ตอนที่ 698
อึ้งไปทั้งกลุ่ม
ขณะที่มู่ชิงเกอเอ่ยคำนี้ออกมา ทั้งหมดก็เงียบสนิทไปทันที
โดยเฉพาะเมื่อนางใช้นํ้าเสียงที่แสนจะบริสุทธิ์เอ่ยคำนี้ออกมาก็แทบจะทำให้คนอึดอัดตาย
จนถึงเวลานี้เองพวกหลีเฉาทั้งสี่คนจึงเพิ่งจะเข้าใจว่าที่มู่ชิงเกอเอ่ยว่าการชิงเจ้าสาวอาจจะพลิกสถานการณ์ได้นั้นมีความหมายว่าอย่างไร
วุ่นวายกันมาตั้งนาน สุดท้ายแล้วเขาก็จะลากราชาเทวะลงนํ้าด้วย
เพียงแต่ ภัยอันตรายของพวกเขาคลี่คลายไป แต่ราชาเทวะจื่อกวงกลับได้ผลประโยชน์ไปเต็มๆ
นึกถึงตรงนี้แล้ว สายตาของพวกเขาทั้งสี่คนต่าง ก็ผุดแววเสียดายแทนมู่ชิงเกอ เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าในกระเป๋าจัดเก็บของมู่เทียนอินนั้นไม่มีของที่มู่ชิงเกอต้อง การอยู่แล้ว ต่อให้ถูกโยนทิ้งไปนางก็ไม่เสียดาย
สาเหตุที่ดื้อไม่ยอมมอบให้แต่แรกนั้นเพียงเพื่อรอโอกาสดีที่สุดเท่านั้น
สุดท้ายแล้ว คนที่มอบโอกาสนี้ให้นางกลับเป็นเหยาชิงไห่ที่นางเองก็คาดไม่ถึง ดังนั้น หลังจากรู้เรื่องราวของซีเซียนเสวี่ยแล้ว นางจึงผูกโยงสองเรื่องนี้เข้าไว้ด้วย กันทันทีเพื่อจัดการมันไปเสียพร้อมกันช่างสมบูรณ์แบบจนหาข้อบกพร่องไม่ได้เลย
หากมีคนรู้แผนนี้ของมู่ชิงเกอ เวลานี้คงทุบโต๊ะ ร้องเสียงดังว่าสุดยอดจริงๆ แน่นอน
“เจ้าว่าอะไรนะ” หลังจากตกตะลึงแล้ว คนขั้นถํ้าวิญญาณขั้นแปดที่เป็นหัวหน้าก็เอ่ยปากถามขึ้นอีกครั้ง นํ้าเสียงของเขาในครั้งนี้ลดความเหยียดหยามลงไปไม่ น้อยทีเดียว
เนื่องจาก เวลานี้เขาไม่มีแก่ใจจะไปเย้าแหย่หรือดูหมิ่นมู่ชิงเกอ สิ่งเร่งด่วนที่เขาต้องทำคือต้องแน่ใจว่าของสิ่งนั้นอยู่ที่ไหน
“ข้ายังเอ่ยไม่ชัดเจนพอหรือ” มู่ชิงเกอสั่นศีรษะ ช้าๆ สีหน้าเปิดเผย “เอาล่ะ ในเมื่อเจ้าฟังไม่ชัด อย่างนั้นข้าจะขอเอ่ยอีกครั้ง กระเป๋าจัดเก็บของนายน้อยตระกู ลมู่ที่เจ้าว่านั้นข้ามอบให้ราชาเทวะจื่อกวงก่อนที่จะจากมาแล้ว เชื่อว่าเวลานี้ เขาคงจะเปิดดูแล้ว”
“เจ้าโกหก ของสำคัญเช่นนั้น เจ้าจะให้คนอื่นไปง่ายๆ ได้อย่างไร” นํ้าเสียงของคนคนนั้นดูไม่เชื่อถือเลยแม้แต่น้อย
มู่ชิงเกอกลับส่ายหน้าหัวเราะ นางจะยืมปากคนพวกนี้บอกคนดินแดนเทพแผ่นดินเทพตะวันตกเรื่องหนึ่ง “ตั้งแต่ต้นจนจบ ข้ายังไม่รู้เลยว่าของที่พวกเจ้าแต่ละคนต้องการนั้นคืออะไร ถูกต้อง ข้าสังหารนายน้อยตระกูลมู่ และได้กระเป๋าจัดเก็บของเขามา มันเป็นรางวัลจากชัยชนะของข้า จะจัดการอย่างไรนั้นเป็นเรื่องของข้า แต่ข้ายังไม่ทันได้ลบปัญญาเทวะข้างบนนั้นเพื่อตรวจสอบว่าภายในมีอะไรกันแน่จึงทำให้ราชาเทวะจื่อกวงและพวกเจ้าอยากได้มันไปจากข้านักและเหตุใดข้าต้องมอบให้ด้วย”
เอ่ยถึงตรงนี้แล้ว นางก็มองเขาอย่างเย้ยหยัน
“เมื่อเป็นเช่นนี้ เหตุใดเจ้าถึงมอบมันให้ราชาเทวะจื่อกวง ยังมีอีก เจ้าว่าเจ้าไม่ได้เปิดกระเป๋าจัดเก็บรึ” คนคนนั้นถามอย่างเร่งรีบ
มู่ชิงเกอแค่นยิ้มเอ่ยว่า “ยังไม่ทันมีโอกาสเปิด ไม่ใช่ไม่คิด สุดท้ายที่มอบให้ราชาเทวะจื่อกวงเพราะข้าต้องเอาของไปแลกตัวคนคนหนึ่ง”
“ใคร?” คนคนนั้นเค้นถาม
มู่ชิงเกอหมุนตัวมาจูงมือซีเซียนเสวี่ยแล้วมองไปที่คนคนนั้น “แลกภรรยาข้าคืนมา ของของคนที่ตายไปแล้วนั้นจะเทียบได้อย่างไรกับภรรยาข้า”
“เจ้าหมายความว่า ราชาเทวะจื่อกวงจับตัวภรรยาเจ้าไป เจ้าจึงถูกบังคับให้มอบของออกไปหรือ” สองตาของคนคนนั้นหรี่ลงราวกับกำลังพิจารณาข้อเท็จจริงในคำเอ่ยของมู่ชิงเกอ
แต่มู่ชิงเกอกลับสั่นศีรษะแล้วปล่อยมือซีเซียนเสวี่ย บอกเขาว่า “เรื่องราวนั้นซับซ้อนมาก เป็นเรื่องผิดฝาผิดตัววุ่นวายนัก ไม่เช่นนั้นข้าก็คงไม่ยอมมอบของไปให้ง่ายๆ เช่นนี้ เรื่องนี้คนในดินแดนจื่อกวงรู้กันไม่น้อย หากเจ้าไม่เชื่อคำเอ่ยข้าก็ส่งคนไปตรวจสอบที่ดินแดนจื่อกวงได้ เรื่องนี้ข้าพูดจนหมดแล้ว ไม่ว่าพวกเจ้าจะเอาอะไร เวลานี้ล้วนไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้าทั้งสิ้น หากเจ้าอยากได้ก็ให้ไปหาราชาเทวะจื่อกวง ถึงแม้พวกเจ้าจะฆ่าพวกข้าทั้งหมดก็ไม่ได้ของที่อยากได้อยู่ดี”
“อีกทั้ง…” มู่ชิงเกอเดินขึ้นหน้าหนึ่งก้าว นัยน์ตาผุดแววเย้ยหยันเหมือนกับแววตาที่คนคนนั้นมองนางแต่แรก “ถึงแม้ข้าราชาเทวะน้อยจะเพิ่งรับการแต่งตั้งได้ไม่ นาน แต่ดินแดนฮ่วนเยวี่ยว่างเว้นไม่ได้แต่งตั้งราชาเทวะน้อยมาสามพันปี หากข้าได้รับอันตรายไม่ชัดเจนในแผ่นดินเทพตะวันตก เจ้าคิดว่าราชาเทวะข้าจะไม่สนใจเลยหรือ ก่อนหน้านี้ที่เจ้ามาหาเรื่องข้านั้นก็ถือว่าทำตามหน้าที่ หากเวลานี้เจ้ายังตอแยไม่เลิกอย่างนั้นก็จะเป็นเรื่องส่วนตัวแล้ว คนข้างหลังเจ้าไม่ว่าเป็นใครอาจจะสามารถคุ้มครองเจ้าตามหน้าที่ได้ แต่ในเรื่องส่วนตัว เจ้าแน่ใจได้หรือว่าเจ้าจะไม่ถูกโทษทัณฑ์”
คำพูดมู่ชิงเกอ พูดจนแววตาคนคนนี้เปลี่ยนแปลงไปมาวูบวาบไม่หยุด
มู่ชิงเกอยืดตัวตรงแค่นยิ้มเอ่ยว่า “ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเป็นใคร แต่ข้าพอฟังออกว่าเจ้าไม่พอใจข้ามาก หากเจ้าไม่พอใจข้าราชาเทวะน้อยฮ่วนเยวี่ยก็สามารถมาหาข้าได้ทุกเวลา ให้พวกเราได้ประลองกันบนเวที เวลานี้หากข้าเป็นเจ้าคงจะรีบไปดินแดนจื่อกวงจะดีกว่า”
คำเอ่ยสุดท้ายทำให้ตาดำของคนคนนั้นหดลง แววตาเขาเครียดลงมองมู่ชิงเกอ อย่างเย็นชาจึงหันไปสั่งคนอื่นว่า “พวกเราไป!”
มู่ชิงเกอเอ่ยไม่ผิด พวกเขาจะต้องรีบไปดินแดนจื่อกวง เพื่อพิสูจน์คำเอ่ยของเขา ทั้งยังต้องรีบส่งข่าวกลับไป มิฉะนั้น หากของนั้นไปถึงมือราชาเทวะจื่อกวงแล้ว การจะให้เขาคายออกมานั้นคงยากยิ่งนัก
พริบตาเดียว คนชุดดำเป็นร้อยก็หายตัวไปพร้อมกับเขา เมืองที่ว่างเปล่านี้จึงคงเหลือเพียงพวกมู่ชิงเกอเท่านั้น
มู่ชิงเกอยืนอยู่ที่เดิม เอามือไพล่หลังพลางแค่นยิ้ม
“เจ้าสาม พวกเรารีบไปเถอะ” หลีเฉาเดินขึ้นหน้าพร้อมบอกมู่ชิงเกอ
มู่ชิงเกอส่ายหน้าช้าๆ ยิ้มน้อยๆ เอ่ยว่า “ไม่ต้องรีบ พวกเขาไม่กลับมาแล้วล่ะ”
แววตาทุกคนดูประหลาดใจไม่เข้าใจว่าเหตุใดมู่ชิงเกอจึงเชื่อมั่นเช่นนั้น
มู่ชิงเกออธิบายว่า “หากพวกเขาสงสัยคำพูดของข้าแม้เพียงนิดเดียวล่ะก็ คงจะไม่ยอมปล่อยพวกเราไปแน่ พวกนั้นจะต้องจับตัวพวกเราไว้ก่อน รอจนพิสูจน์ข่าวที่ ดินแดนจื่อกวงแล้วค่อยว่ากันต่อ แต่นี่พวกเขาไม่ได้ทำนั้นหมายความว่าพวกเขาเชื่อคำของข้าทั้งหมดแล้ว”
“ที่เจ้าเอ่ยล้วนเป็นเรื่องจริง ไม่ต้องกังวลว่าพวกเขาจะตรวจสอบ” จวงซานกล่าว
มู่ชิงเกอผงกศีรษะนิดๆ
เซียนสุ่ยยิ้มเอ่ยว่า “ทีนี้คงเรียบร้อยแล้ว ข้ายังเข้าใจว่าตลอดทางกลับจะต้องต่อสู้กันอีกไม่รู้กี่รอบสุดท้ายแล้ววิธีของสามน้อยกลับทำให้ราชาเทวะจื่อกวงรับเคราะห์ไป คำเอ่ยเมื่อครู่นี้คงแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว ราชาเทวะจื่อกวงจะกลายเป็นเป้าของคนทั้งหมด”
“เพียงแต่สบายราชาเทวะจื่อกวงไป ของก็ยังโดนเขาเอาไป” ซวนเฉียงเอ่ยเสียงเย็นเยือก
ตั้งแต่นางรู้ว่าราชาเทวะจื่อกวงมีภรรยาเป็นฝูงแล้วก็รู้สึกแย่มากต่อเขา
มู่ชิงเกอยิ้มเอ่ยว่า “ไม่นับว่าสบาย ในเมื่อของนั้นเป็นเผือกร้อน เขาอยากได้ก็ให้เขาไปดีแล้ว เป็นแค่ของนอกกายเท่านั้น จะไปใส่ใจด้วยเหตุใด”
นางเอ่ยอย่างโล่งสบาย แต่เหยาชิงไห่กับซีเซียนเสวี่ยที่เข้าใจนิสัยมู่ชิงเกออย่างลึกซึ้งกลับฟังออกถึงเลศนัยบางอย่าง
“เพียงแต่ไม่รู้ว่าคนเหล่านี้เป็นคนของดินแดนเทพไหนกัน” หลีเฉาขมวดคิ้วเอ่ย
มู่ชิงเกอเชิดปากแค่นยิ้ม สองตาหรี่ลง “ไม่ว่าจะเป็นดินแดนเทพไหน แต่คนที่เอ่ยกับข้านั้นเป็นราชาเทวะน้อยคนหนึ่ง”