Skip to content

พลิกปฐพี 504

ตอนที่ 504

นางเป็นผู้หญิงของข้า!

กู่หยาและกู่เย่ซ่อนตัวอยู่บนหลังคาจวนเจ้าเมือง มองคนที่หลั่งไหลเข้ามาในเมืองอย่างต่อเนื่อง

“คนเหล่านี้ล้วนแต่มาเพราะพระชายา” กู่เย่เอ่ย มองเงาร่างของคนเหล่านี้ เขาได้เปลี่ยนคำเรียกมู่ชิงเกอใหม่จากคุณชายเป็นพระชายา

กู่หยาพยักหน้า

ครู่หนึ่งเขาก็เอ่ยปากถามว่า “ฆ่าไหม?”

กู่เย่มองเขา ภายในแววตาฉายแววดูแคลน เอ่ยปากว่า “รายงานองค์ราชา”

มีคนมาแย่งพระชายาของพวกเขา แย่งว่าที่ภรรยาขององค์ราชาพวกเขา เวลาเช่นนี้ไม่ สมควรที่จะให้องค์ราชามาแสดงความเป็นเจ้าของอย่างนั้นหรือ?

นัยน์ตาของกู่หยาเปล่งประกาย เข้าใจในทันที เขาพยักหน้า “ข้าจะไปเดี๋ยวนี้!”

“ข้ามาช่วยเจ้าฆ่าคน” ภายในห้องโถงใหญ่ของจวนเจ้าเมือง เว่ยมั่วลี่พูดกับมู่ชิงเกอด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย

มู่ชิงเกอรู้สึกปวดหัว พูดอย่างหมดทางเลือก “เจ้าติดค้างอะไรข้าก็ไม่จำเป็นต้องช่วยข้าฆ่าคน หากข้าจะฆ่าคนก็ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าลงมือ”

แต่เว่ยมั่วลี่กลับมองนางอย่างเรียบเฉยแวบหนึ่ง แล้วก็หันหน้าก้าวเท้าออกไป

มู่ชิงเกอมองเขาจากไปอย่างหมดคำพูด ผ่านไปครู่หนึ่งก็มีองครักษ์เขี้ยวมังกรเข้ามารายงาน

“รายงานคุณชาย ตอนนี้เว่ยมั่วลี่เฝ้าอยู่ที่หน้าประตูใหญ่จวนเจ้าเมืองไม่ยอมจากไปไหนขอรับ” เขาชันเข่าข้างเดียวลงบนพื้น เงยหน้ามองมู่ชิงเกอ แล้วขอความเห็นจากนาง

มู่ชิงเกอนวดหว่างคิ้ว พูดอย่างจนใจว่า “ไม่ต้องสนใจเขา ตามใจเขาเถอะ”

เว่ยมั่วลี่มีนิสัยดื้อดึง หลังจากได้รับบาดเจ็บในสนามรบโบราณแห่งเทพมารแล้วก็ยิ่งดื้อดึงขึ้นไปอีก หากจะพูดเหตุผลกับเขาก็ไม่สู้ปล่อยให้เขาทำตามใจชอบเสียดีกว่า

องครักษ์เขี้ยวมังกรถอยออกไป มู่เฉินและหยินเฉินเข้ามาพบมู่ชิงเกอพร้อมกัน

“นายน้อย”

“ชิงเกอ”

มู่ชิงเกอเงยหน้ามองพวกเขา จัดท่วงท่าแล้วพยักหน้าเอ่ยว่า “นั่งเถอะ”

มู่เฉินและหยินเฉินแบ่งกันนั่งลงที่ด้านซ้ายและขวาของนาง

หลังจากนั่งลงแล้วหยินเฉินก็พูดว่า “ชิงเกอ หลายวันมานี้คนเข้ามาที่ลั่วซิงเฉิงมากเกินไป เกินกว่าที่ลั่วซิงเฉิงจะรับได้พวกเราควรใช้มาตรการบางอย่างหรือไม่?”

หลายวันมานี้ที่พักรับรองในลั่วซิงเฉิงต่างถูกจองเต็มจนหมด ทั้งยังมีคนจ่ายเงินเพื่อเข้าไปอยู่ในบ้านประชาชนอีก มีบางคนหาสถานที่ไม่ได้ก็นั่งอยู่บนถนน บนลาน สรุปแล้วคนเยอะจนส่งผลกระทบต่อชีวิตปกติของประชาชนทั่วไป

มู่ชิงเกอเม้มปาก ผลลัพธ์เช่นนี้นั้นอยู่เหนือความคาดหมายของนาง

นางประเมินความสนใจในตัวนางของเหล่าคนในโลกแห่งยุคกลางตํ่าไป

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่รู้ว่ามีข่าวลือออกมาจากไหนว่า นางจะเลือกคู่ที่ลั่วซิงเฉิง!

น่าตายนัก!

หากว่าถูกนางจับได้นางจะสั่งสอนให้หนักเลย

มู่ชิงเกอขมวดคิ้วแล้วเอ่ยเสียงเข้มว่า “ประกาศที่นอกจวนเจ้าเมืองและกระดานประกาศข่าวต่างๆ บอกพวกเขาว่าข้าไม่เคยพูดว่าจะหาคู่ ให้พวกที่คิดแบบนี้จากไปก่อน จัดแบ่งเวรยามในเมือง ทุกวันให้ลาดตระเวนสามครั้ง ตรวจดูคนในที่พักรับรอง ภายในบ้านประชาชน รวมถึงคนบนท้องถนน ถามถึงจุดมุ่งหมายที่มาของพวกเขาให้ชัด หากว่าเป็นเรื่องมีสาระค่อยเอาไว้ แต่หากมาเพื่อดูความคึกคักก็ให้ไล่ออกไป”

“นายน้อย เกรงว่านี่จะไม่ใช่ทางแก้ปัญหาจากต้นเหตุ” มู่เฉินเอ่ยปาก

มู่ชิงเกอหันมองเขา รอคำพูดต่อไปของเขา

มู่เฉินคิดในใจครู่หนึ่งถึงได้เอ่ยว่า “แม้ว่าพวกเราจะเข้มงวดกวดขันในลั่วซิงเฉิง ห้ามไม่ให้พวกเขาเข้าออกโดยพลการ แต่ความสนใจของโลกภายนอกต่อนายน้อยก็ไม่ได้ลดน้อยเพราะเรื่องนี้ แต่จะยิ่งดุเดือดมากยิ่งขึ้น ส่วนในระยะยาวจะเป็นอย่างไรนั้นก็ไม่อาจคาดเดาได้”

“เจ้ามีแผนอะไรดีๆ หรือไม่?” มู่ชิงเกอเอ่ยถาม

มู่เฉินหลุบตาลง รวบรวมความกล้าเอ่ยว่า “ข้าน้อยคิด วา ในเมื่อเป็นเช่นนี้ไม่สู้พวกเราทำให้มันชัดเจน นายน้อยออกหน้าเองชี้แจงข่าวลือ หยุดความคิดของคนบางคนและเหล่าตระกูลใหญ่ เติมเต็มความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขา ทั้งยังห้ามไม่ให้หลังจากนี้มีคนหาข้ออ้างมาสู่ขอเข้ามาในลั่วซิงเฉิงได้อีก”

“ออกหน้าชี้แจงข่าวลือ?” มู่ชิงเกอพูด

หยินเฉินพูดว่า “นี่ถือเป็นวิธีที่ไม่เลววิธีหนึ่ง ที่หลินชวนนั้นทุกคนต่างก็รู้ว่าเจ้ามีเจ้าของแล้ว แต่ที่นี่กลับไม่มีใครรู้ หากบอกคนเหล่านั้นว่าเจ้าได้หมั้นหมายแล้วก็จะลดปัญหาลงไปได้ไม่น้อย”

“นายน้อยหมั้นหมายแล้ว!” มู่ชิงเกอยังไม่ทันได้พูด มู่เฉินก็ยืนขึ้นมาอย่างตกตะลึง

ข่าวนี้น่าตกใจจนเกินไปแล้ว!

โจมตีหัวใจของเขารุนแรงยิ่งกว่าข่าวที่มู่ชิงเกอเป็นผู้หญิงเสียอีก!

ปฏิกิริยาของเขาทำให้มุมปากของมู่ชิงเกอกระตุก ถามอย่างขุ่นเคืองว่า “ข้าเหมือนจะไม่มีใครเอางั้นหรือ?”

เอ่อ!

“ไม่ ไม่ ไม่ ไม่…ข้าน้อยไม่ได้หมายความอย่างนั้น!” มู่เฉินรีบอธิบาย ถอนหายใจในใจ “ข้าน้อยเพียงแต่คิดว่า เป็นผู้ชายเช่นไรกันถึงได้รับความโปรดปรานจากนายน้อยจนได้หมั้นหมายกับนายน้อย”

มู่ชิงเกอยิ้มบางๆ แล้วก็หัวเราะขึ้นมา นัยน์ตาของนางเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งความภูมิใจ “สามารถเป็นคนที่ข้าเลือกได้ก็จะต้องเป็นหนึ่งในหมื่นอย่างแน่นอน”

มู่เฉินเข้าใจคำที่ว่า ‘ทุกอย่างจะสวยงามเมื่อมีความรัก’ ดี เขาจึงไม่เถียงกับมู่ชิงเกอเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าเป็นหนึ่งในหมื่นอีก เพียงพยักหน้าและเอ่ยว่า “ในเมื่อนายน้อยมีคู่หมั้นแล้ว หากสามารถเชิญเขามาแล้วอธิบายต่อหน้าผู้คนได้ก็จะยิ่งดีหรือไม่?”

อธิบายหรือ?

มู่ชิงเกอยิ้มเยาะในใจ หากนายท่านมั่วมาแล้วมองเห็นคนมากมายขนาดนี้แย่งชิงนางกับเขา เกรงว่าคงไม่ได้มาคลี่คลายปัญหา แต่จะเป็นฆ่าคนแทนน่ะสิ

“เรื่องนี้เกรงว่าจะยากสักหน่อย” หยินเฉินเอ่ย

มู่เฉินมองเขาอย่างไม่เข้าใจ “ยาก? มีอะไรยากกัน? ตอนนี้มีคนตั้งมากมายต้องการแต่งกับนายน้อย หรือเขาจะไม่ร้อนใจและไม่ใส่ใจเลยสักนิด? เพียงแค่ให้เขาเผยโฉมหน้าออกมาเท่านั้น ไม่ได้ให้ทำอะไรสักหน่อย เหตุใดถึงได้ยากเย็นขนาดนั้น?”

“ไม่ใช่ ยากที่ข้าหมายถึงก็คือคู่หมั้นของชิงเกอคนนี้ไม่ใช่คนในโลกแห่งยุคกลาง เวลาเพียงครู่เดียว เกรงว่าจะไม่อาจแก้ปัญหาเร่งด่วนได้” หยินเฉินอธิบาย

“ไม่อยู่ในโลกแห่งยุคกลาง! หรือว่าจะอยู่ทีหลินชวน?” มู่เฉินแปลกใจมากขึ้น

ตามที่เขาเข้าใจ คนที่ถูกมู่ชิงเกอเลือก จะพูดอย่างไรก็ควรจะเป็นคนที่มีความสามารถโดดเด่น เหตุใดมู่ชิงเกอมามีชื่อเสียงโด่งดังในโลกแห่งยุคกลาง แต่คู่หมั้นของนางกลับหดหัวอยู่ในหลินชวนได้?

“เอาล่ะ เรื่องนี้ข้ามีแผนของตนเอง พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล” มู่ชิงเกอตัดบทพูดของทั้งสองคน

หยินเฉินและมู่เฉินมองที่นางพร้อมกัน รอคอย ‘แผน’ ของนาง

มุมปากของมู่ชิงเกอกระตุก พูดกับทั้งสองคนว่า “ทำตามที่พวกเจ้าพูด หลังจากนี้อีกสามวันข้าจะออกหน้าชี้แจงข่าวลือว่าไม่มีการหาคู่ ให้พวกเขากลับไปยังที่ที่จากมา”

ชั่วขณะนั้นนางก็เอ่ยอย่างหงุดหงิดว่า “สามวันนี้ ข้าจะไม่พบใคร ขวางเอาไว้ด้านนอก หากมีคนคิดจะบุกเข้ามาก็ฆ่าไม่เว้น”

“ขอรับ!”

“ขอรับ”

ทั้งสองออกไปตามคำสั่ง ส่วนมู่ชิงเกอก็กลับเข้าไปในช่องว่าง

สั่วซิงเฉิงในเวลานี้มีหุ่นเทพมารสองร่าง กู่หยา กู่เย่ โห่ว ไป๋สี่ หยินเฉิน ยังมีพวกมู่เฉิน และองครักษ์เขี้ยวมังกร ที่พัฒนาอยู่เรื่อยๆ พละกำลังน่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ใช่สถานที่ที่ขาดการพัฒนาในหลายๆ ด้านที่ใครคิดจะบุกเข้ามาก็บุกเข้ามาได้อีกต่อไป

และก็แน่นอนว่าด้วยสถานะของมู่ชิงเกอแล้วก็ไม่มีใครกล้าบุกเข้ามาในจวนเจ้าเมืองแน่นอน

อิ๋งเจ๋อและจีเหยาฮั่วมายังลั่วซิงเฉิงด้วยกันอีกครั้ง อยากจะพบมู่ชิงเกอแต่สุดท้ายก็ถูกขวางไว้ที่นอกประตู

ดีที่พวกเขายังพอมีความสัมพันธ์กับมู่ชิงเกออยู่บ้าง ดังนั้นมั่วหยางถึงได้ใจดีจัดที่พักให้พวกเขา

“ที่ข้ามาในครั้งนี้ ที่สำคัญก็คืออยากจะดูว่าคนในใจของชิงเกอผู้นั้นจะปรากฎตัวหรือไม่ สำหรับเรื่องที่ตาเฒ่าบ้านข้าสั่งมานั้นก็วางไว้อีกข้างเถอะ” จีเหยาฮั่วหัวเราะออกมา

อิงเจ๋อพยักหน้า “ข้าก็เช่นกัน”

เขามาก็เพราะอยากจะดูว่าคนเช่นไรถึงจะได้ใจของผู้หญิงเช่นมู่ชิงเกอไปครอง

ตอนนี้เรื่องหาคู่ของมู่ชิงเกอถูกเล่าลือไปทั่วทั้งห้าภาคในโลกแห่งยุคกลาง เขาเชื่อว่าถ้าผู้ชายคนนั้นมีความคิดสักหน่อยก็จะต้องออกหน้ามาประกาศความสัมพันธ์ของเขากับมู่ชิงเกออย่างแน่นอน เพื่อจะดับความคิดของคนเหล่านี้ลงเสีย

“หลายวันนี้ชิงเกอปิดประตูไม่รับแขก เกรงว่าคงจะถูกคนเหล่านี้ทำให้รำคาญใจมาก” จีเหยาฮั่วพึมพำออกมา ทันใดนั้นเขาก็เอ่ยว่า “ใช่แล้ว! เว่ยมั่วลี่ก็มาด้วย เห็นว่าเฝ้าอยู่ที่หน้าประตู เขาคิดจะทำอะไรน่ะ? คงไม่ใช่ว่าซาบซึ้งใจที่ชิงเกอเคยช่วยชีวิตเอาไว้เลยมาเพื่อเอาร่างกายเข้าตอบแทนหรอกใช่ไหม! ”

อิ๋งเจ๋อยอมแพ้กับความคิดในสมองของจีเหยาฮั่วจริงๆ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเว่ยมั่วลี่คิดจะทำอะไร แต่ในใจของเขาก็รู้สึกว่าเว่ยมั่วลี่ไม่น่าจะคิดอย่างที่จีเหยาฮั่วคิด

“แม้แต่พวกเราก็ล้วนแต่ถูกตาเฒ่าที่บ้านไล่มาที่นี่ เกรงว่าคงจะยังมีคนมาอีกมากมาย” จีเหยาฮั่วพึมพำออกมาอีก

อิ๋งเจ๋อยิ้มเยาะ “มามากแค่ไหนแล้วจะเป็นอย่างไร? หากมู่ชิงเกอไม่อยากแต่ง ถึงแม้คนทั้งโลกแห่งยุคกลางมาก็ไม่มีประโยชน์”

จีเหยาฮั่วพยักหน้า เห็นด้วยกับคำพูดของเขา

เวลาสามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว

เพราะคำสั่งของมู่ชิงเกอ ทำให้นางสามารถฝึกปรืออย่างสงบในช่องว่างมาได้หลายวัน

ในที่สุดเวลาก็มาถึง

มู่ชิงเกอเดินออกจากช่องว่าง จัดชุดแล้วเอามือไพล่หลัง เดินออกไป

นางเลือกกำแพงฝั่งหนึ่งของจวนเจ้าเมืองเป็นสถานที่ชี้แจง

นางยืนอยู่บนที่สูง สามารถมองเห็นคนด้านนอก ส่วนคนที่มาเพื่อนางก็สามารถยืนอยู่ใต้กำแพงเงยหน้ามองเห็นนางได้

ในตอนที่ชุดสีแดงปรากฎขึ้นบนกำแพงนั่นเอง คนจำนวนมากก็ตื่นเต้นขึ้นมา

“เจ้าเมืองมู่ ข้าน้อยประมุขน้อยตระกูลหลีแห่งภาคตะวันตกตั้งใจมาลั่วซิงเฉิงเพื่อสู่ขอ!”

“เจ้าเมืองมู่ ข้าน้อยประมุขน้อยตระกูลกัวแห่งภาคเหนือ ตั้งใจมาลั่วซิงเฉิงเพื่อสู่ขอ!”

“เจ้าเมืองมู่ ข้าน้อยประมุขน้อยตระกูลหลินแห่งภาคตะวันตก เมืองที่ปกครองไม่ไกลจากเมืองฝูซา ท่านและข้าเป็นคู่ที่สวรรค์สร้างมา วันนี้จึงตั้งใจมาสู่ขอ!”

“เจ้าเมืองมู่ ข้าน้อยประมุขน้อยตระกูลอวี๋แห่งภาคใต้ตั้งใจมาลั่วซิงเฉิงเพื่อสู่ขอ!”

ใบหน้าของมู่ชิงเกอยังไม่ทันได้เผยออกมา เพียงแค่ชายเสื้อโผล่ออกมานิดหน่อย ก็ทำให้ผู้คนด้านล่างแย่งกันสารภาพความในใจแล้ว

เหยาชิงไห่ยืนอยู่ในกลุ่มคนส่ายหน้ายิ้มเล็กน้อย ลอบเอ่ยในใจว่า ‘พวกคนอ่อนแอเหล่านี้ หากมู่ชิงเกอสนใจสิ ถึงจะแปลก’

เหยาชิงไห่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ อดยืดอกตรงขึ้นมาไม่ได้

เขามาถึงลั่วซิงเฉิงเมื่อสองวันก่อน เคาะประตูขอพบแต่ไม่สำเร็จ

สำหรับเรื่องนี้นั้นเขาไม่โกรธ แต่กลับทำให้เขารู้สึกท้าทายมากยิ่งขึ้น

หานฉายไฉ่เองก็ยืนอยู่ท่ามกลางผู้คน เพียงแต่จุดมุ่งหมายของเขาไม่เหมือนกับคนอื่นๆ ที่เขามาก็เพื่อมองดูความงดงามของมู่ชิงเกอ คิดจะดูว่าผู้ชายโชคดีได้มู่ชิงเกอไปจะปรากฎตัวหรือไม่

เจี่ยงเทียนเฮ่าและเซิ่งอวี้หลีก็อยู่ในกลุ่มคนด้วยเช่นกัน

เซิ่งอวี้หลีนั้นไม่ได้มาดูความคึกคัก ที่เขามาก็เพื่อมาดูเป็นเพื่อนฉินอี้เหยา ส่วนเจี่ยงเทียนเฮ่าที่อยู่ข้างกายเขา นัยน์ตากลับฉายแววคาดหวัง เขามองไปบนจุดสีแดงบนกำแพง หัวใจเต้นแรงอย่างควบคุมไม่อยู่

เสียงร้องตะโกนอย่างต่อเนื่องด้านล่างทำให้มู่ชิงเกอต้องใช้นิ้วอุดหู

ไป๋สี่หัวเราะเอ่ยว่า “ถึงกับมีคนมากมายขนาดนี้แย่งกันสู่ขอเจ้า? ช่างไม่รู้จักที่ตายจริงๆ!” นัยน์ตาของนางฉายแววดูแคลน

นางกำลังดูแคลนผู้ชายเหล่านี้ที่มองเห็นเพียงแค่ประโยชน์ที่มู่ชิงเกอจะนำมาให้ กลับไม่เคยคิดว่ามาอยู่กับนางแล้วจะต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง หรือพวกเขาจะมีสิทธิ์ยืนอยู่ข้างมู่ชิงเกอหรือไม่?

เกรงว่านอกจากคนคนนั้นแล้ว คงไม่มีผู้ชายคนไหนบนโลกนี้ที่คู่ควรกับมู่ชิงเกออีก!

ไป๋สี่ถอนหายใจในใจ

ถอนหายใจแล้ว มู่ชิงเกอก็ออกไปยืนข้างกำแพง เผยใบหน้าของตนเองภายใต้สายตาอันร้อนแรงของทุกคน

ใบหน้าของมู่ชิงเกอไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากนัก

แต่เมื่อได้เห็นนางอีกครั้งในชุดผู้หญิง บรรดาคนเบื้องล่างก็อดตกตะลึงไม่ได้ คำพูดต่างๆ นานา กลายเป็นเบาลงจนเงียบไปในที่สุด

ทุกคนเงยหน้าขึ้นมองและดำดิ่งไปกับใบหน้าที่โดดเด่น จนทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดูซีดเซียวไปหมดดวงนั้น

“เจ้าเมืองมู่…แต่งกับข้าเถอะ…เพียงแค่ยอมแต่งกับข้า เจ้าต้องการอะไร ข้าก็จะให้เจ้า แม้ว่าจะเป็นชีวิตของข้า…”

ภายในกลุ่มคน มีคนพึมพำออกมาอย่างทึ่มทื่อ ประโยคนี้จุดประกายให้คนที่กำลังนิ่งเงียบได้สติขึ้นมา

แย่งกันตะโกนไปยังเงาร่างที่ยืนอยู่บนกำแพง

“แต่งกับข้า!”

“ไม่เช่นนั้นข้าแต่งให้เจ้าก็ได้!”

“เจ้าเมืองมู่ รับข้าไว้เถอะ!”

“เจ้าเมืองมู่ ข้าไม่รังเกียจหนึ่งภรรยาหลายสามี!”

“เจ้าเมืองมู่ เพียงแค่สนใจข้าก็พอ!”

“แต่งให้ข้า ข้าถึงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด!”

“เจ้าเมืองมู่ เจ้ามองข้า! ข้ารูปโฉมงดงาม อ่อนโยน เอาใจใส่ เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เจ้ามองข้าสิ!”

ความวุ่นวายด้านล่างทำให้มู่ชิงเกอขมวดคิ้วขึ้นอย่างไม่พอใจ คำพูดเหลวไหลเหล่านี้ทำให้นางทั้งโมโหทั้งขำ ในขณะที่นางล้างคอกำลังจะชี้แจงทุกอย่างเพื่อหยุดความวุ่นวายอยู่นั้นเอง

ทันใดนั้นเสียงที่ดุดันเย็นชาเสียงหนึ่งก็ดังลงมาจากฟากฟ้า

“ชิ! กล้าคิดเหลวไหลกับผู้หญิงของข้า พวกเจ้ากำลังรนหาที่ตาย!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version