Skip to content

พลิกปฐพี 96-1

ตอนที่ 96-1

จะชายหรือหญิง คุณชายก็สังหาร!

ภายนอกอาณาเขตลั่วตู ในพื้นที่อันงดงามของผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งมีสุสานตั้งอยู่

เป็นสุสานที่เพิ่งสร้างขึ้น ถูกประดับตกแต่งอย่างสวยงามโดยมีหญ้าเป็นฐานรอง ด้านหน้าสุสาน มีหินตั้งอยู่แผ่นหนึ่ง ด้านบนสลักตัวหนังสือไว้เพียงบรรทัด เดียว   [สุสานของภรรยามู่ชิงเกอ แซ่ฉิน ฉินอี้เหลียน]

มู่ชิงเกอที่อยู่ในชุดนักรบ นั่งขัดสมาธิอยู่หน้าสุสาน เสื้อคลุมสีแดงปลิวไปตามสายลมและร่วงลงสู่พื้นดิน ข้างหลังตัวนางองครักษ์เขี้ยวมังกรต่างนั่งคุกเข่าอย่างพร้อมเพรียงกัน พวกเขานิ่งสงบดั่งรูปปั้น ไม่มีใครส่งเสียง รบกวนเจ้านายของตนเองเลยแม้แต่เสียงเดียว

ฉินอี้เหลียน มิได้ฝังอยู่ที่เดียวกับตระกูลฉิน

นางให้ฉินจิ่นเฉินโน้มน้าวอวิ๋นเฟยและพาร่างของฉินอี้เหลียนออกมา และหาสถานที่ซึ่งสภาพแวดล้อมเงียบสงบ ทิวทัศน์สวยงาม เพื่อเป็นที่ให้นางหลับได้อย่างสบาย

ไม่สามารถช่วยฉินอี้เหลียนไว้ได้ อาจจะกลายเป็นความรู้สึกผิดที่จะติดตัวนางตลอดไป แต่ก็จะไม่ทำให้นางจมปลักอยู่กับเรื่องเหล่านี้ ลมพัดผ่านกระทบกับกิ่งไม้ ส่งเสียง “ซ่าๆ” ดั่งเสียงเพลงแห่งนํ้าตา ไพเราะแต่ทว่ากลับโศกเศร้า มู่ชิงเกอวางมือทั้งสองข้างบนเข่า จ้องตัวหนังสือที่สลักเองกับมือ พลันพูดเสียงต่ำว่า  “เหลียนเหลียนนี่เป็นวิธีเดียวที่ข้าจะทำตามปรารถนาของเจ้าได้ ขอให้เจ้าจง หลับให้สบาย”

บนสุสาน ใบหญ้าพัดขึ้นมาพร้อมกับสายลม ราวกับเป็นการตอบรับคำพูดของมู่ชิงเกอ ท่ามกลางความมัวหมอง มู่ชิงเกอราวกับเห็นว่าสุสานหล่อหลอมเงาร่างของฉินอี้เหลียนขึ้นมาและเงาร่างนั้นกำลังยิ้มให้นางด้วยความเบิกบาน นัยน์ตาดวงกลมโตยังคงความสดใสและไร้เดียงสาโดยไม่ได้รับการแต่งเติมอันใด

นางยิ้มจนดวงตาทั้งคู่หยีเล็ก พลางค่อยๆ เงยหน้าขึ้น มองเงาร่างดั่งภาพในจินตนาการนั้น

นางไม่รู้ว่าเป็นวิญญาณของฉินอี้เหลียนจริงๆ หริอเป็นเพียงภาพในจินตนาการของตนเอง แต่นางรู้เพียงว่าในตอนนี้นางไม่อยากจะทำลายภาพที่อยู่ตรงหน้า หาก

เป็นฝันก็อยากจะฝันเช่นนี้ต่อไป

“เหลียนเหลียน…” มู่ชิงเกอพึมพำ นางเห็นว่าฉินอี้เหลียนกำลังยิ้มให้กับตนเอง รอยยิ้มนั่นช่างหอมหวาน และละมุนละไม ดั่งครั้งแรกที่พบกัน ทำให้นางรู้สึกดี เป็นอย่างมาก

“พี่ชาย ข้าจะเต้นรำให้ท่านดู” ท่ามกลางภาพอันพร่ามัว มู่ชิงเกอได้ยินเสียงของฉินอี้เหลียนที่ยังคงนุ่มนวลเหมือนเคย

นางพยักหน้าอย่างไม่รู้ตัว

ครั้งนี้นางมิได้ปฏิเสธอย่างเย็นชา

บนสุสาน เงานั้นเริ่มเต้นรำ เคลื่อนตัวไปมาราวกับกลุ่มควันและผีเสื้อที่กำลังบินไปมา นี่คือการเต้นรำที่งดงามมากที่สุดเท่าที่มู่ชิงเกอเคยเห็น

นางมองดูอย่างตั้งใจโดยมิได้พลาดแม้การเคลื่อนไหวเดียว มุมปากพลันผุดรอยยิ้มขึ้นมา

หลังจากที่เต้นเสร็จ หิมะก็พลันได้ร่วงลงจากฟ้าอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

หิมะที่เบาดั่งขนห่านค่อยๆ ตกลงมา ร่วงลงสู่พื้นดินและกระจายลงบนสุสาน องครักษ์เขี้ยวมังกรรู้สึกฉงนใจ มองหิมะที่ตกลงมา ใบหน้าอันเย็นเยียบเต็มไปด้วยความสงสัย

นี่มันฤดูใบไม้ร่วงที่ไม่ควรจะมีหิมะตกมิใช่หรือ

ทันใดนั้น ผืนแผ่นดินก็ถูกย้อมเป็นสีขาว บนตัวของมู่ชิงเกอและองครักษ์เขี้ยวมังกรก็มีถูกหิมะบางๆ หนึ่งชั้นปกคลุมอยู่

พวกเขายังคงไม่ขยับ สายตาก็ยังคงจับจ้องเงาร่างสีแดงที่ถูกหิมะสีขาวปกคลุมอยู่

ยังคงสง่าผ่าเผยดังเดิม แต่แฝงความโศกเศร้าไว้มากกว่า

“พี่ชาย เหลียนเหลียนเต้นสวยไหม?” เงานั้นเอามือไขว้หลังไว้อย่างขี้เล่น รอคำตอบของมู่ชิงเกอด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยการรอคอย

ดวงตาอันกลมโต โค้งดั่งพระจันทร์เสี้ยว ในแววตาเปล่งประกาย

ราวกับว่า นางได้ใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีในการเต้นครั้งนี้ เพียงเพื่อต้องการการยอมรับจากมู่ชิงเกอ

มู่ชิงเกอพยักหน้าอย่างแรง รอยยิ้มตรงมุมปากชัดเจนมากกว่าเดิม

ในดวงตาอันสว่างไสวของนาง เป็นครั้งแรกที่สูญเสียความหลักแหลมทั้งหมดที่มี เหลือไว้เพียงแค่เงาอันงดงามของฉินอี้เหลียนที่ฝังลึกเข้าไปในดวงใจ

เสื้อผ้าของนางไม่ได้แปดเปื้อนเพราะรอยเลือด หน้าอกของนางไม่ได้ถูกศรธนูพวกนั้นยิงจนทะลุ นางยังคงยิ้มอย่างสดใสร่าเริงและยังคอยวนเวียนอยู่รอบตัวนาง ใช้ าเสียงอันหอมหวานเรียกนางว่า ‘พี่ชาย’

“พี่ชาย ข้าให้ลูกอมท่าน นี่เป็นลูกอมที่เหลียนเหลียนชอบมากที่สุดเชียวนะ”

การยอมรับจากมู่ชิงเกอ ทำให้ดวงตาดั่งจันทร์เสี้ยวคู่นั้นโค้งลงมากกว่าเดิม นางยื่นมือออกไปหามู่ชิงเกอ ในมือมีลูกอมอยู่เม็ดหนึ่ง

จะเลี้ยงลูกอมนางอีกแล้วหรือ?

รอยยิ้มของมู่ชิงเกอชัดเจนกว่าเดิม นางจำได้ดีว่า เมื่อเจอกันอีกครั้งที่สวนดอกท้อ องค์หญิงตัวน้อยคนนี้ก็เลี้ยงลูกอมนาง แต่นางกลับไม่สนใจ ดูเหมือนว่าตั้งแต่ครั้งนั้น องค์หญิงตัวน้อยจะสัมผัสได้ถึงการปฏิเสธของนาง จึงไม่เคยเลี้ยงลูกอมนางอีกเลย ความจริงแล้ว การให้ลูกอมเป็นวิธีแสดงความรักขององค์หญิงตัวน้อย

มู่ชิงเกอค่อยๆ ยกมือขึ้น แบมือของตนเองออกไปรับลูกอม ซึ่งเป็นการแบ่งปันของที่ตนเองชอบ

เงาร่างที่ยืนรอลุ้นอยู่ หลังจากที่เห็นมู่ชิงเกอยื่นมือออกไป ก็ได้เผยรอยยิ้มอันเบิกบาน นางวางลูกอมลงบนฝ่ามือของมู่ชิงเกออย่างระมัดระวัง

ลูกอมเม็ดสีขาว กระทบกับมือทำให้รู้สึกถึงความเย็น

ความพร่ามัวในสายตาของมู่ชิงเกอค่อยๆ หายไป ตรงหน้าไม่มีเงาของฉินอี้เหลียนอีกต่อไป ในฝ่ามือของนางมีเพียงหิมะที่กำลังค่อยๆ ละลายวางอยู่

เป็นภาพลวงตาหรือ?

มู่ชิงเกอเก็บมือของตนเอง ก้มลงมองมือ หิมะที่ตอนนี้ได้ละลายกลายเป็นหยดนํ้าไปแล้ว นางกำมือแน่น น้ำจากหิมะทะลุผ่านระหว่างร่องนิ้ว พลันพูดเบาๆ ว่า “เหลียนเหลียน ข้าไปแล้วนะ วันหลังจะมาเยี่ยมเจ้าใหม่”

พูดจบ นางก็ยืนขึ้น หิมะบนร่างกายก็พลันตกลงสู่พื้นดิน

องครักษ์เขี้ยวมังกรเองก็ลุกขึ้นในทันที หิมะบนร่างกายถูกสะบัดให้ร่วงลงพื้น จนกลายเป็นเนื้อเดียวกับหิมะที่อยู่บนพื้น

“ไป” มู่ชิงเกอหันกลับมาสั่งองครักษ์เขี้ยวมังกร

พาองครักษ์เขี้ยวมังกรจากไป ในใจก็หมดห่วงต่อฉินอี้เหลียน

หลังจากที่นางจากไป หิมะก็ค่อยๆ หยุดลง ท้องฟ้าอันปลอดโปร่ง โปร่งใสดั่งกระจกบานหนึ่ง สะท้อนให้เห็นทุกคนที่อยู่บนพื้นดิน

สวบ—สวบ—เสียงคนเดิน

บนพื้นที่เต็มไปด้วยหิมะ มีรอยเท้าปรากฏขึ้นจำนวนหนึ่ง ร่างอันสูงส่งได้รูปปรากฏตัวตรงหน้าสุสานของฉินอี้เหลียน นางค่อยๆ คุกเข่าลง ยกมือขึ้นลูบตัวหนังสือที่อยู่บนหินเบาๆ ใบหน้าอันน่าเย้ายวนแฝงความรู้สึกสับสนและ ความทุกข์มากมาย

“เหลียนเหลียน ข้าไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเจ้าก็ชอบเขา”

นางพูด สายตาของนางจ้องคำว่า ‘ภรรยา’ บนหินแผ่นนั้น พลันเผยรอยยิ้มที่ประดับไปด้วยความทุกข์ตรงมุมปาก ใช้นํ้าเสียงที่แฝงความอิจฉาพูดว่า “ข้ารู้สึกอิจฉาเจ้าขึ้นมาเสียแล้วสิ อิจฉาเจ้าที่สามารถรักได้อย่างบริสุทธิ์และกล้าหาญเช่นนี้

“บางที อาจจะต้องเป็นดั่งเจ้าเช่นนี้ จึงจะสามารถหยุดเขาเอาไว้ได้” นางเก็บมือแล้วค่อยๆลุกขึ้นยืน จ้องสุสาน ที่ถูกหิมะบางๆ ปกคลุมอยู่ ในแววตาอันเย็นเยียบแฝงความปวดร้าว “แต่ข้าควรจะทำอย่างไรดี?”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version