Skip to content

พลิกปฐพี 878

ตอนที่ 878

ข้าจะพาเขาไปด้วย

มู่ชิงเกอ ตั้งใจจัดเตรียมตำหนักข้างที่ค่อนข้างปิดสนิทหนึ่งหลัง ตอนนี้ เนื้อหาในเคล็ดวิชาเทวะเหล่านั้น ต่างก็สะท้อนอยู่ในตำหนัก ลอยอยู่ในอากาศ ส่องแสงวิ บวับ

อันที่จริง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มู่ชิงเกอนำเคล็ดวิชาเทวะออกมาให้คนภายนอกดู

ก่อนหน้านี้นางก็เคยทดลองเรียกผู้ที่เหลืออยู่ในตระกูลมู่ รวมถึงกลุ่มคนสนิทของนาง ให้พวกเขาดูเนื้อหาที่แท้จริงของเคล็ดวิชาเทวะ

ส่วนจะช่วยพวกเขาได้หรือไม่ หรือพูดว่าพวกเขาจะศึกษาได้มากน้อยเพียงใด ได้รับมากน้อยเพียงใดก็ ต้องดูที่โชคของตัวพวกเขาเองแล้ว

“นี่ก็คือเคล็ดวิชาเทวะ!”

ราชาเทวะจินกวงตกใจจนลุกขึ้นยืนอย่างอดไม่ได้ มองภาพเหล่านั้นนิ่ง

คนอื่นๆ ต่างก็กลั้นหายใจ มองดูอย่างรวดเร็ว ไม่กล้าพลาดไปแม้แต่นิดเดียว

ถึงแม้ เนื้อหาข้างใน พวกเขาจะไม่สามารถอ่านเข้าใจทั้งหมดได้ ถึงแม้จะมีข้อสงสัยจำนวนมาก พวกเขาก็ไม่ทันได้ไตร่ตรอง ตอนนี้สิ่งที่พวกเขาต้องทำ มี เพียงอย่างเดียวคือ พยายามจดจำภาพทั้งหมดอย่างสุดความสามารถ

แม้แต่ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยเองก็ยังอ่านอย่างใจจดใจจ่อ เขามองไปพลางตริตรองไปพลาง จดจำเนื้อหาทั้งหมดที่อ่าน เมื่อกลับไปแล้ว ยังต้องถกเถียงกับอดีตราชาเทวะอีก

ซือมั่วเองก็กำลังอ่านอยู่เช่นกัน

เพียงแต่ สิ่งที่เขาสนใจไม่ใช่เนื้อหาในเคล็ดวิชาเทวะ แต่หวังว่าจะหากุญแจสำคัญในคำรํ่าลือนั้นเจอ

เขาอยู่ห่างจากขั้นบรรพเทพเพียงครึ่งก้าว หากได้รับการชี้แนะจากเคล็ดวิชาเทวะก็จะเข้าสู่ขั้นบรรพเทพ ปกป้องคนที่เขาคิดอยากปกป้อง ปกป้องทุกสิ่งทุกอย่างที่อยากปกป้องในใจของคนที่เขาอยากปกป้องได้!

ทว่า เขากลับหาจุดกุญแจสำคัญในนั้นไม่พบ

‘หรือว่าคำร่ำลือนั้นเป็นเท็จ’ ซือมั่วถามตัวเองในใจ ‘แต่ว่า บรรพบุรุษตระกูลมู่ทลายความว่างเปล่า เข้าสู่ขั้นบรรพเทพได้แล้วจริงๆ’

ซือมั่วไม่ยอมแพ้อ่านซํ้าใหม่อีกรอบ เขาอ่านวิชาที่เกี่ยวกับการหล่อหลอมร่างกายในเคล็ดวิชาเทวะส่วนบนออกแล้วว่ามาจากเผ่ามาร อ่านวิธีบำเพ็ญปัญญาเทวะเหล่านั้นในเคล็ดวิชาเทวะส่วนกลางออกแล้วว่าเป็นเอกลักษณ์อีกหนึ่งชนิดเช่นกัน กระทั่งอ่านวิถีใหญ่ที่แฝงอยู่ในบัญญัติอาคมเหล่านั้นในเคล็ดวิชาเทวะส่วนล่างออก สัมผัสได้ถึงการหยั่งรู้วิถีชนิดนั้นของบรรพบุรุษตระกูลมู่ผู้สร้างเคล็ดวิชาเทวะได้

แต่ว่า ดันไม่มีสิ่งที่เขาต้องการ!

‘ขั้นบรรพเทพยากราวกับปีนขึ้นสวรรค์จริงๆ หรือ’ ซือมั่วขมวดคิ้วเล็กน้อย

ในตำหนักข้าง เงียบสงัดอย่างถึงที่สุด ทุกๆ คนต่างก็ตั้งสมาธิอ่านเนื้อหาในเคล็ดวิชาเทวะ แม้แต่ตัวมู่ชิงเกอเองก็ยังถือโอกาสนี้ ตั้งใจหยั่งรู้ใหม่อีกรอบหนึ่ง

นางหลอมรวมส่วนที่ขาดหายสองส่วนสุดท้าย ได้บัญญัติอาคมทั้งสามมาแล้ว

และสามบัญญัติอาคมนี้ต่างก็เป็นบัญญัติอาคมของขั้นศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูงเท่านั้นที่สามารถใช้ได้ ช่วงเวลาก่อนหน้านี้นางมีเวลากระชั้นชิด ไม่มีเวลาไปศึกษามาก นัก ตอนนี้กลับได้อ่านดูใหม่อีกรอบ

การอ่านครั้งนี้ ใช้เวลาสามวันสามคืน

เมื่อปัญญาเทวะของมู่ชิงเกอรู้สึกเหนื่อยล้า นางก็เก็บเคล็ดวิชาเทวะ ก้มหน้าใช้นิ้วมือนวดคลึงหว่างคิ้ว

คนอื่นๆ แม้ว่าจะตัดใจไม่ได้ แต่เมื่อเห็นใบหน้าเหนื่อยล้านั้นของนางก็ไม่พูดอะไรขึ้นมาอีก

ซือมั่วกล่าวกับมู่ชิงเกอ “กินยาบำรุงจิตเสียหน่อย”

มู่ชิงเกอพยักหน้าเบาๆ หยิบยาลูกกลอนหนึ่งเม็ด กลืนลงไป ผ่านไปชั่วขณะ ความเหนื่อยล้าในสีหน้านาง ก็ลดลงหลายส่วน

“เคล็ดวิชาเทวะลึกซึ้งกว้างไกลจริงๆ หนังสือยอดเยี่ยมอันดับหนึ่ง เคล็ดวิชาอันดับหนึ่งในเผ่าเทพของข้า สมควรแก่การสรรเสริญ” ราชาเทวะเซียนเหนี่ยวถอนหายใจกล่าว

ราชาเทวะซุยชิงเองก็กล่าวตาม “ใช่แล้ว ไม่คิดว่าในเคล็ดวิชาเทวะนี้ ละทิ้งการแบ่งแยกของเทพมาร หลอมสองเผ่าเข้าด้วยกันมานานแล้ว”

“แสดงให้เห็นว่า การขัดแย้งและการตั้งตัวเป็นศัตรูหลายปีของพวกเรา เป็นเพียงแนวคิดที่ผิดพลาด ปีนั้นบรรพบุรุษตระกูลมู่สร้างเคล็ดวิชาเทวะ กลายเป็นบุคคลสำคัญในแผ่นดินเทพมาร ผู้สร้างเก้าชั้นฟ้า ตระกูลมู่ฝึกตามหนังสือเล่มนี้มาแต่ละรุ่นๆ ก็ไม่เห็นผู้ใดกลายเป็นมาร เกิดความคิดต่ำช้า นี่ก็พิสูจน์แล้วว่า เคล็ดวิชา ของเทพมารสามารถหลอมรวมกันได้” ราชาเทวะจงซานพูดจบก็ละสายตามองมู่ชิงเกอกับซือมั่ว

“เรื่องที่พวกเราไม่กล้าคิด มู่ชิงเกอทำได้แล้ว” ราชาเทวะจินกวงยิ้มเจื่อนส่ายหน้า

“กล้าบรรลุจึงจะสามารถได้รับวิถีใหญ่ อันที่จริงบรรพบุรุษตระกูลมู่ก็กำลังบอกพวกเราผ่านเคล็ดวิชาเทวะอยู่เช่นกัน เคล็ดวิชาไม่มีถูกผิด ดีเลวอยู่ที่ใจคน” ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยเอ่ยปากช้าๆ สรุปการหยั่งรู้ในใจทุกคนออกมา

ผ่านไปครู่หนึ่ง ราชาเทวะจงซานจึงมองมู่ชิงเกอแล้วกล่าวถาม “ราชาเทวะมู่ เคล็ดวิชาเทวะพวกเราได้เห็นแล้ว มีประโยชน์เหลือคณานับ ขอบคุณอย่างยิ่ง”

มีเขาพูดเปิด คนที่เหลือก็พากันขอบคุณ

แม้ว่าระหว่างพวกเขาจะเป็นเพียงการค้า แต่ว่ามู่ชิงเกอสามารถทำตามคำมั่นสัญญาอย่างตรงไปตรงมาได้ ปณิธานและความเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ ก็ทำให้พวกเขา ผู้ชายเหล่านี้ละอายใจจริงๆ

พักหนึ่ง ราชาเทวะจงซานก็เอ่ยปากอย่างลังเล “ราชาเทวะมู่ ไม่ทราบว่าท่านวางแผนจะเปิดแสงแห่งวิถีเมื่อใด”

ใช่! แสงแห่งวิถี!

ข้อตกลงในวันนั้น ยังมีเรื่องที่มู่ชิงเกอจะนำพวกเขาเข้าแสงแห่งวิถีเพื่อหยั่งรู้เรื่องนี้ด้วย เพิ่งจะอ่านเคล็ดวิชาเทวะก็เกือบลืมเรื่องนี้ไปเสียแล้ว

“สามวันให้หลังว่าอย่างไร” มู่ชิงเกอกล่าวอย่างไม่อ้อมค้อม

ทุกคนพากันพยักหน้า รู้สึกสมเหตุสมผล

ปัญญาเทวะมู่ชิงเกอเหนื่อยล้า ต้องการพักผ่อน พักผ่อนดีแล้วก็จะสามารถเดินในแสงแห่งวิถีได้ไกลขึ้นกว่าเดิม

“แต่ว่า ข้ามีเงื่อนไข” มู่ชิงเกอพลันกล่าว

“ราชาเทวะมู่ต้องการพูดอะไรโปรดเอ่ยมาตามตรง” ราชาเทวะเฝินไห่กล่าว

มู่ชิงเกอยิ้มเล็กน้อย มองทุกคน “ไม่ใช่เรื่องลำบากใจอะไร ข้าเพียงแต่หวังว่า ตอนที่เข้าแสงแห่งวิถีจะให้เจ้าแห่งมารตลอดจนบุคคลชั้นยอดเผ่ามารร่วม เดินทางด้วยกัน แน่นอนว่าดินแดนเทพต่างๆ ในแผ่นดินเทพสี่สมุทรก็สามารถเลือกศิษย์ชั้นยอด เข้าแสงแห่งวิถีไปพร้อมกันได้ นอกจากนี้แล้ว มนุษย์เทพที่ไม่เคยเข้าแดนเทพ หากมีพรสวรรค์พอใช้ และมีจิตใจบำเพ็ญตบะ ซื่อสัตย์เปี่ยมคุณธรรม ก็สามารถเข้าไปพร้อมกันได้”

“นี่…”

“ราชาเทวะมู่ ท่านรู้หรือไม่ว่าทำเช่นนี้ จะมีคนมากน้อยเพียงใด อีกอย่าง ในแสงแห่งวิถี แต่ไหนแต่ไร ไม่เคยมีคนของเผ่ามารเข้าไป” ราชาเทวะจินกวงกล่าว อย่างประหลาดใจ

ราชาเทวะที่เหลือต่างก็มองมู่ชิงเกอด้วยความตกใจเช่นกัน

ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยขมวดคิ้วเล็กน้อย ตาหงส์เหลือบน้อยๆ ตกลงบนร่างมู่ชิงเกอ เขาเองก็ประหลาดใจในความคิดของมู่ชิงเกอเช่นกัน ดูเหมือนนางต้องการจะเลื่อนขั้นระดับการบำเพ็ญและความสามารถของคนจำนวนมาก

“ราชาเทวะมู่ ท่านต้องการให้เจ้าแห่งมารเข้าร่วมหยั่งรู้ในแสงแห่งวิถี ข้ายังเข้าใจได้ แต่ว่าท่านยังต้องการให้บุคคลชั้นยอดเผ่ามาร รวมถึงบุคคลชั้นยอดจาก แผ่นดินเทพอื่นๆ เข้าไปด้วยกัน ข้ากลับไม่อาจเข้าใจได้ ท่านอยากมอบผลประโยชน์ให้ผู้ที่บำเพ็ญเหมือนกัน โดยกระทำการยิ่งใหญ่เช่นนี้ แท้จริงแล้วเพื่ออะไรกันแน่” ราชาเทวะจงซานกล่าวถาม

“นั่นสิ! เพื่ออะไร” ราชาเทวะเฝินไห่เองก็กล่าวอย่างไม่เข้าใจ

คนทั้งหมดต่างก็มองมู่ชิงเกอด้วยใบหน้าฉงน รอคำอธิบายของนาง

มู่ชิงเกอสูดหายใจเข้าลึก เดิมทีนางยังไม่คิดจะเอ่ยถึงเรื่องเรื่องนี้เร็วเกินไป เพราะว่ายังไม่มีหลักฐานที่แน่นอน นั่นเป็นเพียงการปล่อยข่าวเขย่าขวัญผู้คน แต่ ว่าตอนนี้การกระทำของนางชัดเจนเพียงนี้แล้ว ทำให้เหล่าราชาเทวะในแผ่นดินเทพสี่สมุทรสงสัย หากไม่บอกตรงๆ ก็อาจจะเกิดความเข้าใจผิดอีกได้

“ข้ากำลังเตรียมป้องกันเผ่าอี้” มู่ชิงเกอกล่าวตอบ

“เผ่าอี้!” ราชาเทวะเฝินไห่กล่าวอย่างประหลาดใจ

ราชาเทวะชุ่ยซิงเองก็ขมวดคิ้วกล่าวทันที “เตรียมป้องกันเผ่าอี้ เผ่าอี้ทำศึกกับเทพมารสองเผ่ามาหลายปี ล้วนแต่ไร้หนทางโจมตีสำเร็จ เห็นได้ชัดว่าอำนาจไม่มาก ความสามารถมีจำกัด รับมืออย่างระมัดระวังก็พอแล้ว เหตุใดจะต้องเตรียมป้องกัน”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version