Skip to content

พลิกปฐพี 67

ตอนที่ 67

ลงโทษ! ลงโทษบ้าอะไรกัน!

“คุณชาย ท่านช่างน่าเกรงขามเสียจริง!”

ทันใดนั้นเสียงที่ดังอยู่ในหัว ทำใหัมู่ชิงเกอตัวสั่น ราวกับมีคนพูดอยู่ในหัวของนาง

“ลูกพี่ ท่านเป็นอะไร” เห็นมู่ชิงเกอเงียบไป เจ้าอ้วนเช่าจึงรีบร้องเรียก

 

มู่ชิงเกอพยักหน้าเบาๆ เสียงนั้นเป็นเสียงที่คุ้นเคย นางจึงไม่ได้ใส่ใจ

“เจ้าอ้วน ขาเจ้าได้รับบาดเจ็บ ข้าจะส่งเจ้ากลับไปก่อน” มู่ชิงเกอพูดกับเจ้าอ้วนเช่า

เจ้าอ้วนเช่าหัวเราะพลางพูดว่า “ไม่เป็นไร ข้ากลับไปเองได้” พูดจบก็ยักคิ้วหลิ่วตาให้กับมู่ชิงเกอ

คำพูดที่ว่า “อย่าจ้องมองผู้หญิงของข้าสุ่มสี่สุ่มห้า” ที่นางพูด ทำให้เจ้าอ้วนเช่าเข้าใจผิดเข้าแล้ว

แน่นอนว่าคนที่เข้าใจผิดไม่ได้มีแค่เจ้าอ้วนเช่าเพียงคนเดียว

ความจริงแล้วมู่ชิงเกอแค่ปกป้องฉินอี้เหยาในมุมของผู้หญิง นางมองเห็นความไม่ชอบใจและรังเกียจที่เก็บซ่อนอยู่ในแววตาของฉินอี้เหยา

สิ่งที่ฉินอี้เหยาไม่สะดวกที่จะพูดออกไปนั้น นางที่เป็นจอมเสเพลจะพูดแทนเอง

เพราะหลังจากหลายครั้งที่เจอกันหลายครั้ง นางไม่ได้มีความคิดในแง่ลบกับองค์หญิงแห่งราชวงศ์องค์นี้อีกแล้ว ในทางกลับกัน นางกลับรู้สึกว่าฉินอี้เหยานั้นดูมีสติมากที่สุด แต่ก็แค่โดนชักนำแค่นั้น

ปัญหาของตระกูลมู่กับเหล่าราชวงศ์นั้น ไม่จำเป็นต้องไปลงกับคนที่ไม่เกี่ยวข้อง

‘ท่าทางรู้กัน’ ของเจ้าอ้วนเช่านั้นมู่ชิงเกอไม่ได้สังเกต แต่กลับทำให้ฉินอี้เหยาที่อยู่ข้างๆรู้สึกร้อนผ่าวตรงใบหน้า เพื่อไม่ให้อึดอัดแบบนี้ต่อไป นางจึงพูดว่า “ให้ทหารองครักษ์ของข้าส่งเขากลับไปเถอะ เฉากุ้ยเสียเปรียบไปมากถึงเพียงนั้น คงไม่กล้าทำอะไรเจ้าแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ใช้เช่าเย่เจ๋อในการระบายอารมณ์”

พอเจ้าอ้วนเช่าได้ยินแบบนี้ก็เบิ่งตาโต พูดด้วยท่าทางโอหังว่า “เขากล้ารึ! ถ้าไอ้หลานเต่านั้นกล้ามา นายท่านอย่างข้าจะ…โอ๊ย” ความพลุ่งพล่านนี้ทำให้

กระทบกับแผลบนขาและทำลายความโอหังของเจ้าอ้วนเช่าลง

มู่ชิงเกอหัวเราะอย่างขบขัน พลางแซวว่า “พอเถอะ หากจะจัดการกับไอ้หลานเต่านั่น เจ้าควรรักษาแผลให้หายก่อน ไม่เช่นนั้นเจ้าจะได้ส่งตัวเองไปเป็นลูกบอลให้ เขาเตะเล่นแทน”

เจ้าอ้วนเช่าก็หน้าหุบลงท่าทางน้อยใจ แต่ก็ไม่ได้เถียงคำพูดของมู่ชิงเกอ

เห็นมู่ชิงเกอไม่ปฏิเสธ ฉินอี้เหยาจึงสั่งทหารให้ไปส่งเจ้าอ้วนเช่ากลับจวน

พอเจ้าอ้วนเช่าขึ้นรถม้าไป มู่ชิงเกอจึงถามว่า “จะทรงอยู่ที่นี่ต่อไหม?”

ฉินอี้เหยาส่ายหน้า “วันนี้ข้ามาแล้ว จะอยู่ต่อก็คงไม่มีประโยชน์อะไร”

มู่ชิงเกอพยักหน้าอย่างไม่สาวความยาวต่อ หันไปมองหาป๋ายซีเยวี่ย ช่วยไม่ได้นางเป็นคนพามา อย่างไรก็ต้องพากลับไม่ใช่รึ?

แต่ว่าพอมองไปรอบๆ กลับไม่เห็นป๋ายซีเยวี่ยเลย ทำให้มู่ชิงเกอขมวดคิ้ว

คนที่สังเกตสายตาของมู่ชิงเกออยู่ข้างๆ ตลอดเวลาอย่างฉินอี้เหยารีบสั่งนางกำนัลข้างๆว่า “พวกเจ้าแยกย้ายกันไปตามหาแม่นางป๋าย อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่

นางกำนัลหลายคนรีบแยกย้ายกันออกไปหา

คำสั่งของฉินอี้เหยา ทำให้มู่ชิงเกอที่ขมวดคิ้วอยู่ก็พลันคลายออก นางพยักหน้าตอบกลับว่า “ขอบพระทัยมาก”

ฉินอี้เหยาเม้มปาก แล้วมองนางสักพักจึงพูดว่า “เจ้าโตมาพร้อมกับแม่นางป๋ายสินะ” ในน้ำเสียงนั้นมีความรู้สึกแปลกๆ ซ่อนอยู่ แม้แต่นางเองก็ยังไม่รู้ตัว

มู่ชิงเกอยกยิ้ม นางไม่ใช่มู่ชิงเกอคนเดิมและมู่ชิงเกอคนเดิมก็เหมือนจะไม่ค่อยชอบป๋ายซีเยวี่ย แน่นอนว่าเรื่องพวกนี้ไม่สามารถบอกกับฉินอี้เหยาได้จึงพูดส่งๆไปว่า “นางหวังสูงเกินไปและจวนตระกูลมู่คงไม่สูงส่งพอ”

ฉินอี้เหยาอึ้งและเข้าใจคำพูดพวกนี้ในทันที

ทั้งสองเงียบไปสักพักแล้วเดินไปสุดขอบเขตล่าสัตว์ฉินอี้เหยาจึงพูดว่า “เมื่อสักครู่ ขอบใจเจ้ามาก”

มู่ชิงเกอที่ไม่ได้คิดอะไรมากถามส่งๆ ไปว่า “อะไรรึ?”

ใบหน้าที่ดูไร้เดียงสาของนางกลับทำให้ฉินอี้เหยาไม่รู้จะอธิบายอย่างไร แต่ทุกครั้งที่นึกถึงคำพูดที่มู่ชิงเกอทิ้งท้ายไว้ให้กับเฉากุ้ย คำว่า ‘ผู้หญิงของข้า’ ทำให้หัวใจที่แนบนิ่งดั่งสายนํ้าของนางเต้นรัว

ในขณะนั้นเอง นางกำนัลคนหนึ่งของฉินอี้เหยาก็วิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ พูดอย่างหอบเหนื่อยว่า “องค์หญิง คุณชาย บ่าวเจอแม่นางป๋ายแล้วเจ้าค่ะ แต่นางอยู่กับองค์รัชทายาท บ่าวไม่กล้าเข้าไป”

ป๋ายซีเยวี่ยไปเกี่ยวข้องอะไรกับรัชทายาทตั้งแต่เมื่อไหร่กัน สายตาของมู่ชิงเกอก็พลันเปลี่ยนเป็นเยือกเย็น รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดาเลย ท่านอามองว่านางเชื่อฟัง และรู้จักสัมมาคารวะจากตรงไหนกัน?

พอรับรู้ถึงสายตาอันเยือกเย็นของมู่ชิงเกอ ฉินอี้เหยาจึงพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น ข้าจะลองไปดู” อย่างไรนางก็เป็นถึงองค์หญิง หากไปขอคนจากรัชทายาทคงจะไม่ยาก มากนัก

แต่มู่ชิงเกอกลับส่ายหน้า “ไม่ กระหม่อมไปเองดีกว่า”

นางอยากจะรู้ว่าป๋ายซีเยวี่ยคนนี้คิดจะทำอะไรกันแน่ ใครจะรู้ว่าคำพูดนี้ของนางกลับทำให้ฉินอี้เหยาเข้าใจผิด คิดว่าเพราะตนเองเป็นลูกสาวของเจียงกุ้ยเฟย ไม่

สะดวกที่จะเข้าไปก้าวก่ายเรื่องของรัชทายาท เพื่อตัดปัญหา จึงตัดสินใจเข้าไปเอง

เพราะฉินอี้เหยาคิดแบบนี้ในสายตาอันเย็นชาคู่นั้นเมื่อ มองมู่ชิงเกออีกครั้งก็เหมือนมีความอบอุ่นซ่อนอยู่

“องค์หญิงรอกระหม่อมอยู่ตรงนี้” มู่ชิงเกอพูดจบก็พูดเสริมอีกคำว่า “หรือจะทรงล่วงหน้าไปก่อนก็ได้”

“ไม่ ข้าไปพร้อมเจ้าดีกว่า” มู่ชิงเกอใส่ใจความรู้สึกนางขนาดนี้ นางจะทิ้งเขาไปแบบนี้ได้อย่างไรกัน ฉินอี้เหยาทำตามใจตนเองอีกครั้ง

มู่ชิงเกอคิดทบทวนแล้วรู้สึกว่าการพาองค์หญิงไปด้วย อะไรต่อมิอะไรอาจจะดูง่ายขึ้น จึงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ก็ดี ถ้าอย่างนั้นก็ไปด้วยกัน”

หลังจากที่ทั้งสองตกลงกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว นางกำนัลที่มาบอกข่าวก็นำทางไปยังที่ๆรัชทายาทและป๋ายซีเยวี่ยอยู่

ในขณะนั้นเอง ภายใต้จิตสำนึกของมู่ชิงเกอก็เหมือนมีเสียงหนึ่งดังขึ้นอีกครั้ง “เสี่ยวเกอเอ๋อร์ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน ตอนนี้จะให้ทำตามใจตัวเองไปก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยลงโทษเจ้า”

พูดจบ เสียงนั้นก็เหมือนหายสาบสูญไปจากจิตใต้สำนึกของนาง

แต่มู่ชิงเกอที่ได้ยินคำพูดนี้อย่างชัดเจน สีหน้าพลันดำคล้ำ

ลงโทษ! ลงโทษบ้าอะไร ไอ้ตัวประหลาดเฒ่า!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version