ตอนที่ 337
ชั้นหนึ่งเริ่มกิจการการประมูล
ผู้คนทยอยหลั่งไหลเข้ามาในเมืองตามวันเวลาที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
ไม่เพียงแต่บรรดาตระกูลต่างๆ เท่านั้นที่ถูกยุทธภัณฑ์ชั้นมหาเทพดึงดูด ยังมีผู้นำทั้งสามของกองกำลังหลิวเค่อ รวมไปถึงกองกำลังอื่นๆ ล้วนแต่พากันมาที่นี่
เมืองที่เคยจมอยู่ในภาวะหลับใหลมานับหมื่นปี ในที่สุดก็ฟื้นตื่นขึ้นมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง ตามที่มู่ชิงเกอวางแผนไว้
ก่อนที่จะจัดงานเลี้ยงหลัก งานจัดแสดงยุทธภัณฑ์ของตระกูลซางก็เปิดขึ้นแล้ว ที่ จัดขึ้นพร้อมกันก็คือการหลอมศาสตราต่อหน้าผู้คน
ส่วนยุทธภัณฑ์ชั้นเทวะที่ซางซุ่นหวางนำมาด้วย หลังจากให้ผู้คนได้ชมดูและเกิดความอยากได้มาสองวันแล้ว ก็ถูกเก็บเข้าหีบนำเข้าไปในชั้นหนึ่ง เตรียมไว้เพื่อการประมูลต่อไป
ไม่กี่วันมานี้ ภายในลั่วซิงเฉิงนั้นคึกคักผิดปกติ ยามกลางวัน มีกิจกรรมที่ทำให้คนสนใจมากมาย ยามกลางคืนก็มีบรรยากาศอันงดงามแปลกตาให้ชื่นชม ทำให้คนที่พักอยู่ที่นี่ล้วนแต่รู้สึกว่าตนเองนั้นได้ตกเข้าไปในโลกแห่งความฝัน
การประมูลแรกของชั้นหนึ่ง ถูกมู่ชิงเกอวางแผนไว้ก่อนวันงานเลี้ยงหนึ่งวัน ถือว่าเป็นการอุ่นเครื่อง เพราะว่าเวลานี้คนที่สมควรมาก็มาหมดแล้ว ซึ่งจะทำให้การประมูลเป็นไปอย่างคึกคักมากยิ่งขึ้น
“ชั้นหนึ่ง! ” “เหตุใดชื่อถึงได้ดูประหลาดเช่นนี้?”
“ชั้นหนึ่ง? ชั้นหนึ่งนี้มีไว้ทำอะไร?”
ด้านนอกอาคารที่มีรูปร่างเหมือนหอคอย มีคนรวมตัวกันอยู่มากมาย ในตอนที่ผ้าไหมสีแดงที่ปิดป้ายเอาไว้ถูกดึงออกแล้ว เผยอักษรอ่านว่า ‘ชั้นหนึ่ง’ ขึ้นมานั้น ภายในกลุ่มคนก็พากันพูดคุยวิเคราะห์กันขึ้นมา บรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ของตระกูลต่างๆ ยังมีบรรดาเสาหลักของหลิวเค่อ ต่างพากันซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มคน มองฉากนี้อย่างครุ่นคิด รอทางลั่วซิงเฉิงอธิบาย
หยินเฉินเดินออกมาภายในสายตาจ้องมองของคนนับหมื่น
เมื่อผมยาวสีขาวเงินทั้งหัว ดวงตาสีโลหิต ใบหน้างดงามของเขาปรากฎขึ้นต่อหน้าผู้คน ก็ทำให้ผู้คนพากันตกตะลึง
แน่นอนว่าในบรรดาคนที่ส่งเสียงอุทานอย่างตกตะลึงออกมา ส่วนมากล้วนแต่เป็นผู้หญิง
หยินเฉินยิ้มบางๆ เอ่ยกับทุกคนว่า “ทุกท่าน ขอบคุณทุกท่านที่มาเป็นแขกของลั่วซิงเฉิง ด้านหลังของข้า เป็นโรงประมูลพิเศษของลั่วซิงเฉิง ที่นี่จะทำการประมูลของสองอย่างเป็นหลัก นั่นก็คือ ยุทธภัณฑ์และโอสถ”
ในตอนที่เขาพูดว่า ‘โอสถ’ออกมานั้น ในมุมๆ หนึ่งของกลุ่มคน ก็มีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาสง่างามคนหนึ่งเผยร่องรอยสงสัยและสนใจออกมาทางแววตา
“ยุทธภัณฑ์และโอสถ?”
“นี่ถือว่าไม่เลว ต่อไปหากว่าขาดยุทธภัณฑ์และโอสถก็ล้วนแต่สามารถมาซื้อได้ที่ลั่วซิงเฉิง”
ภายในกลุ่มคนค่อยๆ เกิดการพูดคุยกันขึ้น
หยินเฉินเอ่ยอีกว่า “วันนี้ เป็นวันแรกในการเริ่มประมูลของชั้นหนึ่ง เจ้านายของข้าตอบแทนการรอคอยของทุกท่าน ตั้งใจเตรียมยาระดับเทวะห้าเม็ด ยาระดับสมบัติสิบเม็ดมาเป็นพิเศษ ยังมีก่อนหน้านี้สองวันยุทธภัณฑ์ชั้นเทวะสองชิ้นที่แสดงที่งานจัดแสดงสินค้าของตระกูลซาง ก็จะมาจัดประมูลในวันนี้ด้วย หากว่ามีความสนใจ ทุกท่านสามารถเข้ามาร่วมประมูลได้”
“อะไรนะ! ยาระดับเทวะ!”
“ยุทธภัณฑ์ชั้นเทวะก็เอามาประมูล!”
“เหอ เหอ ถึงแม้ว่าแย่งเอายาระดับเทวะไม่ได้ มียาระดับสมบัติก็ดีแล้ว!”
กลุ่มคนพากันวุ่นวายขึ้นเพราะคำพูดของหยินเฉิน
มีคนจำนวนไม่น้อยที่อดใจไม่ไหวเบียดกันเข้าไปยังประตูใหญ่ด้านหลังของเขา ส่วนบรรดาคนของตระกูลใหญ่ ก็ล้วนแต่มีความคิดที่จะต้องได้ยาระดับเทวะและ ยุทธภัณฑ์ชั้นเทวะมาครอบครอง ตามเข้าไปในประตูใหญ่
“ถึงกับมียาระดับเทวะด้วย ช่างทำให้คนเหนือความคาดหมายจริงๆ” ผู้ชายที่มีใบหน้าหล่อเหลาคนนั้นพูด เบาๆ ออกมาหนึ่งประโยค
“ประมุขน้อย ท่านจะเข้าไปหรือไม่?” บ่าวที่อยู่ข้างกายของเขากระซิบถามเบาๆ
เขามองไปยังป้ายของชั้นหนึ่ง แล้วพยักหน้าก้าวไปข้างหน้า “ในเมื่อดูน่าสนใจขนาดนี้ ก็เข้าไปดูหน่อย”
ดูเหมือนว่าที่เขาสนใจจะไม่ใช่ยุทธภัณฑ์ชั้นเทวะที่หลากหลายคนต้องการ แต่เป็นยาระดับเทวะห้าเม็ดนั้น
ชั้นล่างของชั้นหนึ่งมีคนเบียดแน่นกันเต็มอย่างรวดเร็ว บรรดาตระกูลที่มีศักดิ์และสถานะ ก็อาศัยอำนาจของตระกูลล้วนแต่ขึ้นไปบนห้องรับรองส่วนตัวบนชั้นสอง ชั้นสามหรือชั้นสี่
ภายในของชั้นหนึ่ง เป็นรูปวงกลม ทุกๆ ตำแหน่งและทุกๆ ห้องรับรองส่วนตัวล้วนแต่ล้อมรอบแท่นประมูล ทุกๆ มุมล้วนแต่เห็นเหมือนกัน
ชั้นห้านั้นหันหน้าเข้ากับแท่นประมูล ทั้งชั้นมีห้องรับรองส่วนตัวเพียงแค่ห้องเดียว และก็เป็นห้องของมู่ชิงเกอ
“โรงประมูลของเจ้าไม่เลวจริงๆ” จีเหยาฮั่วพาดตัวอยู่บนราวกั้นในห้องที่หันหน้าเข้าหาแท่นประมูล ยิ้มแล้วหันไปมองมู่ชิงเกอที่นั่งอยู่ด้านหลัง
มู่ชิงเกอส่ายหน้าอย่างหมดทางเลือก หยิบจอกชาที่ชงเอาไว้แล้วส่งมาที่ริมฝีปากแล้วดื่มลงไปคำหนึ่ง ถึงเอ่ยขึ้นว่า “เจ้าไม่ไปห้องของตระกูลจีของเจ้างั้นหรือ มาอยู่ที่ห้องของข้าทำอะไร?”
ด้วนมิตรภาพ นางก็ได้เหลือห้องรับรองส่วนตัวให้จีเหยาฮั่ว อิ๋งเจ๋อ หานฉายไฉ่แล้วก็ยังมีฉินอี้เหยาเป็นพิเศษแล้ว
แต่ว่า คนเหล่านั้นก็จากไปหลังจากที่ชมห้องของนางเสร็จ แต่จีเหยาฮั่วกลับลอบวิ่งกลับมา ทั้งยังแสดงท่าทางที่ไล่ไม่ยอมไปนั้นออกมาอีก
จีเหยาฮั่วยิ้มเอ่ยว่า “ในเมื่อเจ้าก็ตกลงว่าจะหลอมอาวุธให้ข้าแล้ว เช่นนั้นยุทธภัณฑ์ชั้นเทวะสองขึ้นนั้นก็ไม่น่าสนใจสำหรับข้าอีกต่อไป สำหรับยาระดับเทวะ ผู้เฒ่าบ้านข้ายังพอมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกผู้อาวุโสของ สำนักวิถีโอสถของภาคตะวันออกอยู่บ้าง ดังนั้นก็ไม่ได้ขาดแคลนอะไร ในเมื่อข้าทั้งไม่เข้าร่วมและไม่ประมูล ยังไม่สู้มาอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนเจ้า”
“ไม่จำเป็น” มู่ชิงเกอวางจอกชาลง เอ่ยเสียงเรียบออกมา
จีเหยาฮั่วกลับทำเหมือนไม่สะทกสะท้านใดๆ ยิ้มเอ่ยว่า “อย่าเป็นเช่นนี้เลย เจ้าเพิ่งจะมาคงมีหลายคนที่ยังไม่รู้จัก ข้าอยู่ที่นี่ หากว่ามีคนที่เจ้าสนใจก็จะได้แนะนำให้เจ้าฟัง”
มู่ชิงเกอหมดคำที่จะพูด เอ่ยในใจว่า ‘ดูแล้ว เจ้าผู้ชายคนนี้คงไม่ยอมไปแน่แล้ว แต่เอาเถอะ ตามใจเขาก็แล้วกัน’
มู่ชิงเกอคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็รู้สึกว่าว่าที่จีเหยาฮั่วอยู่ต่อก็ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง จึงปล่อยตามใจเขา
“รีบมาดู นั่นก็คือธิดาเทพของตระกูลซี จุ๊จุ๊ รูปร่างนี้ช่างหาได้ยากยิ่ง น่าเสียดายที่ใบหน้ามีผ้าคลุมเอาไว้ ดูรูปโฉมได้ไม่ชัด นางเดินเข้าไปในห้องรับรองส่วนตัวชั้นสองแล้ว” จีเหยาฮั่วพูดขึ้นมา
เขาหันไปอย่างตื่นเต้น กลับพบว่ามู่ชิงเกอนั้นดูเรียบเฉยมาก ไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย
เขาพุ่งเข้าไปหาอย่างแปลกใจ เอ่ยกับนางว่า “ธิดาเทพของตระกูลซีมา! สาวงามมา! ข้าเคยเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของนางจากไกลๆ แล้ว พูดความจริงรูปโฉมของนางไม่ได้ด้อยไปกว่าน้องสาวของเจ้าเลยแม้แต่น้อย บางที่อาจจะเหนือลํ้ากว่าถึงขั้นหนึ่ง เจ้าไม่ได้สนใจเลยสักนิดหรือ?”
“มีอะไรให้น่าสนใจงั้นหรอ?” มู่ชิงเกอเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างสงสัย
นางไม่ใช่ผู้ชายเสียหน่อย ผู้หญิงสวยงามไม่สวยงาม แล้วเกี่ยวข้องอะไรกับนาง? อีกอย่าง ซีเซียนเสวี่ยนั้นไม่เพียงแต่นางเคยพบเห็นแล้ว แต่ยังเคยตีก้นของนางอีก ด้วย…
คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนั้นแล้ว ใบหน้าของมู่ชิงเกอก็เผยท่าทีแปลกๆ ออกมาแวบหนึ่ง
“เจ้าเป็นอะไรไป? ดูเหมือนว่าจะรู้สึกกระดากใจอะไรบางอย่าง” จีเหยาฮั่วเอ่ยถามอย่างสงสัย
“ไม่มีอะไร” มู่ชิงเกอหลุบตาลง หยิบจอกชาขึ้นมาดื่มคำหนึ่ง หลีกเลี่ยงประเด็นนี้ของเขา
จีเหยาฮั่วพิจารณานางแวบหนึ่ง เห็นนางไม่ยินยอมที่จะพูด ก็ไม่ได้ซักไซ้ต่อ กลับไปพาดตัวอยู่บนราวเพื่อ ‘ลอบมอง’ ต่อ
ไม่นาน ภายในชั้นหนึ่งก็มีคนนั่งเต็ม
เซวี่ยนหย่าเดินออกมาพร้อมกับเรือนร่างที่เปี่ยมเสน่ห์ ยืนอยู่บนแท่นประมูลต่อหน้าผู้คน
“สวัสดีทุกท่าน ข้าเป็นผู้จัดการประมูลครั้งแรกของชั้นหนึ่ง เซวี่ยนหย่า” เมื่อเซวี่ยนหย่ายืนขึ้นมา ด้วยลักษณะภายนอกที่ดูยั่วยวนก็ดึงดูดสายตาสนอกสนใจของผู้คนจำนวนมากในทันที
เสียงจ้อกแจ้กจอแจค่อยๆ จางหายไป ทุกคนจับจ้องที่ตัวนาง
“ว้าว! สามงามชั้นยอด! ชิงเกอเจ้าไปหาสาวงามจากที่ไหนมาเยอะแยะน่ะ? ข้าดูสาวใช้ข้างกายของเจ้าเหล่านั้นก็ล้วนแต่โดดเด่น” จีเหยาฮั่วเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น
มุมปากของมู่ชิงเกอกระตุก ไม่ตอบ
ให้เซวี่ยนหย่าเป็นผู้จัดการประมูลก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ธุรกิจการประมูลนี้ มู่ชิงเกอสรุปจากประสบการณ์ของชาติก่อน พบว่าผู้จัดการประมูลผู้หญิงนั้นเป็นที่นิยมของผู้คนมากกว่าผู้จัดการประมูลผู้ชาย เพราะว่าผู้ชายทุกคนล้วนแต่มีจิตใจที่ต้องการจะโอ้อวด ชอบที่จะแสดงพลังอำนาจของตนเองต่อหน้าสาวงาม
แต่ว่า เพียงชั่วเวลาหนึ่งหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ คิดไปคิดมาก็มีเพียงเซวี่ยนหย่าที่เหมาะสมที่สุด
ดังนั้นจึงรีบจัดการอบรมอย่างเร่งรีบไปรอบหนึ่ง เซวี่ยนหย่าก็ได้เริ่มทำงานแล้ว รอวันต่อๆ ไปหาคนที่เหมาะสมได้แล้ว นางค่อยถอยลงมา
“ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าร่วมการประมูลครั้งแรกของชั้นหนึ่ง ขณะเดียวกัน ข้าก็ขอประกาศกฎของชั้นหนึ่งให้ทุกท่านได้ทราบ หนึ่ง ชั้นหนึ่งรับเงินสดเท่านั้น ไม่มีการมัดจำไว้ก่อน ดังนั้นหากทุกท่านไม่ได้เอาเงินมาอย่างเพียงพอก็อย่างได้เสนอราคามั่วๆ อีกอย่างชั้นหนึ่งใช้คิลาวิญญาณเป็นสกุลเงิน หากศิลาวิญญาณไม่พอ หากมีของมีค่าอื่นๆ ก็สามารถแลกเปลี่ยนกับชั้นหนึ่งเพื่อให้มีศิลาวิญญาณเพียงพอในการเข้าร่วมประมูลต่อได้ สุดท้าย ภายในชั้นหนึ่งห้ามก่อเรื่องเด็ดขาด หากว่าก่อเรื่อง ก็จะถูกเพิกถอนสิทธิ์ในการประมูลทันที อีกทั้งยังไม่อนุญาตให้เข้ามาในลั่วซิงเฉิงอีกแม้แต่ก้าวเดียว”
เสียงของเซวี่ยนหย่านั้นน่าฟังมาก แม้จะเป็นกฎที่ดูเข้มงวดโหดร้ายมากก็ทำให้คนฟังๆ อย่างสนใจ
จากนั้นนางก็ยิ้มเอ่ยว่า “เพิ่มเติมเล็กน้อย ต่อไปทุกๆ หนึ่งเดือนชั้นหนึ่งจะเปิดประตูหนึ่งครั้งเพื่อจัดการประมูลธรรมดา คนที่เข้ามาในลั่วซิงเฉิงทุกคนสามารถ เข้าร่วมได้”
“อะไรที่เรียกว่าจัดการประมูลธรรมดา? หรือว่ายังมีที่ไม่ธรรมดางั้นหรือ?” ภายในกลุ่มคนมีคนที่อดใจรอไม่ได้ พูดออกมา
เซวี่ยนหย่ายิ้มไปทางคนที่พูดเล็กน้อย พยักหน้า “ไม่ผิด! นอกจากการจัดการประมูลทุกๆ หนึ่งเดือนแล้ว ทุกครึ่งปีจะมีการประมูลสินค้าที่มีคุณภาพสูง แต่ว่าคนที่สามารถเข้าร่วมการประมูลต้องมีคุณสมบัติก่อน”
“คุณสมบัติอะไร?”
“ใช่แล้ว! ต้องการคุณสมบัติอะไร?”
กลุ่มคนถูกเซวี่ยนหย่าทำให้เกิดความสนใจขึ้น
เซวี่ยนหย่ายิ้มอย่างสง่างาม “ที่จริงแล้วคุณสมบัติก็ไม่ได้ยากอะไร ต้องการเพียงแค่เงื่อนไขเดียวนั้นก็คือต้องจ่ายศิลาวิญญาณระดับกลางพันก้อนเป็นมัดจำ กลาย เป็นสมาชิกของชั้นหนึ่ง จากนั้นก็จะมีบัตรยืนยันตัวตน ในการร่วมการประมูลของชั้นหนึ่งทุกครั้ง ของที่ประมูลยิ่งมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีคุณสมบัติที่โดดเด่นมากยิ่งขึ้น ในการประมูลครั้งต่อไปก็สามารถเพลิดเพลินไปกับราคาส่วนลดพิเศษได้”
“ราคาส่วนลดพิเศษ? นี่คืออะไรกัน?” จีเหยาฮั่วหันไปถามมู่ชิงเกอ
มู่ชิงเกอเลิกคิ้วเอ่ยขึ้นว่า “หากว่าเจ้าประมูลอะไรมาได้ในราคาศิลาวิญญาณระดับกลางพันก้อน แต่เจ้าเป็นสมาชิกอีกทั้งแต่ก่อนมีบันทึกการซื้อขายอยู่ ก็สามารถจ่ายเพียงแค่ศิลาวิญญาณระดับกลาง 900 ก้อนก็เอาของออกไปได้ยิ่งมีการซื้อมาก ราคาส่วนลดพิเศษก็จะยิ่งมากตามไปด้วย”
พูดจบแล้ว นางก็มองไปที่จีเหยาฮั่ว ส่วนอีกฝ่ายก็อ้าปากค้างเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง
ภายในอีกห้องบนชั้นสาม หลังจากหานฉายไฉ่ได้ฟังเซวี่ยนหย่าอธิบายจบ ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจในใจ ‘มู่ชิงเกอนะมู่ชิงเกอ เจ้าไม่ทำการด้านั่นถือว่าน่าเสียดายพรสวรรค์จริงๆ! เจ้ายังมีความสามารถที่เจิดจ้าอะไรอีกบ้างที่ข้ายังไม่พบ เห็น?’
“เอาละ กฎนั้นทุกท่านก็ล้วนแต่ชัดเจนดีแล้ว ต่อไปพวกเรามาดูของประมูลชิ้นที่หนึ่ง ยาระดับเทวะหนึ่งเม็ด” เซวี่ยนหย่าพูดจบแล้ว ก็มีสาวใช้ที่แต่งตัวสวยงาม ใช้สองมือถือขวดยาขวดหนึ่งเดินขึ้นมา