Skip to content

พลิกปฐพี 316

ตอนที่ 316

แขนขาด ทวนหลิงหลงหัก!

แสงสีทองสองสายเข้าพัวพันจนเกิดแสงวาววับไม่หยุด เงาร่างของมู่ชิงเกอนั่นมองไม่ออกแล้วว่าอยู่ตรงไหน ยิ่งมองไม่เห็นว่าตอนนี้ใครกำลังได้เปรียบอยู่

‘เจ้านาย การใช้วิธีเผาผลาญอายุขัยเพื่อเพิ่มระดับพลังนั้นสามารถอยู่ได้แค่ครึ่งชั่วยาม หากว่าภายในครึ่งชั่วยามนี้ท่านไม่สามารถฆ่าเขาได้ก็จะแย่แล้ว เพราะไม่ เพียงแต่ระดับพลังของท่านจะถอยลงสู่ระดับเดิม แต่ร่างกายก็จะถูกสะท้อนกลับจนได้รับบาดเจ็บหนักอีกด้วย ส่วนคนที่ท่านนำเข้ามาในช่องว่างก็จะต้องถูกดีดออกมาจากช่องว่าง’ เหมิงเหมิงเอ่ยเตือนมู่ชิงเกอ

นัยน์ตาของมู่ชิงเกอดูเย็นยะเยือก ทวนหลิงหลงในมือ ปะทะเข้ากับดาบหนักในมือของมู่เทียนอินไม่หยุด สะเก็ดไฟพุ่งกระจายออกไปรอบทิศ คำพูดของเหมิงเหมิงนั้นนางได้ยิน แต่กลับไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดๆ ออกมา ชุดเกราะบนร่างของนางรับกระบวนท่าที่โหดเหี้ยมรุนแรงของมู่เทียนอินแทนนางไปไม่น้อย

นางไม่รู้ว่าชุดเกราะที่ใช้หยวนหยวนสร้างขึ้นมานี้อยู่ระดับไหนกันแน่ แม้ว่าจะเผชิญหน้ากับการโจมตีของยอดฝีมือระดับสีทองชั้นหก ก็ไม่สามารถทำให้นางบาดเจ็บได้เลยแม้แต่น้อย

เปรี้ยง!

ปลายทวนหลิงหลงโจมตีถูกดาบหนัก ในที่สุดทั้งสองคนก็ถอยหลังออกไปสามก้าวพร้อมกัน เว้นระยะห่างระหว่างกัน

สีหน้าของมู่ชิงเกอดูเคร่งขรึม ใช้ทวนหลิงหลงชี้ไปที่มู่เทียนอิน

ดาบหนักในมือของมู่เทียนอินก็ชี้ไปทางมู่ชิงเกอเช่นเดียวกัน ระหว่างทั้งสองคนนั้น หากไม่ตายไปข้างหนึ่ง เกรงว่าศึกครั้งนี้คงจะไม่หยุดลง

“ดีมาก ตอนนี้ข้ามีความสนใจที่จะรู้จักชื่อของเจ้าแล้ว” มู่เทียนอินใช้สายตาที่อำมหิตมองดูมู่ชิงเกอ

มดตัวหนึ่งที่มีพลังอยู่เพียงแค่ระดับสีเงินชั้นสามกลับสามารถทำให้เขาต้องมองใหม่ได้ น่าสนใจจริงๆ!

“คนตายไม่จำเป็นต้องรู้จักชื่อของข้า” มู่ชิงเกอพูดอย่างเย็นชา

น้ำเสียงของนางเรียบสงบมาก มองไม่ออกเลยว่ามีอะไรแตกต่าง

แต่หากเป็นคนที่คุ้นเคยกับนางจะล้วนแต่รู้ดีว่านางในตอนนี้นั้นได้เก็บเอาความแค้นและความเกรี้ยวกราด แล้วก็ความโศกเศร้ากดไว้ในใจ แปรเปลี่ยนเป็นพลัง เพียงเพื่อจะเด็ดหัวของคนตรงหน้าไปสังเวยให้แก่หยวนหยวน!

เพราะคำพูดของนางทำให้นัยน์ตาของมู่เทียนอินเปลี่ยนไปเป็นดูเหี้ยมโหดขึ้นหลายส่วน เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “เจ้าคิดว่าเจ้าไม่พูดแล้วข้าจะไม่รู้งั้นหรือ? มู่ชิงเกอ!”

เขารู้มาตั้งแต่ตอนที่กำลังต่อสู้กันแล้ว เพราะได้ยินชื่อของเขาจากเพื่อนของเขา

มู่ชิงเกอเม้มริมฝีปากไม่พูดจา แววตาไม่มีความหวั่นไหวเลย

“อยากจะรู้ชื่อของข้าหรือไม่?” มุมปากของมู่เทียนอินกระตุกขึ้นอย่างเย็นชา

มู่ชิงเกอพูดอย่างแกนๆ ว่า “ไม่ได้สนใจ”

รอยยิ้มเย็นชาของมู่เทียนอินกลับยิ่งถูกกดลึกลงไปอีก “แต่ว่าข้ากลับอยากให้เจ้าจดจำคนที่จะฆ่าเจ้าเอาไว้ จำไว้ว่าข้าชื่อมู่เทียนอิน ประมุขคนต่อไปของตระกูลมู่!”

ภายในดวงตาของเขา ปรากฎร่องรอยของความบ้าคลั่ง แล้วก็ยังมีการลองเชิง

ดูเหมือนว่าเขาคิดที่จะใช้คำพูดเช่นนี้ไปยั่วยุมู่ชิงเกอ กระตุ้นให้เขาโมโหจนรู้สึกสับสนวุ่นวาย แต่น่าเสียดายที่เขาไม่รู้ว่า มู่ชิงเกอไม่ได้มีความสนใจอะไรในตำแหน่งประมุขตระกูลมู่เลย

เหตุผลที่มู่ชิงเกอฆ่ามู่เทียนอินนั้นง่ายมาก หนึ่งเพราะมู่เทียนอินอยากจะฆ่านาง สองก็เพราะว่าหยวนหยวนตายเพราะเขา เขาเป็นฆาตกรที่นางต้องล้างแค้น

ดังนั้น หลังจากมู่เทียนอินพูดประโยคนั้นแล้วมู่ชิงเกอไม่ มีปฏิกิริยาใดๆ นี่ก็ทำให้สีหน้าของมู่เทียนอินมืดครึ้มลงมา เขารังเกียจความรู้สึกที่เรื่องราวอยู่นอกการควบคุมเช่นนี้

เขาสามารถวางแผนการกับคนหลายคนได้ สามารถทำให้คนนับไม่ถ้วนเดินไปตามแผนการที่เขาวางเอาไว้ดุจดั่งอยู่ในฝ่ามือ แต่ว่ากลับมาถูกทำลายลงต่อหน้าของมู่ชิงเกอตลอด ความรู้สึกเช่นนี้ ทำให้เขารังเกียจถึงที่สุด ตอนนี้ถึงแม้ว่าจะไม่เป็นเพราะต้องการแย่งตำแหน่งประมุขตระกูลมู่ ไม่ทำเพื่อแย่งเคล็ดวิชาเทวะ เขาก็จะฆ่าคนตรงหน้าที่ทำให้เขารังเกียจนี้ให้ได้

“ฆ่าเจ้าแล้ว เจ้าก็ไม่นับเป็นสิ่งใด” มู่ชิงเกอใช้นํ้าเสียงที่เรียบเฉยพูดออกไปหนึ่งประโยค ชูทวนหลินหลงขึ้น แล้วพุ่งเข้าไปใส่มู่เทียนอินอีกครั้ง

กระบวนท่าทวนหลิงหลงถูกใช้ออกไป เพลงทวนที่ลํ้าลึก ทำให้คนตรงหน้าสับสนวุ่นวาย หาจุดอ่อนออกมาไม่ได้

แต่มู่เทียนอินก็ไม่ใช่คนที่จะต่อกรได้ง่ายๆ เช่นกัน เขาตวัดดาบหนักเข้าขวางทวนหลิงหลงของมู่ชิงเกอ

หากพูดว่าแต่ก่อน พลังฝึกปรือของมู่ชิงเกอไม่อาจเทียบเขาได้ มู่เทียนอินเพียงแค่เล่นกับเขา เช่นนั้นในตอนนี้ก็พูดได้ว่าเขาได้วางจิตใจที่ดูแคลนลงแล้ว ไม่อาจไม่ ตั้งใจต่อสู้ได้ เพราะว่าเพลงทวนของมู่ชิงเกอนั้นร้ายกาจมาก หากว่าไม่ใส่ใจก็จะถูกเขาค้นพบจุดอ่อน แล้วก็ไล่จัดการ

แม้ว่าปากของเขาจะยังแสดงถึงความดูแคลนอยู่ แต่ว่าในตอนนี้ก็ไม่อาจไม่ยอมรับได้ว่าหากทั้งสองคนอยู่ในระดับเดียวกัน มู่ชิงเกอนั้นเป็นคู่มือที่ยากจะต่อกรมากคนหนึ่ง เป็นหินที่ขวางทางการเป็นผู้สืบทอดตระกูลมู่ของเขา ดังนั้น มู่ชิงเกอจำเป็นต้องตาย! อีกทั้งยังต้องตายภายได้เงื้อมมือของเขา

ปัง ปัง ปัง!

ดาบหนักโจมตีไปบนทวนหลิงหลงของมู่ชิงเกอไม่หยุด ทำเอานิ้วของนางชาจนเกือบจะกุมทวนหลิงหลงเอาไว้ไม่อยู่

แต่นางกลับกัดฟัน กุมมันเอาไว้อย่างเหนียวแน่น บุกเข้าไปโจมตีมู่เทียนอินไม่หยุด

ทั้งสองคนต่อสู้กันจนยากที่จะแยกออก และก็ยากที่จะดูได้ว่าใครได้เปรียบหรือเสียเปรียบ

นางสามารถใช้พลังระดับสีทองชั้นสี่สู้ได้อย่างสูสีกับมู่เทียนอิน ก็เพียงพอแล้วที่จะแสดงให้เห็นแล้วว่า กระบวนท่าของนางนั้นแข็งกร้าวเพียงใด

ทันใดนั้น มู่เทียนอินก็พลิกกลับร่างฟาดออกมา ดาบหนักตกลงมาจากอากาศ ฟาดพุ่งเข้าไปยังหัวไหล่ของมู่ชิงเกอ

มู่ชิงเกอใช้สองมือกุมทวนหลิงหลงแน่น ขวางเป็นแนวนอนอยู่ด้านหน้าตรงกลางร่างกาย ขวางการโจมตีจากดาบหนักของมู่เทียนอิน

ปัง!

การโจมตีที่รุนแรง บีบจนมู่ชิงเกอต้องถอยหลังออกไป

“ย๊าก!” มู่เทียนอินคำรามออกมาแล้วก็ช่วงชิงความได้เปรียบ บุกเข้าโจมตีมู่ชิงเกออย่างต่อเนื่อง

ทั้งสองคน คนหนึ่งบุกคนหนึ่งถอย พลังจิตสีทองปะทะกันตลอดเวลา ระเบิดทำให้ชั้นนํ้าแข็งตามรายทางแตกออก และเกล็ดหิมะปลิวกระจาย

มู่เทียนอินยิ้มออกมาอย่างอำมหิต ลอบส่งพลังอันบ้าคลั่งของตนเองเข้าไปในดาบหนัก นี่เป็นพลังที่หลงเหลือหลังจากการใช้ขับเคลื่อนพลังแห่งกฎบัญญัติของเขา ที่คอยกัดกร่อนร่างกายอยู่ตลอด เขาสามารถใช้โอกาสนี้ ขับมันออกจากร่างกายแล้วก็ส่งเข้าไปในร่างของมู่ชิงเกอ

พลังอันบ้าคลั่งไหลผ่านจากดาบหนักเข้าไปในทวนหลิงหลง ดูเหมือนคิดที่จะไหลผ่านทวนหลิงหลงเข้าสู่มือของมู่ชิงเกอแล้วก็ค่อยเข้าไปในร่างกายของนาง

แต่ว่าหลังจากพลังอันบ้าคลั่งนี้เข้าไปสู่ทวนหลิงหลงแล้ว กลับไม่สามารถเข้าไปสู่ร่างกายของมู่ชิงเกอได้ ดูเหมือนว่าจะถูกกักขังไว้ในทวนหลิงหลง

กึก กึก กึก!

ทวนหลิงหลงเริ่มสั่นขึ้นมา ส่งเสียงออกมาไม่หยุด

มู่ชิงเกอรับรู้ถึงความผิดปกติ เงยหน้ามองไปยังมู่เทียนอิน มองไปเห็นรอยยิ้มเยาะเย้ยในแววตาอำมหิตของเขา

นัยน์ตาของนางฉายแววแข็งกร้าว ยกเท้าขึ้นถีบออกไป พลังจิตสีทองพุ่งเข้าไปในร่างกายของมู่เทียนอิน

“อึก!”

มู่เทียนอินโดนนางถีบ ชั่วขณะนั้นก็รู้สึกว่าอวัยวะภายในร่างกายขยับเคลื่อน เจ็บปวดจนอดไม่ไหว

เขาหงายหลังลอยออกไป ดาบหนักในมือตกพื้น แล้วก็กระอกเลือดออกมา

มู่ชิงเกอไม่ได้ไล่ตามไป เพราะว่าในตอนนี้ทวนหลิงหลงดูผิดปกติมาก!

ดูเหมือนว่านางจะกุมทวนหลิงหลงไม่อยู่ เพราะว่าทวนหลิงหลงอยากจะหลุดออกจากมือของนาง

“หลิงหลง!” มู่ชิงเกอร้องเรียกออกไป

อยู่ดีๆ ทวนหลิงหลงก็หลุดออกไปจากมือของนาง สั่น

สะท้านพุ่งไปยังมู่เทียนอิน ดูเหมือนว่าคิดจะฆ่ามู่เทียนอิน

นัยน์ตาทั้งคู่ของมู่เทียนอินหดตัวลง เรียกดาบหนักของตนเองมาในทันที ดาบหนักที่ตกอยู่บนพื้นไปปรากฎอยู่ ตรงหน้าของมู่เทียนอินในทันที สอดเข้าไปในชั้นนํ้าแข็ง ตรงหน้าของเขาเหยียดตรงดุจดงโล่

ทวนหลิงหลงแทงไปบนดาบหนัก ทำให้บนดาบหนักสีดำปรากฎร่องรอยขึ้นหลายรอย ส่วนทวนหลินหลงก็ถูกสะท้อนดีดตัวกลับมา ลอยมายังตรงหน้าของมู่ชิงเกอ

เพียงแต่ว่า มันกลับหยุดอยู่ตรงหน้าของมู่ชิงเกอ ปลายทวนชี้ตรงขึ้นสู่ฟ้า ตัวทวนสั่นไม่หยุด ในร่างของมันดูเหมือนว่าจะมีพลังอะไรบางอย่างที่กำลังทำลายมันอยู่ “หลิงหลง…” มู่ชิงเกอมองทวนหลิงหลงอย่างตกตะลึง

ทันใดนั้น ทวนหลิงหลงก็ส่งเสียงร้องโหยหวนออกมา มันทำให้ตนเองหักออกเป็นสองท่อน ตกลงไปบนชั้นนํ้าแข็ง

“หลิงหลง!” มู่ชิงเกอตกใจมาก พุ่งเข้าไปหยิบทวนหลิงหลงขึ้นมาจากบนชั้นนํ้าแข็ง

เพียงแต่ว่า ตอนนี้นางทำได้เพียงมือหนึ่งถือหัวทวน อีกมือหนึ่งถือลำทวนที่หัก

“ชิ เป็นเพียงแค่ยุทธภัณฑ์ระดับเทวะกลับยังมีจิตวิญญาณของตนเอง ยอมที่จะหักตัวเองก็ไม่ยอมที่จะเป็นผู้ช่วยทำร้ายเจ้านายของตนงั้นหรือ?” เสียงดูแคลนของมู่เทียนอินดังเข้ามา

มู่ชิงเกอกลับเข้าใจอะไรขึ้นมาจากคำพูดนี้ของเขา ดวงตาทั้งคู่ของนางแดงก่ำมองไปยังมู่เทียนอิน ตะคอกถามไปว่า “เจ้าทำอะไรลงไป?”

มู่เทียนอินล้มอยู่บนพื้น ชุดก็เปื้อนไปด้วยเลือด ถึงแม้ว่าครึ่งหนึ่งของเส้นเลือดบนใบหน้าเขาจะยังบวมอยู่ แต่กลับไม่ได้รุนแรงเท่าแต่ก่อน เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของมู่ชิงเกอ เขาก็พูดขึ้นอย่างได้ใจว่า “ข้าเพียงแค่คิดใช้ทวนของเจ้าส่งพลังในร่างบางส่วนให้แก่เจ้าก็เท่านั้น”

แต่ว่าน่าเสียดาย…

สายตาของมู่เทียนอินตกลงไปบนทวนหลินหลงที่หัก แล้วนัยน์ตาก็เปลี่ยนเป็นอำมหิตขึ้น

เป็นแค่ทวนเล่มหนึ่งก็กล้าทำลายแผนการของเขา!

มู่ชิงเกอหรี่ดวงตาเล็กลง นัยน์ตาฉายแววโกรธแค้น ความแค้นในใจของนางเผาไหม้จนดวงใจของนางเจ็บปวดยิ่งขึ้นไปอีก

เริ่มจากหยวนหยวนก่อนแล้วก็มาเป็นทวนหลิงหลง…

มู่ชิงเกอหาเหตุผลที่จะไม่ฆ่ามู่เทียนอินไม่ได้แล้ว!

มู่เทียนอินไอเบาๆ ออกมาไม่กี่คำ แล้วก็ลุกขึ้นมาจากพื้น ส่งสายตาที่ดูยั่วยุไปให้มู่ชิงเกอ แล้วก็ตวัดดาบหนักของตนเองออกมา เขามองเห็นร่องรอยบนดาบหนักแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ

อย่างน้อยอาวุธของเขาก็ยังสามารถใช้ต่อสู้ได้อยู่ ส่วนของมู่ชิงเกองั้นหรือ?

เขาหัวเราะขึ้นมา “มู่ชิงเกอ ตอนนี้เจ้าไม่มีแม้แต่อาวุธยังจะต่อสู้กับข้าอย่างไรอีก? ระดับพลังที่เจ้าเพิ่มขึ้นมา ตอนนี้เกรงว่าคงจะใกล้ฝืนต่อไม่ไหวแล้วใช่ไหม?”

“เพียงพอที่จะฆ่าเจ้า!” มู่ชิงเกอพูดด้วยนํ้าเสียงที่เข้มไปหนึ่งประโยค แล้วก็พุ่งตัวไปหามู่เทียนอินทันที มือของนางกุมทวนหลินหลงที่หักไว้แน่น ใส่พลังจิตเข้า ไปในทวนหลินหลง ทำให้มันยังคงแหลมคมดุจเดิม แทงไปยังหัวใจของมู่เทียนอิน

นางอยากจะควักหัวใจของเขาออกมาแล้วก็บีบให้เละต่อหน้าเขา!

การโจมตีของมู่ชิงเกอทำให้นัยน์ตาของมู่เทียนอินดูเข้มขึ้น เขาข่มกลั้นความเจ็บปวดภายในร่างกาย ชูดาบหนักขึ้นขัดขวาง

แต่ว่ากระบวนท่าของมู่ชิงเกอเปลี่ยนเป็นยิ่งแข็งกร้าวมากขึ้น ทั้งยังตามติดอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะไม่มีอาวุธ แต่กลับยิ่งทำให้นางเข้าประชิดตัวมู่เทียนอินได้มากขึ้น ท่าทางการโจมตีที่ไม่กลัวตายเช่นนี้ของนาง ทำให้มู่เทียนอินต้องถอยหลบหลีกอย่างต่อเนื่อง

แต่ว่าการโจมตีทุกครั้งของเขาเมื่อตกเข้าไปบนร่างกายของมู่ชิงเกอ ก็ล้วนแต่กลายเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดูเหมือนว่าไม่เคยมีการโจมตีก็ไม่ปาน สิ่งนี้ทำให้เขาโมโหมาก

มู่เทียนอินเกิดความแค้นในใจ ขับเคลื่อนพลังแห่งกฎบัญญัติอีกครั้ง แม้ว่าจะต้องได้รับพลังสะท้อนกลับมากไปกว่านี้ เขาก็ต้องฆ่ามู่ชิงเกอให้ได้

เขายิ้มอย่างอำมหิต พูดกับมู่ชิงเกอว่า “ข้าจะดูสิว่าครั้งนี้จะยังมีใครสามารถต้านทานแทนเจ้าได้อีก!”

พลังแห่งกฎบัญญัติค่อยๆ รวบรวมพลังขึ้นบนร่างกายของเขา เมฆลมในช่องว่างหานชุ่นเปลี่ยนสีอีกครั้ง แต่มู่ชิงเกอกลับไม่ได้ถอย ยังคงบีบเข้าไปหามู่เทียนอิน ดังเดิมเลือดเนื้อบนมือของนางถูกพลังแห่งกฎบัญญัติของมู่เทียนอินกวาดล้างไป สายเลือดหยดลงปรากฎให้เห็นกระดูกสีขาว แต่นางก็ยังคงกุมทวนหลิงหลงที่หักเอาไว้อย่างเหนียวแน่นดังเดิม ไม่ร้องออกมาสักคำ พุ่งเข้าโจมตีมู่เทียนอินต่อ ท่าทางที่ดูโหดเหี้ยมของนางนี้ ทำให้สีหน้าของมู่เทียนอินเปลี่ยนไป นัยน์ตาที่เย็นยะเยือกเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“อ๊าก!”

ทันใดนั้น พลังแห่งกฎบัญญัติที่กำลังรวบรวมก็หายไป แขนที่ถูกตัดให้ขาดปลิวลอยไปกลางอากาศ แล้วก็ตกลงไปบนพื้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version