Skip to content

พลิกปฐพี 315

ตอนที่ 315

น่าเศร้าใจ! เปลี่ยนเปลวไฟเป็นเกราะป้องกัน

แครก!

เสียงดังสนั่น มือยักษ์ที่มีพลังแห่งกฎบัญญัติ ในที่สุดก็จางหายไป ท้องฟ้าของหานชุ่นก็สว่างขึ้นมา

“หยวนหยวน…” ร่างของมู่ชิงเกอค่อยๆ ตกลงมาจากอากาศ พลังที่กดทับได้หายไปแล้ว ส่วนเปลวไฟที่เผาไหม้อยู่กลางอากาศก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นเล็กลง กลายเป็นหยวนหยวนที่พุ่งเข้ามาหามู่ชิงเกอ

ภายในดวงตาอันงดงามของเขา มีสีทึบลง สีหน้าก็ไม่น่าดูเช่นเดียวกัน

ใต้ผิวขาวดูเหมือนว่าจะมีเปลวไฟลุกไหม้อยู่ ทำให้ผิวฉีก มู่ชิงเกอไม่เคยรู้สึกว่าหยวนหยวนมีลมหายใจที่อ่อนแอเช่นนี้มาก่อน เกรงว่าแม้แต่ในตอนแรกที่เขาเป็นไข่ก็ไม่เคยที่จะอ่อนแอเช่นนี้

“คิดจะช่วยเขา! ไม่ง่ายถึงขนาดนั้น!” เสียงอันอำมหิตเย็นชาของมู่เทียนอินดังขึ้นมาอีกครั้ง

พลังอันแข็งแกร่งพุ่งเข้าไปหามู่ชิงเกอ

ภายในนั้นผสมด้วยพลังจิตที่หยุดชะงักนางเอาไว้ ราวกับตกลงไปในโคลนดูด

“เจ้ารนหาที่ตาย!” โห่วตะคอกออกไป พุ่งเข้าไปใส่มู่เทียนอิน

แต่เขายังไม่ทันพุ่งเข้าไปถึง ยอดฝีมือระดับสีทองชั้นหก ที่ถูกเขาตีจนพิการก็โอบกอดเขาไว้แน่น ร่างกายพองตัวขึ้นมา

“เจ้าคิดจะระเบิดตัวเอง!” นัยน์ตาของโห่วปรากฎแววดุดันออกมา

เขาเหลือบตามองดูมู่ชิงเกอแวบหนึ่ง รีบเพิ่มความเร็ว พาเจ้าคนที่จะระเบิดตัวเองให้ออกไปไกล หากว่าให้เขาระเบิดตัวเองที่นี่ มู่ชิงเกอจะต้องได้รับการโจมตีจากสองทาง แล้วต้องตายอย่างแน่นอน!

“ฮ่าๆๆๆๆๆ!” กลางอากาศมีเสียงหัวเราะ อย่างบ้าคลั่งของมู่เทียนอินดังเข้ามา

เขาโจมตีออกมาอีกครั้ง ไล่ตามไป และได้มาถึงด้านหลังของหยวนหยวนแล้ว

ตอนนี้ หยวนหยวนเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของมู่ชิงเกอ สองมือโอบรอบคอของนางเอาไว้

มู่ชิงเกอรู้สึกสงสารมาก กระซิบข้างหูของเขาว่า “หยวนหยวน อย่ากลัวไป”

หยวนหยวนพิงไหล่ของนาง เผยรอยยิ้มออกมา “ข้าจะกลัวได้อย่างไร? ข้าเคยพูดแล้วว่าจะต้องปกป้องลูกพี่ท่านแม่ให้ได้ และก็จะไม่ผิดคำพูด ท่านแม่ ข้าทำได้ แล้ว ข้าจะปกป้องท่านตลอดไป…”

“หยวนหยวน เจ้าจะทำอะไร? หยวนหยวน หยวนหยวน…” ชั่วขณะนั้นในใจของมู่ชิงเกอก็รู้สึกร้อนรนขึ้นมา สองมือของนางได้กลับคืนสู่สภาพปกติแล้ว แต่กลับยังไม่หลุดออกจากควบคุมจนสามารถขยับได้

อ่อนแอเกินไป! นางอ่อนแอเกินไปแล้ว!

มู่ชิงเกอไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน ที่รู้สึกแค้นใจปวดใจว่าพลังฝึกปรือของตนเองตํ่าเกินไป

หยวนหยวนหลับตาอย่างสงบ มุมปากประดับไว้ด้วย รอยยิ้ม

ปัง!

เปลวไฟเผาไหม้บนร่างกายของมู่ชิงเกอ

หยวนหยวนกลายร่างเป็นเปลวไฟโอบล้อมร่างกายของมู่ชิงเกอไว้ แล้วเปลวไฟก็ค่อยๆ กลายเป็นชุดเกราะอันงดงามชิ้นหนึ่ง เปลวไฟอันทรงเสน่ห์ สีทองทึบที่พันเกี่ยวเป็นลวดลายที่งดงาม ดุจดั่งเปลวไฟนับไม่ถ้วน

ในตอนที่ชุดเกราะวาบออกมานั้น พลังโจมตีของมู่เทียนอินก็ตกเข้าไปบนชุดเกราะอย่างรุนแรง

แต่ว่า การโจมตีที่เหนือกว่ากำลังของระดับสีทองชั้นหกนี้ ในตอนที่ตกลงบนเกราะที่งดงามอันนั้น กลับดูเหมือนว่าได้ตกลงไปในทะเล พลังถูกดูดกลืนเข้าไปสู่ความว่างเปล่า มู่ชิงเกอไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เลย

ปัง!

ร่างกายของมู่ชิงเกอตกลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง และก็เป็นเพราะชุดเกราะเช่นเดียวกันที่ทำให้นางไม่ได้รับบาดเจ็บอันใดเลย

“เกิดอะไรขึ้น!” ฉากนี้ทำให้มู่เทียนอินเบิก

ตากว้างอย่างตกตะลึง

ไม่เพียงแต่เขาที่ตกตะลึง พวกเจียงหลีก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน

หยวนหยวน…

หยวนหยวนถึงกลับใช้สติเฮือกสุดท้ายของตนเองเอาพญาเพลิงรวมกันเป็นชุดเกราะที่จะปกป้องมู่ชิงเกอตลอดไป!

ทันใดนั้น ความโศกเศร้าและความปวดร้าวใจก็ปรากฎขึ้นในใจของทุกๆ คนทางฝั่งของมู่ชิงเกอ

บึ้ม!

มีอีกเสียงระเบิดดังขึ้นในหานชุ่น เพียงแต่ว่าระยะทางนั้นไกลมาก ไกลจนพวกเขาทางนี้ ได้ยินเพียงแค่เสียงและรับรู้ได้ถึงแผ่นดินที่สั่นสะเทือนเท่านั้น

ความเศร้าโศกแผ่กระจายอยู่ในใจของมู่ชิงเกอ

นางยืนขึ้นมาจากพื้น ภายในนัยน์ตาที่สดใสแฝงความแค้นใจมองไปยังมู่เทียนอิน

นางไม่เคยแค้นใครขนาดนี้มาก่อน แค้นจนอย่างจะฉีกเนื้อในร่างกายของเขาลงมาทีละชิ้นๆ แค้นจนอย่างจะควักเอาดวงวิญญาณของเขาออกมาเฆี่ยนตี เพื่อแก้ แค้นให้หยวนหยวน

ดวงตาที่เต็มไปด้วยความแค้นคู่นั้นกลับดูเหมือนกับนํ้านิ่งๆ เจียงหลีมองเห็นแล้วก็ปวดใจมาก “ชิงเกอ…”

ใบหน้าของมู่เทียนอินในตอนนี้บิดเบี้ยวจนไม่น่าดูเป็นอย่างมาก เขาฝืนใช้อาคมออกไปและได้รับแรงสะท้อนแล้ว ในขณะนี้เส้นเลือดในร่างกายขยาย หลอดเลือดดำบวม ใต้ผิวหนังก็บวมขึ้นมาเรื่อยๆ ครึ่งใบหน้าเหมือนมีแมลงคลานไปคลานมา ดูน่ากลัวมาก

พลังที่ถูกเขาใช้ขับเคลื่อนอาคมเหล่านั้น ทั้งหมดที่เหลือสะสมอยู่ในร่างกายของเขาส่งผลกระทบต่อร่างกายของเขาไม่หยุด

“อึก!”

เขาควบคุมไม่อยู่ กระอักเลือดออกมา เส้นเลือดเสียหายอย่างหนัก

เขาจำเป็นต้องรีบกลับไปยังแผ่นดินใหญ่แห่งเทพมาร มิเช่นนั้นเกรงว่าจะต้องรับแรงสะท้อนที่หนักขึ้นมากกว่านี้

มู่ชิงเกอใช้นัยน์ตาที่เรียบสงบมองดูเขา แต่นี่กลับทำให้ในใจเขาเกิดความรู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมา

ไม่! จะรู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมาได้อย่างไร? จะถูกมดปลวกเช่นนี้คุกคามได้อย่างไร?

มู่เทียนอินใช้แววตาที่ดุดันมองไปที่มู่ชิงเกอ ไม่ยอมเชื่อว่าสายตาของอีกฝ่ายจะส่งผลกระทบต่อเขา

‘เหมิงเหมิง สามารถเปิดช่องว่างได้หรือยัง?’ มู่ชิงเกอพูดอย่างเรียบสงบขึ้นในใจ

ผ่านไปครู่หนึ่ง เหมิงเหมิงถึงได้เอ่ยตอบด้วยเสียงเบาๆ ว่า “ได้แล้ว”

‘ดี เพิ่มระดับพลังฝึกปรือของข้า สามารถเพิ่มขึ้นได้มากเท่าไหร่ ก็เพิ่มขึ้นเท่านั้น’ ทันใดนั้นมู่ชิงเกอก็พูดขึ้นกับนาง

เหมิงเหมิงชะงักไป หลุดเสียงพูดออกมาว่า ‘เจ้านาย ท่านรู้หรือไม่ว่าการฝืนเพิ่มพลังฝึกปรือนั้นต้องแลกเปลี่ยนอะไรมา? ท่านต้องการเพียงแค่นำคนเข้ามาหลบ อยู่ในช่องว่าง ระดับสีทองขั้นหนึ่งก็เพียงพอแล้ว’

‘อย่ามาพูดเรื่องแลกเปลี่ยนอะไรกับข้า เจ้าเพียงแต่ทำตามที่ข้าพูดก็พอแล้ว’ มู่ชิงเกอพูดกับเหมิงเหมิง

‘ไม่ได้! หากเพิ่มพลังฝึกปรือของเจ้านายขึ้นถึงขีดสุด เช่นนั้นจะเผาผลาญอายุขัยของเจ้านายนะ! ข้าไม่สามารถทำเช่นนั้นได้!’ เหมิงเหมิงปฏิเสธ

แต่มู่ชิงเกอกลับใช้นํ้าเสียงที่เรียบสงบอย่างน่ากลัวเอ่ยว่า ‘เหมิงเหมิง หยวนหยวนตายแล้ว หรือว่าข้าไม่ควรจะแก้แค้นให้กับเขางั้นหรือ?’ วันนี้หากว่านางปล่อยมู่ เทียนอินไป แล้วเมื่อไหร่กันนางถึงจะสามารถไปยังแผ่นดินใหญ่แห่งเทพมารตามหาเขาเพื่อแก้แค้นได้?

เหมิงเหมิงนิ่งเงียบลงมา เสียงร้องไห้อย่างอดกลั้นดังเข้ามาในหูของมู่ชิงเกอ

เสียงร้องไห้อย่างอดกลั้นนี้ ทำให้หัวใจของนางเจ็บปวดเหมือนกับถูกมีดกรีด ต้องการที่จะระบายความเจ็บปวดในใจนี้ออกมาอย่างเร่งด่วน

‘เหมิงเหมีง อย่าร้องไห้ ข้าจะต้องไม่ตาย! จะต้องไม่ตาย!’ มู่ชิงเกอพูดรับรองกับเหมิงเหมิง ชีวิตนี้ของนาง หยวนหยวนใช้ชีวิตแลกเปลี่ยนมา นางจะไม่ยอมพุ่งเข้าไปหาความตายง่ายๆ

ถึงแม้ว่าจะต้องสูญเสียอายุขัยไป ต่อไปนางก็สามารถใช้การทะลวงระดับพลัง ทั้งยังมียาคอยช่วยอีก ถือว่าไม่เป็นอะไรมาก!

ภายใต้ความสงบของนางในที่สุดเหมิงเหมิงก็ยอมเผาผลาญอายุขัยของมู่ชิงเกอ เพิ่มพลังฝึกปรือขึ้นให้นาง

“ชิงเกอคิดจะทำอะไร!” เจียงหลีมองเห็นมู่ชิงเกอยืนนิ่งเงียบอยู่ตรงนั้น ถึงได้พูดขึ้นด้วยใบหน้าที่ดูถอดสี

แต่ว่า การต่อสู้ของทางฝั่งนางยังไม่ทันได้สิ้นสุด

“แม่นางเจียง รีบไปดูนายน้อยเถอะ ทางนี้มีพวกเราอยู่” มู่เฉินขัดขวางการโจมตีของยอดฝีมือระดับสีทองชั้นหก แล้วก็เอ่ยกับเจียงหลี

“หึ? มีพวกเจ้างั้นหรือ? ชุดเกราะของพวกเจ้าไม่สามารถรับการโจมตีได้แล้ว ตอนนี้ข้าจะส่งพวกเจ้าไปตายซะ!” ระดับสีทองชั้นหกคนนั้นพูดกับพวกมู่เฉิน อย่างหยิ่งยโส

เจียงหลีหันมองมู่เฉินและมู่เผิง ทั้งสองคนต่อสู้อย่างยากลำบากมาก

แต่นางกลับเป็นห่วงมู่ชิงเกอมากยิ่งกว่า กัดฟันแล้วจากนั้นนางก็ถอยออกจากการต่อสู้ วิ่งพุ่งเข้าไปหามู่ชิงเกอ

ทันใดนั้น พลังอันแข็งแกร่งก็แผ่ออกมาจากร่างกายของมู่ชิงเกอ พลังฝึกปรือของนางเพิ่มขึ้นในทันใด

ระดับสีเงินชั้นสาม!

ระดับสีเงินชั้นสี่!

ระดับสีเงินชั้นห้า!

ระดับสีเงินชั้นหก!

…ระดับสีทอง!

ระดับสีทองชั้นหนึ่ง!

ระดับสีทองชั้นสอง!

ระดับสีทองชั้นสาม!

ระดับสีทองชั้นสี่!

ไอพลังของมู่ชิงเกอขยับเข้าไปใกล้เคียงกับมู่เทียนอินมากขึ้นเรื่อยๆ แถบคาดผมที่ใช้มัดผมไว้บนศีรษะของนางถูกทำลายด้วยไอพลัง ทำให้เส้นผมกระจัดกระจาย ตกลงมาปิดกั้นใบหน้าของนางไปครึ่งหนึ่ง แต่มันก็กลับทำให้นางดูงดงามจนยากจะแยกแยะได้ว่าเป็นชายหรือหญิง

มือกุมทวนหลินหลง ร่างสวมชุดเกราะ ผมดำยาวสยายปลิวตามลมท่ามกลางดินแดนหิมะ มู่ชิงเกอในตอนนี้เปรียบเหมือนกับเทพเจ้าแห่งสงคราม ไอพลังแข็งแกร่งดุดัน จ้องมองไปยังมู่เทียนอินด้วยนัยน์ตาที่แข็งกร้าว

“ชิงเกอ…” ฝีเท้าของเจียงหลีที่กำลังเข้าไปใกล้ค่อยๆ หยุดลง

นางไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดพลังฝึกปรือของมู่ชิงเกอถึงได้แข็งแกร่งขึ้นในพริบตาเช่นนี้ได้ แต่ว่านางก็สามารถคาดเดาได้ว่า ได้รับพลังเช่นนี้จะต้องมีของแลกเปลี่ยนที่ยากจะคาดถึงอย่างแน่นอน

‘เจ้านาย เพิ่มได้ถึงแค่เพียงระดับสีทองชั้นสี่แล้ว! อายุขัยของท่านในตอนนี้ได้ถูกเผาผลาญจนเหลือเพียงสิบปีแล้ว’ เสียงของเหมิงเหมิงดังขึ้นในหัวของมู่ชิงเกอ

“ระดับสีทองชั้นสี่ เพียงพอแล้ว” มู่ชิงเกอพึมพำ

นางหันหน้ามองไปยังพวกเจียงหลีสามคน

ทันใดนั้น ไม่ว่าจะเป็นเจียงหลีที่อยู่ใกล้นาง หรือว่ามู่เฉินกับมู่เผิงที่กำลังต่อสู้ ก็ล้วนแต่หายไปจากที่เดิม ไม่หลงเหลือกลิ่นอายแม้แต่นิดเดียว

ฉากนี้ทำให้มู่เทียนอินชะงักไป นัยน์ตาของเขาฉายแววอำมหิตขึ้น “ช่องว่างงั้นหรือ? ช่องว่างที่สามารถนำสิ่งมีชีวิตเข้าไปได้!” เขาครุ่นคิดและหัวเราะขึ้นมา “ดูแล้ว เจ้าคงจะซ่อนเคล็ดวิชาเทวะไว้ในช่องว่างสินะ”

แต่มู่ชิงเกอกลับไม่ได้ตอบเขาสักประโยค เพียงแต่มองดูเขาอย่างเย็นชา

มู่เทียนอินหัวเราะเยาะขึ้นมา “ใช้วิชาลับเพิ่มพูนพลังฝึกปรือขึ้นงั้นหรือ? ก็ไม่รู้ว่าพลังฝึกปรือที่เจ้าเพิ่มขึ้นมานี้จะสามารถอยู่ได้นานแค่ไหน!”

นัยน์ตาของมู่ชิงเกอฉายแววเข้มชันขึ้น มองเขาแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “รับความตายซะเถอะ!”

พูดแล้วนางก็ชูทวนหลิงหลงขึ้น พุ่งเข้าไปหามู่เทียนอิน ครั้งนี้ที่โอบล้อมรอบกายของนางไม่ได้เป็นพลังจิตสีเงินอีกต่อไป แต่กลับเป็นพลังจิตสีทองบริสุทธิ์ ที่ไม่ได้ด้อยไปกว่ามู่เทียนอินสักเท่าไหร่

นัยน์ตาของมู่เทียนอินดูเคร่งขรึมขึ้น ฝืนอดทนต่อการสะท้อนกลับของพลังภายในร่างกาย ชูดาบหนักขึ้น เข้าต่อสู้กับมู่ชิงเกอ

ทั้งสองคนเพิ่งจะเริ่มสู้ได้ไม่นาน โห่วก็กลับมาพร้อมกับร่างกายที่สะบักสะบอม

ในตอนที่เขามองเห็นมู่ชิงเกอที่กำลังต่อสู้กับมู่เทียนอินนั้น เขาก็ชะงักไป เมื่อมองไปเห็นชุดเกราะขึ้นใหม่แล้วก็ยังมีพลังจิตสีทองบนร่างของนางแล้วนั้น ก็เข้าใจขึ้นในพริบตาว่าในตอนที่เขาจากไปเพียงครู่เดียวนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้น

เขากวาดมองไปรอบๆ แล้วสายตาก็ไปหยุดอยู่บนร่างของศัตรูที่ก่อนหน้านี้ต่อสู้กับพวกมู่เฉิน

ในตอนนี้คนๆ นั้นก็มีสีหน้าดูมึนงง ว่าต่อสู้อยู่ดีๆ คู่ต่อสู้ก็หายตัวไป เขายังไม่ทันได้หายมึนงงดีกลับพบว่าโห่วที่เพื่อนของตนเองระเบิดร่างเพื่อจะกำจัดนั้น ไม่เพียงแต่ยังไม่ตาย ในตอนนี้ยังใช้สายตาที่โหดเหี้ยมอำมหิตนั้นจ้องมองมาที่เขา

ชั่วขณะนั้น ท่าทีของเขาก็เปลี่ยนไป ความคิดที่จะหลบหนีโผล่ขึ้นมาจากใต้ส่วนลึกในใจเขา

แม้ว่านายน้อยจะพูดแล้วว่าตอนนี้โห่วก็อยู่ระดับสีทองชั้นหกเช่นเดียวกัน ไม่ต้องไปกลัวเขา แต่ว่าในตอนนี้ เพื่อนทั้งสองของเขาก็ตายภายใต้เงื้อมมือของโห่ว พูดว่าไม่กลัวนั้นเป็นเรื่องโกหก!

คิดมาถึงตรงนี้ คนๆ นั้นก็คิดจะหนีแล้ว

แต่ว่ามีหรือโห่วจะทำให้เขาสมปรารถนา?

ความโกรธแค้นในใจของเขายังไม่ได้ถูกระบายจนหมด พวกคนที่กล้าล่วงเกินเขาเหล่านี้ต้องตายทั้งหมด!

โห่วหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ปรากฎขึ้นไปตรงหน้าของเขา ขวางเส้นทางถอยของเขา “คิดจะไปไหน?”

“ข้า…ข้า…” คนๆ นั้นเบิกดวงตากว้างมองดูโห่วที่ปรากฎอยู่ตรงหน้าของเขา นัยน์ตาฉายแววเจ้าเล่ห์แวบหนึ่ง ทันใดนั้นก็ลอบโจมตีออกไป

โห่วยิ้มเยาะเข้าต่อสู้กับเขา

เขาจะต้องจัดการคนๆ นี้ให้เสร็จก่อนที่พลังฝึกปรือที่เพิ่มขึ้นมานี้ของมู่ชิงเกอจะถอยกลับ จากนั้นถึงจะสามารถตั้งใจจัดการกับไอ้สารเลวที่เหลืออยู่คนนั้นได้!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version