครามห้อมล้อมเอาไว้ พลังสายฟ้าที่นางปล่อยออกไปก็ค่อยๆ แผ่ขยายไปทั่วทั้งช่องว่าง

พอถูกสายฟ้าไหลกระทบเข้าไป ช่องว่างที่เดิมกำลังพังทลายก็พลันกลายเป็นไม่มั่นคงมากยิ่งขึ้น

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?!”

ไท่สื่อเการ้องเรียกอย่างตื่นตระหนก

“พวกเรารีบหนีเร็วเข้า!” โหลวเสวียนเถี่ยระหว่างที่พูดก็ได้ฉีกยันต์เคลื่อนย้ายในมือของตนแล้ว

แต่ว่าหลังจากที่เขาฉีกมันแล้วตัวเขากลับยังยืนอยู่ที่เดิม ไม่อาจจากไปได้

โหลวเสวียนเถี่ยสีหน้าเปลี่ยนสี ร้องขึ้นเลียงหลง “นี่เป็นเพราะอะไร?”

ปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บของหอหลอมศาสตราก็มอบคำตอบให้แก่เขา “นี่คือพลังแห่งสายฟ้า มันกำลังดัดแปลงและเปลี่ยนกฎเกณฑ์ของช่องว่าง ทำให้ยันต์เคลื่อนย้าย ของพวกเรากลายเป็นไร้ผล”

แต่ถึงอย่างนั้นก็รู้เพียงแค่ส่วนหนึ่ง มู่ชิงเกอก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้มีความสามารถพิเศษธาตุสายฟ้า แต่ยังเป็นผู้มีความสามารถพิเศษทางด้านช่องว่างอีกด้วย

ถึงแม้ว่าช่องว่างของนางจะถูกเหมิงเหมิงกลืนกินไปแล้ว แต่นางก็ยังคงมีจิตสัมผัสที่ไวต่อช่องว่างอยู่เช่นเคย ดังนั้นในตอนที่นางใช้พลังสายฟ้าเร่งความเร็วในการพังทลายของช่องว่าง นางก็ยังสามารถใช้ความสามารถพิเศษด้านช่องว่างลอบเปลี่ยนแปลงพิกัดที่ช่องว่างตั้งอยู่เล็กน้อย เรื่องนี้เช่นนี้ก็ยังถือว่าทำได้

ยันต์เคลื่อนย้ายก็เหมือนกับจุดบอกพิกัดจุดหนึ่ง

ขอเพียงจุดบอกพิกัดเกิดการเปลี่ยนแปลง ยันต์เคลื่อนย้ายก็กลายเป็นไร้ผล

“ของข้าก็ใช้ไม่ได้! จะทำอย่างไรดี ข้ายังไม่อยากตายอยู่ที่นี่!” หลานเฟยเยว่มองไปทางยันต์เคลื่อนย้ายที่ถูกฉีกขาด กล่าวด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว

คนของทั้งสามขุมกำลังต่างพากันทยอยฉีกยันต์เคลื่อนย้ายของตัวเอง แต่มันก็ล้วนแต่ไร้ผล

ตอนนี้พวกเขาในที่สุดก็เข้าใจความหมายประโยคนั้นของมู่ชิงเกอแล้ว อยากจะจากไปก็ไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาจะตัดสนใจเองได้

“มู่ชิงเกอถ้าหากยังไม่หยุดมือ ข้าก็จะฆ่าพวกเขา!” ปีศาจเฒ่าตระกูลหลานกับปีศาจเฒ่าของสำนักหมื่นอสูรก็พลันพุ่งเข้าหาองครักษ์เขี้ยวมังกร พริบตาสังหาร

องครักษ์เขี้ยวมังกรไปสิบกว่านาย

“แม้ต้องตายก็จะปกป้องคุณชาย—–!” เหล่าองครักษ์เขี้ยวมังกรที่เหลืออยู่ก็พุ่งเข้าหาพวกเขาอย่างไม่หวั่นเกรง

การบุกเข้าไปอย่างไม่กลัวตายเช่นนี้ก็ทำเอาปีศาจเฒ่าขั้นกักเก็บกลายเป็นกระวนกระวาย

“อ้า! รนหาที่ตายนัก—–!”

องครักษ์เขี้ยวมังกรแต่ละนายต่างพากันตกตายลงต่อหน้าของมู่ชิงเกอ ในดวงตาสีนํ้าเงินเข้มดูเย็นชาคู่นั้นของมู่ชิงเกอ ก็พลันไหลหยดลงมาด้วยหยาดนํ้าตาสีแดง

เลือด

“ชิงเกอ…” เจียงหลีที่หมดความสามารถในการรบ นอนฟุบอยู่บนพื้น แหงนหน้ามองไปยังมู่ชิงเกอที่อยู่บนฟ้า นัยน์ตาสีทองกลายเป็นหม่นหมอง ในใจเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด

สหายศึก สหายคนสนิท แต่ละคนต่างพากันตกตายลงต่อหน้ามู่ชิงเกอ

คนของทั้งสามขุมกำลัง พวกเขาก็พยายามขัดขวางไม่ให้มู่ชิงเกอทำลายช่องว่างต่อไปอีก เพราะพวกเขานั้นไม่อยากตาย

ส่วนคนพวกนั้นที่ยอมตายเพื่อมู่ชิงเกอ ก็กลับไม่ยินยอมให้ตัวเองกลายเป็นตัวถ่วง พากันพุ่งเข้าหาความตายอย่างไม่เกรงกลัว

นี่แต่เดิมก็ถือเป็นการต่อสู้ที่พลังเลื่อมลํ้ากันอย่างมากครั้งหนึ่ง แต่กลับต่อตีกลับได้อย่างหนักหนาสาหัสนัก

องครักษ์เขี้ยวมังกรทั้งสามร้อยนาย ต่างต่อสู้จนตัวตายกันไปทีละคน ศพของพวกเขาก็ล้มกองอยู่ตรงหน้าของมู่ชิงเกอ

จ้าวหนานซิง ล้มลง!

ฟ่งอวี๋เฟย ล้มลง!

เฉินปี้เฉิง ล้มลง!

เจียงหลี…ล้มลง…

ในตอนที่ทุกคนต่างหมดลมหายใจไปกันหมด ในตอนที่เหลือแต่มู่ชิงเกอนั้น คนของทั้งสามขุมกำลังก็ได้ตกเข้าสู่ความหวาดกลัวที่จะตายแล้ว

พวกเขาต่างพากันปล่อยการโจมตีที่รุนแรงที่สุดออกไป ทางมู่ชิงเกอ แต่ต่างก็ไร้ผล

ร่างกายของมู่ชิงเกอก็ถูกพลังสายฟ้าที่ดึงออกมาจากบ่อสายฟ้าในช่องว่างช่วยต้านรับเอาไว้ บุปผาสีแดงเลือดขนาดเล็กก็พลันสาดกระเซ็นออกไป หยดเลือดตกลงไปบนพื้น ประดับประดาบไปทั่วทั้งเศษซากโบราณ

เลือดของมู่ชิงเกอ ไหลซึมเข้าไปช่องว่างของตน

เหมิงเหมิงยืนนิ่งเหม่อลอยอยู่ในช่องว่าง หยินเฉินกับหยวนหยวนที่อยู่ข้างกายก็ยังคงสลบไสล

ช่องว่างที่เพิ่งจะถูกกระตุ้นให้ตื่นขึ้นมาก็เหมือนกับว่าจะกลับเข้าสู่สภาพหลับใหลอีกครั้ง

ท้องฟ้าของช่องว่างก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด

ที่กระเด็นมาในช่องว่าง ในส่วนที่เป็นเลือดของมู่ชิงเกอ ไม่ว่าจะกระเด็นไปตรงจุดไหน ไข่เจ็ดสีใบนั้นที่เอาแต่นิ่งเงียบอยู่ในตัวตำหนักใหญ่มาโดยตลอดก็กำลังดูดกลืนมันเข้าไปอย่างต่อเนื่อง บนเปลือกไข่ในที่สุดก็ปรากฏรอยแตกร้าว มีท่าทางเหมือนกำลังจะแตกออก…

“คนที่คิดจะสังหารข้า ข้าก็จะต้องลากพวกเจ้าลงนรกไปด้วย—–!” มู่ชิงเกอก็เหมือนกับเทพแห่งสายฟ้าก็ไม่ปาน ใช้นํ้าเสียงเย็นชากล่าวออกไปเสียงราบเรียบเสียงหนึ่ง

พร้อมกันกับเสียงของนางที่ตกลง รอบทิศทั้งสี่ของช่องว่างแห่งการทดสอบก็พลันระเบิดออก พายุกรรโชกจำนวนนับไม่ถ้วนก่อตัวขึ้นฉีกกระชากช่องว่างเป็นเศษซาก

“ไม่—–!”

คนของทั้งสามขุมอำนาจร้องขึ้นอย่างหวาดกลัว หากช่องว่างแห่งการทดสอบพังทลายลง พวกเขาจะต้องตกเข้าสู่ช่องว่างแห่งกาลเวลา ไม่ก็ถูกฉีกกระชาก หรือไม่ก็ถูกดูดกลืนเข้าไปในความมืดมิดตลอดกาล

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version