Skip to content

พลิกปฐพี 418

ตอนที่ 418

พระชายานำทัพ!

เมื่อจี่ฝูมาถึงวังซานไห่ ก็เห็นมู่ชิงเกอกำลังศึกษาแผนที่ของแดนมารอยู่

ส่วนกู่หยาและกู่เย่ก็ไม่ได้ห้ามปรามความคิดอันบ้าคลั่งของนาง เพียงแต่คอยอธิบายจุดสำคัญๆ ให้แก่นาง

สิ่งนี้ทำให้จี่ฝูขมวดคิ้วและเร่งความเร็วขึ้น

“พระชายา” จี่ฝูเดินเข้าไปใกล้แล้วร้องเรียก

มู่ชิงเกอเงยหน้ามองเขาแวบหนึ่งแล้วก็พยักหน้า “มาแล้วหรือ”

จี่ฝูพยักหน้าแล้วขมวดคิ้วถามว่า “พระชายาจะไปแม่นํ้าเมิ่งหลานจริงๆ น่ะหรือ?”

มู่ชิงเกอพยักหน้าอย่างแน่ใจ ขมวดคิ้วมองเขาแล้วถามว่า “เจ้าคิดว่าข้าล้อเล่นงั้นหรือ?”

จี่ฝูขมวดคิ้วแน่นขึ้นแล้วเอ่ยว่า “พระชายา ในสนามรบนั้นดาบกระบี่นั้นไร้ตา อีกอย่างอีกฝ่ายก็ยังเป็นเผ่าอี้ที่น่าปวดหัวอีก หากว่าท่านไปแล้วเกิดอะไรขึ้น พวกเรา จะพูดกับองค์ราชาว่าอย่างไร?”

“ไม่จำเป็นต้องห่วงข้า ข้าไม่ได้อ่อนแอถึงขนาดนั้น” มู่ชิงเกอพูดเรียบๆ ถึงแม้ว่าพลังฝึกปรือของนางจะไม่ได้เยี่ยมยอดมากในเมืองแห่งมาร แต่ก็ไม่ได้อ่อนแอถึง ขนาดนั้น เพราะว่านางไม่ได้พึ่งแต่พลังฝึกปรือแต่ยังมีกลวีธีอี่นๆ อีกมากมาย

หากเห็นท่าไม่ดีนางก็สามารถเข้าไปหลบในช่องว่างได้

แล้วจะยังมีใครทำอะไรนางได้อีก

แต่คำพูดเหล่านี้นางไม่ได้อธิบายให้จี่ฝูฟัง

“เจ้าเมืองย่อยจี่ฝู พวกเราจะคอยอยู่ข้างกายพระชายา จะไม่ให้นางเกิดเรื่องอะไรได้” กู่หยาเอ่ย

สิ่งนี้ทำให้จี่ฝูไม่พอใจมากขึ้น เขามองกู่หยาและกู่เย่ อย่างแข็งกร้าว ตำหนิว่า “พวกเจ้ารู้ทั้งรู้ว่าตอนนี้พระชายามีความเกี่ยวพันถึงเรื่ององค์ทายาทของแดนมาร ไม่ห้ามปรามก็แล้วไปเถิด ยังทำตัวเหลวไหลไปด้วยอีก!”

ใช่! เหลวไหล! ไม่ผิด การที่มู่ชิงเกอเอาแต่ใจตนเองอยากจะไปแนวหน้าเช่นนี้ สำหรับพวกเขาเจ้าเมืองย่อยทั้งหลายแล้วก็คือเรื่องเหลวไหล

กู่หยาและกู่เย่สบตากันแวบหนึ่ง นัยน์ตาฉายแววขมขื่น ใครจะโน้มน้าวใจคุณชายได้เล่า?

เกรงว่าแม้แต่องค์ราชามาเองก็ยังได้แต่ยอมตามใจ

อีกอย่าง เดิมทีมู่ชิงเกอก็ตั้งครรภ์ปลอมๆ แล้วจะกังวลเรื่องทายาทอีกทำไม?

“เจ้าเมืองย่อยจี่ฝู…” กู่เย่หมดทางเลือกคิดจะพูดโน้มน้าวใจ

แต่เขาเพิ่งจะเอ่ยปากก็ถูกมู่ชิงเกอตัดบท มู่ชิงเกอมองจี่ฝูด้วยท่าทีที่ดูเรียบเฉยแล้วเอ่ยกับเขาว่า “ที่เรียกเจ้ามา ไม่ใช่เพื่อจะฟังเจ้าโต้แย้ง เจ้าฟังให้ดีว่าที่ข้าให้เจ้าอยู่ที่ นี่นั้นเพื่ออะไร?”

นัยน์ตาของจี่ฝูหดตัวลงมองมู่ชิงเกออย่างตึงเครียด

มู่ชิงเกออ้อมโต๊ะมาที่ตรงหน้าของเขาแล้วพูดว่า “เจ้าเคยคิดหรือไม่ว่า เหตุใดข้าจึงนำคนของพวกเจ้าไปเพียงแปดหมื่นคน แต่กลับนำคนของพวกสั่วเซิ่งไปหนึ่งแสนสองหมื่นคน?”

จี่ฝูหรี่ตาเล็กลง เข้าจ้องมองใบหน้าของมู่ชิงเกอ ความคิดค่อยๆ ถูกชักจูงไป ครุ่นคิดถึงคำถามทั้งสองคำถามนี้

ทำไม”?

ทำไมถึงเหลือเขาเอาไว้?

เหตุใดจึงนำคนของพวกสั่วเซิ่งไปมากขนาดนั้น?

ทันใดนั้นนัยน์ตาของเขาก็เปล่งประกายแสงขึ้นมาสายหนึ่ง ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจความคิดของมู่ชิงเกอแล้ว “พระชายาคิดจะให้ข้าอยู่เพื่อรั้งซู่เหยียนและซู เฉวียน!” จี่ฝูเบิกตากว้าง มองมู่ชิงเกออย่างตกตะลึง

มู่ชิงเกอพยักหน้า พูดว่า “ไม่ผิด สั่วเซิ่งและเซ่อฉินนั้น เป็นหัวโจกในบรรดาสี่คน ข้าพาพวกเขาไปแล้วก็จะทำให้ซู่เหยียนและซูเฉวียนสงบลง ส่วนทหารที่เหลือของพวกเขาเมื่อไม่มีผู้นำก็ไม่น่ากลัวอะไร ส่วนเจ้านั้นมีความสุขุมรอบคอบ ให้เจ้าอยู่ดูแลพระราชวังไท่ฮวงนั้น ทำให้ข้าวางใจ”

จี่ฝูตกตะลึงในใจ!

พระชายาผู้นี้เพิ่งมาได้กี่วัน? ไม่ถึงสามวันก็สามารถมองพวกเขาบรรดาเจ้าเมืองย่อยจนทะลุปรุโปร่งแล้ว ทั้งยังจัดทัพได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

แต่จี่ฝูก็พูดอย่างเป็นห่วงขึ้นมาว่า “หากเป็นเช่นนี้แล้ว พระชายาก็จะยิ่งอันตราย เดิมทีสนามรบก็วุ่นวายอยู่ แล้วหากว่าพวกสั่วเซิ่งคิดจะฉวยโอกาสทำร้ายพระชายา เช่นนั้นแล้ว…,

ไม่ใช่ไม่ไว้ใจในความสามารถของกู่หยาและกู่เย่ เพียงแต่ภายในสนามรบนั้นวุ่นวายมาก เขากลัวว่าพวกสั่วเซิ่งจะฉวยโอกาสทำอะไรที่เป็นอันตรายต่อนาง

“เจ้าวางใจเถอะ ข้าจะไม่ให้พวกเขามีโอกาส” มู่ชิงเกอยิ้มบางๆ เผยรอยยิ้มมั่นใจออกมา

จี่ฝูมองรอยยิ้มของนางแล้วก็ชะงักไป ความกังวลในใจละลายหายไปพร้อมกับรอยยิ้ม

ทหารมารสองแสนนายเตรียมพร้อมออกเดินทาง

กองทัพยังไม่เคลื่อนตัว แต่ให้เสบียงไปก่อน หลังจากบอกลามู่ชิงเกอแล้วชิงเจ๋อและหลิงจิวที่รับผิดชอบเคลื่อนย้ายเสบียงก็ได้ล่วงหน้าไปแม่นํ้าเมิ่งหลานก่อน ในตอนที่มู่ชิงเกอสวมชุดออกรบสีแดงทั้งร่างไปปรากฎอยู่ที่ลานวังนั้น ทหารทัพใหญ่หนึ่งแสนสองหมื่นนายของสั่วเซิ่งและเซ่อฉินก็กำลังรอนางอยู่ กองทัพมารสีดำทะมึนดูหนาแน่นแข็งแกร่ง หากคนธรรมดามายืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขาคงจะขาสั่น

ในตอนที่มู่ชิงเกอปรากฎตัวนั้นนัยน์ตาก็เปล่งประกาย รู้สึกชอบกองทัพมารเบื้องหน้า

‘ความสามารถในการฝึกทหารของเมืองมารดีมาก ทหารมารเหล่านี้ถึงจะยืนอยู่ที่นี่ก็ยังมีไอสังหารกระจายออกมาดูแข็งแกร่งมาก’ มู่ชิงเกอยกย่องในใจ

กู่หยาและกู่เย่ยืนอยู่ด้านหลังของนาง

ส่วนด้านหลังของพวกเขาก็ยังมีองครักษ์มารตามมาด้วยสามร้อยนาย พวกเขาจะตามมู่ชิงเกอไปแม่นํ้าเมิ่งหลานด้วย

จี่ฝูกับชิงเหยียนสบตากัน แล้วก็ตามไปข้างกายของมู่ชิงเกอ ส่วนซู่เหยียนและซูเฉวียนที่ถูกทิ้งเอาไว้ก็เดินไปด้วยกัน แต่กลับทิ้งระยะห่างจากพวกจี่ฝูอยู่พอควร

ทั้งสี่คนมีค่ายที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

มู่ชิงเกอยืนอยู่บนแท่นสูงมองกองทัพมารสีดำทะมึน หมอกสีดำที่มีเฉพาะในเมืองมารโอบคลุมกองทัพมารเอาไว้

นางที่อยู่ในชุดออกศึกสีแดงทั้งร่างยืนอยู่ตรงกลางดูโดดเด่นมาก

สั่วเซิ่งและเซ่อฉินสบตากันแล้วถ่ายทอดเสียงให้กันว่า ‘ดูท่าแล้วนางจะไปจริงๆ’

‘ชิ! คิดว่าสนามรบเป็นเรื่องเล่นหรืออย่างไร? ช่างโง่จริงๆ!’ เซ่อฉินเยาะเย้ย

สั่วเซิ่งหรี่ตามองเซ่อฉิน นัยน์ตาฉายแววเย็นยะเยือก ‘ความเอาแต่ใจของนางอาจจะมอบโอกาสให้เราก็ได้’

เซ่อฉินสนใจถามว่า ‘อย่างไร?’

สั่วเซิ่งยิ้มเย็น แต่นัยน์ตาฉายแววดุดัน ‘นางแค่อยากไปดูความคึกคักมิใช่หรือ? ในสนามรบอะไรก็เกิดขึ้นได้ หากว่าถูกลูกหลงจนบาดเจ็บหรือตาย เช่นนั้นก็โทษ พวกเราไม่ได้’

ดวงตาของเซ่อฉินสว่างขึ้นมา ยิ้มอย่างมีเลศนัยให้สั่วเซิ่ง แล้วก็พยักหน้า

เขายิ้มเย็นในใจ

ไม่ผิด! หากผู้หญิงคนนี้เอาแต่อยู่ในพระราชวังไท่ฮวงตลอดเวลา ข้างกายมีองครักษ์มารคอยปกป้อง พวกเขาก็ไม่มีวิธีใดๆ เลย แต่ผู้หญิงคนนี้กลับไม่ชอบอยู่เฉยๆ ที่พระราชวังไท่ฮวง อยากจะไปวุ่นวายที่แม่นํ้าเมิ่งหลาน ถึงตอนนั้นหากว่าเกิดเรื่องอะไรเหนือความคาดหมายก็โทษพวกเขาไม่ได้แล้ว’

นัยน์ตาของสั่วเซิ่งฉายแววได้ใจ แล้วเอ่ยกับเซ่อฉินว่า ‘เพียงแค่พวกเราลงมือให้หมดจด ถึงตอนนั้นแล้วใครจะโทษพวกเราได้? เพียงแค่นางตายไป พวกเราก็จะ สามารถทำตามแผนเดิมต่อไปได้ ข้าไม่เชื่อว่าพวกกู่หยาจะหาผู้หญิงคนที่สองออกมาได้อีก!’

เมื่อพูดถึงกู่หยาและกู่เย่ เซ่อฉินก็ขมวดคิ้วเอ่ยว่า “สองคนนี้ช่างน่าปวดหัวจริงๆ พวกเขาตามติดไม่ห่างแล้วพวกเราจะลงมือได้อย่างไร?”

สั่วเซิ่งไม่ได้กังวล เขาถ่ายทอดเสียงไปอย่างมั่นใจว่า “เผ่าอี้ต่อกรได้ง่ายดายอย่างนั้นหรือ? เกรงว่าถึงตอนนั้นพวกเขาอาจจะมัวแต่ปกป้องตนเองอยู่น่ะสิ”

ทั้งสองคนสบตากัน เมื่อเข้าใจกันแล้วก็ละสายตาไปทางอื่น

“ทุกท่าน วันนี้เผ่าอี้มารุกราน แดนมารของพวกเราจะต้องคงอยู่ชั่วนิรันดร์ จะให้ลูกหลานอับอายได้อย่างไร? วันนี้ข้าเป็นตัวแทนขององค์ราชาจะไปแม่นํ้าเมิ่งหลานกับพวกเจ้า ต่อสู้กับเผ่าอี้ ทำให้พวกมันได้รับรู้ถึงความแข็งแกร่งของชายชาติทหารเมืองมาร! พวกเจ้า…มั่นใจหรือไม่!” มู่ชิงเกอตะโกนเสียงดัง นางใส่พลังจิตเข้าไปในเสียง ทำให้ได้ยินไปทั้งลานกว้าง

แต่ทหารทั้งหนึ่งแสนสองหมื่นนายกลับนิ่งเงียบไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ

มู่ชิงเกอมุมปากกระตุกมองไปยังสั่วเซิ่งและเซ่อฉิน

ทั้งสองคนถูกสายตาของนางกวาดมองมา จึงรีบกุมกระบี่คู่กายทำสัญญาณลับออกมา ทหารด้านหลังของพวกเขาชูอาวุธในมือขึ้นสูง ออกแรงกระทืบเท้า เอ่ย

ตอบพร้อมกัน

“มี!”

“มี! มี!”

รอยยิ้มของมู่ชิงเกอกดลึกยิ่งขึ้น นางไม่ใส่ใจเรื่องที่ทหารมารไม่ฟังนาง “ดีมาก หวังว่าพวกเจ้าจะฆ่าศัตรูอย่างกล้าหาญในสนามรบ ในวันแห่งชัยชนะจะมีรางวัล อย่างแน่นอน”

“เฮ เฮ เฮ!”

เหล่าทหารมารทั้งหนึ่งแสนสองหมื่นนายร้องขึ้นพร้อมกันอย่างฮึกเหิม

รอจนพวกเขาปลดปล่อยอารมณ์เสร็จแล้ว สั่วเซิ่งก็ยกมือขึ้น เสียงนั้นหยุดลงในทันที

ฉากนี้ทำให้นัยน์ตาของมู่ชิงเกอสั่นไหวเล็กน้อยไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

สั่วเซิ่งมองไปยังมู่ชิงเกอแล้วเอ่ยว่า “พระชายา ท่านยังไม่ได้กำหนดว่าใครจะเป็นผู้นำสูงสุดในการออกทัพครั้งนี้’

นัยน์ตาของเขาฉายแวววาววาบ ความต้องการแสดงออกมาอย่างเด่นชัด

แต่มู่ชิงเกอกลับมองเขาเงียบๆ มุมปากเผยรอยยิ้มมีเลศนัยออกมา ในขณะที่สั่วเซิ่งกำลังรอคอย นางก็ค่อยๆ เอ่ยขึ้นว่า “การออกศึกในครั้งนี้ ข้าจะนำทัพเอง”

“อะไรนะ!”

“อะไรนะ!”

“พระชายานำทัพ?”

ไม่เพียงแต่นัยน์ตาของสั่วเซิ่งเท่านั้นที่หดตัวลง เซ่อฉินเองก็ตกตะลึง แม้แต่เหล่าทหารหนึ่งแสนสองหมื่นนายก็ตะลึง หันหน้าไปพูดคุยกันขึ้นมา

เซ่อฉินพูดด้วยสีหน้าดำทะมึนว่า “พระชายา นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น พระชายามีประสบการณ์ในการนำทัพงั้นหรือ? เคยออกรบหรือไม่? เคยชนะศึกหรือไม่?”

คำถามต่อเนื่องนี้ไม่ได้ท่าให้มู่ชิงเกอสีหน้าเปลี่ยนไป นางยังคงยิ้ม นัยน์ตาเปล่งประกาย

“รู้บ้าง” นางพูดออกมาอย่างชัดเจนเรียบง่าย ไม่มีท่าทีอับอายหรือลำบากใจเลยสักนิด

สิ่งนี้ทำให้จี่ฝูและชิงเหยียนลอบมองตากัน นัยน์ตาฉายแววกังวล

สั่วเซิ่งหัวเราะอย่างเย็นชา พูดอย่างไม่เกรงใจว่า “พระชายารู้บ้าง คงไม่ใช้รู้แต่บนกระดาษหรอกใช่ไหม? คงไม่ใช่เห็นชีวิตของทหารมารเป็นของเล่นใช่หรือไม่?”

“เจ้าเมืองย่อยสั่วเซิ่งไม่ต้องร้อนใจรีบว่าร้ายข้าขนาดนี้ก็ได้ เจ้าเป็นห่วงชีวิตของทหารมาร ข้าที่เป็นพระชายาก็ยิ่งต้องเป็นห่วงมากกว่าพวกเจ้ามากมายนัก” มู่ชิงเกออเอ่ยเรียบๆ

สั่วเซิ่งขมวดคิ้วสีหน้าไม่พอใจมาก

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version