Skip to content

พลิกปฐพี 69

ตอนที่ 69

พลังฝึกฝนถูกเปิดเผย!

“เมื่อครู่ เป็นข้าน้อยเองที่เดินไม่ระวังจึงชนเข้ากับรัชทายาท แต่ข้าน้อยไม่ได้เป็นอะไรมาก และถึงแม้ว่าจะเป็นอะไรก็เป็นเพราะข้าน้อยไม่ระวังเอง ไม่ได้เกี่ยวกับ รัชทายาทเลย พระองค์ช่างมีเมตตาพาข้าน้อยมาพักที่นี่ แค่นี้ข้าน้อยก็ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้แล้วเพคะ” ป๋ายซีเยวี่ยพูดอย่างหนักแน่น

“ไม่เป็นไร ข้าเป็นคนมีความรับผิดชอบอยู่แล้ว หากเจ้าเป็นอะไรไป ข้าจะรับผิดชอบให้ถึงที่สุด” ฉินจิ่นซิวเริ่มรุกไล่

“รัชทายาท” ป๋ายซีเยวี่ยถอยหลังไปหนึ่งก้าวเพื่อหลบมือของฉินจิ่นซิวที่ยื่นออกมา ขณะนั้นเองนางก็เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติ จริงๆ แล้วนางอยากจะใช้โอกาสนี้ในการทำให้รัชทายาทจดจำนางได้เผื่อว่าในอนาคตจะใช้ประโยชน์อะไรได้ แต่ไม่คิดว่าเรื่องราวทั้งหมดจะค่อยๆ อยู่เหนือการควบคุมของนาง เห็นฉินจิ่นซิวสีหน้าเริ่มบูดบึ้ง นางก็รีบพูดอย่างอ่อนโยนว่า “รัชทายาท ชายหญิงอย่างไรก็แตกต่าง ไม่เหมาะสมจริงๆ เพคะ”

ฉินจิ่นซิวยิ้มเยาะในใจและพูดด้วยความอดทนว่า “จะเป็นอะไรไป ที่นี่ไม่มีคนนอก หากต้องรอเรียกคนมาตรวจให้ แล้วทำให้บาดแผลแย่ลงยิ่งกว่าเดิมจะทำอย่างไร”

เมื่อสักครู่ตอนที่อยู่ข้างนอก เขาโมโหกับภาพที่มู่ชิงเกอดื่มเหล้าอยู่บนหลังม้าจนควันออกหู ไม่สนใจแม้กระทั่งจะตำหนิเฉากุ้ยว่าไร้ประโยชน์กำลังอยากจะกลับ ตำหนักเพี่อหานางกำนัลในตำหนักมาช่วยบรรเทาอารมณ์ร้อน กลับไม่คิดว่าจะมีหญิงงามบริสุทธิ์นางหนึ่งพุ่งเข้ามาในอ้อมอกของเขา

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ มีเหตุผลอะไรที่จะผลักไสนางเล่า แต่ไม่คิดว่าพอมาถึงที่นี่ผู้หญิงคนนี้กลับมาเกิดอายอะไรขึ้นมา ทำให้เขาไม่พอใจนัก

โชคดีที่ว่า เขายังเตรียมพร้อมที่จะลงมือ เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นไว้แล้ว คำพูดที่ชัดเจนเพียงนี้หากป๋ายซีเยวี่ยยังตีความไม่ได้ก็คงจะปัญญาอ่อนแล้ว ความคิดชั่วร้ายของรัชทายาททำให้นางรู้สึกไม่ชอบใจและนึกถึงความดีของรุ่ยอ๋องขึ้นมา อย่างน้อยรุ่ยอ๋องก็ไม่ทำแบบนี้กับนาง ป๋ายซีเยวี่ยที่เสียใจกับการกระทำของตนเองในวันนี้ พยายามฝืนปลอบโยนรัชทายาท หาโอกาสปลีกตัวออกไป “รัชทายาทนี่ก็นานมากแล้ว ข้าน้อยต้องกลับไปแล้ว” ป๋ายซีเยวี่ยพูดอย่างเร่งรีบ

แต่พอนางกำลังจะจากไปก็พบว่าตนเองหน้ามืดตาลาย ในกายเหมือนมีอะไรปั่นป่วนอยู่ ความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยนี้ทำให้นางรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย

ร่างกายโอนเอนสักพักฉินจิ่นซิวก็รีบเดินมาดึงนางเข้าไปในอ้อมกอด “เจ้าดูตัวเองสิ แม้แต่เดินยังไม่มั่นคงเลย ยังจะบอกว่าไม่เป็นอะไรอีก เด็กดี มาให้ข้าช่วยตรวจดูให้ละเอียดเถอะ”

“ท่าน!” ป๋ายซีเยวี่ยตัวอ่อน เพราะความใกล้ชิดของฉินจิ่นชิวทำให้ใจที่ตื่นตระหนกของนางแปรเปลี่ยนเป็นเดือดดาล นางเข้าใจทุกอย่างแล้ว

ความเย็นเยียบพุ่งออกมาจากดวงตาที่ไร้เดียงสาคู่นั้น นางพูดขู่ว่า “รัชทายาทท่านรีบปล่อยข้าออกไปเถิด ข้า เป็นคนของจวนตระกูลมู่ หากเกิดอะไรขึ้นกับข้าท่านปู่มู่ และท่านพี่มู่ไม่ปล่อยท่านไปง่ายๆ แน่”

“เจ้าเป็นคนของจวนตระกูลมู่รึ?” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ฉินจิ่นชิวก็หยุดการกระทำทั้งหมด หญิงสาวที่จงใจพุ่งเข้ามาในอ้อมอกของเขาเอง กลับมาจากจวนตระกูลมู่ เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ

นอกหน้าต่าง มู่ชิงเกอที่พอได้ยินป๋ายซีเยวี่ยพูดถึงจวนตระกูลมู่ก็ยืดคอยาวมองเข้าไปด้านในผ่านรอยแยกของหน้าต่าง

ภาพที่เห็นคือป๋ายซีเยวี่ยและฉินจิ่นซิวยื้อกันไปยื้อกันมา

ปฏิกิริยาของฉินจิ่นซิวทำให้ป๋ายซีเยวี่ยคิดว่าจะมีหวัง จึงรีบพยักหน้าพลางพูดว่า “ใช่ ข้าเป็นคนของจวนตระกูลมู่” น่าเสียดายที่นางประเมินความใจกล้าของฉินจิ่นซิวตํ่าเกินไป

หลังจากที่ได้ยินป๋ายซีเยวี่ยพูดถึงฐานะของตนเอง เขาก็หัวเราะอย่างเยือกเย็นในแววตานั้นเต็มไปด้วยความดูถูก “เจ้าเป็นคนของจวนตระกูลมู่ คงจะเป็นสาวใช้อุ่นเตียงที่ไอ้แก่นั้นหามาให้หลานชายมันสินะ วันนี้มู่ชิงเกอได้มีหน้ามีตา ข้านอนกับผู้หญิงของมันก็ถือว่าเจ๊ากันแล้ว”

คำพูดของฉินจิ่นซิวทำให้ป๋ายซีเยวี่ยตกใจและมู่ชิงเกอที่อยู่นอกหน้าต่างเองก็ขมวดคิ้ว

“ปล่อยข้านะ!” เมื่อเห็นว่าการใช้วาจาไม่มีประโยชน์ ป๋ายซีเยวี่ยจึงต่อต้านด้วยการใช้กำลัง

แต่ร่างกายที่แปลกไป ทำให้นางหนีจากเงื้อมมือของสายเหลืองขั้นกลางอย่างฉินจิ่นซิวไม่พ้น

“ปล่อยเจ้าอย่างนั้นหรือ เจ้าวางใจเถอะ รอข้าเสพสุขจากเจ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะปล่อยเจ้าไปเอง” ฉินจิ่นซิวยิ้มเย็น ไม่หยุดการกระทำ

แคว๊ก

เสียงผ้าฉีกขาดดังขึ้น เสื้อผ้าที่ป๋ายซีเยวี่ยสวมอยู่นั้นถูกเขาฉีกออก

“ไม่! ปล่อยข้านะ! ช่วยด้วย!” ป๋ายซีเยวี่ยร้องเสียงดัง ด้วยความหวาดกลัว

รอยยิ้มของฉินจิ่นซิวนั้นมีความโหดเหี้ยมเพิ่มเข้ามา “ไม่มีใครมาที่นี่หรอก เจ้าร้องขอให้ช่วยไปก็เปล่าประโยชน์”

คำพูดนี้ทำให้นัยน์ตาของป๋ายซีเยวี่ยพลันเกิดความสิ้นหวัง

หากวันนี้นางเสียตัวให้กับรัชทายาทแล้วในอนาคตนางจะทำอย่างไร? ‘รุ่ยอ๋องช่วยข้าด้วย!’

นอกหน้าต่าง สิ่งที่เกิดขึ้นข้างในทำให้ฉินอี้เหยาขมวดคิ้วอันงดงามแน่น นางดึงชายเสื้อของมู่ชิงเกอ “ชิงเกอ…เรา ”

“ไม่รีบ” มู่ชิงเกอพูดนิ่งๆ บอกแล้วว่าจะให้ป๋ายซีเยวี่ยได้รับบทเรียนเสียบ้าง นาง จะไม่คืนคำเด็ดขาด

ฉินอี้เหยาอ้าปากแต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงมองมู่ชิงเกอที่ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่

“อ๊า~~”

อยู่ๆ ป๋ายซีเยวี่ยก็กรีดร้อง มือที่ขยุ้มอยู่ตรงหน้าอกของฉินจิ่นซิวนั้นมีแสงสีเหลืองส่องประกายออกมา นางไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นพลางตบลงไปสุดแรง

‘สายเหลืองขั้นกลาง!’

มู่ชิงเกอที่แอบดูอยู่ข้างนอกเบิกตากว้าง แววตาปรากฏความเย็นเยียบฉาบไว้ชั้นหนึ่ง ป๋ายซีเยวี่ยคนนี้ช่างปกปิดได้แนบเนียนจริงๆ!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version