Skip to content

พลิกปฐพี 28

ตอนที่ 28

มู่ชิงเกอ!

ร่างของมู่เกอร่วงลงพื้นเหมือนถูกพายุฝนพัดอย่างรุนแรง จนรู้สึกเหมือนกับว่ากระดูกทั่วร่างกายของเธอแตกละเอียด เธอกัดฟันแน่น พยายามรวบรวมพลังสายไฟทั้งหมดให้มาอยู่ที่ปลายนิ้ว กลางฝ่ามือซ้ายมีกริชสีม่วงโปร่งแสงปรากฏขึ้นมาเล่มหนึ่ง

บทกริชเล่มนั้นมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านรัดพันไปมาบนมือของมู่เกอราวกับงูที่มีชีวิต แล้วค่อยๆ แผ่ขยายจากข้อมือไปยังแขน

พลังกดดันของขั้นม่วงทำให้ผิวหนังของมู่เกอเกิดรอยแผลเป็นริ้วๆ เธอพุ่งเข้าหาผู้เฒ่าเป่ยหมิงอย่างไม่ลังเล สายฟ้าในมือที่กลายเป็นกริชถูกวาดไปทางเขาหมายเอาชีวิต

แคว๊ก!

กริชกรีดเสื้อผ้าของผู้เฒ่าเป่ยหมิงจนขาด ขวดโปร่งแสงใบหนึ่งที่บรรจุแสงสี เขียว ตกลงบนพื้น ตรงหน้าอกของผู้เฒ่าเป่ยหมิงถูกกรีดจนกลายเป็นรอยแผลน่ากลัว ในอากาศยังคงมีกลิ่นเหม็นไหม้

แต่มู่เกอก็เหมือนถูกแรงอันมหาศาลดีดออกจนกระเด็น ไปทางด้านหลังเลือดพุ่งกระจายอยู่กลางอากาศ

“อ๊ากๆๆ! ไอ้สวะข้าจะฆ่าเจ้า! เอาเจ้ามาต้มเป็นยาเสีย!” รอยแผลเก่ายังไม่ทันได้รักษา ก็มีรอยแผลใหม่มาเพิ่ม ทำให้ผู้เฒ่าเป่ยหมิงแทบเป็นบ้า

เขาก็ไม่แน่ใจว่าพลังที่มู่เกอใช้เป็นพลังแปลกประหลาดอะไรกัน แต่ว่าแม้ว่าเขาจะกินยารักษาแผลชั้นเลิศเข้าไปแล้ว แต่ก็สามารถรักษาแผลได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

แต่ไอ้เจ้ามดปลวกนี่ กลับถือโอกาสที่เขากำลังรักษาแผล ลอบโจมตีเขา วิธีที่โหดเหี้ยมและตรงไปตรงมาแบบนี้ทำให้เขาตกใจ ความเป็นจริงแล้วคนธรรมดาไม่กล้าสู้กับชั้นม่วงระดับสูง ทำได้แค่อ่อนน้อมถ่อมตนอย่างเจียมตัว แต่นางทั้งๆ ที่เป็นเพียงแค่มดปลวกตัวหนึ่งแต่ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีอะไรถึงได้รับพลังที่คาดไม่ถึงนี้จากคนไร้ค่ากลายเป็นชั้นเหลืองชั้นสูงสุดและกล้าสู้กับเขา ทำให้เขาบาดเจ็บหนักครั้งแล้วครั้งเล่า

แสงลีม่วงที่ส่องประกายอยู่รวมตัวกันเป็นพลังอันมหาศาลบนมือของผู้เฒ่าเป่ยหมิง แรงทำลายล้างแบบนั้น ทำให้มู่เกอคิดถึงแรงระเบิดที่ทำให้เธอตายเมื่อชาติ ที่แล้ว

ความหวาดกลัว พลันโหมซัดใส่เธอ แต่เธอไม่คิดจะถอย ยังคงพุ่งไปข้างหน้า!

แม้จะต้องตายแต่ก็ต้องลากไอ้ตัวประหลาดนี้ลงนรกไป ด้วยให้ได้!

นัยน์ตากระจ่างของมู่เกอเติมไปด้วยความมั่นใจ ปากที่เม้มแน่นมีเลือดสดไหลซึมออกมา กริชในมือของเธอแทงเข้าที่จุดสำคัญบนร่างกายของผู้เฒ่าเป่ยหมิง

ท่าทางของเธอคล่องแคล่ว กระบวนท่าอำมหิตเลือกโจมตีแต่บริเวณจุดสำคัญของฝ่ายตรงข้าม

ผู้เฒ่าเป่ยหมิงเหมือนจะกลัวพลังแปลกประหลาดในมือเธอ ในขณะที่หลบการโจมตีก็คิดจะปล่อยพลังที่รวบรวมมาไว้ในมือ

“อ่าๆๆ! ไอ้มดปลวก ตายซะ!” และแล้วผู้เฒ่าเป่ยหมิงก็ปล่อยพลังที่รวบรวมเอาไว้

แสงสีม่วงพุ่งเข้าหามู่เกอ ถํ้าทั้งถํ้าสั่นไหวราวกับจะทลายลงมา

ในดวงตาของมู่เกอปกคลุมไปด้วยแสงสีม่วง ราวกับว่าเพียงพริบตาเดียว เธอก็จะถูกแสงสีม่วงนั้นกลืนกินจนไม่เหลือแม้แต่ซาก

ทันใดนั้นก็มีกลุ่มแสงสีเขียวส่องประกายพุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน พุ่งเข้าหาแสงสีม่วงนั้น

ในห้วงสติอันเลือนราง มู่เกอเหมือนเห็นแสงสีเขียวใหญ่ประมาณฝ่ามือ เปล่งแสงเป็นเงาร่างของคนๆ หนึ่ง ชุดสีแดงทรงเสน่ห์และใบหน้าเล็กที่สวยงามและอ่อนเยาว์เต็มไปด้วยความรีบร้อนและแน่วแน่

“หลบไป!”

ข้างหูเหมือนได้ยินเสียงเร่งที่ฟังดูรีบร้อนแว่วมา แล้วเงาร่างของคนๆ นั้นก็ถูกแสงสีม่วงกลืนหายไป รอบๆ มีเสียงระเบิดดังขึ้น แสงสีม่วงอันน่ากลัวระเบิด ห่างจากมู่เกอไปไม่ถึง 3 ฉื่อ

พลังอันมหาศาลทำให้ถํ้าสั่นสะเทือน มู่เกอก็ชนกับผนังถํ้าเพราะแรงระเบิด ด้านนอกถํ้าก็เกิดแรงสั่นสะเทือน ราวกับวันสิ้นโลกกำลังมาถึง สัตว์ป่านับไม่ถ้วนร้อง โหยหวนด้วยความหวาดกลัว

เศษหินชนร่างของมู่เกออย่างไม่ปรานี “แค่กๆ” เธอไออย่างแรงจนกระเทือนไปถึงเส้นประสาทในร่างกาย หลังจากที่ฟ้าดินกลับคืนสู่ความสงบ มู่เกอก็ลุกยืนขึ้นบนเศษดินเศษหินร่างกายเต็มไปด้วยเลือดและบาดแผล

ตรงหน้าไม่ใช่ถํ้าอีกต่อไป กลับกลายเป็นหลุมลึกหลุมหนึ่ง ในหลุมนั้นเต็มไปด้วยเศษฝุ่นที่ฟุ้งกระจายมองเห็นได้ไม่ชัดนัก

ต้นไม้ใบหญ้ารอบๆ แตกกระจายเป็นชิ้นๆ จากแรงระเบิดอันมหาศาล จากที่เคยเป็นป่าทึบในทีแรก ก็กลับกลายเป็นเพียงที่ราบโล่งผืนหนึ่ง

ภาพตรงหน้าทำให้จิตใจของมู่เกอหนักอึ้ง

มู่เกอเดินโซซัดโซเซไปอยู่ที่ขอบหลุม ก้มหน้าลงตะโกน “มู่…ชิง…เกอ!”

รอบข้างมีเพียงเสียงลมพัดจากแรงทำลายล้างของผู้ใช้พลังขั้นม่วง

เสียงของมู่เกอดังก้อง แต่ไม่ได้รับการตอบกลับจากมู่ชิงเกอ เธอได้ยินเพียงเสียงร้องอย่างบ้าคลั่งของผู้เฒ่าเป่ยหมิง “อ๊าก! ออกมานะ!”

ทันใดนั้น ก็มีแสงสีม่วงพุ่งออกมาจากใต้หลุม

มู่เกอถอยหลังไปหลายก้าว เห็นชุดสีดำของผู้เฒ่าเป่ยหมิงฉีกขาดจนไม่เหลือชิ้นดี เขาเอามือกุมหัวด้วยความเจ็บปวด แล้วกลิ้งไปมากับพื้น

เกิดอะไรขึ้น!

มู่เกอหรี่ตามอง แต่ไม่ได้เข้าใกล้ แค่มองอยู่ห่างๆ ในมือซ้ายยังคงมีสายฟ้าวนอยู่รอบๆ แต่ไม่สามารถแปลงเป็นกริชได้อีก เหลือเพียงแค่แสงสีม่วงจางๆ ตรงพื้นที่ห่างจากป่าไม่กี่เมตร แรงโจมตีจากผู้เฒ่าเป่ยหมิงที่ก่อให้เกิดระลอกคลื่น ถูกหยุดยั้งเอาไว้ในแสงที่โปร่งใส ไม่ได้แผ่กระจายไปยังลั่วตูจนทำให้ยอดฝีมือในเมืองลั่วตูต้องตกใจแม้แต่น้อย

ภายนอกแสงนั้น มีร่างคนลอยอยู่เหนือพื้น ทั่วทั้งร่างขาวดั่งหิมะ เรือนร่างสูงใหญ่ ผมสีดำยาวถึงเข่า แม้ไร้ลมพัดแตกสะบัดไหวไปมา เขาเอามือข้างหนึ่งไพล่หลัง เสื้อคลุมแขนกว้างปิดบังข้อนิ้วที่ขาวไร้ตำหนิราวกับหยกนั้นไว้

มืออีกข้างกางออก แขนเสื้อลู่ลง แรงมหาศาลไร้รูปร่าง กำลังโจมตีแสงโปร่งใสนั่นไม่หยุด

ทันใดนั้น เขาก็กำมือแน่น มีเสียงปริแตกดังขึ้นกลางอากาศ แสงอันโปร่งใสถูกทำลายลงอย่างไม่มีสาเหตุ ดูดกลืนแรงสะท้อนนั้นจนหายไปอย่างไร้ร่องรอย

พอจัดการทุกอย่างเสร็จ เขาก็คลายมือ ดึงมือที่งดงามไร้ ที่ตินั้นไว้ที่เดิม

ทันใดนั้น เงาสีดำสายหนึ่งก็ปรากฏขึ้นกลางอากาศ มาหยุดอยู่ข้างหลังตัวเขาและคุกเข่าลงข้างหนึ่งพูดสั้นๆว่า “นายท่าน เสียงดังมาจากทิศใต้ของป่า”

ภายใต้ชุดสีขาว สายตาไร้ความรูสึกนั่นก็มองไปยังทิศใต้อย่างรวดเร็ว

วินาทีต่อมา ดวงตางดงามราวกับจะดูดวิญญาณของผู้ที่พบเห็น แต่ดวงตาที่ดูราวกับไม่ใส่ใจคู่นั้นพลันเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวขึ้นมาแล้วพลันหายตัวไป

“อ๊ากๆๆ! ออกมา! ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้! หากออกมา ข้าจะละเว้นไม่ฆ่าเจ้า” ใบหน้าเจ็บปวดของผู้เฒ่าเป่ยหมิง ที่เดิมก็อัปลักษณ์อยู่แล้วยิ่งดูน่ากลัวมากขึ้นไป อีก

ม่เกอหรี่ตา ในหัวรีบคิดวางแผนอย่างรวดเร็ว นี่กลับเป็นโอกาสอันดี ไม่ว่าผู้เฒ่าเป่ยหมิงจะเป็นอะไร แต่ก็เป็นโอกาสในการลงมือของเธอ

หลังจากที่ตัดสินใจแน่วแน่แล้ว มู่เกอก็รวบรวมพลังสายฟ้าทั้งหมดอีกครั้ง พุ่งออกไปหาผู้เฒ่าเป่ยหมิงราวกับเสือชีต้า เธอเหยียดนิ้วมือทั้งห้าแล้วฟาดฝ่ามือที่ส่องประกายสีม่วงลงกลางศีรษะของผู้เฒ่าเป่ยหมิงสุดแรง ปัง!

พลังนั้นสะท้อนกลับทำให้ร่างของมู่เกอลอยกลับมาร่วงลงกับพื้นอย่างแรงและกระอักเลือดออกจากปากอีกครั้ง ร่างกายของผู้เฒ่าเป่ยหมิงราวกับแข็งค้างไป สายตาที่ เต็มไปด้วยความโกรธเกลียดจ้องมองเธอนิ่ง หากสายตานั้นสามารถฆ่าคนได้ไม่รู้ว่ามู่เกอจะถูกเขาฆ่าตายไปแล้วกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ตึง!

ผู้เฒ่าเป่ยหมิงล้มลงบนพื้นโดยไม่ส่งเสียงใดๆ และไม่อาจดิ้นรนได้อีก

มู่เกอเห็นฉากทั้งหมดตรงหน้า ทำให้เธอรู้สึกโล่งใจ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ความเจ็บปวดจากบาดแผลที่ได้รับก่อนหน้านี้สาดม้วนขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะสูดหายใจเย็นเยียบ

ทันใดนั้น แสงสีเขียวกลุ่มหนึ่งก็ลอยออกมาหามู่เกอจากกลางศีรษะของผู้เฒ่าเป่ยหมิง ในขณะนั้นก็กลายเป็นเงาร่างคน

“มู่ชิงเกอ” มู่เกอเสียงอ่อนแรง สายตาที่สดใสเหมือนหยดนํ้ามองร่างอันโปร่งแสงไม่กะพริบ ร่างของเธอเหมือนจะโปร่งแสงขึ้นกว่าเดิมและดูอ่อนแอมาก

“เมื่อครู่นี้คือเจ้าเองงั้นหรือ?” มู่เกอถาม มู่ชิงเกอยิ้มบางๆ ไม่สนใจที่จะตอบคำถาม “หากไม่ใช่เจ้าทำให้เขาบาดเจ็บหนัก ข้าก็คงไม่สามารถออกมาได้ อย่างที่เจ้าบอก ปัญหานี้ข้าเป็นสร้างเอาไว้ ข้าก็ต้องเป็นคนแก้” สายตาของมู่ชิงเกอมองร่างที่บาดเจ็บสาหัสของมู่เกอ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสิ้นหวัง “แต่สุดท้ายก็ทำให้เจ้า ต้องลำบาก”

“เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม” ไม่รู้ว่าทำไมมู่เกอรู้สึกว่าตอนนี้ท่าทางของมู่ชิงเกอดูแปลกๆ

มู่ชิงเกอก้มหน้าลงค่อยๆ ส่ายหน้า “ไม่เป็นไร แค่เหนื่อย เจ้าพักก่อนค่อยคิดหาวิธีออกจากที่นี่” พูดจบเธอก็หายไปต่อหน้าต่อตามู่เกอ มู่เกอขมวดคิ้ว เธอบาดเจ็บมากก็ใช่ แต่สิ่งที่ทำให้เธอวางใจก็คือเธอรู้สึกได้ว่าร่างกายของเธอกำลังค่อยๆ ฟื้นฟูตัวเองอย่างช้าๆ ความสามารถเหนือฟ้าแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าเกิดขึ้นเพราะยาเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอที่กินเข้าไป พอคิดถึงเหตุผลนี้ มู่เกอก็แอบหวั่นใจ ยาเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอนี้ทำเรื่องที่ไม่คาดคิดให้กับตัวเธอมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นเมื่อเทียบกับสภาพของตนเองแล้วเธอเป็นห่วงมู่ชิงเกอมากกว่า นางจากไปอย่างรวดเร็วเกินไป และหลังจากที่ผู้เฒ่าเป่ยหมิงตาย ก็ดูสงบนิ่งผิดปกติ

ทันใดนั้น ก็มีพลังอันมหาศาลกลุ่มหนึ่งเกิดขึ้น ทำให้มู่เกอรู้สึกประสาททั้งร่างเกร็งแน่น ลอบคิดในใจ ‘แย่แล้ว!’ ร่างกายที่เละไม่เป็นท่าของเธอในตอนนี้จะไปสู้ใครได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version