ตอนที่ 96-4
จะชายหรือหญิง คุณชายก็สังหาร!
เพราะอย่างไร นางก็ได้คุยเรื่องนี้กับฉินจิ่นเฉินอย่างชัดเจนแล้ว ใครจะขึ้นเป็นฮ่องเต้ก็ได้ แต่ต้องไม่ก่อความเดือดร้อนให้กับตระกูลมู่อีก หากลงมือกับตระกูลมู่เมื่อไหร่หรือเพียงคิดที่จะลงมือ นางก็จะล้มล้างอำนาจอีก
ในสวนสระเมฆา ประตูเรือนของมู่ชิงเกอปิดสนิท ราวกับไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่
สำหรับโย่วเหอและฮวาเยวี่ย ในตอนนี้พวกนางไม่ได้เรียนงานบ้านงานเรือนเหมือนดั่งหญิงสาวทั่วไปอีกแล้ว เพียงแต่ฝึกทักษะอยู่ในสวน ในครั้งนี้ที่มู่ชิงเกอออกไปทำการใหญ่ กลับไม่ได้พาทั้งสองไปด้วย ทำให้ทั้งสองรู้สึกเสียใจและเป็นแรงกระตุ้นที่อยากจะทำให้ตนเองเก่งกาจมากขึ้น
ในเรือน เตียงนอนถูกคลุมเอาไว้ราวกับมู่ชิงเกอกำลังนอน
แต่ทว่าบนเตียงกลับไม่มีใครเลย
ในอีกโลกที่เชื่อมต่อกับช่องว่างของมู่ชิงเกอ เหมิงเหมิงที่ตัวเท่านิ้วหัวแม่มือกระโดดโลดเต้นไปมาระหว่างไหล่ซ้ายและขวาของมู่ชิงเกอยังไม่หยุด แต่มู่ชิงเกอกลับนั่งหลับตาทั้งคู่และนั่งขัดสมาธิอยู่ในบ่อสายฟ้าเพื่อรับพลังจากสายฟ้า
สายฟ้าสีม่วงน้ำเงินไหลผ่านร่างกายของนาง ราวกับว่านางไม่ได้รู้สึกอะไรและยังคงนั่งนิ่งดังรูปปั้น
ภายนอกบ่อสายฟ้าไม่ได้เป็นกระท่อมอีกต่อไป แต่กลายเป็นเรือนที่สร้างจากกระเบื้องเคลือบและอิฐขาว ภายในมีจำนวนห้องมากขึ้น การตกแต่งก็งดงามหรูหรา พื้นที่ก็มากยิ่งขึ้นเช่นกัน
นอกเรือน ต้นไม้แก่ต้นนั้นยังคงพยุงยอดไม้อันใหญ่โต
ของตนเองเอาไว้เหนือตัวเรือน
สวนยาสมุนไพรที่อยู่ไกลออกไปก็สามารถเห็นได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นและมีกลิ่นหอมของยาลอยมาอย่างไม่ขาดสาย
หมอกสีขาวที่อยู่ข้างหน้าได้เผยให้เห็นโครงร่างของอาคารอันกว้างใหญ่มากขึ้น เท่าที่เหมิงเหมิงบอก หลังจากที่มู่ชิงเกอทะลวงสู่สายม่วงก็จะสามารถเปิดตำหนักแรกได้และสามารถครอบครองสมบัติที่อยู่ในที่แห่งนั้น สำหรับสมบัติคืออะไรนั้น เหมิงเหมิงเก็บเป็นความลับ และพูดเพียงแต่ว่าต้องการจะสร้างความประหลาดใจแก่มู่ชิงเกอ
มู่ชิงเกอค่อยๆ ลืมตาทั้งสองข้างขึ้น นัยน์ตาอันสว่างสดใสของมู่ชิงเกอ ราวกับมีแสงสายฟ้าสีม่วงนํ้าเงินสะท้อนออกมา
“เจ้านาย เจ้านายเข้าใกล้จากสายม่วงเข้ามาอีกขั้นแล้ว” เหมิงเหมิงที่เห็นมู่ชิงเกอลืมตาขึ้น จึงกระโดดลงไปหยุดบนหลังมือของนางในทันที เงยใบหน้าอันน่ารักละเอียดลออขึ้นมอง พลันพูดพร้อมรอยยิ้ม
มู่ชิงเกอก้มหน้าลงไม่พูดอะไร แน่นอนว่านางต้องสัมผัสได้ว่าพลังเวทของตนเองก้าวขึ้นมาอีกขั้น แต่ทว่าหากจะทะลวงสู่สายม่วงก็คงจะทำไม่ได้ในทันที
“เจ้านาย ท่านกำลังคิดอะไรอยู่หรือ?” เหมิงเหมิงบินมาอยู่ตรงหน้ามู่ชิงเกอแล้วพลันกะพริบตาถาม
ท่าทางอันน่ารัก ทำให้มู่ชิงเกอกระตุกรอยยิ้มและพูดว่า “ข้ากำลังคิดว่าหากไม่ใช่เพราะมีพลังสายฟ้าคงจะยากในการพัฒนาพลังอยู่ในบ่อสายฟ้าเช่นนี้’’
“นี่เป็นวาสนาของเจ้านาย เจ้านายจะหลอมโอสถไหม เดี๋ยวเหมิงเหมิงจะไปเตรียมสมุนไพรให้” คำพูดอันเชื่อฟังของ เหมิงเหมิงช่างน่าเอ็นดู
แต่ทว่ามู่ชิงเกอก็ไม่ได้มองข้ามประกายวิบวับที่อยู่ในแววตาของเหมิงเหมิง
เมื่อเห็นสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยการรอคอยของใบหน้าเล็กๆ นั้นมู่ชิงเกอจึงพยักหน้า
เหมิงเหมิงพึมพำคำหนึ่ง จากนั้นก็หายไปจากสายตาของมู่ชิงเกอในทันที เพื่อไปเตรียมสมุนไพรและเลือกรสชาติที่ตนเองต้องการ….คิกคิก………………….
ตั้งแต่ที่มู่ชิงเกออย่ที่นี่จนหลอมโอสถหม้อแรกสำเร็จ เศษ 2 ส่วน 3 ของการหลอมโอสถทุกครั้งได้กลายเป็นขนมให้กับเหมิงเหมิง
เหมิงเหมิงทำเหมือนโอสถพวกนั้นเป็นลูกอมอย่างนั้น ผลาญความพยายามที่มู่ชิงเกออุตส่าห์ทำจนสำเร็จซะ…ไม่มีเหลือ
หากไม่ใช่เพราะคำสั่งจากมู่ชิงเกอ คงจะไม่มีเหลือไว้แม้กระทั่ง 1 ใน 3
เพราะฉะนั้นการที่มู่ชิงเกอสามารถหลอมโอสถระดับสูงได้ในวันนี้ ครึ่งหนึ่งเป็นเพราะเหมิงเหมิง หากไม่ใช่เพราะนางกระเพาะใหญ่เช่นนี้ มู่ชิงเกอคงไม่ขยันหลอมโอสถมากมายเพียงนี้
ครู่หนึ่ง โอสถหม้อหนึ่งของมู่ชิงเกอก็หลอมสร็จเรียบร้อยแล้ว
สำหรับมู่ชิงเกอแล้วในตอนนี้การหลอมโอสถระดับสูงถือเป็นเรื่องง่ายมากและไม่จำเป็นต้องเสียพลังอะไรเลย “ง่ำ~งํ่า~! เจ้านายเมื่อไหร่ท่านจะกระตุ้นพลังแห่ง สายโลหิตแล้วมาเริ่มหลอมอาวุธเสียทีเล่า” เหมิงเหมิงถามขึ้น ในขณะที่กำลังเคี้ยวโอสถไปด้วย
ถึงแม้ว่าวิธีผลิตอาวุธที่เจ้านายคิดคันขึ้นเองนั้นจะทำให้นางทึ่งมาก แต่ก็ยังคิดว่าหากเจ้านายกระตุ้นพลังจากสายโลหิตแห่งการหลอมอาวุธได้ก็จะยิ่งสุดยอดกว่านี้
มู่ชิงเกอเก็บยาที่เหลือเอาไว็ในขวดกระเบื้องเคลือบและพูดกับเหมิงเหมิงว่า “หากจัดการเรื่องทั้งหมดในแคว้นฉินเสร็จแล้ว เราจะออกเดินทางไปหาพญาเพลิงกัน”
พญาเพลิงอาจจะสามารถกระตุ้นสายโลหิตในตัวของนางได้
นี่เป็นสิ่งที่เหมิงเหมิงบอกกับนางอย่างกะทันหัน เพราะเจอในตำราโบราณเล่มหนึ่ง แต่ทว่ากลับไม่สามารถนำตำราโบราณนั้นมาให้มู่ชิงเกอดูได้
พญาเพลิงคืออะไรนั้น เหมิงเหมิงไม่ได้อธิบายชัดเจน และมู่ชิงเกอเองก็ไม่ได้เข้าใจมากนัก
ความรู้สึกไม่กระจ่างเช่นนี้ ทำให้นางยิ่งต้องหาให้เจอ
เรื่องนี้มันต้องแล้วแต่โชคชะตาด้วยสินะ!
“ยังมีอีกเรื่องมิใช่หรือ ? เจ้านายฆ่าไอ้เลวนั้นไปแล้วมิใช่หรือ” ทันทีที่พูดจบ เหมิงเหมิงก็ยัดโอสถหลายเม็ดลงในปากของตนเองหลายเม็ด จนทำให้แก้มทั้งสองป่องขึ้นในทันที
แต่ทว่า ครั้งนี้มู่ชิงเกอกลับไม่ได้ตอบ
นางหรี่ตาทั้งคู่ลงและคิดทบทวนในใจว่า การที่นางฆ่าเฮ่อเหลียนป๋าและลักพาตัวฉินอี้เหยา ทางแคว้นถูคงมิอาจนิ่งเงียบ ปัญหานี้นางเป็นคนก่อ แน่นอนว่านางจะ ต้องจัดการให้เสร็จเรียบร้อยก่อนจากไป
เมื่อคิดทบทวนครู่หนึ่ง มู่ชิงเกอก็พูดกับเหมิงเหมิงที่กำลังกินโอสถอย่างตั้งอกตั้งใจว่า “เจ้าเก็บไว้กินบ้างล่ะ ข้าจะออกไปก่อน”
พูดจบ ร่างนั้นก็หายไปจากสายตาของเหมิงเหมิง
เพียงชั่วกะพริบตา มู่ชิงเกอก็กลับมายังเรือนของตนเอง ณ สวนสระเมฆา
นอกประตู เสียงของโย่วเหอดังขึ้นพอดี จากคำพูดของนางแล้ว มู่ชิงเกอรู้ว่ามู่ซงมาแล้วและดูเหมือนว่าจะมีเรื่องอยากพบตน