ตอนที่ 314
เพียงอยากจะเรียกท่านว่าท่านแม่
ภายในหานชุ่น เมฆลมเปลี่ยนสี
มีคนใช้พลังแห่งกฎบัญญัติ ขับเคลื่อนพลังแห่งกฎบัญญัติ
มู่ชิงเกอในเวลานี้ ไม่รู้เลยว่า อาคมทุกชนิดนั้นก็คือพลังแห่งกฎบัญญัติ อาคมนับพันนับหมื่นบนโลกนี้ ทุกๆ โลกล้วนแต่ใช้พลังแห่งกฎบัญญัตินับไม่ถ้วนสร้างขึ้น หากใครได้ครอบครองพลังแห่งกฎบัญญัติเหล่านี้ก็จะกลายเป็นสิ่งที่เรียกว่าเทพมาร!
สิ่งที่ทั้งสองมีความแตกต่างก็คือ เทพจะเชื่อในพลังแห่งกฎบัญญัติมากกว่า ส่วนมารจะเชื่อในพลังกายของตนเองมากกว่า เชื่อว่าสามารถสั่นคลอนโลกได้ด้วยกำลังของตนเอง! ความคิดที่แตกต่างนี้ชักนำให้ทั้งสองฝ่ายมีความแตกต่างกัน
มือขนาดใหญ่ของพลังแห่งกฎบัญญัติ นำพาพลังที่สามารถทำให้ฟ้าดินดับสลายได้พุ่งเข้าไปหามู่ชิงเกอ
โห่วถูกพัวพันเอาไว้ไม่สามารถเข้าไปช่วยได้ ทำได้เพียงแต่เบิกตามองดู แค้นจนอยากจะตบให้ระดับสีทองชั้นหกที่ขวางเขาอยู่ให้เละเป็นเศษเนื้อ เพราะว่าหากมู่ชิงเกอตาย เขาก็ตายด้วย
แม้ว่ามู่ชิงเกอจะเคยบอกว่าหากนางจะตายจริงๆ ก็จะปลดปล่อยพันธสัญญาให้เขาก่อน แต่เขาก็ไม่กล้าเสี่ยงอันตรายนี้อยู่ดี
เจียงหลี มู่เฉินแล้วก็ยังมีมู่เผิงสามคนก็ร้อนใจเช่นเดียวกัน
เพียงแต่ว่าด้วยพลังของพวกเขา อย่าว่าแต่ยังมีการขัดขวางจากผู้แข็งแกร่งระดับสีทองชั้นหกเลย ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครขวาง พวกเขาไม่มีวิธีที่จะไปช่วยมู่ชิงเกอจาก พลังแห่งกฎบัญญัติได้
ภายในนัยน์ตาอันสดใสของมู่ชิงเกอสะท้อนภาพของมือยักษ์ มันดูเหมือนกับเคลื่อนไหวเข้ามาอย่างช้าๆ ไม่ได้ กังวลว่านางจะหนีไป
แต่ว่าก็มีเพียงในใจของมู่ชิงเกอเท่านั้นที่รู้อย่างชัดเจนว่าตอนนี้ขาของนางเหมือนมีเหล็กถ่วงเอาไว้ หนักเป็นพันชั่ง ทุกครั้งที่จะก้าวก็ล้วนแต่ต้องอาศัยพละพลัง มหาศาล
“ไปสิ!”
“ชิงเกอรีบหนีไป!”
“นายน้อย!
เสียงของโห่ว เสียงของเจียงหลี เสียงของมู่เฉินและมู่ เผิงดูเหมือนว่าห่างนางออกไปไกล ตอนนี้ในสายตาของ นางเหลือแค่เพียงมือยักษ์ที่กำลังครอบคลุมลงมายังตนเอง แล้วก็ยังมีรอยยิ้มอันบ้าคลั่งของมู่เทียนอิน
‘หนี!’ ในใจของมู่ชิงเกอมีเสียงบอกให้รีบเร่งหนีดังขึ้นไม่หยุด
‘เจ้านาย เจ้านายรีบเข้ามาในช่องว่างเร็ว! เจ้านาย!’ ภายในหัวมีเสียงอันรีบเร่งของเหมิงเหมิงดังขึ้นมา
ใช่แล้ว! นางยังมีช่องว่างอยู่!
มู่ชิงเกอคิดในใจ เหมือนกับคนที่กำลังจมนํ้าแล้วคว้าได้เชือกฟางเส้นสุดท้ายที่สามารถช่วยชีวิตได้ แต่ว่า!
มู่ชิงเกอขมวดคิ้วขึ้น นางไม่สามารถเข้าไปในช่องว่างได้!
ช่องว่างที่แต่ก่อนเคยเข้าไปได้อย่างง่ายดาย มาบัดนี้กลับดูเหมือนว่าจะปฏิเสธนางที่เป็นเจ้าของไม่สามารถเข้าไปได้
‘เกิดอะไรขึ้น?’ มู่ชิงเกอรู้สึกร้อนใจ ตะโกนขึ้นในใจว่า ‘เหมิงเหมิง! ข้าเข้าไปไม่ได้!’
‘แย่แล้ว! จะต้องเป็นเพราะเขาใช้พลังแห่งกฎบัญญัติ ส่งผลทำให้การเชื่อมต่อระหว่างเจ้านายกับช่องว่างมีปัญหา เจ้านาย ไม่มีวิธีแล้ว ท่านทำได้เพียงแต่ต้องฝืนต้านทาน เพียงแค่พลังแห่งกฎบัญญัติผ่อนคลายลงเล็กน้อย ข้าจะรีบลากท่านเข้ามาในช่องว่างทันที!’ เหมิงเหมิงรีบเอ่ยอย่างร้อนใจ
มู่ชิงเกอยิ้มอย่างขมขื่น อาศัยความสามารถของนางในตอนนี้เข้าต้านทานงั้น หรือ?
ความรู้สึกของวิกฤตนี้เป็นสิ่งที่นางไม่เคยเจอมาก่อน แม้ว่านางจะมีกระดูกแข็งกว่านี้อีกเป็นร้อยเท่า มีพลังฟื้นฟูที่แข็งแกร่งขนาดไหน นางก็ยังไม่กล้าที่จะแน่ใจได้ว่าจะต้านทานไหว และก็ไม่แน่ใจว่าจะมีแรงสู้ต่อไปได้อีก หากว่านางถูกเหมิงเหมิงลากเข้าไปในช่องว่างแล้วสลบไป เช่นนั้นคนที่เหลือละจะเป็นอย่างไร?
ยังมีคนระดับพลังสีทองชนหกอยู่อีกสามคน โห่วเพียงคนเดียวไม่สามารถต่อกรได้ เช่นนั้นพวกเจียงหลีก็คงจะตายอย่างไม่ต้องสงสัย!
‘เจ้านายท่านอย่าได้ลังเลอีกเลย รักษาชีวิตเป็นเรื่องเร่งด่วน!, เหมิงเหมิงเร่งเร้า
นัยน์ตาของมู่ชิงเกอดุจดงเมฆลมที่ผันเปลี่ยน นางพูดกับเหมิงเหมิงว่า ‘มีวิธีอะไรหรือไม่ที่จะทำให้พลังฝึกปรือของข้าเพิ่มขึ้นไปเป็นระดับสีทองขั้นหนึ่งชั่วคราว แล้วก็สามารถนำเอาคนทั้งหมดเข้าสู่ช่องว่างได้’
เหมิงเหมิงนิ่งเงียบไป ผ่านไปครู่หนึ่ง นางก็เอ่ยว่า ‘มี! แต่หากใช้วิธีนี้ เกรงว่า ร่างกายของเจ้านายจะได้รับการสะท้อนกลับที่รุนแรงมาก’
ไม่ต้องสนใจข้า! เพียงแค่มีก็พอ’ คำตอบของเหมิงเหมิงทำให้ในใจของมู่ชิงเกอสงบลงหน่อย นางพูดกับเหมิงเหมิงว่า ‘เมื่อสามารถเปิดช่องว่างได้แล้ว เจ้าก็รีบเพิ่มพลังฝึกปรือของข้าให้ขึ้นไปที่ระดับสีทองทันทีและนำคนที่เหลือทั้งหมดเข้าสู่ช่องว่างด้วยกัน’
‘เข้าใจแล้ว’ เหมิงเหมิงตอบอย่างเคร่งขรึม
มีคำรับรองจากเหมิงเหมิงแล้ว มู่ชิงเกอก็เงยหน้าขึ้นมอง ไปยังมือยักษ์ที่กดลงมาหาตนเอง พร้อมกับกลั้นลมหายใจ
ภายในหานชุ่น ธารนํ้าแข็งสั่นสะเทือนพังทลายลงมา ชั้นนํ้าแข็งแตกหัก พื้นดินพลิกกลับ สัตว์อสูรหวาดกลัวหลีกหนีเหมือนกลับเป็นจุดจบของโลกก็ไม่ปาน
มู่ชิงเกอใช้พลังทั้งหมดใส่เข้าไปในพลังป้องกันจนถึงขีดสุด คิดจะต้านทานพลังแห่งกฎบัญญัตินี้
“ยอมแพ้เสียเถอะ! พลังของเจ้าไม่มีทางจะต้านทานได้หรอก! ฮ่าๆๆๆๆๆ” ไกลออกไปมีเสียงของมู่เทียนอินดังเข้ามา
มู่ชิงเกอไม่มีอารมณ์จะไปตอบเขา ใช้กำลังทั้งหมด ภายในดวงตาของนางเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
มือยักษ์ตกลงมาแล้ว
ต่อหน้ามัน มู่ชิงเกอเป็นเหมือนกับมดก็ไม่ปาน ไม่มีวิธีที่จะต้านทานได้
พลังกดดันที่ไม่เคยมีมาก่อน ฉีกร่างเนื้อกับวิญญาณของมู่ชิงเกอ ดูเหมือนกับจะฉีกนางออกเป็นชิ้นๆ เพราะว่าพลังกดดันนี้ทำให้สองขาของนางจมลึกเข้าไปในชั้นนํ้าแข็งจนถึงหัวเข่า
“อ๊า!” มู่ชิงเกออดไม่ได้ที่จะส่งเสียงร้องออกมา
มือยักษ์นี้ยังห่างจากนางอีกระยะหนึ่ง แต่ร่างและแขนเสื้อของนางกลับถูกบดจนเป็นผง ผิวหนังและเลือดเนื้อกระจายออก เผยให้เห็นกระดูกอันขาวโพลน
‘เจ้านาย ช่องว่างเปิดไม่ออก! พลังแห่งกฎบัญญัตินี้แข็งแกร่งเกินไป ไม่มีช่องผ่อนคลายเลย’ เหมิงเหมิงร้องไห้ฟูมฟายอยู่ในหัวของมู่ชิงเกอไม่หยุด
บนแก้มและสองมือของมู่ชิงเกอเลือดเนื้อสูญหายไปเรื่อยๆ แล้วก็ฟื้นฟูกลับคืนมาเหมือนเดิม พื้นหิมะเต็มไปด้วยร่องรอยของเลือดเนื้อ
“ฮ่าๆๆๆๆๆ! ข้าอยากจะดูสิว่าพลังฟื้นฟูของ เจ้าจะสามารถใช้ได้จนถึงเมื่อไหร่! หากว่าเจ้าส่งเคล็ดวิชาเทวะมาดีๆ ยังมีวิชาทั้งหมดที่เจ้าฝึกฝนมาด้วย บางทีข้าอาจจะให้เจ้าได้ตายสบายๆ หน่อย มิเช่นนั้น เจ้าก็รอที่จะวิญญาณแตกสลายไปได้เลย!” มู่เทียนอินเอ่ยอย่างอำมหิต
นัยน์ตาของมู่ชิงเกอฉายแววเย็นยะเยือกดุดัน “ฝันไปเถอะ!”
ถึงนางจะตาย ก็จะไม่ยอมให้เคล็ดวิชาเทวะตกเข้าไปอยู่ในมือของศัตรูเป็นอันขาด!
ความดื้อดึงของนางทำให้รอยยิ้มของมู่เทียนอินสิ้นสุดลง พูดด้วยนํ้าเสียงที่อำมหิตว่า “เช่นนั้นเจ้าก็ไปตายซะเถอะ ฆ่าเจ้าแล้ว ข้าก็มีวิธีที่จะเอาเคล็ดวิชาเทวะมาอยู่ดี!”
บึ้ม!
มือยักษ์ตกลงมาครอบคลุมตัวมู่ชิงเกอ
“ไม่! ชิงเกอ!” เจียงหลีร้องตะโกนออกไปเหมือนดวงใจจะฉีกขาด แต่ในขณะที่สติหลุดกลับโดนฟาดไปหนึ่งฝ่ามือ ชั่วขณะนั้นก็กระอักเลือดออกมา ล้มกองลงไปกับพื้น มองไปยังตำแหน่งที่มือยักษ์นั้นกดลงไปอย่างปวดใจ
“นายน้อย!”
“นายน้อย!”
มู่เฉินและมู่เผิงก็ร้องตะโกนขึ้นอย่างปวดใจ
“สมควรตาย!” ความโกรธแค้นในใจของโห่วเพิ่มพูนขึ้น ไม่สนใจกระบวนท่าที่ยอมสู้ตายของอีกฝ่าย ฝืนรับไปฝ่ามือหนึ่งแล้วดึงแขนข้างหนึ่งของอีกฝ่ายให้ขาดลงมา
“อึก!”
กระอักเลือดออกมา ร่างกายของมู่ชิงเกอถูกโจมตีให้ลอยออกไป เกราะสีเงินระดับเทวะบนร่างของนาง ชั่วขณะนั้นแสงก็ดับไปแตกสลายกลายเป็นชิ้นๆ
แต่ว่าพลังของมือยักษ์กลับไม่ได้หยุดลง กดดันเข้ามายังมู่ชิงเกอเรื่อยๆ
‘เจ้านาย ยังเปิดไม่ออก เปิดไม่ออก เปิดไม่ออก อา อา อา อา! ฮือ ฮือ ฮือ…ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี… เจ้านาย ท่านอย่าตายนะ…’ ภายในหัวของมู่ชิงเกอมี
เสียงร้อนใจของเหมิงเหมิงดังขึ้นมาไม่หยุด
‘เปิดไม่ออก…ต้องตายแล้วงั้นหรือ? นี่ก็คือเคราะห์ตายของข้างั้นหรือ? สุดท้ายแล้วก็หนีไม่พ้นงั้นหรือ? ซือมั่ว…ขอโทษด้วย…’ ร่างกายของมู่ชิงเกอถูกทำให้พุ่ง ลอยขึ้นไปกลางอากาศ ลมพัดเส้นผมของนางให้ปลิวสยายออกยุ่งเหยิง มือยักษ์นั้นกำลังกดลงมาต่อ แต่ว่าในใจของนางกลับรู้สึกสงบอย่างผิดปกติ
นางไม่ยอมที่จะตาย แต่กลับไม่อาจต้านทานได้ เกราะที่ซางซุ่นหวางมอบให้แก่นาง เพื่อที่จะคุ้มครองนางแล้วก็ได้กลายเป็นฝุ่นผงไป ไม่สามารถช่วยนางต้าน ทานได้อีกแล้ว ที่เหลืออยู่เพียงอย่างเดียวในตอนนี้ก็คือ ร่างกายของตัวนางเองเท่านั้น
แต่ว่าพลังของมือยักษ์นั้นกลับไม่เพียงไม่ลดน้อยถอยลง กลับยังเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นไปอีก
นางสามารถหลบพ้นได้หรือไม่?
ไม่ยอม! ไม่ยอม! ไม่ยอม!
นัยน์ตาของมู่ชิงเกอเผยเปลวไฟแห่งความโกรธแค้นที่ลุกโชนออกมา แม้ว่าจะต้องตายนางก็ต้องฝืนต้านจนถึงที่สุด!
ภายในนัยน์ตาอันสดใสของนาง แฝงไปด้วยร่องรอยแห่งการตัดสินใจ จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ที่ไม่ยอมแพ้ นั้นกำลังเผาไหม้ไปพร้อมกันกับชีวิตของนาง!
แครก!
ทันใดนั้น ในร่างกายของโห่วก็ดูเหมือนว่าจะมีอะไรถูกปลดปล่อยออก ทำให้เขาที่กำลังโมโหอยู่นั้นชะงักไป
‘พันธสัญญา…ถูกปลดออกแล้ว!’ บนใบหน้าอันน่ากลัวของโห่วเผยแววมึนงงออกมา อดไม่ได้ที่จะมองไปยังตำแหน่งที่มู่ชิงเกออยู่ ที่นั้นมองไม่ชัดถึงเงาร่างมู่ชิงเกออแล้ว มีเพียงแค่มือยักษ์ที่ค่อยๆ แนบเข้าไปกับพื้น
พันธสัญญาถูกปลดปล่อย ความหมายก็คือคำสาปนั่นจะไม่เกิดผลอีกแล้ว
ความหมายอีกอย่างก็คือ มู่ชิงเกอตัดสินใจที่จะตาย คิดจะสู้ตายแล้ว
ดวงตาทั้งคู่ของโห่วเบิกกว้างขึ้น ความโมโหในใจพุ่งขึ้นถึงขีดสุด เขาคำรามใส่ระดับสีทองชั้นหกคนนั้นเสียงหนึ่ง
“โฮก!”
เสียงคำรามนั้นทำให้เส้นเลือดภายในร่างของคนระดับสีทองชั้นหกคนนั้นแหลกสลายไปทั้งหมด ผิวหนังแตกออก เลือดสดๆ ไหลออกมา เขาล้มลงไป ในที่สุดก็ไม่ อาจขวางโห่วได้อีกต่อไปแล้ว
โห่วพุ่งตัวเข้าไปหามู่ชิงเกอ ยื่นมืออันทรงพลังออกไป คิดที่จะดึงนางออกมาจากช่องว่างของมือยักษ์นั้น
แต่ว่า พวกเขาห่างออกไปไกลจนเกินไป ไกลจนแม้ว่า ในตอนนี้เขาสามารถกลับคืนสู่ร่างเดิมได้ ก็ไม่อาจจะไปถึงได้ทันในพริบตา
ทันใดนั้น ระหว่างมู่ชิงเกอกับมือยักษ์ก็ปรากฎเงาร่างของหยวนหยวนออกมา
การปรากฎตัวของเขาทำให้มู่ชิงเกอชะงักไป เข้าใจในทันทีว่าเขาคิดจะทำอะไร นางร้องตะโกนขึ้นว่า “หลีกไป!”
แต่ใบหน้าที่งดงามรูปไข่ของหยวนหยวนกลับเผยรอยยิ้มโง่งมให้กับนาง จุดเปลวไฟบนหว่างคิ้วของเขาเปลี่ยนเป็นมีเสน่ห์เย้ายวนไร้สิ่งใดเปรียบ “ข้าเคยพูดแล้วว่าจะคุ้มครองลูกพี่ท่านแม่”
“ไม่! ไม่นะ!” มู่ชิงเกอพยายามร้องตะโกนออกไป สองมือและสองขาของนางถูกพลังกดยึดเอาไว้ ทำให้ไม่สามารถขยับได้
นางไม่สามารถจะถีบหยวนหยวนออกไปได้
ความหวาดกลัวกระจายขึ้นในแววตาทั้งคู่ของมู่ชิงเกอ นางกลัวว่าหยวนหยวนจะทำอะไรที่ไม่สามารถแก้ไขให้คืนกลับมาได้ แต่ว่านางกลับห้ามไม่ได้แล้ว
“ลูกพี่ เหมิงเหมิงไม่มีวิธีแล้ว แต่ว่าหยวนหยวนมี! ลูกพี่ท่านแม่ ความจริงแล้วข้าแค่อยากเรียกท่านว่า ท่านแม่…” เมื่อหยวนหยวนพูดกับมู่ชิงเกอจบ ร่างกายก็ กลายเป็นเปลวไฟขนาดใหญ่ ขวางมือยักษ์ที่กดใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เปลวไฟขนาดใหญ่ขวางการตกลงมาของมือยักษ์ ส่วนมู่ชิงเกอนั้นได้ตกลงไปแนบกับพื้นหิมะแล้ว สองตาเบิกกว้างมองดูหยวนหยวนที่อยู่ใกล้กับตนเองเพียงแค่นิ้วเดียว ภายในเปลวไฟ ใบหน้าของหยวนหยวนดูรางเลือน เขาเผาไหม้ชีวิตของตนเองเพื่อแลกมากับพลังที่จะใช้ต้านทานพลังแห่งกฎบัญญัติ แต่ว่า
บึ้ม!
เสียงดังขึ้น มือยักษ์หยุดชะงักไม่ถึงพริบตาเดียว ก็ตกลงมาอีก มู่ชิงเกอถูกโจมตีให้ลอยไปอีกครั้ง หยวนหยวนกลายร่างเป็นเปลวไฟที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเข้าไปโอบ ล้อมมือยักษ์นั่นไว้
ใบหน้าของหยวนหยวนที่อยู่ภายในเปลวไฟแสดงให้เห็นถึงความยากลำบาก แต่สายตาที่มองมายังมู่ชิงเกอกลับเต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์
มู่ชิงเกอรับรูถึงการตัดสินใจของเขาจากนัยน์ตาของเขา นํ้าตาไหลลงมาจากหางตาของนาง นางใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดตะโกนออกไปว่า “หยวนหยวน หากว่าเจ้ายังคิดที่จะถือเอาข้าเป็นลูกพี่อยู่ก็รีบหลีกไปให้ข้าซะ!”
แต่เปลวไฟที่กลายร่างมาจากหยวนหยวนกลับยิ่งเผาไหม้รุนแรงมากยิ่งขึ้น ในที่สุดมือยักษ์ก็สั่นไหวขึ้นมา…
บึ้ม!
เสียงดังขึ้น ในที่สุดมือยักษ์นั้นก็หายไป